เสียงที่แก่หง่อม?
เย่ชิงหานหันหน้าไปมองอย่างงุนงง เห็นผู้เฒ่าคนหนึ่งไม่รู้ว่ามายืนอยู่ข้างๆ กองกำลังเทพแห่งความตายั้แ่เมื่อไหร่ ผู้เฒ่าคนนี้สวมเสื้อคลุมสีเทาผมขาวโพลนไปทั้งศีรษะลักษณะแก่หง่อมอย่างเห็นได้ชัด
ทำไมถึงมีคนแก่อยู่ที่นี่ได้? งานประลองาระหว่างเขตปกครองของผู้มีพลังฝีมือระดับหัวกะทิไม่ใช่ว่าจำกัดอายุห้ามเกินสามสิบปีมิใช่รึ? เย่ชิงหานรู้สึกระวังภัยขึ้นมาในทันที ที่นี่เป็เกาะที่ใช้ประลองาอันตรายย่อมเกิดขึ้นได้ทุกเวลา ในตอนนี้เองเย่สือซานที่อยู่ข้างกายดึงแขนเสื้อของเขาพร้อมกับพูดขึ้นที่ข้างหู “ไม่ต้องตื่นเต้น คนกันเอง พวกเดียวกับพวกเรา เป็ผู้าุโที่เฝ้าพิทักษ์เกาะเทพา แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปยังเกาะแห่งความมืดมิด”
พูดจบเย่สือซานดึงแขนเสื้อของเขาอีกครั้งจากนั้นจึงประสานมือขึ้นพร้อมกันกับเย่สือชี “คารวะผู้าุโผู้พิทักษ์”
“คารวะผู้าุโผู้พิทักษ์!” เย่ชิงหานและกองกำลังเทพแห่งความตายรีบทำความเคารพตามในทันที
“อืม! พวกเ้าคงจะเป็ลูกหลานของตระกูลเย่สินะ สถานที่พักของพวกเ้าอยู่สวนทางด้านทิศใต้ เดิมตามถนนเส้นนี้ไป ไปถึงจะมีผู้รอคอยต้อนรับอยู่” ผู้เฒ่าเสื้อเทาพูดจบเงาร่างสั่นวูบครั้งหนึ่งแล้วเลือนหายไปในทันที
“เคลื่อนย้ายในพริบตา?” เย่ชิงหานดวงตาหดเล็กลงหันหน้าไปมองเย่สือซานด้วยความตื่นตระหนกหวาดกลัว ผู้เฒ่าเสื้อเทาคนนี้น่ากลัวเกินไปแล้ว อยู่ดีๆ ก็เลือนหายไปในอากาศ
“ไม่น่าจะใช่!” สายตาของเย่สือซานปรากฏแววของความเคารพและเลื่อมใสศรัทธาขึ้น นิ่งไปชั่วครู่จึงพูดออกมา “ผู้าุโผู้พิทักษ์ท่านนี้มีพลังฝีมืออย่างน้อยระดับขอบเขตปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎเกณฑ์พลังฟ้าดินที่เขาฝึกฝนน่าจะเป็ประเภทช่องว่างสูญญากาศอะไรพวกนี้ บวกกับระดับความเร็วอย่างสูงสุดทำให้พวกเรามองดูคล้ายกับการเคลื่อยย้ายในพริบตา”
“น่ากลัว!” เย่ชิงหานยืนนิ่งมองดูตำแหน่งที่ผู้าุโผู้พิทักษ์เลือนหายไป ผ่านไปเนิ่นนาน เดิมทีเขาคิดว่าพลังฝีมือที่เขามีนั้นน่าภาคภูมิใจแล้ว ในตอนฝึกฝนจึงไม่รู้สึกกดดันอะไรมาก แต่ตอนนี้เข้าใจแล้วว่าพลังฝีมือของตนเองในตอนนี้ยังไม่อาจจะนับได้ว่าเตะถึงขอบประตูโลกของการฝึกยุทธ์เลยด้วยซ้ำ คนบนโลกนี้ที่สามารถสังหารเขาได้ในพริบตานั้นมีมากมายเกินไปจนไม่สามารถนับได้
ผู้าุโผู้พิทักษ์เมื่อพบหน้าครั้งแรกก็แสดงฝีมือออกมาให้เห็น คงคิดว่าเด็กหนุ่มสาวเหล่านี้ภายในใจอาจจะมีความหยิ่งยโสอวดดีในพลังฝีมือของตน เลยอยากจะบอกล่าวเป็นัยๆ แก่ผู้ที่มาเข้าร่วมงานประลองว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้าอย่าได้ประมาทโดยเด็ดขาด จงรักษาระดับจิตใจระแวดระวังภัยอยู่ตลอดเวลาจึงจะได้ไม่เสียชีวิตไปก่อนที่จะเริ่มสู้รบกันจริงๆ
“พวกเราไป!”
