“ร่างกายนี้? ข้าเกิดใหม่แล้ว?”
“ฮ่าๆๆ ข้าทำสำเร็จแล้ว!”
ณ เรือนไม้หลังหนึ่งในลานด้านหลังของตระกูลเสิ่น เสิ่นเสวียนที่ลุกขึ้นนั่งบนเตียงกำลังมองร่างกายของตนเองด้วยความตื่นเต้นดีใจ เืที่ไหลเวียนอยู่ในกาย ร่างที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังชีวิตกำลังบอกเขาว่าเขาเกิดใหม่สำเร็จแล้ว
หลังจากนั้นกระแสความทรงจำก็หลั่งไหลเข้ามาในหัว คละเคล้าเข้ากับความทรงจำของตนเอง
เสิ่นเสวียน นายน้อยตระกูลเสิ่นแห่งเมืองอวี่ฮว่า ชีพจรยุทธ์ต่ำต้อยไร้พลัง ั้แ่ผู้นำตระกูลาุโสิ้นไปเขาก็ได้เป็นายน้อย แต่กลับโดนขังอยู่ที่ลานด้านหลังนี้ตลอด จนกระทั่งวันนี้ที่โดนวางยาพิษจนตาย ทำให้เสิ่นเสวียนยึดครองร่างของนายน้อยตระกูลเสิ่นแล้วเกิดใหม่ขึ้นมาได้
เสิ่นเสวียนที่มองร่างของตนเองแล้วจับต้นชนปลายได้นั้นส่ายหัวพลางกล่าว
“เ้าเองก็เป็คนที่มีชะตาชีวิตยากลำบาก ในเมื่อข้ายืมร่างของเ้าแล้วข้าจะชำระแค้นให้ เมื่อใดที่ข้าฝึกฝนจนก้าวเข้าสู่อาณาจักรเซียนได้ ข้าจะหลอมรวมิญญาเทพแทนเ้าเอง”
เขาเองก็ชื่อเสิ่นเสวียนเช่นกัน กล่าวให้ถูกเขาคือเซียนพเนจรคนหนึ่งที่ฝึกฝนมาแล้วกว่าพันปี
เขาเกิดในปีที่สามของศักราชเจินกวนแห่งราชวงศ์ถัง มีหลี่ฉุนเฟิงเป็อาจารย์ เมื่ออายุยี่สิบปีก็เข้าสู่โลกแห่งการฝึกฝนอย่างแท้จริง ฝึกฝนได้ระยะหนึ่งก็สามารถหลอมรวมหยวนก่อกำเนิดได้ แล้วร้อยปีต่อมาก็เข้าสู่การฝ่าด่านเคราะห์ แต่มันกลับล้มเหลว ทำได้เพียงสลายร่างกลายเป็เซียนพเนจร แต่เซียนพเนจรไม่อาจเข้าสู่อาณาจักรเซียนได้และต้องฝ่าด่านเคราะห์หนึ่งครั้งในทุกๆ ร้อยปี
เซียนพเนจรทั่วๆ ไปที่ฝ่าด่านเคราะห์อัสนีได้สองครั้งก็นับเป็ปาฏิหาริย์แล้ว แต่เขากลับฝ่าด่านเคราะห์อัสนีได้ถึงเก้าครั้งติดต่อกันจนสำเร็จกลายเป็เซียนพเนจรเก้าด่านเคราะห์ ซึ่งมีพลังเหนือกว่าเซียนเทพหรือเรียกอีกอย่างว่า ‘จักรพรรดิเซียน’
สามวันก่อนเขาขุดค้นเจอศาสตราเทพ 'ผังเมืองซานเหอ' ที่แนวชีพจรสายฟ้าในสระ์แห่งคุนหลุนตะวันตก เขาจึงตกเป็เป้าสังหารอย่างไม่คาดคิด มีจักรพรรดิเซียนสามคนลอบสังหารเขาตอนกำลังฝ่าด่านเคราะห์ครั้งที่สิบ ทำให้ร่างเซียนพเนจรเก้าด่านเคราะห์ต้องะเิตนเองในสถานการณ์ที่ไร้ทางเลือก และในขณะที่จักรพรรดิเซียนคนหนึ่งโดนลูกหลงจากการะเิตายไปนั้น จิติญญาของเขาก็แอบซ่อนอยู่ภายในผังเมืองซานเหอ เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าการเกิดใหม่จะสำเร็จ!
