“ผ่าง”
แม้หลิววั่นซานจะมิได้ลงมาจากม้าเขาเดียว แต่เขาก็ปล่อยพลังออกมาเพื่อทำลายคลื่นพลังที่เจียงอิงส่งออกมาได้ทั้งหมด
เจียงอิงถอยไปหลายก้าว มิกล้าทำสิ่งใดที่ดูิ่หลิววั่นซานอีก เขาเพียงยกมือคำนับ ก่อนจะกล่าวกับหยวนจุนด้วยความดุดัน
“เ้าหนุ่ม เฮ่อเอ๋อร์ตายด้วยน้ำมือของเ้าใช่หรือไม่?”
“เจียงเฮ่อตายแล้ว?” หลิวหรูเยียนเลิกคิ้วขึ้น สีหน้าที่ไม่อยากเชื่อปรากฏขึ้นเช่นเดียวกับคนอื่นๆ
ที่ตระกูลเจียงมิได้ส่งนักยุทธ์เข้าร่วมการประลองูเาสองแดน เพราะมีเื่ใหญ่เกิดขึ้นนั่นเอง
เจียงเฮ่อเป็อนุชนรุ่นหลังที่มีความสามารถมากที่สุดของตระกูลเจียง เขาได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีมาโดยตลอด หลังจากเก็บตัวหนึ่งปีเขาสามารถบรรลุถึงวงแหวนเล็กขั้นห้าได้ แม้มิได้โดดเด่นเท่าหยวนจุนหรือคนอื่นๆ แต่ก็ถือเป็ความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจ
เจียงเฮ่อเป็บุตรชายคนเดียวของเจียงอิง ดังนั้นเขาจึงถูกตามใจมาั้แ่ยังเยาว์ ทั้งได้รับชิ้นส่วน์ ทั้งสิ่งเสริมการบ่มเพาะอีกนับไม่ถ้วน หากเขาตายอย่างอนาถ สำหรับตระกูลเจียงแล้วสิ่งนั้นคือการทำลายล้างตระกูล
การที่เจียงอิงลุกขึ้นแล้วชี้นิ้วไปทางหยวนจุน ทำให้หลิววั่นซานและคนอื่นๆ ถึงกับตกตะลึง พวกเขามองไปที่หยวนจุนเป็ตาเดียว
ชาติที่แล้วหยวนจุนเข่นฆ่าผู้คนมานับไม่ถ้วน อีกทั้งยังประสบพบเจออันตรายต่างๆ มากมาย ครั้นได้ยินคำถามนี้ของเจียงอิง เขาจึงนิ่งสงบราวกับไม่รู้เื่
“ผู้นำเจียง จะกล่าวหรือทำสิ่งใดล้วนต้องมีหลักฐาน หากท่านกล่าวหาว่าข้าฆ่าเจียงเฮ่อเพียงเพราะประโยคเดียวของท่าน ดูแล้วคงไม่สมเหตุสมผลไปหน่อยกระมัง?”
“หึ ข้ามีหลักฐานอยู่แล้ว! เฮ่อเอ๋อร์ไม่ถูกชะตากับเ้า จึงไปหาเื่เ้าทีู่เาด้านหลังเมืองเทียนอวิ่น! เขาไม่กลับมา ูเาด้านหลังก็พังพินาศ! เื่นี้จะไม่เกี่ยวข้องกับเ้าได้อย่างไร?”
