เหล่าตาเฒ่าที่อยู่อีกด้าน ล้วนรับคำด้วย
“ใช่ๆๆ นอกจากความลำบากแล้ว งานอดิเรกของพวกเรา้ารางวัลเช่นกัน นี่คือกฎพิเศษของค่ายไกว่ถายของพวกเรา เ้าจะต้องยอมรับ พวกเราจึงจะรับงานนี้ ไม่เช่นนั้น พวกเ้ามาจากทางใดก็ไปทางนั้น”
เหล่าตาเฒ่าทำท่าทางราวกับไม่ต้องปรึกษา ทำเอาพวกเฉินเนี้ยนหรานสองคนทำได้เพียงยืนตาค้าง
จนกระทั่งบุรุษหนุ่มที่ทำตัวประหลาดเขียนงานอดิเรกของพวกเขาลงไป และหลังจากไล่เขียนออกมาเป็กระบุง เฉินเนี้ยนหรานจึงเอาไปดู
โอ้ๆ เป็ความ้าที่แตกต่างจริงๆ
ความ้าแปลกประหลาดที่อยู่้าเป็ตะกร้าหนึ่งใบ
ทั้งยังเก็บสะสมตู้โตวของคนอายุและขนาดไม่เท่ากันสิบคน
อะไรอย่างเช่น เก็บรวบรวมของกังหันลมเด็กเล่นแปลกๆ มากมายหลายแบบ และของโป๊เปลือยแปลกๆ หลากหลายแบบอะไรพวกนี้
จนถึงขั้นยังมีขอให้คนทำอะไรโดยเฉพาะ ส่วนตนรับผิดชอบฟังงานอดิเรกแปลกๆ ของตนเอง
แม้ก่อนหน้านี้จะเตรียมตัวไว้แล้วว่าคนพวกนี้จะมีงานอดิเรกพิเศษเช่นนี้ แต่เฉินเนี้ยนหรานยังคงใ
นางพยายามทำให้ตนเองสงบลงและเงยหน้าขึ้นมองไปยังสีหน้าภาคภูมิใจของเหล่าตาเฒ่าประหลาดในห้อง แล้วยิ้มเย็น ยกมือขึ้นไปฉีกกระดาษแปลกๆ นั่นทิ้ง
“คำของพวกนี้ข้าไม่จำเป็ต้องรับปาก ส่วนพวกท่านจะรับงานหรือไม่ ข้าไม่้าจะคุยต่อ เพราะให้พูดกับกลุ่มคนที่แม้แต่รูปภาพยังมองไม่เข้าใจ มันสิ้นเปลืองเวลาของพวกเรา สามี พวกเราไปกันเถิด ผิดหวังจริงๆ นะ ตาเฒ่าประหลาดพวกนี้กลับสู้ช่างเหล็กชาวบ้านไม่ได้”
โจวอ้าวเสวียนให้ความร่วมมือโดยการยื่นมือจะเก็บกระดาษภาพมา
ตาเฒ่าสือหม่าที่อยู่ด้านข้างจับกระดาษภาพไว้แน่นด้วยท่าทางไม่อยากตัดใจ โจวอ้าวเสวียนปรายตามองเขานิ่ง
“สหายสือหม่า รบกวนช่วยปล่อยมือด้วย”
ตาเฒ่าสือหม่ามองไปทางเหล่าตาเฒ่าที่ก้มหน้าโศกเศร้าอยู่ในห้องด้วยท่าทางระมัดระวัง
“เื่นี้ ความจริงแล้ว งานอดิเรกพวกนี้พวกเราสามารถปรึกษากันได้นี่นา อย่างมากก็จัดมันออกไปเสียหน่อย อะแฮ่ม อีกอย่างภาพนี้ พวกเราชอบมันมากนัก ช่างฝีมือชาวบ้านพวกนั้นที่ฮูหยินของเ้าพูด ไม่รู้ว่าเป็คนเช่นไร ถึงได้มีความสามารถเกินหน้าพวกเราค่ายคนแปลก!”
