เฟิ่งหยางแววตาเข้มขึ้น ฉวยเงินมาจากมือของถังชิงหรู พลางแค่นเสียงเยาะ "เงินเหล่านี้เป็ของข้า เ้าเป็สาวใช้ หากไม่ได้รับอนุญาตห้ามแตะต้องเงินของเ้านาย"
ถังชิงหรูมุมปากกระตุก ก่อนกล่าวอย่างเอ้อระเหย "คุณชายพูดถูก เช่นนั้นท่านก็ต้องรับหน้าที่จัดหาสินค้าของวันพรุ่งนี้ด้วย เพราะตอนนี้ข้าไม่มีสินค้าแล้ว"
"ไม่มีก็ไปเตรียมสิ" เฟิ่งหยางมองด้วยหางตา
"ไม่มีเงินทุน ถึงสังหารข้าให้ตาย ข้าก็ไม่มีปัญญาแลกสินค้ามาให้หรอกนะ" ถังชิงหรูแลบลิ้นปลิ้นตาใส่เขา
เฟิ่งหยางมองถังชิงหรูอย่างพินิจ เขาตรวจสอบสถานะของนางแล้ว ทราบว่าชาติกำเนิดของนางเป็สาวใช้ ทว่าสตรีแบบนี้จะเป็สาวใช้ได้อย่างไร หากใช่ล่ะก็ เ้านายคนก่อนคงให้ท้ายนางน่าดู
ไร้ความสามารถ ไร้ความงาม ไร้คุณธรรม สตรีเช่นนี้ต้องตาเฉินิได้อย่างไร
เฟิ่งหยางโยนเงินคืนให้พลางสำทับเสียงแข็ง "่นี้เ้าจงอยู่ทำการค้าอย่างสงบเสงี่ยมและเชื่อฟัง เื่ที่ไม่ได้รับอนุญาตอย่าริทำเป็อันขาด"
ถังชิงหรูเห็นเฟิ่งหยางจากไปแล้วก็ลูบอกของตนเองด้วยความโล่งใจ
เสี่ยวอียังไร้การตอบสนอง แต้มจิตพิสัยจรรยาแพทย์ไม่เหลือแล้วจริงๆ หรือว่าเป็เพราะหนอนกู่ของเฟิ่งหยางกันแน่? หากเป็กรณีแรก ค่อยจัดการง่าย เพราะขณะขายสินค้า นางก็ช่วยรักษาโรคภายในของสตรีไปด้วย ถึงแต้มจิตพิสัยจะยังไม่มาก แต่คงพอเสริมพลังงานขึ้นมาบ้าง ถ้าหากเป็กรณีหลัง เช่นนั้นก็คงยากรับมือ
แล้วหมอพิษผู้นั้นเล่า? เมื่อก่อนไม่อยากพบหน้า เขาก็เพียรผลุบโผล่มาดั่งภูตผี ยามนี้พออยากเจอ ก็ไม่รู้ว่าเ้าตัวไปไหนเสียแล้ว
'หัวใจสตรี' กลายเป็หัวข้อโจษจันร้อนแรงที่สุดของเมืองชิ่งไปแล้ว สตรีที่พอมีเงินอยู่บ้างต่างพากันแวะเวียนไปเดินเล่นที่นั่นและซื้อของติดไม้ติดมือกลับมาคนละชิ้นสองชิ้น รอยยิ้มบนใบหน้าของพวกนางเบ่งบานเสียยิ่งกว่าบุปผา หากใครไม่ไปร้านหัวใจสตรี ก็แสดงว่าคนผู้นั้นไม่ใช่ผู้หญิง หรือไม่ก็เป็สตรีที่ขายไม่ออก
เมื่อก่อนแม้ว่าเฉินิจะไม่ใช่เ้าเมืองที่สมบูรณ์แบบนัก แต่ก็ใจกว้างมีเมตตาเอื้ออารี ภายใต้การปกครองและทำนุบำรุงของเขาก่อให้เกิดคนมีเงินมีอำนาจในเมืองชิ่งจำนวนไม่น้อย เศรษฐกิจจึงรุ่งเรืองเฟื่องฟู ยามนี้ร้านหัวใจสตรีมีลูกค้ามากมายในแต่ละวัน หากมิใช่ว่าสินค้าไม่พอจึงต้องจำกัดปริมาณการขาย เกรงว่าธรณีประตูร้านคงถูกย่ำจนสึกไปแล้ว