ครั้นกล่าวจนถึงตอนนี้ เจียงอิงก็รู้สึกโกรธ ดวงตาปูดโปนอันน่ากลัวของเขากลับน่ากลัวมากกว่าเดิม
“คำกล่าวนี้ของผู้นำเจียง ข้าฟังแล้วรู้สึกเหมือนเป็เื่ที่น่าขัน เจียงเฮ่อไม่ถูกชะตากับข้า ย่อมต้องมาหาเื่ข้า เมื่อเขาถูกฆ่า ท่านก็นำความรับผิดชอบนั้นมาโยนใส่ตัวข้า”
“เื่เช่นนี้ท่านแยกแยะมิได้เชียวหรือ?” หยวนจุนยิ้มถามเบาๆ
เมื่อได้ยินคำพูดที่ไม่เกรงใจและไม่ไว้หน้าเช่นนี้ คนอื่นๆ ถึงกับเหงื่อไหลออกมา เจียงอิงเป็ผู้ที่มีอารมณ์ร้อน ยิ่งมีเื่การจากไปของเจียงเฮ่อเช่นนี้ ยิ่งทำให้สภาพจิตใจของเขารู้สึกกระวนกระวายมากกว่าเดิม
ทุกประโยคที่หยวนจุนกล่าวออกไปเมื่อครู่นี้ อาจทำให้เจียงอิงเกรี้ยวโกรธเป็อย่างมาก จนต้องะเิออกมาเพื่อที่จะปลิดชีวิตเขา
หากหยวนจุนมิได้แสดงความโดดเด่นออกมาเมื่อครั้งประลองทีู่เาสองแดน เื่ที่เจียงอิงกล่าวว่าเขาฆ่าเจียงเฮ่อ พวกเขาคงคิดว่าเจียงอิงเป็ตาเฒ่าเลอะเลือน และเื่นี้คงกลายเป็เื่น่าขัน
แต่ตอนนี้ทุกคนคงเชื่อไปแล้วว่าหยวนจุนสามารถฆ่าเจียงเฮ่อได้อย่างง่ายดาย
“ปากคอเราะรายเช่นนี้ สักวันหนึ่งข้าจะถอนฟันเ้า ดูสิว่าเ้าจะยังกล้าก้าวร้าวกับข้าอีกหรือไม่!” เขาพูดด้วยความดุดันราวกับม้าป่าถอดบังเหียน ตาแดงก่ำคู่นั้นส่งสายตาอาฆาตไปยังหยวนจุน
หลิววั่นซานย่อมไม่นิ่งดูดาย เขาโต้เจียงอิงกลับด้วยเสียงเรียบว่า “หยวนจุนเป็วีรบุรุษของเมืองเทียนอวิ่น เมื่อข้าพาเขาออกไป ข้าย่อมต้องพาเขากลับมาอย่างปลอดภัย เจียงอิง หากเ้าจะลงมือ เช่นนั้นอย่าหาว่าข้าไร้ความปรานีแล้วกัน!”
ใบหน้าของเจียงอิงปรากฏความกลัวออกมา เขารู้ดีว่าคำพูดของหลิววั่นซานมิได้เป็การพูดส่งเดช เขาััได้ถึงไอสังหารที่เล็ดลอดออกมาจากร่างกายของหลิววั่นซานได้อย่างชัดเจน
“ข้าจะไม่ปล่อยเื่นี้ไปแน่!” เจียงอิงทิ้งท้ายประโยคนี้ ก่อนจะเดินจากไปตามถนนสายเล็กด้วยความโกรธ
เมื่อเห็นเจียงอิงที่กำลังโกรธเดินจากไป หยวนจุนแค่เพียงยักไหล่ มิได้นำเื่ของเขามาใส่ใจ
เขารับปากเสี่ยวเมิ่งไว้แล้ว แม้เจียงอิงจะมิได้เป็ฝ่ายรุกเข้ามาหาเขา เช่นนั้นเขาก็จะเป็ฝ่ายรุกเข้าไปหาตระกูลเจียงเอง
“เจียงเฮ่อตายด้วยน้ำมือของเ้าจริงๆ หรือ?” หลิวหรูเยียนถามด้วยสีหน้าประหลาดใจ
หยวนจุนส่ายหน้า เขามิได้ตอบคำถามของหลิวหรูเยียนตรงๆ แต่กล่าวด้วยท่าทีลองเชิงว่า “แม่นางหลิวหรูเยียนเป็คนฉลาด เ้าคิดว่าความจริงเป็อย่างไร?”