เื่นี้ เป็จุดที่ทุกคนในห้องไม่ยอมแพ้
จะต้องรู้ว่า กลุ่มของพวกเขานั้นทุกคนในสังคมยอมรับแล้วว่าเป็ช่างฝีมือที่มีความสามารถในการสร้างสิ่งใหม่ออกมา ั้แ่ไหนแต่ไร คนเหล่านี้มีผู้ใดบ้างที่ไม่ถูกคนอื่นเยินยอ เพียงเพื่อขอให้พวกเขาทำของสิ่งหนึ่งให้
แต่ยามนี้ สตรีคนนี้ได้เอาของมาล่อลวงพวกเขาก่อน ก่อนจะตามมาด้วยสายตาเหยียดและหยามกันล้วนๆ ยิ่งเอาพวกเขาไปเปรียบเทียบกับช่างฝีมือชาวบ้านพวกนั้น เมื่อเป็เช่นนี้ หัวใจที่บอบบางดั่งกระจกของเหล่าคนแปลกต่างพาได้รับความเ็ป
ไม่ว่าที่ใดย่อมมีพวกคนไม่ยอมแพ้ โดยเฉพาะเสี่ยวหลิวยิ่งโกรธมาก
เส้นผมสีแดงพลิ้วไหวก่อนจะมาหยุดอยู่ตรงหน้าของเฉินเนี้ยนหราน “พูดมา พูดว่าคนพวกนั้นเป็คนเช่นไร พวกเราสามารถแข่งกับพวกเขาได้ หากแพ้ ทั้งชาตินี้จะนับถือเขาเป็ศิษย์”
เฉินเนี้ยนหรานมองกลุ่มคนพวกนี้แล้วยิ้มเย็น “ไม่ต้องแข่งหรอก แข่งไปพวกท่านก็มีแต่คำว่าแพ้ เห็นแก่อายุของพวกท่านไม่ถือว่าเด็ก ข้าขอแนะนำพวกท่านนะว่า อย่าไปแข่งกับเขาเลย หากไปแข่งย่อมมีแต่จะเสียหน้า นอกจากทำลายชื่อเสียงค่ายประหลาดของพวกท่านไม่พอ ยังทำให้พวกท่านรู้สึกเสียใจไปตลอดชีวิต”
คำพูดโหดร้าย แต่กลับทำให้เหล่าบรรดาคนแปลกโกรธจนหน้ามืด โดยเฉพาะตาเฒ่าหม่าคนนั้น ยิ่งโกรธจนหนวดกระตุก
“ฮ่า...ถุย เ้าน่ะ อย่าคิดว่าพวกข้าไม่รู้ถึงกลอุบายในใจของเ้า เ้า้าให้พวกเราสร้างของพวกนี้ให้ใช่หรือไม่ จึงจงใจวางแผนพูดจาร้ายกาจออกมา อยากให้มันแทงใจพวกเรา ได้ พวกเราจะแข่งจริงๆ บนโลกใบนี้กลับมีคนที่เก่งเหนือกว่าพวกข้าค่ายประหลาด ครั้งนี้ ข้าได้เบิกเนตรแล้ว สู้พวกเราไปแข่งแพ้ชนะให้เห็นไปเลยเป็อย่างไร?”
โจวอ้าวเสวียนขมวดคิ้ว หากจะเดิมพันเดิมพันจริงๆ เขาไม่กล้ารับประกันว่าเฉินเนี้ยนหรานจะชนะหรือไม่
สายตาของเขามองไปทางเฉินเนี้ยนหราน เห็นท่าทางมั่นใจของนาง ความกังวลใจพลันอันตรธานหายไปอย่างน่าประหลาด
เขาเชื่อนาง มองนางด้วยรอยยิ้มก่อนจะพูดทิ่มแทงพวกเขา
“อืม เดิมพันกันก็ดีนะ สู้พวกเรามาเดิมพันกันดีกว่า อย่างที่ตาเฒ่าหม่าพูด ข้าเองก็ถูกใจฝีมือที่มีมายาวนานของพวกท่านจริงๆ สู้พวกเรามาเดิมพันกันสักรอบดีหรือไม่? หากช่างฝีมือที่พวกเราจ้างมาแพ้แล้ว ชาตินี้พวกเราจะตอบสนองความพึงพอใจของพวกท่านไปตลอด”
เงื่อนไขนี้เป็สิ่งที่ทำให้ทุกคนพอใจ
เหล่าตาเฒ่ามองกันเองด้วยความดีใจ ทั้งยังเห็นความพอใจออกมาจากดวงตาของอีกฝ่าย ดังนั้นเสี่ยวหลิวจึงออกมาพยักหน้า “ได้ เอาตามนี้”
เขาไม่ได้ถามโจวอ้าวเสวียนด้วยซ้ำว่าหากพวกเขาค่ายประหลาดแพ้แล้วจะเป็เช่นไร
สำหรับความมั่นใจของคนจากค่ายประหลาดพวกนี้ ทำโจวอ้าวเสวียนถอนหายใจ
