บนถนนอันเนืองแน่นไปด้วยผู้คน ก่อนที่นักศึกษาจะเริ่มเข้าชั้นเรียน พวกเขาถูกกองทัพนักเต้นเข้ายึดครองพื้นที่ในจัตุรัส แต่ในพื้นที่ไม่กี่ร้อยเมตรนั้น กลับมีมากถึง 10 กลุ่ม ผู้คนเกือบ 500 คนกำลังเต้นเพลงฮิตติดลมั้แ่ ‘แสงจันทร์ในบึงบัว’ ‘แอปเปิลน้อย’ ‘Macarena’ ‘เทพธิดาดอยจีน’ และเพลงยอดนิยมต่างๆ มีการผสานท่าเต้นอันหลากหลาย ทั้งละติน พื้นบ้าน แทงโก้ กระทั่งยิมนาสติก ราวกับเป็ฉากแห่งความรื่นเริงในงานปีใหม่
เสิ่นิพาเซี่ยวอี๋ฝ่ากลุ่มนักเต้นไป ฝูงชนเป็แหล่งซ่อนตัวอันแสนวิเศษ แต่วันนี้ ดูเหมือนจะมีบางอย่างแตกต่างไป
เมื่อพวกเขาผ่านกลุ่มเต้นระบำละตินซึ่งกำลังเต้นเพลง ‘Macarena’ อยู่นั้น คุณป้าท่านหนึ่งซึ่งกำลังหมุนตัว จู่ๆ ก็คว้าข้อมือของเซี่ยวอี๋ไว้ แล้วทำราวกับว่าจะดึงเซี่ยวอี๋ออกไปจากอ้อมอกของเสิ่นิ เพื่อมาเป็คู่เต้นรำ เพียงหมุนเดียวเท่านั้น เซี่ยวอี๋ก็ถูกกระชากไปอยู่เบื้องหน้าคุณป้าท่านนั้นแล้ว
“นางแพศยาที่นอนกับแฟนฉัน คิดถึงฉันไหม?” มนุษย์ป้าผู้เป็มิตรคนนั้นเปลี่ยนหน้ากลายเป็อันฉี เซี่ยวอี๋ไม่มีเวลาแม้แต่จะใ มีดอเนกประสงค์เล่มหนึ่งโผล่ขึ้นมาในมือของอันฉี และจ่อไปที่คอหอยของเซี่ยวอี๋
“ฉันเปล่า…” เซี่ยวยังไม่ทันได้ว่าให้จบคำ เงาสีดำด้านหลังก็วาบผ่านหน้าไปและเตะเข้าไปที่หน้าของอันฉี
หญิงสาวจำต้องยกฝ่ามือขึ้นเพื่อปัดป้อง กระนั้นอันฉีก็ยังถูกเตะจนล่าถอยออกไป 1 เมตร เสิ่นิดึงตัวเซี่ยวอี๋เข้ามากอด น่องถูกบาดเป็ทางยาวประมาณ 10 เิเ เืสดไหลซิบ รองเท้าหนังปริออก
“นายเืออก?” เซี่ยวอี๋กล่าวอย่างแตกตื่น
“เื่เล็ก” เสิ่นิถอดเข็มขัดมามัดน่องเพื่อห้ามเืไว้ชั่วคราว
“สามี นายออกตัวแรงนะ ใช้การควบคุมกล้ามเนื้อด้วย นายคิดจะฆ่าภรรยาเพื่อนังเมียน้อยอย่างนั้นหรือ?” อันฉีเลียเืที่หลังมีด พร้อมกล่าวอีกว่า “น้ำตาลในเืนายต่ำไปหน่อยนะ ่นี้ไม่ค่อยได้กินอาหารดีๆ เหรอ? ให้ฉันทำบะหมี่ให้กินหน่อยไหมล่ะ?”
