วันที่สองนับแต่หวังเค่อไปจากเมืองชิงจิง ภายในเคหาสน์แห่งหนึ่งของเมือง!
“ข้าจะฆ่าหวังเค่อให้ได้ ข้าจะฆ่ามันให้ได้ พวกเ้าต้องช่วยข้าฆ่าหวังเค่อ ข้าจะเอามันให้ตาย!” จูเยี่ยนะโด้วยดวงตาแดงฉาน
“ชิงอ๋อง ท่าน ท่านควรรักษาาแก่อนนะ?” มารคนหนึ่งเอ่ยด้วยสีหน้าพิกล
เมื่อคืนหลังจากที่มารทั้งหมดออกมาจากวังใต้ดิน พวกมันทันเห็นจูเยี่ยนที่ถูกทุบตีเนื้อตัวล่อนจ้อนเข้าพอดี มีรอยแส้แดงเถือกเหมือนเืเต็มตัว แถมยังมีรอยน้ำมันเทียนหยดอยู่อีกประปราย ยิ่งทำให้จูเยี่ยนดูน่าเวทนาเข้าไปอีก
เพราะกังวลว่าไอมารของตนอาจถูกเปิดเผยออกไป จูเยี่ยนจึงไม่กล้าแม้แต่จะคลายเชือกที่รัดตัวมันอยู่ ยังคงเป็มารกลุ่มนี้ที่ช่วยกันปลดผ้าอุดปากและเชือกที่มัดตัวมันอย่างวิตถารออกไป
หลังผ่านคืนนั้นไป จูเยี่ยนก็คล้ายถูกมารอสูรสิงสู่ เอาแต่พึมพำว่าจะต้องฆ่าหวังเค่อให้ได้ไม่หยุดปาก
“สรุปแล้วพวกเ้าจะช่วยข้าหรือไม่กันแน่?” จูเยี่ยนจับจ้องมารกลุ่มนั้น
“พวกเราต้องช่วยอยู่แล้ว! แต่ว่าเราคงต้องรอให้ถึงวันชุมนุมมารปรโลกเสียก่อน ครั้งนี้ท่านเ้าอารามกับเ้าอารามห้าผู้ลึกลับนั่นค้นหาสตรีทารกร่างมารมาได้นางหนึ่ง พวกเราไม่อยากพลาดโอกาสนี้!” มารกลุ่มนั้นพากันส่ายหน้า
“งานชุมนุมมารปรโลกพวกเ้าจะได้ส่วนแบ่งทารกร่างมารสักเท่าไหร่กันเชียว? ข้ารู้ว่าทารกร่างมารนั่นอยู่ที่ไหน ข้าจะพาพวกเ้าไปเอง!” จูเยี่ยนเอ่ยด้วยตาแดงฉาน
“โอ้?” ฝูงมารอุทานอย่างแปลกใจ
“เมื่อกี้หวังเค่อหลุดปากออกมาว่านางอยู่ที่เมืองจูเซียน! ข้าได้ยินชัดเต็มสองหู มันไปตามหาองค์หญิงโยวเยว่ที่เมืองจูเซียน องค์หญิงโยวเยว่ก็คือทารกร่างมาร พวกเราไปเมืองจูเซียนกัน!” จูเยี่ยนเอ่ยอย่างกระตือรือร้น
ฝูงมารมองหน้ากันไปมาราวกับว่ากำลังวิเคราะห์ว่าสิ่งที่จูเยี่ยนพูดมาเป็ความจริงหรือไม่
“เอาเป็ว่าท่านไปว่าราชการก่อนดีหรือไม่? ให้พวกเราได้หารือกันก่อน?” มารตนหนึ่งเปิดปากถาม
“ว่าราชการมารดาเ้าสิ ตัวเราสารรูปเยี่ยงนี้ ยังจะไปเจอหน้าใครได้? ข้า้าให้หวังเค่อตาย ข้า้าให้มันตาย แล้วก็ของที่มันชิงไปจากข้า ข้าจะเอากลับคืนมา ต้องเอากลับมาให้ได้!” จูเยี่ยนคำราม
ลูกปัดคำนึงที่ปกปิดไอมารของตนไว้ได้ถูกหวังเค่อชิงไป ตนยังจะไปว่าราชการอะไรได้อีก! ทันทีที่ถูกศิษย์ฝ่ายธรรมะจับได้ว่ามีไอมารอยู่บนตัวมีหวังได้ซี้แหงแก๋แน่! อีกอย่าง ตอนนี้ใบหน้าเนื้อตัวมันมีแต่รอยแส้เฆี่ยน ยังจะไปพบหน้าใครได้อีก?
