หลายเดือนผ่านไป ~~
นับั้แ่วันนั้นที่ฉันได้งานทำ วันเวลาก็ดำเนินมาจนกระทั่งถึงวันนี้ วันที่ฉันได้มองดูตัวเองในกระจกด้วยความภูมิใจอีกครั้ง นั่นก็เพราะว่านอกจากที่ฉันอยู่ในชุดทำงานตามแบบมาตรฐานของสาวออฟฟิศทั่วไปแล้ว บนเรือนร่างของฉัน ณ ตอนนี้ก็ได้มีสิ่งที่พิเศษมากกว่าในทุก ๆ วันที่ผ่านมา และสิ่งที่ฉันภูมิใจหนักหนานั้นก็คือ...เสื้อสูทใหม่เอี่ยมที่ทาบทับอยู่บนร่างกายของฉัน
สายตากลมโตสุกใสทอประกายจ้องมองเสื้อสูทตัวนั้นด้วยความรู้สึกทั้งปลาบปลื้มใจและภูมิใจ นั่นก็เพราะว่าสูทนี้ไม่ใช่สูททั่ว ๆ ไปแต่เป็สูทที่จะใส่ได้เฉพาะพนักงานที่ผ่านการทดลองงาน จนได้รับการบรรจุเข้าทำงานอย่างเป็ทางการแล้วเท่านั้น
ฉันมองภาพตรงหน้าก่อนจะนึกย้อนไปถึงการทำงานอย่างหนักและเต็มที่ในทุก ๆ วัน การที่ฉันรักษามาตรฐานของตัวเองเอาไว้ได้อย่างมั่นคงในหลายเดือนที่ผ่านมานั้น มันส่งผลทำให้ฉันได้รับสิ่งที่คู่ควรในวันนี้ โดยเฉพาะความรู้สึกเมื่อครั้งตอนที่ฉันได้รับสูทตัวนี้มาด้วยแล้ว มันยิ่งทำให้ฉันมั่นใจมากยิ่งขึ้นว่านับจากนี้ชีวิตฉันจะไม่ต้องเป็ยัยตัวซวย ยัยตัวโชคชะตากลั่นแกล้ง อีกต่อไปแล้ว เพราะชีวิตฉันกำลังจะดีขึ้นและสงบสุขอย่างที่คนคนหนึ่งควรจะมีได้แล้ว
(ยัยลลิน...ต่อไปชีวิตนี้ของเธอจะต้องมีแต่พุ่งๆๆๆๆ ปังปุริเย่เท่านั้น...ฮึบ...) ฉันมองตัวเองในกระจกก่อนจะพูดปลุกใจตัวเอง พร้อมกับยกมือขึ้นมากำหมัดแล้วกระทุ้งศอกลงเพื่อแสดงความฮึกเหิม...
ฉันมาถึงที่ทำงานก่อนเวลางานเหมือนเฉกเช่นเคยทุกวันด้วยความรู้สึกที่ผ่องใส และเต็มเปี่ยมไปด้วยไฟที่พร้อมจะลุยงานเต็มที่ และในขณะที่ฉันกำลังเตรียมพร้อมก่อนที่เวลางานจะเริ่ม ร่างของคนที่คุ้นเคยก็ได้ปรากฏขึ้น...
‘อ้าว...น้องลิน มาคนแรกตลอดเลยนะจ๊ะ’ (^-^) เสียงของพี่วรรณหรือพี่ฉวีวรรณผู้เป็หัวหน้างานของฉันเอ่ยทักทาย หลังจากที่เธอมักจะมาถึงออฟฟิศเป็คนที่สองต่อจากฉันเสมอ
‘สวัสดีค่ะพี่วรรณ แหะ ๆ ลินกลัวรถติดค่ะเลยต้องรีบมา’ ฉันยกมือไหว้ด้วยความนอบน้อม ก่อนจะเอ่ยอ้างไปอย่างถ่อมตน ทั้งที่ความจริงแล้วหอพักของฉันนั่งรถไฟฟ้าเพียงสถานีเดียวก็มาถึงที่บริษัทแล้ว
‘จ้า...แม่คนรักงาน...ถ้างั้นเดี๋ยวพี่ขอไปหากาแฟกินที่ห้องพักพนักงานก่อนนะ ไม่ไหวจริง ๆ เมื่อคืนนอนดึกไปนิดนึง’ ส่วนพี่วรรณที่ได้ฟังข้ออ้างจากฉัน ก็ได้เอ่ยเย้าฉันเล็กน้อยเพราะรู้ดีว่าฉันพูดถ่อมตัวทั้ง ๆ ที่ห้องพักของฉันอยู่ใกล้ที่ทำงาน ก่อนที่พี่วรรณจะวางกระเป๋าแล้วเดินปรี่ไปยังห้องพักพนักงานด้วยความเร็วแสง ก่อนที่เธอจะไม่ลืมชื่นชมสูทบนตัวฉันด้วยความภูมิใจในลูกน้องตัวเอง
'สูทสวยนะจ๊ะวันนี้...พี่ยินดีด้วยอีกครั้งนะน้องลิน' พี่วรรณเอ่ยด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ก่อนจะเดินผละออกไป
ส่วนฉันที่คงจะทำอะไรไม่ได้ นอกจากยิ้มแก้มปริที่ได้รับคำชม...