“หากพวกท่านแพ้เล่า? ส่วนตรงนี้จำเป็ต้องพูดให้ดี”
เขาค่อยๆ กวาดตามองไปรอบๆ ช้าๆ คนกลุ่มนั้นตะลึงกันไปก่อน แต่ต่อมากลับหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น
“ช่างน่าขันนัก แค่ทำของไม่ใช่หรือ พวกเรายังไม่เคยมีผู้ใดเอาชนะได้ อย่างเช่นฮูหยินของเ้าพูด เป็เพียงชาวบ้านกลุ่มหนึ่ง อยากจะเอาชนะพวกเราย่อมไม่มีทางเป็ไปได้”
เฉินเนี้ยนหรานรับคำ ส่งยิ้มสดใสไปให้กับทุกคนที่อยู่ตรงนั้น
“เื่นี้ไม่มีอะไรแน่นอนนะเ้าคะ ในเมื่อเป็การเดิมพัน เช่นนั้นจะยกระดับการเดิมพันนี้ขึ้นไปทั้งหมดเลย สู้ให้ข้าเสนอความคิดดีหรือไม่ หากพวกท่านแพ้ ต้องมาทำงานกับข้าตลอดชีวิต วางใจเถิด ข้าไม่มีทางให้พวกเ้าทำงานที่น่าเบื่อ สิ่งที่ข้าจะให้พวกท่านทำล้วนแต่เป็ของที่พวกท่านไม่เคยได้ััมาก่อน จนถึงขั้นไม่เคยได้เห็นของที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้”
ตอนนี้เองที่นางหยิบกระดาษอีกหลายแผ่นออกมา แล้วกางมันออก
เหล่าตาเฒ่านิสัยแปลกพวกนั้น เพราะคิดว่าจะเดิมพันกัน จึงไม่ปฏิเสธ ดังนั้นทุกคนต่างพากันล้อมเข้ามาด้านหน้า แล้วมองภาพพวกนั้น
เป็อย่างที่โจวอ้าวเสวียนกล่าว คนพวกนี้ล้วนเป็กลุ่มคนที่หลงใหลในงานฝีมือยอดเยี่ยม ในตอนนี้พอมองภาพพวกนี้ แต่ละคนล้วนจมลงไปในรูปภาพ
“แปลกประหลาด...เหตุใดข้าเห็นของชิ้นส่วนพวกนี้แล้วช่างมหัศจรรย์ แต่กลับมองไม่ออกว่าจะสร้างมันออกมาเป็สิ่งใด?”
ตาเฒ่าหม่าพูดชื่นชมออกมา สายตามองไปยังกระดาษนิ่งไม่ขยับ
“ข้าดูการวาดภาพบนกระดาษแปลกใหม่มาก แค่มองก็เข้าใจแล้ว ชิ้นส่วนดีมากจนไม่อาจหาคำบรรยาย แต่มองไม่ออกว่าจะประกอบออกมาเป็อะไร หรือจะเป็ชิ้นส่วนรถ? มีของที่เป็ล้อรถกลมๆ แต่นี่จะเป็สิ่งใด? และตัวเลขแปลกๆ นี่ เ้านี่ควรจะเป็พวกขนาดใช่หรือไม่ แต่ข้ากลับมองไม่ออก”
เมื่อเห็นว่าคนพวกนี้หน้านิ่วคิ้วขมวดเพราะภาพของตนเอง แต่กลับรู้สึกดีใจ เฉินเนี้ยนหรานจึงยิ้มออกมาด้วยความพอใจ
หากทำให้พวกเขาจมอยู่ในนั้นจนถอนตัวไม่ได้ ถึงยามนั้นการแข่งขันยังมีความหมายหรือ?
ชั่ววินาทีนั้นโจวอ้าวเสวียนพลันเข้าใจความคิดแปลกๆ ของภรรยา จนอดจะถอนหายใจไม่ได้ สตรีคนนี้มีความคิดแปลกๆ มากมาย
ร้ายกาจ ร้ายกาจ ไม่มีสิ่งใดทำก็วางแผนใส่คนอื่น
หากไม่ทันระวัง ไม่แน่ว่านางจะสามารถพากลุ่มตาเฒ่าแปลกประหลาดพวกนี้กลับไปได้จริงๆ
“ไปเถิด พวกเราออกไปเดินวนก่อน คนพวกนี้ คาดว่าวันนี้คงจะไม่ทานข้าวแล้ว” โจวอ้าวเสวียนจูงมือนางถอยออกไปจากห้อง
“รูปภาพพวกนี้ให้พวกท่านยืมดูไปก่อน จำไว้ว่าอย่าทำให้มันเสียหาย หากมันเสียหาย ข้าจะไม่ให้ภาพใหม่อีกแล้วนะ”
