“ฮ่า ฮ่า…”
ลั่วจิ่งเฉินส่งเสียงหัวเราะเยาะเย้ยออกมาเป็พักๆ นับั้แ่ได้ยินหญิงผู้นั้นกล่าววาจาอ้างคุณธรรมใหญ่โตในบ้าน เขาก็อยู่ในสภาพเช่นนี้มาโดยตลอด!
ทั้งร่างยืนนิ่งอยู่ข้างหน้าต่างไม่ขยับไปไหน ดวงตาคมคู่สวยจับจ้องไปที่บานประตูแน่นิ่ง
เขาอยากรู้นักว่า นางจะใช้วิธีใดพาอาซีกลับมาอย่างปลอดภัยโดยไม่เป็อันตราย
นับั้แ่รู้ว่าอาซีทำข้อตกลงกับโรงพนันสือวานเพื่อเขา ตนก็เคยเตือนอาซีไปแล้วว่า การเจรจากับเสือเพื่อหวังหนังเสือ [1] ย่อมต้องรู้ระวังตัวให้มาก แต่จากที่ดูตอนนี้อาซีก็ยังประมาทเกินไป
เดิมทีเขานั้นมีหนทางช่วยเหลืออาซี แต่ก็ยังไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงไม่ลงมือ
คงเพราะหลังจากอาซีหนีออกจากบ้านไป สตรีนางนั้นเคยเอ่ยว่า “เด็กดีหนึ่งคนจะถูกทำลายเช่นนี้ได้เยี่ยงไร นี่คือความผิดของนาง”
......
ท่ามกลางฝูงชนขวักไขว่ ลั่วชีเหนียงยืนอยู่ตรงหน้าที่ว่าการอำเภอ
นายอำเภอหยางหนิงมองดูสตรีผู้ที่อยู่กลางศาล นับั้แ่เขารับตำแหน่งนายอำเภอเฉา ยังไม่เคยพบเจอสตรีนางไหนตีกลองร้องทุกข์มาก่อน
“ผู้ที่ยืนอยู่ในศาลคือใคร!”
เมื่อเสียงไม้ปลุกสติดังขึ้น เหล่าฝูงชนก็เงียบกริบในทันใด
ลั่วชีเหนียงก้มลงคำนับอย่างเชื่องช้า จากนั้นเอ่ยอย่างใจเย็น
หยางหนิงที่เห็นการคำนับโค่วโส่ว [2] จากสตรีหนึ่งเดียวในศาล ก็ถึงกับมองหญิงชาวบ้านผู้นี้ต่างออกไป
“ผู้น้อยลั่วชีเหนียง วันนี้ขอฟ้องร้องโรงพนันสือวานสี่ข้อหาเ้าค่ะ ข้อหนึ่ง โรงพนันสือวานตระบัดสัตย์ ข้อสอง โรงพนันสือวานไม่คำนึงถึงจรรยาบรรณ ข้อสาม โรงพนันสือวานเรี่ยไรเงินอย่างไม่ถูกต้อง และข้อสี่ โรงพนันสือวานแสวงหาผลประโยชน์โดยคิดปองร้ายถึงชีวิต”
สิ้นเสียงของลั่วชีเหนียง ผู้คนภายในศาลต่างก็พากันตกตะลึง
โรงพนันสือวาน ในอำเภอเฉามีผู้ใดบ้างไม่รู้จัก สมบัติกว่าครึ่งของทั้งอำเภอเฉาอยู่ในกำมือของโรงพนันสือวาน คนของโรงพนันสือวานในอำเภอเฉานับว่าเป็งูเ้าถิ่น [3] ที่เลื่องชื่อลือไกล
กระทั่งสมัยที่หยางหนิงเพิ่งมาดำรงตำแหน่งที่นี่ ก็เคยถูกคนของโรงพนันสือวานสร้างความลำบากให้เช่นกัน
ย้อนนึกถึงสมัยนั้น ความกระตือรือร้นในกายของหยางหนิงยังพลุ่งพล่าน หัวใจเปี่ยมด้วยคุณธรรม ้ากำจัดภัยร้ายอย่างโรงพนันสือวาน เสียดายเพียงเ้าทุกข์มากมายกลับถูกโรงพนันสือวานข่มขู่จนหวาดกลัว ไม่ว่าเขารับรองว่าจะทวงคืนความยุติธรรมให้อย่างไร แต่คนเ่าั้ยังคงไม่ยินยอมเป็พยาน จึงได้แต่ปล่อยให้จบไปเช่นนั้น
ตอนนี้ จู่ๆ ก็มีคนมาฟ้องโรงพนันสือวานถึงที่ อย่าว่าแต่ชาวบ้านที่รู้สึกตื่นเต้น กระทั่งตัวหยางหนิงเองก็ตื่นเต้นจนทนไม่ไหว!