จากนั้นเวลางานก็ได้เริ่มต้นขึ้น ภาพความวุ่นวายที่มาจากผู้คนที่ต่างหัวหมุนทำหน้าที่ของตัวเองไม่เว้นแม้กระทั่งฉัน มันช่างเป็ภาพที่คุ้นเคยในแต่ละวัน และถึงแม้ว่างานเ่าั้มันจะทำให้ฉันเหนื่อยอยู่บ้าง แต่มันก็ทำให้ฉันรู้สึกสนุกสนานไปด้วยในเวลาเดียวกัน...
แต่ทว่า...ทุกความสงบย่อมมีคลื่นพายุร้ายซ้อนอยู่ในนั้นเสมอ...เมื่อใครมันจะไปรู้ว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า...ไอ้เ้าชะตาที่เหมือนจะเผลอหลับใหลแล้วลืมปล่อยให้ฉันได้หลงระเริงไปกับความสุขชั่วขณะ จะหันกลับมาสนใจฉันอีกครั้งแล้วเริ่ม...ส่งบททดสอบมาให้ในแบบชนิดที่ว่า...ทบต้นทบดอกเลยทีเดียว...
‘น้องลินจ้ะ วันนี้พี่วานน้องลินช่วยไปเซ็นเอกสารที่บริษัท DLKK Corporate ให้พี่หน่อยได้ไหมจ๊ะ วันนี้พี่ยุ่งมากเลยต้องอยู่เคลียร์เอกสารให้บอสอีกหลายรายการเลยด้วย น้องลินแค่ไปที่บริษัทนั้นแทนพี่ แจ้งกับประชาสัมพันธ์ว่ามาเซ็นเอกสารแทนคุณฉวีวรรณ แค่นั้นเองจ้ะ’ พี่วรรณเรียกฉันเข้ามาเพื่อไหว้วานให้ไปทำธุระแทน โดยที่ตัวเธอเองยังคงก้มหน้างุดอยู่กับงานตรงหน้าจนหัวยุ่ง
ส่วนฉันที่เพิ่งเคลียร์งานของตัวเองเสร็จ ก็ยินดีที่จะแบ่งเบางานของหัวหน้าด้วยความเต็มใจ
‘ได้ค่ะ พี่วรรณ’ (^-^) ฉันรับคำด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ทั้งที่แม้จะเพิ่งได้เงยหน้าขึ้นมาพักหายใจหายคอจากงานในความรับผิดชอบของตน แต่ด้วยสปิริตและไฟในการทำงานที่เปี่ยมล้น ฉันก็ยินดีที่ทำตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาด้วยความเต็มใจ และก่อนที่ฉันจะทันได้ออกไป พี่วรรณก็ได้บอกถึงข้อมูลเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยเพื่อสำทับฉันอีกครั้ง
‘อ่อ...แล้วก็ตัวเอกสารน้องลินไม่ต้องเอากลับมานะ แค่ไปเซ็นรับทราบเท่านั้นแหละ ส่วนที่ตั้งบริษัทนั้น น้องลินไปแจ้งกับฝ่ายซัปพอร์ตการเดินทางของบริษัทเราให้เขาพาไปได้เลยจ้ะ พี่แจ้งรายละเอียดกับเขาเอาไว้แล้ว’ พี่วรรณที่ยังคงก้มหน้าอยู่กับงานเอ่ยกำชับบอกฉันอีกครั้ง
หลังจากที่ฉันรับคำสั่งจบ ฉันก็ออกเดินทางไปทำตามที่หัวหน้าบอกทันที จนกระทั่งรถของบริษัทได้พาฉันมายังหน้าบริษัท DLKK Corporate ที่ดูยิ่งใหญ่ไม่แพ้กับบริษัทที่ฉันทำงานอยู่เลย
ณ บริษัท DLKK Corporate
ฉันเดินตรงมาที่ประชาสัมพันธ์ด้านหน้าก่อนจะแจ้งถึงวัตถุประสงค์ที่ฉันมาติดต่อในวันนี้
‘สวัสดีค่ะ ดิฉันมาเซ็นรับทราบเอกสารแทนคุณฉวีวรรณค่ะ’ ฉันเอ่ยบอกพนักงานตรงหน้าเคาน์เตอร์ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