ก่อนเฉินเนี้ยนหรานจะออกไป จึงได้กำชับไว้ ซึ่งทุกคนกำลังให้ความสนใจกับการดูภาพ มีหรือจะสนใจกับคำพูดไร้สาระของนาง
ตาเฒ่าโบกมือใส่ด้วยความรำคาญ “ไปๆ เถิด แม่นาง ไม่ต้องมาอยากพูดจาเหลวไหลอยู่ที่นี่ เสียงดังจนทำให้คนรำคาญใจ”
เฉินเนี้ยนหรานเม้มปากยิ้ม แล้วถอยตัวออกไปจากห้องกับโจวอ้าวเสวียน
ด้านนอกห้องเห็นพระอาทิตย์อัสดง มองสีท้องฟ้าที่พรุ่งนี้จะต้องเป็ฟ้าที่สดใส
โจวอ้าวเสวียนกลับไม่ได้มองทิวทัศน์ แต่จ้องนางแล้วส่ายหน้า
“พรืด...สามี อย่าใช้สายตาเช่นนั้นมองข้าสิ ข้าไม่มีทางใช้วิธีพวกนี้กับเ้าหรอก แน่นอน ต้องพูดเสียก่อนว่าเ้าจะต้องมีแค่ข้าเพียงคนเดียว หากกล้าเ้าชู้หลายใจ ข้าจะใช้วิธีร้ายกาจกับเ้า”
เฉินเนี้ยนหรานจิ้มไปที่หน้าอกของเขาพร้อมรอยยิ้มเ้าเล่ห์ โจวอ้าวเสวียนยกมือขึ้นมาจับนิ้วของนางแน่นแล้วยิ้มจริงใจ
“ขอรับ ผูใดจะกล้าทำอะไรนอกลู่นอกทางต่อหน้าเ้า ที่เรือนมีภรรยาดุเยี่ยงสิงโตเช่นเ้า ข้าที่เป็แมวยอมอยู่อย่างเป็เด็กดีเสียดีกว่า”
เฉินเนี้ยนหรานแอบหัวเราะ ดวงตากลมโตทั้งสองข้างยิ้มจนโค้งเป็เสี้ยวคล้ายถั่วลันเตา
“เสวียน พวกเราจำเป็ต้องไปงานชุมนุมศิลปะการต่อสู้หรือไม่? เ้าคิดว่าตาเฒ่าพวกนี้ยังจะไปอีกหรือไม่?”
ทั้งสองคนเดินจูงมือไปด้านหลังโรงเตี๊ยมด้วยกัน
แม้ด้านหลังโรงเตี๊ยมจะไม่ได้สวยงามมากเท่าใด แต่เป็สถานที่ที่มีอาหาร ระหว่างที่สองสามีภรรยากำลังหวานชื่น สวนอาหารเช่นนี้ถือเป็วิวทิวทัศน์ที่สวยมาก
“ไปสิ พวกคนแปลกกลุ่มนี้เป็แค่คนธรรมดาเท่านั้น ศูนย์กลางของพวกเขาอย่างฝาแฝดคู่แปลกประหลาดยังไม่ปรากฏตัว คาดว่าพวกเขาเดินทางกันไปก่อนแล้วค่อยไปเจอกับคู่แฝด สองคนนั้นเป็บุคคลสำคัญ คนหนึ่งคำนวณเื่พวกค่ายกลเก่งมาก ทำอุปกรณ์เื่ค่ายกลออกมาได้ยอดเยี่ยมมาก อีกหนึ่งคนเชี่ยวชาญด้านการทำอะไหล่ชิ้นเล็กๆ มาก เครื่องจักรพวกนี้ของเ้า ข้าดูแล้ว จะต้องให้สองคนนี้ร่วมมือกันถึงจะนำพวกมันมาประกอบกันได้”
ชิ้นส่วนมากมายของยุคปัจจุบันละเอียดมากเกินไป ของที่ละเอียดเช่นนี้จะต้องพึ่งพายอดฝีมือถึงจะสามารถทำออกมาได้ สำหรับเื่นี้เฉินเนี้ยนหรานรู้ดีมาก
สำหรับคนแปลกอีกสองคนนั้น นางยิ่งมีความอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น
“คนพวกล้วนเป็คนแปลกนัก สองคนนั้นยังเป็คนแปลกยิ่งกว่าอย่างนั้นหรือ?”
โจวอ้าวเสวียนส่ายหน้า “อืม พี่น้องฝาแฝดชายหญิง เป็คนแปลกในคนแปลกจริงๆ คนหนึ่งหลงใหลในการทำค่ายกลมาก อีกคนกลับชอบทำตุ๊กตาหุ่นเชิด ทำหุ่นเชิดรูปคนออกมาได้ประณีตจนเหมือนคนจริงๆ มีคนพูดว่า...”
“พูดว่าอย่างไร?”
“อะแฮ่ม เหตุใดท้องของข้าหิวแล้ว ไป ไปหาข้าวทานกับข้าเถิด”
โจวอ้าวเสวียนกลับเปลี่ยนเื่จูงมือนางเดินออกไปด้านนอก