เสียงไม้ปลุกสติดัง ‘ปัง’ ซึ่งดังกว่าเมื่อครู่ไม่น้อยกว่าสามเท่า
“ลั่วชีเหนียง เ้ามีหลักฐานหรือไม่? หากไม่มีหลักฐาน ข้าไม่้าทำให้สตรีเช่นเ้าลำบาก มาจากไหนก็กลับไปทางนั้น วันนี้ข้าจะถือเสียว่าเป็เื่ขำขัน เห็นแก่ความไม่รู้ของเ้าและจะไม่ถือสาหาความ!”
แม้หยางหนิงจะพูดเช่นนี้ แต่ในใจกลับรู้สึกว่าหญิงชาวบ้านที่สามารถคำนับแบบโค่วโส่วได้ผู้นี้จะต้องนำความประหลาดใจมาให้เขาอย่างแน่นอน
“กราบเรียนท่านนายอำเภอ ผู้น้อยมีหลักฐานเ้าค่ะ”
เมื่อนึกถึงหน้าตาของคนชั่วจากโรงพนันสือวาน นางรู้สึกอึดอัดไปทั้งร่างกาย
สาเหตุที่ลั่วชีเหนียงคนเก่าถูกคนชั่วจากโรงพนันสือวานผลักจนล้ม ก็เพราะนางเข้าไปยื้อแย่งบัญชีทวงหนี้เล่มนี้จากพวกคนชั่วจนล้มหัวฟาดขอบประตูและคงเพราะเห็นเื พวกคนจากโรงพนันสือวานถึงพากันหนีไปอย่างขลาดเขลา อย่างไรก็ตาม คนที่โรงพนันสือวานจ้างมา ล้วนเป็พวกนักเลงขี้เรื้อน แม้จะดูเหิมเกริมแต่ก็ไม่กล้าก่อเื่ฆ่าคน
ส่วนบัญชีทวงหนี้เล่มนี้ คนพวกนั้นไม่ทันได้หยิบไปด้วย ทั้งหมดจึงยังคงอยู่ในสภาพเดิม
อันที่จริงนี่คงเป็เพราะโรงพนันสือวานคิดว่าคนบ้านนอกไม่รู้จักหนังสือจึงไม่ได้เล่นตุกติก หากเป็ลั่วชีเหนียงตัวจริงก็คงรู้จักตัวหนังสือเพียงไม่กี่ตัวอย่างที่คิด แต่นางในตอนนี้คือนักเรียนดีเด่น อีกทั้งชาติก่อนยังเป็ศาสตราจารย์ฝ่ายบริหารระดับสูง อย่าว่าแต่ตัวอักษรโบราณ กระทั่งอักษรกระดองเต่า นางก็พอมีความรู้อยู่บ้าง
หยางหนิงดูบัญชีทวงหนี้ที่ลั่วชีเหนียงนำมาให้ บนนั้นระบุเื่ที่ลั่วจิ่งซียืมเงินจากโรงพนันสือวานจำนวนหนึ่งตำลึง เพียงแต่ดูอย่างไรก็ไม่เห็นความผิดปกติอันใด
“ใต้เท้า เดิมทีผู้น้อยไม่ควรมาร้องเรียนที่ศาลแห่งนี้ หากแต่จนปัญญา โรงพนันสือวานส่งคนมาทวงหนี้ที่บ้านของผู้น้อยเมื่อหลายวันก่อน ทั้งที่ในบัญชีทวงหนี้ระบุว่าให้คืนภายในสามสิบวัน หลายวันก่อนยังไม่ถึงกำหนดเวลาคืนหนี้ แต่คนจากโรงพนันสือวานก็บุกมาทำลายข้าวของและทำร้ายกันถึงที่
อิงตามหลักแล้ว ถ้าผู้น้อยมีเงินย่อมต้องคืน หากเพียงพวกเขาพูดคุยกันดีๆ แบบปกติทั่วไป ไม่ว่าอย่างไร เราก็สามารถคืนเงินได้บางส่วน แต่พวกเขามาถึงก็เอ่ยปากขอหนึ่งร้อยตำลึง ทั้งที่ในบัญชีหนี้ระบุไว้เพียงแค่หนึ่งตำลึง และมิได้ระบุชัดเจนว่าดอกเบี้ยคือจำนวนเท่าใด? ผู้น้อยพูดเพียงไม่กี่คำ พวกเขาก็คิดทำร้ายผู้น้อยให้ถึงแก่ความตาย! ขอใต้เท้าให้ความเป็ธรรมด้วย!”