หลังส่งลูกค้าคนสุดท้ายออกไปแล้ว ถังชิงหรูก็เริ่มนำของมาจัดวางในร้านใหม่
นางขอให้เฟิ่งหยางซื้อตัวช่างปักเย็บสตรีมายี่สิบคนเพื่อตัดชุดชั้นในสตรี ซึ่งในแต่ละวันสามารถผลิตได้ห้าสิบชุด ชุดชั้นในเ่าั้ล้วนแต่เป็งานฝีมือประณีต แต่ละตัวมีลวดลายแตกต่างกัน แม้ถังชิงหรูจะไม่เข้าใจงานเย็บปักถักร้อย แต่นางออกแบบเป็ เมื่อชุดชั้นในเ่าั้ตัดเย็บตามแบบของนางจึงกลายเป็งานศิลปะที่มีความงดงามสมบูรณ์แบบ สตรีชั้นสูงเ่าั้ซื้อแล้วจึงกลับมาซื้อใหม่ แม้จะสวมใส่ไม่หมด ยังสามารถมอบเป็ของกำนัลที่ดูมีหน้ามีตาให้แก่สหายคนสนิท ราคาชุดชั้นในของร้านหัวใจสตรีปรับขึ้นจากสิบตำลึงในตอนแรกมาเป็ยี่สิบตำลึงก็แล้ว ทว่าสินค้ายังคงไม่เพียงพอกับความ้า
"หน็อย... เ้าหัวขโมยน้อย ข้าจะตีเ้าให้ตายไปเลย" เสียงเฆี่ยนตีดังขวับๆ ลอยมาจากด้านนอก
"อย่าตี อย่าตีข้า ข้าไม่ได้ขโมยของของท่าน อย่าตีข้าเลย" เสียงของเด็กชายร้องอ้อนวอนอย่างน่าสงสาร
ถังชิงหรูได้ยินเสียงก็เดินออกมามองที่หน้าประตู เห็นชายฉกรรจ์รูปร่างบึกบึนกำลังเฆี่ยนตีเด็กชายอายุราวห้าหกขวบ เด็กคนนั้นเจ็บจนร้องไห้ะโเสียงดังลั่น ด้านข้างยังมีบุรุษวัยกลางคนและผู้ติดตามอีกสองคนยืนอยู่ตรงนั้น พวกเขาล้วนมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยสีหน้าเ็า ชาวบ้านที่อยู่แถวนั้นต่างไม่กล้าเข้าไปใกล้ เดิมทีตรงนั้นนับว่าเป็ตลาดคึกคัก ทว่ายามนี้กลับเงียบเชียบไร้สุ้มเสียง
ถังชิงหรูมุ่นคิ้วขมวด ยกถังน้ำด้านข้างสาดออกไปอย่างแรง ชายร่างใหญ่ไม่นึกว่าจะมีคนเข้ามายุ่งเกี่ยว จึงถูกน้ำสาดเปียกไปทั้งตัว เขาถลึงตาใส่ถังชิงหรูด้วยความโกรธเคือง น้ำเลอะสิ่งปฏิกูลไหลย้อยเต็มหน้า
"มองข้าทำไม? ถึงแม้ว่าแม่นางเยี่ยงข้าจะงดงามปานบุปผา แต่หาใช่คนที่บ่าวอย่างเ้าจะมองได้ตามอำเภอใจ" ถังชิงหรูยืนกอดอก เอ่ยด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น "บิดามารดาให้กำเนิดโคถึกอย่างเ้าออกมา แทนที่จะไปทำงานรับใช้แผ่นดิน กลับมารังแกเด็กเล็กๆ หน้าตาอย่างกับกองขยะ ยังมายืนเกะกะขวางทางผู้อื่นอยู่ได้ ดูซิ อากาศเหม็นไปหมดแล้ว ข้าช่วยชำระร่างกายให้ นับว่าเป็การสงเคราะห์ เ้าควรกล่าวขอบคุณแม่นางเยี่ยงข้าสักคำหรือไม่"