เสิ่นเสวียนสำรวจภายในร่าง พบว่าลึกเข้าไปในทะเลจิตสำนึกมีม้วนคัมภีร์โบราณลอยอยู่ เพียงแต่รอบๆ คัมภีร์ม้วนนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังอัสนี พลังจิติญญาของเขาในตอนนี้ยังมิอาจเข้าใกล้ได้
นี่เป็ถึงผังเมืองซานเหอศาสตราเทพ เมื่อมีผังเมืองนี้อยู่หามีสิ่งใดต้องกังวล เพราะก่อนที่จะะเิร่างตนเองเขาได้นำสมบัติทั้งหมดเก็บซ่อนเอาไว้ในนั้น ทั้งยังใช้พลังยุทธ์ผนึกเอาไว้อีกด้วย น่าเสียดายที่ตอนนี้ไม่อาจคลายผนึกได้ ไม่เช่นนั้นหากเอายาชำระล้างร่างกายและยาผสานก่อกำเนิดออกมาได้สักหน่อย คงฝึกฝนถึงขั้นหยวนก่อกำเนิดได้ในเวลาไม่นาน
เสิ่นเสวียนลองนั่งสมาธิ ทันใดนั้นพลังฟ้าดินมากมายมหาศาลก็หลั่งไหลเข้ามาและเติมเต็มร่างกายอย่างต่อเนื่อง เพียงแค่สิบลมหายใจก็สามารถวางรากฐานทะลวงไปสู่ขั้นประกายแสงแล้ว
"เป็พลังที่แข็งแกร่งนัก! ถ้าคงความเร็วเช่นนี้ต่อไป แค่สามปีก็คงหลอมรวมหยวนก่อกำเนิดได้สำเร็จ!"
เสิ่นเสวียนรู้สึกปลื้มปีติ ไอพลังหลิงชี่ในโลกเดิมของเขาเบาบางมาก ต้องใช้เวลาระยะหนึ่งจึงจะหลอมรวมหยวนก่อกำเนิดขึ้นมาได้ แต่ที่นี่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังมากกว่าโลกเดิมถึงสิบเท่า การฝ่าด่านเคราะห์อาจใช้เวลาแค่สิบปีเท่านั้น
ทันใดนั้นจิตสำนึกเทพของเขาััได้ว่ามีคนสองคนกำลังย่างเข้ามายังเรือนไม้หลังนี้ อีกทั้งจิตสังหารของทั้งสองคนนั้นรุนแรงมาก เขารีบนั่งสมาธิเพื่อฝึกฝน ต้องทำให้พลังยุทธ์แข็งแกร่งมากที่สุดใน่เวลาอันสั้น
“เ้าว่าเขาตายแล้วหรือยัง”
“ไม่รู้สิ น่าจะตายแล้วกระมัง ยาสลายจิตได้ชื่อว่าตายในสามลมหายใจ และข้าก็เห็นเขาดื่มเข้าไป แถมนี่ก็ผ่านไปสองชั่วยามแล้วนะ”
ด้านนอกเรือนไม้ ข้ารับใช้อายุยี่สิบกว่าปีสองคนยืนกระซิบกระซาบกันอยู่หน้าประตู
“จะสนใจทำไม ไม่ตายก็ต้องฆ่าให้ตาย ไม่เช่นนั้นพวกเราเองที่ต้องตาย เข้าไปเถอะ”
แอ๊ด!
ประตูไม้ถูกเปิดออก ข้ารับใช้ทั้งสองเดินเข้าไปด้านในอย่างระมัดระวัง แต่เมื่อได้เห็นเสิ่นเสวียนนั่งอยู่บนเตียง สีหน้าของพวกเขาพลันตื่นใมาก
หรือว่ายาสลายจิตจะไม่เป็ผล เป็ไปไม่ได้!
“นายน้อย?”