มีแต่ต้องฆ่าหวังเค่อเพื่อล้างแค้น ทวงลูกปัดคำนึงกลับคืนมาให้ได้เท่านั้น
“พวกเ้าจะไปหรือไม่ไป หากไม่ไป งั้นข้าไปเองคนเดียวก็ได้! ถึงตอนนั้นข้าจะกลืนกินทารกร่างมารเพียงลำพัง พวกเ้าอย่าหวังว่าจะได้ส่วนแบ่ง!” จูเยี่ยนตวาดกร้าว
ฝูงมารมองหน้ากันเลิ่กลั่ก สุดท้ายก็พยักหน้า “ก็ได้ พวกเราจะยอมเชื่อแล้ว!”
“งั้นก็ไปกันได้แล้ว!” จูเยี่ยนเอ่ยด้วยตาแดงก่ำ
“อย่าเพิ่ง ก่อนอื่นเ้าต้องจัดการเื่ราวที่นี่ให้เรียบร้อยก่อน เกลี้ยกล่อมราชินีให้นางช่วยเ้าปิดเื่สักสามสี่วัน!” มารคนหนึ่งออกความคิด
“ได้ ได้ พวกเ้าเองก็ไปเรียกคนมาด้วย ไปเรียกมารที่อยู่ในละแวกนี้มา พวกเราจะออกเดินทางกันคืนนี้ ตรงไปเมืองจูเซียนด้วยกัน! หวังเค่อมันต้องตาย!” จูเยี่ยนเอ่ยเสียงเย็น
“ได้!”
วันที่สี่นับจากที่หวังเค่อไปจากเมืองชิงจิง ณ ลำธารแห่งหนึ่งของสิบหมื่นมหาบรรพต
หวังเค่อกับจางเจิ้งเต้านั่งอยู่ข้างกองไฟ ในมือถือกระเรียนย่างหนึ่งตัว จางเจิ้งเต้านำปีกกระเรียนมันย่องขึ้นมากัดกินอย่างเอร็ดอร่อย
“รสชาติไม่เลวเลย ไม่นึกเลยว่าแม้จะผ่านมาหลายปี ฝีมือข้าก็ไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด ฮะฮ่า!” จางเจิ้งเต้าเคี้ยวไปพูดไปจบเกือบกัดถูกลิ้นตัวเอง
หวังเค่อมองจางเจิ้งเต้ากินแล้วก็ต้องกลืนน้ำลาย แต่สุดท้ายก็ไม่ได้กิน “หากเ้าชอบ งั้นก็กินเพิ่มอีกหน่อยสิ!”
“เ้าเองก็กินบ้างซี!” จางเจิ้งเต้ากินไปคะยั้นคะยอไป
หวังเค่อหน้าแข็งทื่อ “ข้า? ข้าไม่กล้ากิน เ้ากินเถอะ กินเลยๆ!”