เยี่ยมยอด!
หยางหนิงมองลั่วชีเหนียง แต่ละคำพูดสอดประสานกับคำกล่าวหาสี่ข้อที่กล่าวมาอย่างพอดิบพอดี
ครั้นเมื่อถามถึงว่ามีพยานหลักฐานหรือไม่ ชาวบ้านในหมู่บ้านอันชิ่ง รวมถึงหมอหลิว ผู้ที่เห็นเหตุการณ์และทำการรักษาย่อมถูกเชิญมาขึ้นศาลด้วย
จางเฉียง รองหัวหน้าของโรงพนันสือวานเองก็เลี่ยงไม่ได้ต้องมาขึ้นศาลด้วยเช่นกัน
ใช่แล้ว จางเฉียงคิดว่าแต่ก่อนพวกเขาสั่งสม ‘ชื่อเสียง’ ในอำเภอเฉามาช้านาน แม้กระทั่งนายอำเภออย่างหยางหนิงก็จนปัญญาทำอะไรไม่ได้ ด้วยเหตุนี้จึงไม่ได้รู้สึกว่าการมาขึ้นศาลครั้งนี้จะมีปัญหายุ่งยากอะไร
จวบจนหลักฐานทั้งพยานวัตถุและพยานบุคคลเพียบพร้อม โรงพนันสือวานไม่เพียงเรี่ยไรเงินอย่างผิดกฎหมาย กระทั่งมีส่วนข้องแวะกับเื่ทำร้ายผู้คนจนถึงแก่ความตาย นี่จึงทำให้จางเฉียงใ
“ท่านนายอำเภอ ข้าน้อยเป็เพียงผู้ดูแลของโรงพนัน ไหนเลยจะรู้เื่ที่พวกนั้นทำกัน นอกจากนี้ โรงพนันของเราก็จ้างงานคนพวกนั้นเป็ครั้งคราว แล้วมันเกี่ยวอันใดกับโรงพนันของเราเล่าขอรับ! ไม่แน่ว่าอาจจะมีคนหยิบยืมชื่อเสียงของโรงพนันสือวาน เที่ยวก่อเื่ข้างนอกก็เป็ได้ ใต้เท้าต้องให้ความเป็ธรรมแก่ข้าน้อยและโรงพนันสือวานด้วยนะขอรับ”
จางเฉียงไม่กล้าแข็งข้อมากนัก เขาดูออกว่าหยางหนิงผู้นี้้าจัดการพวกเขา แต่ละข้อกล่าวหา นอกจากเื่ทำร้ายคนหมายปองชีวิตที่เขาไม่กล้ายอมรับ แต่เื่อื่นนับว่าเป็วิธีการทำงานของโรงพนันสือวานจริงๆ
“หึ!” ลั่วชีเหนียงหัวเราะในลำคอ “ทั่วทั้งอำเภอเฉา มีผู้ใดไม่รู้จักชื่อเสียงของโรงพนันสือวานบ้าง ใครเล่าจะกล้าอ้างชื่อโรงพนันสือวานไปก่อเื่! กระทั่งทารกที่ร้องไห้เมื่อได้ยินชื่อโรงพนันสือวานยังสะดุ้งใกลัวไม่กล้าร้อง ผู้ดูแลจางคงมิได้ล้อกันเล่นหรอกกระมัง?”