ข้ารับใช้คนหนึ่งส่งเสียงเรียกด้วยความหวาดระแวง แต่มิใช่เพราะกลัวเสิ่นเสวียน พวกเขาทั้งสองต่างมีพลังยุทธ์แกร่งกล้า ต่างจากเสิ่นเสวียนที่เป็เพียงคนธรรมดา
หากเสิ่นเสวียนยังไม่ตาย พวกเขาก็พร้อมจัดการอย่างไม่ลังเล
นี่มิใช่การสังหารคนครั้งแรกของพวกเขา
เมื่อเห็นว่าเสิ่นเสวียนไม่ตอบกลับ ทั้งสองคนก็หันมองหน้ากันเล็กน้อยแล้วเดินตรงเข้าไป
ขณะที่ทั้งสองคนอยู่ห่างจากเสิ่นเสวียนราวสามฉื่อ[1] พลังอันน่ากลัวพลันปะทุออกจากร่างเสิ่นเสวียนแล้วแผ่ซ่านไปรอบๆ
ฟุ่บ! ฟุ่บ!
พลังนั้นพุ่งตรงไปยังข้ารับใช้ทั้งสอง พลันกระดูกทั่วร่างพวกเขาก็บิดเบี้ยวและล้มลงอย่างไร้เรี่ยวแรง
“อ๊าก!!! อ๊าก!!!”
ความเ็ปที่เสียดแทงไปถึงหัวใจทำให้ทั้งสองร้องโหยหวนออกมา แต่ที่นี่คือลานหลังเขาอันห่างไกลผู้คนของตระกูลเสิ่น ซึ่งปกติแล้วจะไม่มีใครเข้ามา ดังนั้นไม่ว่าพวกเขาจะส่งเสียงร้องดังแค่ไหนก็ไม่มีใครได้ยิน
"โอ้ พลังขั้นประกายแสงระดับกลางของที่นี่รุนแรงนัก!"
เสิ่นเสวียนลืมตาขึ้นแล้วพยักหน้าด้วยความพอใจ ภายใน่เวลาไม่ถึงร้อยลมหายใจ เขาสามารถฝึกฝนจนกลับมาถึงขั้นประกายแสงระดับกลางได้อีกครั้งแล้ว ความเร็วในการฝึกฝนเช่นนี้ หากรู้ไปถึงภายนอกไม่รู้ว่าผู้คนจะตื่นใจนอ้าปากค้างกันสักเพียงไหน
จากนั้นเสิ่นเสวียนก็หันไปมองข้ารับใช้ทั้งสองคนที่ล้มอยู่บนพื้นด้วยสายตาเย็นะเื
ตามที่รับรู้จากความทรงจำของเสิ่นเสวียน ชายสองคนนี้คือข้ารับใช้ที่ดูแลเื่อาหารและเสื้อผ้าในชีวิตประจำวันของเขา ซึ่งมักแสดงท่าทีรังเกียจและปฏิบัติต่อเขาไม่ดีมาตลอด ทั้งยังเป็คนวางยาพิษเขาในเช้าวันนี้ด้วย
ความจริงแล้วพร์ของเ้าของร่างนี้ไม่ได้ต่ำต้อยเลย ชีพจรทั้งหลายก็เหมาะสมกับการฝึกฝนอย่างมาก แต่เพราะโดนวางยาพิษตอนยังเป็เด็ก ทำให้ชีพจรถูกปิดกั้นจนกระทั่งชีพจรยุทธ์ของเขาค่อยๆ ตกต่ำลง แม้พ่อแม่จะเสียไปนานแล้วแต่ท่านปู่ก็ดูแลเขาเป็อย่างดี เขาใช้ชีวิตได้โดยปราศจากความกังวล ทว่าเมื่อสามปีก่อนที่ท่านปู่เสียไป เขากลับโดนขังลืมอยู่ที่ลานด้านหลังของตระกูล
ตามกฎของตระกูล เมื่อนายน้อยอย่างเขามีอายุครบสิบหกปี ก็จะได้รับ่ดูแลตระกูลเสิ่นต่อไป นี่อาจเป็เหตุให้เขาโดนวางยา
“ขี้ข้าน่ารังเกียจ ทำร้ายเ้านาย ใครสั่งให้พวกเ้าทำ”
เสิ่นเสวียนลุกขึ้นยืนสะบัดคอเล็กน้อย ครั้งก่อนเขาก็สังหารจักรพรรดิเซียนคนหนึ่งตายไปโดยไม่ทันระวัง
ข้ารับใช้ทั้งสองกำลังฝืนกลั้นความเ็ปที่ได้รับ และแม้ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง แต่ก็ััได้ถึงจิตสังหารจากร่างของเสิ่นเสวียน สิ่งนี้ทำให้ทั้งสองยากจะเชื่อว่าผู้ที่อยู่ตรงหน้าคือคนไม่เอาไหนที่พวกเขาเคยรังแก
“ข้า! พวกข้าเพียงแค่มาดูนายน้อยเท่านั้น” ข้ารับใช้หนึ่งในนั้นพยายามกล่าวออกมาทั้งที่ยังเ็ปแสนสาหัส
พลั่ก!