"เ้านี่มันวอนหาเื่ซะแล้ว" ชายฉกรรจ์ตั้งท่าจะลงไม้ลงมือกับถังชิงหรู
บุรุษที่ยืนสงวนวาจาอยู่ด้านข้างพลันเอ่ยเสียงเย็น "ฉินซง ถอยไป"
ชายร่างใหญ่ได้ยินก็รับคำเสียงอ่อย หันมาถลึงตาใส่ถังชิงหรูอีกครา ก่อนถอยไปด้านหลังสองสามก้าว
บุรุษซึ่งหันหลังให้นางหมุนตัวมา มองสตรีแววตาสดใสตรงหน้า พลางกล่าวอย่างเฉยเมย "สาวน้อย คนที่ชอบยุ่งเื่ของผู้อื่นมากนักมักอายุไม่ยืน"
ถังชิงหรูเพิ่งเห็นหน้าบุรุษผู้นี้อย่างแจ่มชัด ที่แท้เขาก็คือเมิ่งหลิงหัตถ์ปีศาจตามคำเล่าลือ คนผู้นี้ร้ายกาจยิ่ง อย่าได้ไปล่วงเกินเป็ดีที่สุด
ถังชิงหรูนึกเสียใจขึ้นมาบ้างแล้ว ทว่าใต้หล้าหามียาแก้โรคเสียใจภายหลัง อีกอย่างเด็กน้อยคนนี้อายุเพียงห้าขวบ นางใจไม่แข็งพอที่จะเพิกเฉยไม่ให้ความช่วยเหลือ
"คุณชายผู้นี้ ดูแล้วชาติกำเนิดคงไม่ธรรมดา มองจากภายนอกมิน่าจะใช่คนไร้เหตุผล เด็กน้อยฐานะยากจน หากทำสิ่งใดพลาดพลั้งไปบ้าง ขอท่านได้โปรดให้อภัย ยิ่งไปกว่านั้นคนของท่านก็สั่งสอนเขาไปแล้ว เขาเองก็รู้สำนึกแล้วด้วย คุณชายยังจะเอาความให้ได้อีกหรือ" แม้ในใจจะหวาดกลัว แต่ถังชิงหรูก็ยังอยากช่วยเด็กคนนี้ให้ได้ เขาถูกชายร่างใหญ่เฆี่ยนตีจนบอบช้ำไปทั้งตัว เมื่อครู่ยังร้องไห้อ้อนวอนขอชีวิต ทว่าตอนนี้ลมหายใจแ่ลงไปทุกที เหมือนจะขาดใจตายอยู่รอมร่อ
"เ้านับเป็ตัวอันใด กล้าฝันเฟื่องมาขอให้คุณชายของเราปล่อยเด็กหัวขโมยคนนั้นไป" ชายคนเมื่อครู่กล่าวพลางหัวเราะเยาะหยัน
"พูดมาก" เมิ่งหลิงมองไปมองถังชิงหรู "หากลิ้นของเ้ายาวนักก็ไม่จำเป็ต้องมี"
ชายผู้นั้นหน้าซีดเผือดตัวสั่นงันงก อ้าปากยื่นลิ้นออกมาแล้วกัดลงไปอย่างแรงเสียงดังฉึบจนขาด แล้วคายลิ้นครึ่งหนึ่งทิ้งไป ก่อนอุดปากของตนเองไว้
ถังชิงหรูเห็นเหตุการณ์อย่างชัดเจน แววตาเหิมเกริมไม่เคยหวั่นเกรงผู้ใดพลันหรี่วูบฉายแววตื่นตระหนก