‘อ่อ มาจากคุณฉวีวรรณนะคะ รบกวนแลกบัตรแล้วขึ้นไปยังชั้น 25 ได้เลยนะคะ’ พนักงานสาวสวยบุคลิกภาพดีเอ่ยตอบฉันกลับด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเช่นกัน
ฉันที่รู้สึกตื่นเต้นที่ได้มาเห็นภาพบรรยากาศใหม่ ๆ ก็ได้กวาดสายตามองไปทั่ว เพราะถึงแม้ว่าบริษัทนี้เื่ของความใหญ่และทันสมัยอาจจะยังไม่เท่ากับบริษัทที่ฉันทำงานอยู่ก็ตาม แต่ทว่า...การตกแต่งที่ดูโมเดิร์นและสวยงามก็สามารถสะกดสายตาฉันให้จับจ้องมองด้วยความเพลิดเพลินอย่างยากที่จะละสายตาได้
กระทั่งเมื่อลิฟต์แก้วขนาดใหญ่ได้พาร่างอันบอบบางของฉันขึ้นมาถึงจุดหมายปลายทางแล้ว เสียงสัญญาณที่บ่งบอกว่าลิฟต์กำลังจะเปิด ก็ปลุกให้ฉันหลุดออกมาจากภวังค์ความสวยงามเบื้องหน้าทันที
และทันทีที่ลิฟต์เปิดเมื่อเดินออกไปฉันก็พบเข้ากับประชาสัมพันธ์ประจำชั้นอีกครั้ง จากนั้นฉันก็ตรงเข้าไปบอกกับพนักงานสาวตรงหน้าด้วยคำพูดเดียวกันกับที่ฉันบอกกับพนักงานที่อยู่ด้านล่าง ก่อนที่พนักงานสาวตรงหน้าจะนำทางพาฉันเดินไปยังห้องรับรองเพื่อรอเซ็นเอกสารด้วยท่าทางเป็มิตร
ในตลอดทางที่ฉันเดินผ่านไป ภาพห้องทำงานขนาดใหญ่ที่ขนาบทั้งสองข้างทางและความวุ่นวายที่ฉันช่างให้ความรู้สึกไม่ต่างกับบริษัทที่ฉันทำงานเลย
ความวุ่นวายของพนักงานออฟฟิศ ที่ต่างทำงานแข่งกับเวลาอย่างขยันขันแข็ง โดยเฉพาะเมื่อได้รับโอกาสให้มาร่วมงานกับบริษัทใหญ่ระดับประเทศแบบนี้ด้วยแล้ว ยิ่งต้องแสดงศักยภาพให้เต็มที่ ทั้งนี้ก็เพื่ออนาคตข้างหน้าที่อาจจะไปเข้าตาจนได้รับให้เลื่อนขั้นขึ้นเป็เ้าคนนายคน
ฉันมองภาพเ่าั้พร้อมกับนึกสะท้อนในใจ ที่ถึงแม้ว่าตอนนี้ฉันอาจจะยังไม่ได้คิดฝันไปไกลถึงขนาดอยากจะไต่เต้าขึ้นไปยังระดับสูง ๆ จนกดดันตัวเอง แต่ก็ไม่ใช่ว่าฉันจะไม่มีความทะเยอทะยานที่จะก้าวหน้าในอาชีพการงาน เพียงแต่ว่าเพราะฉันนั้นรู้ตัวดีว่าในเวลานี้ฉันยังไม่มีศักยภาพมากพอที่จะยืนอยู่บนตำแหน่งสูง ๆ ได้อย่างมั่นคง เพราะฉันยังต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้มากกว่านี้
และที่ฉันคิดแบบนี้นั่นก็เพราะหลายเดือนที่ผ่านมาฉันได้เห็นคนในองค์กรมากมายหลายประเภท ทั้งประเภทพวกทำดีเอาหน้าก็มีให้เห็น พวกที่ไม่ทำอะไรแต่พอถึงเวลามาฉกเอาผลงานไปซึ่ง ๆ หน้าก็มีให้เห็น สังคมที่ภายในชิงดีชิงเด่นแต่ภายนอกกลับยิ้มหวานให้แก่กัน ฉันล่ะกลัวจนแทบไม่กล้าจะมีเพื่อนในที่ทำงานเลยทีเดียว...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้