เพิ่งจะกล่าวจบฝ่ามือของเสิ่นเสวียนก็ฟาดลงที่กลางศีรษะของเขา จนเืไหลทะลักออกจากทวารทั้งเจ็ด ดวงตาเบิกโพลง รูม่านตาค่อยๆ ขยาย และพลังชีวิตบนร่างเหือดหายไปอย่างรวดเร็ว
ตายแล้ว!
แม้แต่เสียงร้องก็ไม่ทันได้ร้องออกมา!
ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ประจักษ์แก่สายตาข้ารับใช้อีกคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆ อย่างแจ่มแจ้ง เขาเผยสีหน้าหวาดกลัวสุดขีดออกมา นี่ยังเป็นายน้อยไม่เอาไหนที่พวกเขารังแกได้โดยไม่กล้าตอบโต้อยู่อีกหรือ
“จำไว้ ข้าไม่ได้กำลังหารือกับพวกเ้าอยู่ บอกมา”
เสิ่นเสวียนกล่าวพลางมองข้ารับใช้อีกคนด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่นราวสายลมในฤดูใบไม้ผลิ
“ข้าบอก! ข้าบอกแล้ว! ผู้ดูแลใหญ่เป็คนสั่งพวกข้า เขาเป็คนให้ผงสลายจิตแก่พวกข้าเพื่อมาวางยาพิษนายน้อย ตอนนี้เขากำลังรับหน้าที่ผู้นำตระกูลอยู่ในหอประชุม ทั้งยัง...”
ข้ารับใช้ที่ทั้งใและหวาดกลัวกล่าวได้ครึ่งหนึ่งพลันหยุดลง
“หืม?”
“ใช่! ใช่แล้ว! ผู้ดูแลใหญ่เตรียมที่จะให้เสิ่นเสี่ยวเม่ยแต่งงานกับคุณชายสามตระกูลหาน...”
ข้ารับใช้ก้มหน้าลงทันใด เขาไม่กล้าแม้จะสบตากับเสิ่นเสวียน
สายตาคู่นั้นน่ากลัวเกินไป เพียงมองก็เหมือนกับร่วงหล่นลงไปในหุบเหวลึกอันไร้ขอบเขต
“เสิ่นเสี่ยวเม่ย!”
เสิ่นเสวียนพึมพำออกมา ดวงตาหรี่มอง ในแววตาวาวโรจน์แผ่จิตสังหาร เสิ่นเสี่ยวเม่ยคือน้องสาวแท้ๆ ของเสิ่นเสวียนและยังเป็ที่พึ่งเพียงหนึ่งเดียวของเขาในตระกูลเสิ่นอีกด้วย ก่อนที่ท่านปู่จะเสีย ท่านได้ฝากฝังให้เขาดูแลเสิ่นเสี่ยวเม่ยให้ดี ส่วนคุณชายสามจากตระกูลหานนั้นขึ้นชื่อในเื่ความโเี้อำมหิต เขาแต่งงานไปแล้วสามครั้งและภรรยาทั้งสามล้วนโดนฆ่าตายหมด
ส่วนเสิ่นเสี่ยวเม่ย ปีนี้นางเพิ่งจะมีอายุสิบเอ็ดปีเท่านั้น
"เวรเอ๊ย!"
กร๊อบ...
เสิ่นเสวียนกำหมัดแน่น
“ผู้ดูแลใหญ่เสิ่นเหวินเทา ข้าว่าเ้าคงเหนื่อยกับการใช้ชีวิตแล้ว”
เสียงอันเย็นะเืของเสิ่นเสวียนดังก้องอยู่ในเรือนไม้
.......................................................
[1] ฉื่อ เป็หน่วยวัดของจีน ยาวประมาณ 33.3 เิเ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้