“มีอะไรให้ไม่กล้ากิน? วันนี้เ้าทำตัวแปลกนะนี่! วะ ว้าว! กระเรียนมงกุฎแดงนี้จะต้องเป็เ้าลูกตะพาบจางเสินซวีส่งตัวมาแน่ สมควรตาย เส้นทางของเราถูกมันล่วงรู้เสียแล้ว น่าโมโหนัก! อีกอย่างเ้าพูดถูก แม้จะหาประโยชน์อะไรจากกระเรียนตัวนี้ไม่ได้ แต่รสชาติกลับไม่เลวเลยจริงๆ! นกเลี้ยงของพรรคอีกาทองคำรสชาติดีแท้ นี่ หวังเค่อ เ้าลองกินสักหน่อยน่า วะว้าว!” จางเจิ้งเต้ากินจนน้ำลายสอ
“กระเรียนของพรรคอีกาทองคำ ข้าไม่กล้ากิน เ้ากินเลย กินเลยๆ!” หวังเค่อปฏิเสธด้วยสีหน้าแปลกๆ
“เ้ากลัวพรรคอีกาทองคำถึงขนาดนี้ั้แ่เมื่อไหร่? เฮอะ เ้าไม่กินก็ตามใจ ข้ายังกินไม่หนำใจเลยด้วยซ้ำ!” จางเจิ้งเต้าแม้ทำหน้าประหลาด แต่ก็ยิ่งสวาปามหนักเข้าไปอีก
“เ้าส่งตัวนายพรานก่อนหน้านี้ไปที่เมืองจูเซียนแล้วหรือ? หวังเค่อ ทำไมทุกที่ถึงมีแต่คนของเ้าหมดเลยเล่า? ที่แท้เ้าแอบซ่องสุมคนเอาไว้กี่มากน้อยกันแน่ แม้แต่นายพรานในป่าเขาแถบนี้ก็ยังเรียกเ้าว่าท่านประมุข? ว้าว!” จางเจิ้งเต้ารู้สึกไม่อยากจะเชื่อ
“นั่นคือคนที่ข้าจัดวางไว้รอบๆ เมืองจูเซียนเพื่อเป็หูตาให้ข้า ก่อนนี้คนที่ดูแลแถบนี้คือพี่หญิงใหญ่ ไม่งั้นแล้วข้าจะเรียกตัวนางมาที่เมืองจูเซียนภายในวันเดียวได้อย่างไร? ตอนนี้พี่หญิงใหญ่เปลี่ยนกะพอดี! ก็เลยให้มันประจำการอยู่ที่นี่!” หวังเค่อคีบเนื้อยื่นให้จางเจิ้งเต้า
“มันรับหน้าที่สอดส่องเมืองจูเซียน? ไม่ถูกต้อง เ้าจะบอกว่าเมืองจูเซียนยังมีคนจากตระกูลหวังเ้าอยู่หรือ? ทั้งที่หลอกเอาเงินไปจากเมืองจูเซียนตั้งขนานนั้นแล้ว เ้ายังจะกล้าทิ้งคนไว้เฝ้าเมืองจูเซียนอีก? ไม่กลัวถูกฆ่าบ้างเลยหรือไง?” จางเจิ้งเต้าถามอย่างใคร่รู้
“เหลวไหล ข้าตั้งรกรากอยู่ในเมืองจูเซียนมาตั้งสิบปี บทจะทิ้งก็ทิ้งได้หรือ? พวกที่หนีไปวันนั้นเป็แค่คนของตระกูลหวังในฉากหน้า แต่ยังมีหูตาที่คอยสอดส่องอยู่เื้ัอีกจำนวนหนึ่ง!” หวังเค่ออธิบาย
“เ้ามันวิตถารสิ้นดี!” จางเจิ้งเต้ามองหวังเค่ออย่างไม่อยากเชื่อ
“วิตถารน้องสาวเ้าสิ หากไม่ใช่เพราะวางแผนล่วงหน้า ตอนนั้นยังจะช่วยองค์หญิงโยวเยว่เอาไว้ได้? ตอนนี้ยังจะรู้สถานการณ์เมืองจูเซียนได้? หรือจะให้บุกเข้าไปแบบไม่ลืมหูลืมตาดี? หาที่ตายสิไม่ว่า!” หวังเค่อถลึงตา
“เมืองจูเซียนสถานการณ์เป็เช่นไรบ้าง?” จางเจิ้งเต้ากินไปถามไปอย่างใคร่รู้
