ทะลุมิติมาเป็นสาวน้อยปากแซ่บ ผู้ใช้วาจานำโชคในยุค 70

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

บทที่ 170 ฝนตกยามค่ำคืน

        อันฉินกลับจากโรงพยาบาลหลังผ่านไปสามวัน

        สามวันนี้เหอเสวี่ยฉินก็ไม่สบายใจ

        หลังขอให้หญิงชราช่วยแล้วถูกปฏิเสธ ลู่หวยเหรินพาเหอเสวี่ยฉินไปอำเภอ บอกว่าไปดูแลลูกสะใภ้ที่แท้งลูก แต่ความจริงเป็๞ยังไง มีแค่สองผัวเมียที่รู้

        ๻ั้๹แ๻่ที่อันฉินกลับมา เธอก็เริ่มโวยวายจะหย่า

        แน่นอนว่าโจวเป่าเฉิงไม่ยอม อันฉินเลยร้องไห้โวยวายกับเขา

        ลานบ้านโกลาหลทุกวัน หญิงชรานอนไม่หลับ

        ลู่ซือหยวนจะพาหญิงชราไปพักกับตัวเอง แต่หญิงชราปฏิเสธ

        นี่คือบ้านของเธอ จะไปไหนไม่ได้

        เหอเสวี่ยฉินเกลียดอันฉินเข้าไส้ รู้ว่าอีกฝ่ายจะหย่ากับโจวเป่าเฉิง เลยกลับจากอำเภอมาเข้าร่วมศึก

        “จะหย่าน่ะได้” เหอเสวี่ยฉินมองด้วยความแค้น “แต่เ๱ื่๵๹สอบเข้ามหาวิทยาลัยอย่าหวังเลย”

        “ยอมตายกันไปข้าง แกไม่อยากให้พวกเราอยู่ดี ทุกคนก็อย่าอยู่ดีเลย” เหอเสวี่ยฉินพูดอย่างเ๶็๞๰า “ฉันจะดูว่าใครกล้าให้หนังสือรับรองแก ฉันไม่จบไม่สิ้นกับมันแน่”

        อันฉินนิ่งอึ้ง

        ขิงยิ่งแก่ยิ่งเผ็ด ตอนมีลูกในท้อง เหอเสวี่ยฉินยังคงเกรงใจ แต่ตอนนี้ดาบศักดิ์สิทธิ์หายไป ถ้าอันฉินยังจะโวยวายก็อย่าหาว่าไม่เกรงใจ

        “ถ้าไม่ใช่แก ลูกฉันไม่แท้ง” อันฉินพูดแล้วอยากพุ่งไปกัดเหอเสวี่ยฉิน

        “ถุ้ย” เหอเสวี่ยฉินเองก็ไม่ได้จัดการง่าย “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้แผนของแก แกอยากใส่ร้ายฉันไม่ใช่เหรอ?”

        น่าเสียดาย ล่าเหยี่ยวทั้งวันกลับถูกเหยี่ยวจิกตา

        “ถ้าแกอยู่ดีๆ กับเป่าเฉิงบ้านฉัน อยากจะสอบก็สอบไป” เหอเสวี่ยฉินบอก “แต่ถ้าจะหย่ากับเป่าเฉิง ฉันจะบอกแกให้นะอันฉิน อยากสอบเข้ามหาวิทยาลัยน่ะไม่มีทาง”

        ตอนนี้อันฉินอยากได้อะไรที่สุด? ก็คือการสอบเข้ามหาวิทยาลัย

        ถ้าเข้าร่วมการสอบไม่ได้ เธอจะ๷๹ะโ๨๨โลดเต้นไปทำไม?

        เหอเสวี่ยฉินจัดการอันฉินเสร็จก็กลับตระกูลลู่

        แต่สวี่จือจือรู้สึกว่าอีกฝ่ายแปลกประหลาดจากสัญชาตญาณ

        นึกถึงฝันเก่าๆ ในใจเธอยิ่งระมัดระวัง ต่อมาพิสูจน์ว่าความระมัดระวังนี้ช่วยได้หลายเ๱ื่๵๹

        อันฉินเหมือนถูกเหอเสวี่ยฉินบีบคอ ดิ้นร้นไม่ได้ เ๹ื่๪๫วุ่นวายจบไปแบบนี้ สวี่จือจือแทบไม่อยากจะเชื่อ

        “ฉันนึกว่าทั้งคู่จะสู้กันอีกหลายยก” สวี่จือจือเสียดาย

        ฝีมือของอันฉินอ่อนหัดเกินไป

        “แต่ว่า” สวี่จือจือบอก “คำพูดของอันฉิน คุณคิดว่ายังไง?”

        ลู่จิ่งซานเงียบไปครู่หนึ่ง

        “ผมรู้แล้ว” พูดจบเขาก็เข็นรถออกไป

        แค่นี้?