เย่ชิงหานคิดได้ดังนั้นจึงยิ้มออกมา จากนั้นพูดสั่งการขึ้นแล้วเดินนำหน้าออกไปยังถนนเส้นที่นำไปยังสวนที่พักทันที
เกาะเทพาไม่ใหญ่นัก สามารถมองออกไปเห็นทะเลสีครามที่อยู่ไม่ไกลออกไป สวนที่พักทางด้านทิศใต้ไม่ใหญ่เท่าใดนัก แต่เงียบสงบและร่มรื่น ไม่เห็นพวกเฟิงจื่อและฮวาเฉ่าคาดว่าทั้งสองคงกำลังจัดแจงเื่ที่พักให้กองกำลังของตนเองอยู่ ภายใต้การนำของคนชุดเทาสองคนที่ใส่เสื้อเหมือนกันกับผู้เฒ่าคนก่อนหน้าเดินจนมาถึงยังลานที่พักเล็กๆ แห่งหนึ่ง จากนั้นเขาบอกให้เย่สือซานไปจัดแจงเื่ที่พักให้กองกำลังเทพแห่งความตาย ส่วนตนเองกับเย่สือชีเดินเข้าไปภายในห้องโถงลานที่พัก
ภายในห้องโถงมีคนอยู่ และอยู่กันหลายคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็คนรู้จักเสียด้วย
“เย่ชิงอู่! ทำไมเ้าถึงอยู่ที่นี่ได้?” เย่ชิงหานมองดูเงาร่างที่อยู่ตรงหน้าที่ไม่ได้เจอมาสองเดือน พูดขึ้นด้วยความประหลาดใจ นางยังคงอยู่ในชุดหนังรัดรูปสีแดงที่โชว์ส่วนเว้าส่วนโค้งของนางมารน้อยยั่วสวาทอยู่เช่นเดิม ประกอบทั้งใบหน้าสดใสน่ารัก งดงามบริสุทธิ์ของนาง ยากที่ผู้พบเห็นจะลืมเลือนได้
“คิกๆ! เ้ามาได้ทำไมข้าจะมาไม่ได้? เ้าอย่าลืมน่ะว่าข้าเป็ถึงยอดฝีมืออันดับที่หกของทำเนียบผู้มีพลังฝีมือระดับชั้นปฐี มาร่วมสนุกด้วยคงไม่เกินไปหรอกกระมัง!” เย่ชิงอู่พอใจกับสีหน้าอาการที่เย่ชิงหานแสดงออกมา ั์ตาทั้งโค้งงอเป็จันทร์เสี้ยว จากนั้นนางลุกขึ้นจากเก้าอี้ สองขาขาวที่เรียวยาวกลมดิกขยับไหวจนผู้คนที่อยู่ในห้องโถงล้วนตาลายไปตามๆ กัน
“คารวะนายน้อย” อีกสี่คนที่อยู่ในห้องโถงได้ยินเย่ชิงอู่พูดจบต่างลุกขึ้นตามนางแล้วหันมาทำความเคารพต่อเย่ชิงหาน
“ไม่ต้องมากพิธี พวกเย่สือชีรู้ดีข้าไม่ชอบธรรมเนียมอะไรมาก” เย่ชิงหานพยักหน้าเบาๆ จากนั้นหันไปยิ้มให้เย่ชิงอู่แล้วพูดขึ้น “แม่นางอู่ ช่วยอธิบายให้ข้าฟังได้ไหมว่ามันเื่อะไรกัน?”