แค่พูดมาไปประโยคเดียว ถึงกับต้องตัดลิ้นกันเลยเชียวหรือ ชายผู้นี้โเี้สมดังคำร่ำลือ หากต้องอยู่ภายใต้การปกครองของคนผู้นี้ ต่อไปประชาชนเมืองชิ่งจะอยู่อย่างเป็สุขได้หรือ ไม่ได้! ต้องหาวิธีส่งบุรุษผู้นี้กลับไปในที่ที่เขาจากมา หรือไม่... ก็ทำให้หายไปเลยชั่วนิรันดร์
ถังชิงหรูมองเมิ่งหลิงด้วยแววตาว้าวุ่น
เมิ่งหลิงก็จ้องสตรีตรงหน้าไม่วางตา
สตรีผู้นี้รูปร่างบอบบาง รูปโฉมธรรมดา มีเพียงดวงตาที่นับว่าน่ามอง แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด เมื่อสบสายตาคู่นี้ เขารู้สึกคุ้นเคยอย่างมาก เดิมทีคิดจะจัดการที่นางยุ่งไม่เข้าเื่ แต่ยามนี้กลับไม่คิดจะถือสาหาความต่อไป หันไปพูดกับผู้ติดตามข้างกาย "ไปเถอะ"
ถังชิงหรูรู้สึกหวาดกลัวเมื่อถูกเมิ่งหลิงจดจ้อง บุรุษผู้นี้ร้ายมาก อดหวั่นใจไม่ได้ว่าเขาจะทำสิ่งใดกับนางบ้าง แต่เขากลับไม่พูดอะไรสักอย่าง หันไปพูดกับลูกน้องแล้วก็จากไป ชั่วขณะนั้น ถังชิงหรูนึกว่าตนเองหูฝาด
บุรุษผู้นั้นหน้าตาดียิ่ง ทว่ามีแต่รังสีความชั่วร้ายกำจายอยู่รอบตัวราวกับอสรพิษ ไม่อาจรู้ได้ว่าเขาเติบโตมาภายใต้สภาพแวดล้อมแบบไหนถึงได้กลายเป็คนเช่นนี้
เมิ่งหลิงพาบริวารจากไป ชายฉกรรจ์ร่างใหญ่หันมาถลึงตาดุดันใส่ถังชิงหรู ก่อนเดินตามผู้เป็นายไป บนถนนจึงเหลือเพียงถังชิงหรูกับเด็กชายอ่อนแอคนนั้น
"แม่นาง เด็กคนนี้ล่วงเกินใต้เท้าเมิ่ง ท่านอย่าไปยุ่งกับเขาเลย" คนผู้หนึ่งซึ่งเมื่อครู่ไม่ได้อยู่ตรงนี้เดินเข้ามา ทุกคนต่างกลัวภัยจะลามมาถึงตัว จึงพากันหลบเลี่ยงอยู่ให้ห่าง พอเมิ่งหลิงไปแล้ว ชาวบ้านเ่าั้ถึงกล้าเดินเข้ามา พวกเขามองเด็กน้อยที่นอนอยู่บนพื้นด้วยความเห็นใจ ทว่ากลับไม่มีใครเข้าไปช่วยพยุงเขาขึ้นมาสักคน
ถังชิงหรูอยากดูแลเด็กคนนั้น พวกเขายังมาเกลี้ยกล่อมนางว่าอย่าเข้าไปยุ่ง
"เกิดอะไรขึ้นกันแน่ เด็กคนนี้ขโมยของรึ" มีคนถาม
"เมื่อครู่ข้าเห็น เด็กคนนี้แค่หกล้มตอนเดินผ่านใต้เท้าเมิ่ง แล้วหยกประดับที่เอวของใต้เท้าก็ดันหล่นตอนนั้นพอดี พวกเขาจึงกล่าวหาว่าเด็กคนนี้เป็ขโมย" ชายที่อยู่ด้านข้างคนหนึ่งเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแ่เบา