“เนี่ยเทียนป้ายังไม่ตายจริงๆ แถมยังกลับมาแล้ว! พวกที่หาซื้อแผนการลงทุนรวมถึงตระกูลใหญ่ที่ให้เนี่ยเทียนป้ายืมเงินต่างก็ตามไปเอาเื่ถึงตระกูลเนี่ยกันแล้ว แต่ว่า เนี่ยเทียนป้าขี้เหนียวอย่างเหลือเชื่อ แม้แต่ศิลาิญญาสักชั่งก็ไม่ยอมคืนให้ ผลก็คือเกิดศึกขนาดย่อมขึ้นมาประปราย แต่สุดท้ายทั้งสองฝ่ายต่างรับาเ็ ต้องกลับไปเลียแผลพักฟื้นกันก่อน!” หวังเค่อคีบเนื้อให้จางเจิ้งเต้าอีก
“เนี่ยเทียนป้าขี้เหนียว? มันโดนเ้าลอกคราบไปจนหมดตัว ถึงขั้นมีหนี้มีสินขึ้นมา แถมยังถูกเ้าล้วงถุงมิติไปอีก มันก็เลยคืนศิลาิญญาให้ไม่ได้ไม่ใช่รึไง? ทั้งหมดล้วนเป็ฝีมือเ้าทั้งนั้น! ว้าว!” จางเจิ้งเต้ากินเนื้อที่หวังเค่อส่งมาให้ไปพลางกลอกตาไปพลาง
“ผายลม ข้าก็แค่เอาเงินมาจากมัน แต่ที่มันทำคือเอาชีวิตคน! การตายของบ่าวรับใช้องค์หญิงโยวเยว่ยังไม่น่าเวทนาพออีกหรือไง?” หวังเค่อถลึงตาใส่จางเจิ้งเต้า
จางเจิ้งเต้าแม้จะภูมิใจกับความไร้ยางอายของตัวเอง แต่เมื่อเทียบกับหวังเค่อตรงหน้าแล้วมันก็รู้สึกละอายใจจริงๆ! แม่งเอ๊ย สองบ่าวขององค์หญิงโยวเยว่ตายแล้วไปเกี่ยวผายลมอันใดกับเ้าด้วย แม้แต่เื่นี้เ้าก็ยังจะใช้เป็ข้ออ้างหลอกเนี่ยเทียนป้าได้อีกหรือนี่?
“งั้นตอนนี้จะทำยังไงกันต่อ? ด้วยวรยุทธ์ขั้นดวงธาตุทองคำของข้าหากลองบุกเข้าเมืองจูเซียนตรงๆ คิดว่าจะบีบให้มันมอบตัวองค์หญิงโยวเยว่มาได้ไหม?” จางเจิ้งเต้ากัดกินเนื้อกระเรียนเต็มปากเต็มคำแล้วถามอย่างสงสัย
“หากมันดึงดันจะซ่อนตัวองค์หญิงโยวเยว่ซะอย่าง ต่อให้ตายก็ไม่ยอมสารภาพล่ะ เ้าจับมันได้แล้วยังไงต่อ?”
“ทุบตีมันจนกว่าจะยอมพูดออกมาน่ะสิ หากมันยังไม่ยอมพูด ข้าก็จะฆ่ามันซะ!” จางเจิ้งเต้าโบกขากระเรียนในมือไปมาอย่างดุร้าย
หวังเค่อปรายตามองอีกฝ่าย “ดี เื่นี้ยกให้เ้าเป็คนจัดการ! ประเดี๋ยวพอเนี่ยเมี่ยเจวี๋ยตามเจอ เื่นี้ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับข้าแล้ว!”
จางเจิ้งเต้าที่กำลังเคี้ยวเนื้อในปากหยับๆ พลันชะงักค้างไปในบัดดล จากนั้นก็ตัวสั่นขึ้นมา “ข้าลืมเนี่ยเมี่ยเจวี๋ยไปเสียสนิท!”
มีเนี่ยเมี่ยเจวี๋ยคอยคุ้มครองเนี่ยเทียนป้าอยู่ ตนจะกล้าเอาชีวิตมันได้อย่างไร? เนี่ยเทียนป้าเป็พวกกระดูกแข็งถึงไหนถึงกัน ไม่มีทางยอมเปิดปากสารภาพเพียงเพราะถูกทรมานแน่ แล้วตนยังจะสอบปากคำมันไปทำผายลมอันใด!