“นี่เย่ชิงหาน! แม้ทางตระกูลจะปฏิบัติกับเ้าไม่ดี แต่พี่สาวคนนี้ก็ปฏิบัติต่อเ้าไม่เลวอยู่นะ ไม่จำเป็ต้องเรียกด้วยคำที่ห่างเหินเช่นนี้จะได้ไหม อีกทั้งที่พวกเรามาเสี่ยงตายกันในครั้งนี้สาเหตุใหญ่ก็เพราะเ้า เ้าปฏิบัติต่อพวกข้าเช่นนี้อย่างนั้นรึ?” เย่ชิงอู่ได้ยินคำที่เย่ชิงหานเรียกว่า “แม่นางอู่” ทำให้ไม่พอใจขึ้นมาอย่างชัดเจน จึงบุ้ยปากพูดขึ้น
เอ่ออ...! มองดูนางบุ้ยปากเล็กๆ ขึ้นอย่างน่ารัก คิดถึงที่ผ่านมาที่นางเคยช่วยตนเองไว้ั้แ่ตอนที่ยังเป็ไอ้ขยะไร้ค่าและเรียกเย่ชิงหนิวออกมาช่วยชีวิตตนเองไว้ ประกอบทั้งอายุเพียงแค่ยี่สิบแต่มีพลังฝีมืออยู่ในระดับขั้นแรกขอบเขตนักรบ หากรวมร่างกับสัตว์อสูรคุณภาพระดับเจ็ดจิ้งจอกหิมะของนางอีก พลังฝีมือก็จะเพิ่มสูงขึ้นถึงระดับขั้นที่สามขอบเขตนักรบเลยทีเดียว เย่ชิงหนิวกล้าส่งนางมาเข้าร่วมงานประลองด้วย คิดว่าคงให้ของไว้ใช้เอาตัวรอดไว้ให้กับนางแล้วอย่างแน่นอน นึกถึงเื่ราวต่างๆ ที่ผ่านมาเย่ชิงหานยิ้มขึ้นแล้วพูดออกมาจากใจจริง “พี่สาว เป็ข้าที่ผิดเอง พวกท่านบอกว่าที่มาก็เพราะข้า?”
เย่ชิงอู่รับรู้ได้ถึงความจริงใจที่เย่ชิงหานแสดงออกมา รอยยิ้มบนใบหน้าเด่นชัดมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม จากนั้นหัวเราะคิกๆ พร้อมกับพูดขึ้น “ต้องอย่างนี้สิถึงจะถูก ความจริงพวกเราที่มากันในครั้งนี้ก็เพื่อมาฆ่าคน ทั้งสี่คนนี้คือ เย่อี เย่ซาน เย่จิ่ว และเย่สืออี พวกเรานำกองกำลังขนาดเล็กมาสองหน่วย เป้าหมายเหมือนกันคือเพื่อยาิญญาเทวะ เพื่อความแน่นอนทางตระกูลได้ส่งยอดฝีมือหนุ่มสาวระดับหัวกะทิเกือบจะทั้งหมดมาเข้าร่วมงานประลองในครั้งนี้ เ้าอยู่ในที่แจ้ง พวกเราอยู่ในที่ลับ อย่างนี้ถึงจะมีโอกาสมากยิ่งขึ้น”
“เป็อย่างนี้เองหรอกรึ? บุญคุณที่ยิ่งใหญ่ไม่อาจเอื้อนเอ่ยออกมาเป็วาจาได้ ขอเพียงข้ายังมีชีวิตอยู่บุญคุณของพวกท่านข้าจะจดจำไว้อย่างไม่ลืมเลือน...พวกท่านจะเดินทางร่วมกับข้า? หรือว่าจะไปกันเองเพียงลำพัง?” เย่ชิงหานพยักหน้าไปทางพวกเย่อี เย่เทียนหลงคงอยากจะช่วยเหลือน้องสาวของตนเองจริงๆ ถึงได้ส่งพวกเย่อีออกมาปรากฏตัวเช่นนี้ และคงอยากจะแสดงให้ตนเองเห็นด้วยว่าเพื่อที่จะได้ยาิญญาเทวะแล้วเขาได้เตรียมการอะไรไว้บ้าง บอกกับตนเองอย่าเอาตัวเข้าไปเสี่ยงจนเกินไป กำลังหลักไม่ใช่ตัวเขา แต่เป็เหล่านักรบที่ไม่กลัวตายแห่งตระกูลเย่ที่เสียสละทำเพื่อตระกูลโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ เหล่านี้ต่างหาก
“พี่สาวจะร่วมเดินทางกับเ้า ท่านหัวหน้าตระกูลกำชับให้ข้าดูเ้าให้ดีๆ มีสือซานกับสือชีเื่ความปลอดภัยย่อมไม่ใช่ปัญหา พวกเย่อีแยกกันเป็สองหน่วยออกดำเนินการโดยลำพังเก็บสะสมคะแนนอย่างลับๆ” เย่ชิงอู่ยิ้มกรุ้มกริ่มออกมา สีหน้าสื่อความหมายว่า ข้าไปกับเ้าเพื่อปกป้องเ้าและควบคุมเ้าอย่างไรอย่างนั้น
“เอ่ออ...!”