“หญิงชาวบ้านไร้การศึกษา! โรงพนันสือวานของข้ารับประกันความปลอดภัยในอำเภอเฉา ทำให้ชาวเมืองอำเภอเฉามิต้องรำคาญกับเสียงเด็กร้องไห้ นั่นคือสิ่งที่โรงพนันสือวานสมควรกระทำ เกี่ยวอันใดกับสตรีอย่างเ้า?” จางเฉียงเพิ่งจะตระหนักรู้เมื่อครู่ว่า เื่ราวทั้งหมดในวันนี้คือสิ่งที่หญิงผู้นี้ปลุกปั่นขึ้นมา เมื่อเห็นนางเอ่ยปาก ก็ข่มเหงกันอย่างไม่ไว้หน้า “นอกจากนี้ ข้าคุยกับใต้เท้าอยู่ ผู้ใดให้เ้าพูดแทรกได้กัน!”
“แน่นอนข้าน้อยไม่อาจรบกวนการสนทนาของใต้เท้า เพียงแต่ข้าน้อยขอถามท่านผู้ดูแลจาง เหตุใดต้องส่งลูกชายข้าน้อยเข้าคุกอย่างไร้เหตุผล? ขอถามท่านผู้ดูแลจางว่ามีหมายจับกุมของทางการหรือไม่?
อะไรกัน พูดไม่ออกหรือ? เมื่อครู่จ้าวเจียโกวสารภาพหมดแล้ว เ้าให้น้องภรรยาที่เป็มือปราบจับลูกชายข้าเข้าคุก กระทั่งไปป่าวประกาศเื่นี้ในหมู่บ้านอันชิ่งจนทั่ว!
จางเฉียง เ้ามีอำนาจอันใดกันถึงทำเช่นนี้! เ้ามีจุดประสงค์อันใดกันแน่?” นางถูกกระตุ้นเปลวไฟในใจ ดวงตาคู่นั้นจดจ้องจางเฉียงเสมือนมีไฟปะทุ ราวกับเสี้ยววิถัดมาจะแผดเผาเขาให้มอดไหม้ก็ไม่ปาน
“เดิมทีแค่เงินหนึ่งตำลึง แม้ว่าต้องขายหม้อไหกะละมังก็สามารถคืนได้แน่ แต่ตอนนี้พวกเ้าให้ลูกชายข้าแบกรับชื่อเสียงที่เสียหาย ภายภาคหน้าลูกชายข้าจะเผชิญหน้าต่อผู้คนอย่างสง่าผ่าเผยได้เยี่ยงไร? ลูกชายข้าต้องใช้ชีวิตเยี่ยงไร? ”
จางเฉียงถูกนางเค้นถามจนเหงื่อตก อย่างอื่นยังพอบ่ายเบี่ยงได้ แต่เื่ที่น้องภรรยาจับคนไปขังนั้น มันมาจากความคิดของเขาเองจริงๆ
หากแต่นี่เป็ถึงน้องภรรยาของตน เห็นทีคราวนี้คงปฏิเสธได้ยากเสียแล้ว
-----
[1] เจรจากับเสือเพื่อหวังหนังเสือ หมายถึง เจรจากับคนร้ายเพื่อให้สละผลประโยชน์ของตัวเอง เป็เื่ที่ทำไม่ได้
[2] การคำนับแบบโค่วโส่ว (叩首礼) คือ การโค้งคำนับเช่นนี้เห็นได้บ่อยในผู้ใต้บังคับบัญชาทำความเคารพผู้บังคับบัญชา ผู้เยาว์คำนับผู้าุโ เพื่อแสดงความเคารพ เทิดทูนและมีความหมายของการวิงวอน ตอนที่คำนับ จะถอดหมวด คุกเข่าซ้าย ตามด้วยเข่าขวา สะบัดแขนเสื้อหนึ่งครั้ง สองมือวางบนพื้นและโค้งศีรษะจรดพื้นสามครั้ง
[3] งูเ้าถิ่น หมายถึง ผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้