“อันฉี ปล่อยเธอไป ขอร้องล่ะ” เสิ่นิเอาตัวบังเซี่ยวอี๋ไว้
“สามี ขอร้องล่ะ ให้ฉันฆ่าเธอเถอะ” อันฉีเผยใบหน้าอันดุร้าย
เสียงเอะอะดึงดูดความสนใจจากปู่ย่าตายายที่อยู่โดยรอบ พวกเขาพากันครหาว่าพ่อหนุ่มเสิ่นินี่ลงมือกับคนรุ่นป้า เสิ่นิไม่คิดที่จะอธิบาย ชายหนุ่มดึงปืนออกมาจากเอวของเซี่ยวอี๋และยิงขึ้นฟ้าหนึ่งนัด
เสียงปืนดังกึกก้องกลบเสียงจังหวะเพลงบนฟลอร์ ปู่ย่าตายายที่อยู่โดยรอบต่างพากันตกอกใจนโรคหัวใจแทบกำเริบ พวกเขาส่งเสียงกรีดร้องก่อนจะวิ่งหนีไป
“ยังจำที่ที่เราเริ่มธุรกิจแรกกันได้ไหม? ไปรอผมที่นั่น” เสิ่นิกระซิบที่ข้างหูของเซี่ยวอี๋ก่อนจะคืนปืนให้เธอ
“นายจะตายหรือเปล่า?” เซี่ยวอี๋นึกเป็ห่วง
“คุณอยากให้ผมตายหรือเปล่าล่ะ” เสิ่นิยิ้มอย่างเ้าเล่ห์
“นายติดหนี้ฉันตั้งเยอะ จะตายได้ยังไง?” เซี่ยวอี๋พยายามหาเหตุผลดีๆ ให้ตนเอง
“ถ้าอย่างนั้นผมก็จะอยู่รอดต่อไป ไปกันเถอะ” เสิ่นิผลักดันเซี่ยวอี๋ให้เดินเคลื่อนตามกระแสของผู้คนที่กำลังวิ่งไปบนทางอันยาวไกล
ร่างของอันฉีพร้อมออกตะครุบราวกับแมวที่เพิ่งจะเห็นหนู แต่ถุงยางซึ่งบรรจุไว้แอลกอฮอล์ตกกระทบลงบนพื้นคอนกรีตตรงหน้าเธอ เสียงดังปัง แอลกอฮอล์แตกออกมารวมกับก้นบุรี่ซึ่งถูกปาลงบนพื้น ทำให้เกิดะเิขึ้นเป็กำแพงเพลิง
“สามีคิดจะสู้กับฉันเพราะผู้หญิงคนนั้นเหรอ” อันฉีหันกลับไปมองด้วยความหดหู่ใจ
“อันฉี จำที่เราปฏิบัติภารกิจกันล่าสุด เมื่อตอนงานเลี้ยงปีใหม่ได้ไหม?” เสิ่นิโยนถุงยางแอลกอฮอล์อีก 11 ชุดที่เหลือออกไป ก่อให้เป็วงล้อมเปลวเพลิง ทำให้เขาและอันฉีติดอยู่ด้านใน
“เพลงเต้นรำเพิ่งจะเริ่ม เราเตรียมจะเต้นรำกัน แต่กลับพบว่าเป้าหมายเคลื่อนตำแหน่ง ทำให้ในครั้งนั้นต้องรีบออกจากฟลอร์ไปก่อน?” อันฉีจำได้ทุก่เวลาที่อยู่กับเสิ่นิ
“สนใจจะเต้นให้จบไหม? แค่ผมกับคุณ” เสียงเพลงละตินยังคงดังกึกก้องอยู่ในหู เสิ่นิยิ้มเป็การเชื้อเชิญ แต่มือที่อยู่ด้านหลังกำมีดปอกผลไม้เอาไว้
“เต้นรำหน้ากองไฟ...สามีข้าน้อยโรแมนติกขนาดนี้ั้แ่เมื่อไรกัน?” อันฉีหน้าแดงและมีความสุข แต่ในมือเรียวของเธอกลับเปิดมีดอเนกประสงค์ออกมาเสียงดังแกรก