เย่ชิงหานพยักหน้าอย่างงงๆ เดิมทีนึกว่าพวกเฟิงจื่อมาเกาะเทพาอย่างมากก็แค่มาเล่นๆ สนุกสนานเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ตอนนี้มาคิดดูแล้วจุดประสงค์ที่มาก็คงไม่ต่างจากตนเองมากนัก ตนเองที่มีอสูรศักดิ์สิทธิ์และพลังฝีมือแม้จะนับว่าไม่เลว แต่ภายใต้สถานการณ์สู้รบที่ชุลมุนตะลุมบอนของทั้งสามเขตปกครองเช่นนี้ ทั้งราชันย์ปีศาจและราชันย์คนเถื่อนที่มีอยู่มากมายที่สามารถสังหารตนเองได้อย่างง่ายดาย หากตระกูลเย่ปล่อยให้ผู้ที่มีอสูรศักดิ์สิทธิ์เพียงหนึ่งเดียวของตระกูลเสี่ยงอันตรายเพียงคนเดียวนั้นสิถึงจะแปลก
ฝึกฝน ต้องขยันฝึกฝนให้มากกว่านี้!
เย่ชิงหานลอบคิดอยู่ภายในใจ มอบความหวังทั้งหมดฝากไว้ที่พวกเย่อีเขาไม่วางใจ น้องสาวตอนนี้อาศัยยาสมุนไพรหายากต่างๆ หล่อเลี้ยงบำรุงดวงิญญาที่หลงเหลืออยู่น้อยนิดนั่นอยู่ หากจะช่วยเหลือนางให้ฟื้นกลับคืนมามีเพียงทางเดียวคือต้องแลกยาิญญาเทวะมาให้ได้ แต่พลังฝีมือของตนเองในตอนนี้เย่ชิงอู่และพวกเย่สือซานคงไม่พาออกไปเข่นฆ่าตามอำเภอใจเพื่อเก็บสะสมคะแนนให้ได้มากๆ อย่างแน่นอน มีเพียงทางเดียวคือพลังฝีมือจะต้องถึงระดับขอบเขตจ้าวนักรบที่สามารถเอาตัวรอดจากการโจมตีของราชันย์ปีศาจและราชันย์คนเถื่อนได้ อย่างนี้ถึงจะสามารถอาศัยวิชาต่อสู้ร่างอสูรสังหารจอมพลปีศาจและจอมพลคนเถื่อนได้ตามใจ เพื่อเก็บสะสมคะแนนให้ได้มากที่สุดเพื่อมาแลกยาิญญาเทวะ
“ข้าขอกลับห้องไปพักผ่อนก่อน มีเื่อะไรค่อยเรียกข้าก็แล้วกัน” เมื่อคิดได้ดังนั้น เย่ชิงหานพูดคุยกับพวกเย่ชิงอู่อยู่อีกไม่กี่ประโยค จากนั้นกลับมายังห้องของตนเองเพื่อเตรียมตัวฝึกฝน
“คิกๆ แผนการของท่านหัวหน้าตระกูลยอดเยี่ยมจริงๆ! ภายใต้แรงกดดันอย่างหนักขนาดนี้ พลังฝีมือของเ้าเด็กคนนี้จะต้องรุดหน้าไปอย่างรวดเร็วอย่างแน่นอน สติปัญญาของเ้าเด็กคนนี้สูงเยี่ยมถึงเพียงนั้น ความเร็วในการฝึกฝนก็คงไม่น่าจะช้า อยากให้ภาพเหตุการณ์ของวันที่เ้าเด็กคนนี้พลังฝีมือบรรลุถึงระดับขอบเขตปราชญ์ศักดิ์สิทธิ์พร้อมกับอสูรศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ใน่ระยะเติบโตเต็มที่ บุกตะลุยกวาดล้างไปทั่วทวีปัเพลิงอย่างองอาจมาถึงเร็วๆ เสียจริง...” มองดูเงาร่างที่เด็ดเดี่ยวแน่วแน่ของเย่ชิงหานที่เลือนหายไปจากประตูใหญ่ เย่ชิงอู่ขยับปลายจมูกพร้อมกับยิ้มออกมา