นางปิดปากครุ่นคิด ดวงตาคู่งามมองเจียงอิงที่กำลังเดินจากไปเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง ก่อนจะกล่าวออกมาเบาๆ
“เจียงเฮ่อเป็คนอวดดีทั้งยังหยิ่งผยอง ไม่ช้าก็เร็วสิ่งเหล่านี้ย่อมนำเขาไปสู่ความตาย ข้ามิได้รู้สึกอะไรกับเขา ดังนั้นเื่ของเขาจึงไม่เกี่ยวข้องกับข้าเลยแม้แต่นิดเดียว”
เมื่อได้ยินทั้งสองสนทนากัน หลิววั่นซานจึงค่อยๆ หันไปมองหยวนจุนแล้วกล่าวว่า “หลิวหรูเยียนอุตส่าห์ให้ความสำคัญกับเ้าถึงเพียงนี้ เ้าอย่าทำให้ข้าผิดหวังล่ะ”
“ไม่ว่าผู้ใดจะเป็คนฆ่าเจียงเฮ่อ ถ้าเจียงอิง้ายัดเยียดข้อกล่าวหานี้ให้เ้า เช่นนั้นต้องถามข้าหลิววั่นซานกับคนในตระกูลหลิวก่อนว่ายินยอมหรือไม่”
เขาโบกมือส่งสัญญาณ นอกจากคนในตระกูลหลิวที่ไปูเาสองแดนด้วยกันก่อนหน้าแล้วยังมีผู้อื่นอีก ดังนั้นทุกคนจึงมุ่งหน้าไปยังจวนตระกูลหลิวอย่างเอิกเกริก
หลังจากหยวนจุนทำความสะอาดร่างกายที่เหนื่อยล้า เขาได้นั่งขัดสมาธิอยู่ในห้อง ไม่นานก็ได้ยินเสียงหลิวหรูเยียนเคาะประตูเรียกเบาๆ
“ท่านพ่อออกคำสั่งแล้วว่าั้แ่วันนี้เป็ต้นไปให้ถอนกำลังทหารรักษาเมืองทั้งหมด ตามความดีความชอบของเ้า”
เมื่อหลิวหรูเยียนเข้ามาก็เอ่ยปากพูดเื่ที่หยวนจุนรู้สึกกังวลขึ้นมาก่อน จากนั้นแก้มบนใบหน้างามก็เริ่มแดงขึ้นเล็กน้อย
“ข้ารับปากเ้าว่าจะทำตามที่เ้าขอเื่หนึ่ง ไม่ว่าเ้า้าสิ่งใด ข้าก็จะให้” นางนั่งตรงข้ามหยวนจุน พลางรินชาให้เขาและตนเอง
เมื่อกล่าวถึงสิ่งที่หยวนจุน้า แน่นอนว่ามีอยู่อย่างหนึ่ง
“ข้าสนใจวิชายุทธ์ที่แม่นางหลิวหรูเยียนใช้บนเวทีประลองเป็อย่างมาก หากเ้ายินยอมและไม่ว่าอะไร ข้าอยากจะขอเรียนรู้มัน”
คัมภีร์วิชายุทธ์ที่หยวนจุนพูดถึงคือกรงล้อมอสูรที่หลิวหรูเยียนเคยใช้จัดการเซียวหลง เขาได้เห็นอานุภาพของวิชายุทธ์นี้ด้วยตาตนเองแล้ว ทำให้เขาสนใจวิชายุทธ์นี้มากกว่าวิชายุทธ์เ้าฮั่วทั่วไป
เมื่อได้ยินหยวนจุนบอกว่า้าเพียงคัมภีร์วิชายุทธ์ที่ตนเองใช้ในการประลอง หลิวหรูเยียนนิ่งเงียบและขมวดคิ้วทันที นางรีบถามไปว่า “หยวนจุน ข้ารับปากว่าจะทำให้เ้าทุกเื่! เ้า้าคัมภีร์วิชายุทธ์นี้แค่นั้นจริงๆ หรือ?”
“นอกจากคัมภีร์ยุทธ์แล้ว เ้าไม่มีของอะไรที่สนใจอีกแล้วหรือ? อย่างเช่นข้า”
เมื่อเห็นว่าหลิวหรูเยียนยังคงแคลงใจ หยวนจุนจึงพยักหน้าอย่างจริงจังแล้วกล่าวว่า “แม่นางหลิวหรูเยียนมิใช่สิ่งของ และข้าสนใจเพียงแค่คัมภีร์วิชายุทธ์เท่านั้น”
“เ้าน่ะสิเป็สิ่งของ!” หลิวหรูเยียนเหวี่ยงคัมภีร์วิชายุทธ์ลงกับพื้น ก่อนจะหันหลังกลับและจากไปอย่างโกรธเคือง
หยวนจุนยืนนิ่ง เขารู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย ความหมายของประโยคเมื่อครู่นี้คือหลิวหรูเยียนไม่จัดอยู่ในประเภทสิ่งของ และสิ่งที่ทำให้เขาสนใจมีเพียงคัมภีร์วิชายุทธ์เท่านั้น
อีกทั้งการที่หลิวหรูเยียนแสดงออกมาเช่นนั้น หยวนจุนจะไม่เข้าใจเจตนาของนางได้อย่างไร เพียงแค่นึกถึงสิ่งที่ได้ยินในคืนนั้นก็ทำให้เขารู้สึกขนลุกขึ้นมาแล้ว
หลิวหรูเยียนมิใช่สตรีธรรมดาทั่วไปที่ชอบบุรุษ
“เสี่ยวเมิ่งเป็ผู้ที่มีบุญคุณแก่ข้า นางทุ่มเทให้กับข้า ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ทำเื่ที่ผิดต่อนางมิได้”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้