ที่ที่เสิ่นิเรียกว่าเริ่มธุรกิจในครั้งแรกควรจะเป็บนดาดฟ้าซึ่งเซี่ยวอี๋ถูกทดสอบ ประสบการณ์วิ่งหน้าตั้งในวันนั้น ยังคงประจักษ์ชัดกระทั่งถึงทุกวันนี้
แต่จะว่าไปที่ที่เริ่มธุรกิจก็คือภัตตาคารอ้าวกวนไห่ที่เสิ่นิแบล็กเมลให้อู๋เหนิงยอมรับข้อตกลง แต่เอาเข้าจริงๆ แล้ว สถานที่แรกที่คุยธุรกิจกันอย่างเป็กิจจะลักษณะก็คือร้านเคเอฟซีในห้างหลินไห่
เซี่ยวอี๋ไปถึงจุดหมายอย่างรวดเร็ว เธอหอบและนั่งลงที่ข้างหน้าต่าง หญิงสาวสั่งอาหารเช่นเดียวกับวันนั้น เธอสวมรองเท้าผ้าใบ เสื้อกล้ามและกางเกงขาสั้นรัดรูปเช่นเดิม เพียงแต่ข้างกายไม่มีไอ้งั่งเสิ่นิอยู่แล้ว
เซี่ยวอี๋นั่งอยู่ที่นั่นั้แ่เช้าจรดเที่ยง น่าเสียดายที่โทรศัพท์ถูกทิ้งไว้ที่บ้านั้แ่แรก ไม่อย่างนั้นเธอคงจะได้ใช้ APP จับผี เช็กดูว่าหมอนั่นตายไปแล้วหรือยัง
ในขณะที่เซี่ยวอี๋กำลังเป็ห่วงเขาอยู่นั้น เสิ่นิก็เดินสะบักสะบอมเข้าร้านมาในร้าน และนั่งลงตรงฝั่งตรงข้ามกับเซี่ยวอี๋ ลูกค้าที่อยู่โดยรอบต่างพากันแตกตื่นใ เสิ่นิเอนศีรษะพิงกับกระจกร้านพลางหอบหายใจ
“นายเป็ยังไงบ้าง?” เซี่ยวอี๋ถามด้วยความกระวนกระวายใจ
“ไม่เป็ไร โดนผู้หญิงคนนั้นแทงมาสองสามแผล โชคดีที่ไม่ถูกจุดสำคัญ ไม่อย่างนั้นคงได้ตายไปแล้ว” เสิ่นิยิ้มอย่างเศร้าสร้อย ทั้งตัวเขาพันไว้ด้วยผ้าพันแผล ซ้ำยังเห็นเป็รอยเืสีแดงสด
“ไปโรงพยาบาลเถอะ!” เมื่อเซี่ยวอี๋เห็นท่าทางของเสิ่นิ ดวงตาของเธอก็แดงก่ำ
“ไม่ได้ สถานที่แบบนั้นเหมาะแก่การซุ่มโจมตี ผมขอพักสักหน่อยก็ดีขึ้นแล้ว เดี๋ยวก็หาย...” เสิ่นิลดศีรษะลง ราวกับว่าจะตายได้ทุกเมื่อ
“ถูกจับได้ก็ถูกจับได้สิ! ถ้านายไม่ไป นายอาจตายได้นะ!” เซี่ยวอี๋ยืนกราน
“เซี่ยวอี๋ คุณรักผมหรือเปล่า?” เสิ่นิไม่มีแรงแม้แต่จะมองหน้าเซี่ยวอี๋
“สมองนายมีปัญหาหรือเปล่า? มาถามคำถามอะไรตอนนี้!” เซี่ยวอี๋รีบพุ่งเข้าไปหาเสิ่นิ เธอคิดอยากจะแบกเขาขึ้นหลัง
“ผมอาจไปไม่ถึงโรงพยาบาล บอกผมต่อหน้าผมตอนนี้เลย ผู้หญิงที่ผมพยายามปกป้องด้วยชีวิต คุณรักผมไหม?” เสิ่นิเริ่มเพ้อเจ้อ
คำพูดประโยคนั้น ทำเอาเซี่ยวอี๋สั่นสะท้าน เธอคว้าปืนพก 92 ขึ้นเล็งไปยังหน้าผากของเสิ่นิ “บอกมา พาสเวิร์ดคืออะไร?”