"พวกเ้ารู้หรือไม่ว่าเขาเป็บุตรชายของบ้านไหน" ถังชิงหรูอุ้มเด็กชายขึ้นมา เด็กอายุห้าขวบแต่น้ำหนักตัวเบาหวิวดั่งนกนางแอ่น อุ้มแต่รู้สึกเหมือนไม่ได้อุ้มอะไรเลย ชาวบ้านต่างพากันสั่นศีรษะ แสดงให้เห็นว่าไม่รู้ที่มาของเขา
ถังชิงหรูไม่ซักถามอีก นางอุ้มเด็กเข้าไปในร้าน
ในร้านไม่มีห้องพักผ่อน นางต้องวางเขาไว้บนโต๊ะ หลังจากนั้นก็รื้อกล่องเครื่องมือออกมา แล้วหยิบเข็มเงินมาฝังเข็มให้ก่อน
ตราบใดที่เสี่ยวอียังเปิดไม่ได้ ของที่อยู่ในระบบย่อมหยิบออกมาใช้มิได้ทั้งนั้น นางเป็หมอ ปรกติแค่เห็นใครมีาแเล็กน้อยก็ทนไม่ได้แล้ว ดังนั้นจึงเตรียมกล่องเครื่องมือไว้ใบหนึ่ง เฟิ่งหยางเห็นสิ่งที่นางทำก็ไม่ได้ห้ามปราม เขาเองก็ได้รับาเ็อยู่บ่อยครั้ง ซ้ำยังให้ผู้อื่นรู้ไม่ได้ ถังชิงหรูจึงต้องเตรียมอุปกรณ์สำหรับการรักษาไว้ล่วงหน้า
นางตรวจร่างกายให้เขา เด็กคนนี้ขาดสารอาหารอย่างรุนแรง นอกจากแผลใหม่ที่ถูกเฆี่ยนตีวันนี้ ยังมีแผลเก่าอีกนับไม่ถ้วน าแเ่าั้มีทั้งถูกเฆี่ยน ถูกเข็มแทง ถูกแผ่นเหล็กร้อนนาบ สีของาแแตกต่างกัน าแใหม่ซ้ำลงไปบนแผลเก่า
ถังชิงหรูมองดูร่างกายที่แตกลายไปทั้งตัวอย่างไม่อยากเชื่อว่านี่คือเด็กอายุห้าขวบ คนประเภทไหนถึงทำเื่บัดซบเช่นนี้ได้
"อย่าตีข้า ข้าไม่ใช่หัวขโมย ข้าไม่ได้ขโมยของ ท่านแม่ ข้าเจ็บ ท่านแม่..." เด็กน้อยละเมอออกมา ถังชิงหรูจับมือของเขาไว้ เอ่ยวาจาอย่างอ่อนโยน "ไม่ต้องกลัว ข้าอยู่นี่แล้ว ข้าจะปกป้องเ้า มิให้ใครทำร้ายได้อีก"
เสียงเยาะเบาๆ ดังมาจากประตู
ถังชิงหรูไม่หันไปก็รู้ว่าใคร ยามนี้ดวงตาของนางแดงก่ำ สีหน้าไม่ดีนัก นางไม่อยากให้บุรุษผู้นั้นเห็นเป็เื่ขำขัน จึงต้องรักษากิริยาไว้
"เ้าช่างเหิมเกริมนัก แม้แต่เมิ่งหลิงยังกล้าล่วงเกิน เบื่อชีวิตแล้วใช่หรือไม่" เฟิ่งหยางเดินเข้ามา เชยคางของนาง พลางกล่าวว่า " วันนี้ที่เ้าเห็นเป็แค่อาหารรองท้อง ความร้ายกาจของเมิ่งหลิงไหนเลยจะมีแค่นี้ หากเ้าไม่อยากมีชีวิตก็ไปตายเองคนเดียว อย่ามาสร้างปัญหาให้ข้า"
ถังชิงหรูผลักมือของเขาออก พลางหัวเราะเย้ยหยัน "ท่านกลัวเขาล่ะสิ"
"วิธียั่วยุใช้กับข้าไม่ได้ผล ต่อไปหากยังกล้าไปท้าทายเมิ่งหลิงอีก ข้าจะปลอบโยนเขาด้วยชีวิตของเ้า ฟังเข้าใจหรือไม่" เฟิ่งหยางดวงตาแดงก่ำดั่งโลหิต