“อีกอย่าง เนี่ยเมี่ยเจวี๋ยอาจเอาของวิเศษทรงพลังไว้ให้เนี่ยเทียนป้าก็ได้ไม่ใช่หรือ? ถ้าเกิด...!” หวังเค่อมองจางเจิ้งเต้า
จางเจิ้งเต้าหน้าเปลี่ยนสี จริงด้วย! ถ้าเกิดว่ามันมีของวิเศษทรงพลังอยู่ในมือแล้วนำมาใช้เล่นงานข้าล่ะจะทำยังไง?
“งั้นเ้าว่าควรทำยังไงดี?” จางเจิ้งเต้าถามอย่างกังวล
“อย่าบอกว่าข้าไม่ให้โอกาสเ้าเชียว ตอนนี้มีอยู่สองทาง ทางเลือกแรกคือรับมือการล่าสังหารจากพรรคอีกาทองคำ ทางที่สองคือไปตามหาองค์หญิงโยวเยว่ในเมืองจูเซียนให้เจอ ระหว่างสองตัวเลือกนี้ เ้าจะเลือกอย่างไหน?” หวังเค่อมองจางเจิ้งเต้าที่กำลังกินกระเรียน
ต้องเลือกอีกแล้ว?
ก่อนนี้เ้าให้ข้าเลือก สุดท้ายข้าถูกเนี่ยเมี่ยเจวี๋ยนวดหน้าจนถึงตอนนี้ยังคงบวมไม่หาย มาตอนนี้จะให้ข้าเลือกอีกแล้ว?
“เ้าค่อยๆ คิดไปก่อน!” หวังเค่อส่งเนื้อนกย่างชิ้นสุดท้ายให้จางเจิ้งเต้า
จางเจิ้งเต้าใคร่ครวญอยู่พักใหญ่ หลังจากกลืนเนื้อชิ้นสุดท้ายลงท้องถึงค่อยตัดสินใจได้ในที่สุด
“ข้าไม่อยากไปตอแยสตรีมฤตยูเนี่ยเมี่ยเจวี๋ยผู้นั้นอีกแล้ว ข้าจะรับหน้าที่ล่อศิษย์พรรคอีกาทองคำเอง! ข้าหนีเนี่ยเมี่ยเจวี๋ยไม่พ้นก็จริง แต่อย่าบอกนะว่าแม้แต่พวกจางเสินซวีข้าก็ยังจะหนีไม่พ้นอีก? เอาตามนี้แหละ เ้าอย่ามาแย่งข้าเชียว ข้าขอรับหน้าที่ล่อพวกจางเสินซวีไปเอง!” จางเจิ้งเต้าตัดสินใจเลือกงานที่ง่ายกว่า!
“ดี งั้นก็จำไว้ให้ดีๆ ล่ะ เ้าจะต้องให้ศิษย์พรรคอีกาทองคำเห็นตัวเ้าอยู่ตลอดเวลาจึงจะใช้ได้ ไม่งั้นแล้ว เกิดเ้าซ่อนตัวแล้วพวกมันหาเ้าไม่พบขึ้นมา พวกมันก็จะมาหาเ้ากันที่เมืองจูเซียนในท้ายที่สุด!” หวังเค่อเอ่ยเป็การเป็งาน
“ซ่อนไม่ได้? ล้อกันเล่น? พวกมันขี่กระเรียน ข้าขี่กระบี่บิน ข้าต้องสิ้นเปลืองพลังปฐมธาตุตั้งเท่าไหร่? ไม่เหนื่อยตายไปเลยรึไง?” จางเจิ้งเต้าปฏิเสธทันควัน
“หากเ้าซ่อนตัวแล้วพวกมันไปหาที่เมืองจูเซียนขึ้นมา ข้าจะทำยังไง?” หวังเค่อนิ่วหน้า
“ข้าไม่สน ข้ามีหน้าที่แค่ล่อศิษย์พรรคอีกาทองคำ พวกมันจะไปเมืองจูเซียนหรือเปล่าไม่เกี่ยวอันใดกับข้า!” จางเจิ้งเต้าเอ่ยอย่างพาลๆ