        สวี่จือจือยิ่งงุนงง รู้สึกเหมือนลู่จิ่งซานรู้บางอย่าง แต่เธอไม่รู้ ถ้าถาม เขาคงไม่บอก

        ฝนตกกะทันหันช่วยให้จิตใจที่หงุดหงิดสงบลง ฝนตกหลังมื้อเที่ยง

        ตอนเช้าฟ้ายังแจ่มใส ตกบ่ายเมฆหนาทึบ บีบอึดอัดหายใจไม่ออก ฝนเทกระหน่ำทั้งวัน ถึงค่ำก็ยังไม่หยุด อุณหภูมิลดลงหลายองศา

        คืนนั้น สวี่จือจือนอนไม่หลับ พลิกตัวไปมา

        “คุณเป็๲อะไร?” ลู่จิ่งซานหันมองเธอ

        “ไม่รู้สิ” สวี่จือจือบ่น “แค่อึดอัดในอก”

        “ลู่จิ่งซาน” เธอพูดเบาๆ “คืนนี้ฉันไปนอนห้องคุณย่าได้ไหม มีท่านอยู่ด้วย ฉันอาจจะนอนหลับได้ดีก็ได้”

        “ผมก็ทำได้” ลู่จิ่งซานไม่ยินยอมเล็กน้อย

        แต่สวี่จือจือนึกถึงความฝัน หญิงชราป่วยหลังฝนตกครั้งหนึ่ง หน้าต่างไม่ได้ปิดสนิท

        “ทำไมคุณหึงแม้แต่คุณย่าล่ะ?” สวี่จือจือถลึงตาใส่เขา “คืนนี้คุณนอนคนเดียวเถอะ ฉันจะไปแล้ว”

        เธอหยิบหมอนเดินออกไป

        ลู่จิ่งซานยิ้มอย่างจนปัญญา

        ข้างนอกมืดมิด ฝนยังคงตกไม่ขาดสาย สวี่จือจือเปิดประตูห้องของหญิงชราเบาๆ อีกฝ่ายยังไม่นอน “เธอมาทำอะไร? ทะเลาะกับจิ่งซานเหรอ?”

        “เปล่าค่ะ” สวี่จือจือพูดพลางขยับขึ้นเตียง “นอนฝั่งนั้นไม่หลับ หนูมาอยู่กับคุณย่าค่ะ”

        “ไอ๊หยา” หญิงชรายิ้มกว้าง “จิ่งซานไม่โกรธเหรอ?”

        เธอสังเกตว่า๻ั้๫แ๻่สองคนนี้กลับจากเมืองหลวง ก็แตกต่างจากเมื่อก่อน

        แตกต่างยังไง? ก็เหมือนสามีภรรยามากขึ้น สายตาที่มองกันล้วนมีความรู้สึก

        ส่วนเ๹ื่๪๫เข้าหอหรือไม่เข้าหอ หญิงชราคิดตกแล้ว ถ้าสองคนรักกัน ยังไงก็เกิดขึ้นเอง

        “เขาไม่โกรธหรอกค่ะ” สวี่จือจือบอก

        หญิงชราจะเปิดไฟให้ เธอก็ห้าม “อย่าเปิดนะคะ สว่างเกินไป ไม่สบายตา หนูมองเห็นค่ะ”

        “คุณย่า” สวี่จือจือขึ้นเตียง แล้วช่วยห่มผ้าให้ “นอนเถอะค่ะคุณย่า”

        หญิงชราขานรับ

        ไม่นาน สวี่จือจือได้ยินเสียงกรนหลับสนิท

        เธอไม่คิดมาก นอนข้างหญิงชราแล้วสบายใจ หลับตามไป

        แต่หลังจากหลับไปไม่นาน ร่างหนึ่งก็ปรากฏในลานบ้านตระกูลลู่ เงานั้นค่อยๆ เดินไปห้องหญิงชรา

        ฝนตกยามค่ำคิน เสียงฝีเท้าจมหายในสายฝน

        แต่ลู่จิ่งซานคือใคร?

        ถ้าเขาไม่ได้ยินฝีเท้าเบาๆ แบบนี้ หลายปีที่อยู่ในหน่วยงานลับก็สูญเปล่า

        ตอนที่เสียงฝีเท้าดัง เขาก็ตื่นตัวทันที

        ยิ่งคืนนี้สวี่จือจือยืนกรานจะนอนกับหญิงชรา เขาเคยชินกับการมีคนนอนข้างๆ พอไม่มี เขาก็หลับไม่ลง

        สวี่จือจือไปแล้ว เขายังไม่หลับ

        ลู่จิ่งซานก้าวลงจากเตียง สวมเสื้อผ้าเบาๆ แล้วเดินตามออกไป

        ถูกต้อง เขาเดินออกไป

        ขาของเขาดีเกือบหมดแล้ว เ๹ื่๪๫เดินได้ มีแค่เขากับสวี่จือจือที่รู้

        ทั้งคู่ตกลงรอให้สวี่จือจือสอบเข้ามหาวิทยาลัยเสร็จ ไปให้หมอกู่ตรวจที่เมืองหลวงอีกครั้ง เมื่อยืนยันดีแล้วค่อยบอกทุกคน เพราะไม่อยากให้ดีใจกันเก้อ

        ตอนนี้ลู่จิ่งซานรู้สึกว่าการไม่บอกใครคือการตัดสินใจที่ฉลาด

        คนคนนั้นเปิดประตู แง้มหน้าต่างข้างห้องหญิงชราเบาๆ 

        สวี่จือจือหลับสนิทบนเตียง เสียงกรนของหญิงชรายังคงดัง

        คนคนนั้นยิ้มมุมปากอย่างได้ใจ แล้วไปเปิดหน้าต่างอีกฝั่ง

        ตอนนั้นเอง จู่ๆ ฟ้าผ่าลงมา ในห้องสว่างจ้า

        “อ๊า!”

        คนคนนั้นกรีดร้อง ดวงตาเบิกกว้างจ้องลู่จิ่งซานตาไม่กะพริบ แล้วล้มลงเสียงดังตึง!

    .............................

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้