“เซี่ยวอี๋ คุณเป็บ้าไปแล้วเรอะ?” ในที่สุดเสิ่นิก็ฝืนเงยหน้าขึ้นมา
“ถึงเสิ่นิจะงี่เง่า แต่ในระหว่างการคุ้มกันภัย เขาจะไม่มีวันทำเื่ไร้สาระ ผู้หญิงที่เขาให้ความคุ้มครองทั้งหมด เขาไม่เคยสนใจว่าพวกเธอจะชอบเขาไหม เขาจะรักษาความปลอดภัยอย่างมืออาชีพ ฉันถือว่ารหัสผ่านของคุณผิด!” เซี่ยวอี๋กัดฟันเหนี่ยวไก ะุอยู่ห่างเป้าแค่เพียง 1 มิลลิเมตร นี่เป็ระยะที่ไม่มีทางยิงพลาง
แต่ที่น่าแปลกก็คือ ศีรษะของเสิ่นิเบี่ยงไปทางซ้ายของกระบอกปืน ะุพุ่งผ่านข้างศีรษะและปะทะเข้ากับหน้าต่างด้านหลัง ทำเอาหน้าต่างแตกเป็รูปใยแมงมุม
“ที่จริงแล้วนังเมียน้อยก็ไม่ได้โง่นะ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เคยฆ่าใคร เลยลังเลที่จะยิงอย่างนั้นเหรอ?” ศีรษะของเสิ่นิยังคงอยู่ที่หน้ากระบอกปืน ใบหน้าเสิ่นิในตอนนี้ได้กลายเป็รูปลักษณ์ของอันฉีแล้ว
“เธอมันสัตว์ประหลาดประเภทไหนกันแน่? แม้แต่ะุก็ยังหลบได้?!” เซี่ยวอี๋กลัวจนเหนี่ยวไกอีกครั้ง แต่แสงวาบของมีดก็ปรากฏขึ้นเสียก่อน ลำกล้องของปืนพก 92 ถูกตัดขาดเป็สองท่อน ราวกับว่าเซี่ยวอี๋เห็นหัวะุลอยอยู่กลางอากาศ
ในมือของอันฉีคือมีดอิโต้ที่ได้มาจากหลังครัว เมื่ออยู่ในมือของเธอ ดูเหมือนว่ามันจะสับได้ทุกสิ่งอย่าง
“ขั้นต่อไป ฉันจะเด็ดหัวแก!” อันฉีกำมีดอิโต้ในมือและกวัดแกว่งไปมา
เธอเคลื่อนไหวได้เร็วมาก กระทั่งเซี่ยวอี๋รู้สึกว่าศีรษะของเธอจะไม่ได้อยู่ที่นั่นอีกแล้ว
แต่ก่อนที่มีดจะพุ่งเข้าถึงคอหอย มือใหญ่ก็ดึงเธอกลับไป ใบมีดหดกลับและถอยห่างออกจากคอหอยของเซี่ยวอี๋ เซี่ยวอี๋ล้มตัวลงในอ้อมกอดของเสิ่นิ
“อย่าใช้รูปลักษณ์ของฉันฆ่าคน ฉันเคยบอกเธอแล้วนะ” เสิ่นิโมโหของจริง
“ชอบ พอใจ รัก!” อันฉีดีดตัวขึ้นอย่างเริงร่า
เสิ่นิดึงเซี่ยวอี๋ไปที่ด้านข้าง ก่อนจะยืนหันข้าง ใช้ความแข็งแกร่งของทั้งสองเท้าถ่ายน้ำหนักลงไป จนกระทั่งกระเบื้องปูนก็แตกเป็เสี่ยง ดัชนีพิฆาต! เสิ่นิระดมกล้ามเนื้อทั้ง 37 มัดั้แ่ข้อเท้าถึงแขนเพื่อรวบรวมกำลัง นี่เป็วิธีหนึ่งในการสังหารภายในหมัดเดียว
อันฉียิ้มสบประมาท เธอหมุนร่างไปด้านข้างและพยุงโลกไว้ด้วยเท้าข้างเดียว เท้าอีกข้างหนึ่งหดขึ้น เธอใช้หัวเข่าตีเข้ากับกำปั้นของเสิ่นิ