“ขอเพียงนายน้อยหานไม่ตาย ภายในเวลาสองร้อยปีตระกูลเย่จะต้องอยู่เหนือตระกูลใหญ่อื่นๆ รวมถึงเขตปกครองเทพปีศาจและเขตปกครองเทพคนเถื่อนทั้งสองจนโงหัวไม่ขึ้นอย่างแน่นอน” เย่อีพยักหน้ากล่าวออกมาอย่างเชื่อมั่น จากนั้นมองไปยังสือชีด้วยสายตาที่แหลมคมพร้อมกับพูดออกมาอย่างหนักแน่น “สือชี บอกสือซานด้วยว่าแม้พวกเ้าจะต้องตายก็จะต้องปกป้องคุณหนูอู่กับนายน้อยหานให้จงได้ ข้ากับน้องสาม น้องเก้า น้องสิบเอ็ดจะล่วงหน้าไปก่อน พวกเ้าดูแลตัวเองให้ดี”
“พี่ใหญ่ พี่สาม พี่เก้า พี่สิบเอ็ด พวกท่านก็ดูแลตัวเองให้ดีเช่นกัน!” สือชีพยักหน้าตอบรับด้วยสีหน้าเคร่งขรึม จากเด็กกำพร้าที่ถูกตระกูลเย่เก็บมาชุบเลี้ยง อาศัยพร์ที่โดดเด่นและความมุมานะในการฝึกฝนถูกทางตระกูลมอบชื่อให้เริ่มจากเย่อีไปจนถึงเย่สือซาน แต่เนื่องจากภารกิจต่างๆ ที่ถูกมอบให้ทำให้พวกเขาทั้งสามสิบคนเหลือรอดชีวิตอยู่เพียงแค่สิบกว่าคนเท่านั้น ภารกิจในครั้งนี้อันตรายเป็อย่างยิ่ง ไม่รู้ว่าพวกเขาทั้งหกคนที่มาเข้าร่วมภารกิจจะเหลือรอดกลับไปกี่คน? ในใจรู้สึกหนักอึ้งและเศร้าสลด
“เย่อี ระวังด้วย เห็นแล้วว่าชีวิตของตนเองไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายถึงค่อยลงมือล่าสะสมแต้ม ก่อนที่จะมาท่านหัวหน้าตระกูลมีคำสั่งขอเพียงภารกิจในครั้งนี้พวกเ้าทำได้สำเร็จ ฐานะนักรบไม่กลัวตายของพวกเ้าจะถูกยกเลิก ทางตระกูลจะมอบตำแหน่งผู้าุโของตระกูลให้กับพวกเ้า ครั้งนี้เป็ภารกิจครั้งสุดท้ายแล้ว ดังนั้นทุกคนรักษาตัวไว้ให้ได้!”
“ฮ่าๆ คุณหนูอู่ไม่ต้องเป็กังวล ภายในเกาะแห่งความมืดมิดพวกข้ามีพลังฝีมือแข็งแกร่งที่สุด ูเาดาบทะเลเพลิงล้วนบุกตะลุยผ่านมาแล้วหลายปียังไม่มีใครเอาชีวิตพวกข้าไปได้ ข้าไม่เชื่อว่าเ้าพวกปีศาจกับพวกคนเถื่อนจะสามารถทำอะไรข้าได้ น้องสาม น้องเก้า น้องสิบเอ็ด ไปพวกเราไปฆ่าศัตรูกัน” เย่อีหัวเราะเสียงยาวออกมา ประสานมือหันไปทางเย่ชิงอู่ จากนั้นตบไปที่ไหล่ของสือชีเดินจากออกไป
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้