หากบอกว่าเสิ่นิเหมือนกับตะปูเหล็กอันแข็งแกร่งที่ตอกอยู่บนพื้น อันฉีก็เหมือนกับชะแลงชั้นดี! เสิ่นิถูกตอกเข้าจนเท้าทั้งสองหลุดออกจากพื้น ร่างของเขาลอยพุ่งไปทางด้านหลังเหมือนกับโดนะุปืนใหญ่ ศีรษะของเขากระทบเข้ากับเคาน์เตอร์เคเอฟซี ก่อนจะล้มตัวลงตรงด้านในครัว
“ฮึ ฉันบอกนายไปตั้งกี่รอบแล้ว นายเป็มือปืน ะุคือชีวิตของนาย ะุคือการเคลื่อนไหวของนาย นายคิดจะสู้ตัวต่อตัวกับฉันเหรอ? หาเื่ตายหรือไง?” อันฉีถอนหายใจพลางคว้าคอเสื้อของเซี่ยวอี๋ไว้ และเตะไปที่หน้าต่างร้านซึ่งถูกยิงร้าวจนกลายเป็ใยแมงมุม ก่อนจะลากเซี่ยวอี๋ไปลานกลางห้าง
“ปล่อยฉัน!” เซี่ยวอี๋ดิ้นรน เธอใช้วิชาที่เรียนมาทั้งหมด แต่เมื่ออยู่กับอันฉี เธอเหมือนกับเด็กน้อยซึ่งกำลังร้องดิ้นงอแง
“กว่าจะจับได้ เื่อะไรจะปล่อยล่ะ? เฮ้อ ตรงนี้ช่างพอดี” อันฉีลากเซี่ยวอี๋มาจนถึงตำแหน่งซึ่งไร้กล้องวงจรปิด ในเมื่อเธอคือนิรวานบำเพ็ญตบะ ยังไม่ได้สำริดระยะเวลานิรวานของตน อย่างที่เสิ่นิกล่าว เธอจะฆ่าผู้บริสุทธิ์ตามอำเภอใจไม่ได้ เธอจึงต้องห้ามทิ้งหลักฐานไว้ในกล้องวงจรปิด เช่นนี้จะได้ต่อรองกับทางค่ายได้
แม้จะเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกลงโทษ แต่ก็ยังดีกว่าถูกจองจำในนิรวานจนชั่วชีวิต
“มีอะไรจะสั่งเสียไหม?” อันฉีกดร่างของเซี่ยวอี๋ไว้และยกมีดอิโต้ในมือขึ้น
“มี!” เซี่ยวอี๋ใช้สายตาที่ดูิ่ “ที่ผู้ชายของเธอไม่ได้รักเธอ อาจเป็เพราะสัตว์ประหลาดอย่างเธอสามารถกลายร่างเป็ผู้ชายได้น่ะสิ?”
“แก นังเมียน้อย ปากดีจริง ถ้าไม่ใช่เพราะฉันใจแคบ บางทีฉันอาจจะให้ใช้สามีร่วมกันได้ แต่เอาเถอะ ฉันล้อเล่น ฆ่าเธอนั่นแหละ ดีที่สุด” อันฉียิ้มหวานที่มุมปาก
ในขณะที่กำลังจะสับมีดอิโต้ลง “หยุดเดี๋ยวนี้!” เสิ่นิผู้ซึ่งบอบช้ำไปทั้งตัวคลานมาด้วยความเหนื่อยล้า
“สามี ไม่ต้องร้อนใจ ครั้งหน้ายังมี ความรู้สึกของพวกเราหาทางแก้ไขกันได้ ฉันให้อภัยที่นายออกนอกลู่นอกทางไปบ้าง ก็ใครใช้ให้สามีของฉันหล่อเหลาซะขนาดนี้ล่ะ จะไม่ล่อตาล่อใจสาวๆ ให้เข้ามาชอบได้ยังไง?” อันฉีกล่าวอย่างมีความสุข
“ถ้าเธอตายเพราะผม ผมก็จะไม่ขออยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไป!” เสิ่นินั่งลงกับพื้น ในมือของเขาถือเศษกระจกแล้วจ่อเข้ากับหลอดเืแดงที่คอตน ถ้าโดนเข้า ก็ยากที่จะรักษาชีวิตรอด