“เ้าก็รู้จักแต่ทำตัวี้เี หากเกิดเื่กับข้าใครจะไปช่วยองค์หญิง? เ้าไม่สนหรือว่าจะถูกเบื้องบนลงโทษหรือไม่?” หวังเค่อขมวดคิ้ว
“ได้ ได้ แค่ห้ามซ่อนตัวใช่ไหม? แต่ถ้าศิษย์พรรคอีกาทองคำไม่ได้ตามฆ่าข้าแล้ว แต่เลือกไปเมืองจูเซียนแทนเ้าจะมาโทษข้าไม่ได้!” จางเจิ้งเต้ารอมชอม
แต่ในใจกลับคิดว่า ก่อนอื่นก็หลอกตามน้ำหวังเค่อไปก่อน เ้าไม่ให้ข้าซ่อน? ให้เผยตัวอยู่ตลอด? ล้อกันเล่น เมื่อถึงเวลาที่ต้องซ่อนข้าก็ยังคงต้องซ่อน ยังไงคนที่จะซวยก็คือหวังเค่อคนเดียว
“เ้าคิดได้แบบนี้ข้าก็วางใจ!” หวังเค่อพยักหน้า
“เื่ที่ข้ารับปากเ้าข้าย่อมต้องทำให้ได้! เ้าต้องเชื่อในตัวข้าสิ!” จางเจิ้งเต้าคิดว่าหวังเค่อหลงเชื่อแล้วก็เลยยิ้มอย่างผู้ชนะ
“ไม่สำคัญหรอก อย่างไรซะเ้าก็กินกระเรียนตัวนั้นไปแล้ว!” หวังเค่อส่ายหน้า
“แปลว่าอะไร” จางเจิ้งเต้าตะลึงไป
“เ้าไม่รู้หรือ? กระเรียนของพรรคอีกาทองคำสามารถรับรู้ตำแหน่งกันและกันได้ ต่อให้ตายไปหลายวันแล้วก็ตาม! เ้าเล่นกินมันจนหมด ทีนี้กระเรียนพรรคอีกาทองคำทั้งหมดย่อมรู้ตำแหน่งของเ้าไปอีกหลายวันเชียว! เ้าซ่อนตัวไปก็เท่านั้น!” หวังเค่ออธิบาย
“อะไรนะ? เพราะข้ากินเนื้อกระเรียนข้าก็เลยถูกกระเรียนทั้งหมดจับตำแหน่งไว้แล้ว? แถมพวกมันยังรู้ถึงตำแหน่งข้าได้ตลอดเวลา? เ้า เ้าหลอกข้า หวังเค่อ!” จางเจิ้งเต้าอุทานอย่างครั่นคร้าม
“ข้าไม่ได้หลอกเ้าเลย ข้าก็พูดแล้วไงว่าข้าไม่กล้ากินเนื้อพวกนี้ แต่เ้ายืนกรานเอง!” หวังเค่อโยนหม้อให้จางเจิ้งเต้า
จางเจิ้งเต้าตาโต “…!”
เกิดความเงียบอยู่หลายอึดใจ
“หวังเค่อ เ้าเล่นข้าแล้ว ข้าขอเสี่ยงตายกับเ้า!” จางเจิ้งเต้าตั้งท่ากระโจนใส่หวังเค่ออย่างดาลเดือด
“ไม่ใช่เ้าบอกว่าจะไม่ซ่อนหรือไง? แล้วมันต่างกันตรงไหน? วางใจเถอะ จางเสินซวีคือดวงธาตุทองคำ เ้าเองก็เป็ดวงธาตุทองคำ อย่าบอกนะว่าจะหนีมันไม่ได้เชียว?” หวังเค่อปลอบ
“ข้าไม่สน ข้าจะบีบคอเ้าให้ตาย! เ้าคนถ่อยรักตัวกลัวตาย ตัวเองกลัวถูกพรรคอีกาทองคำไล่ฆ่า แล้วข้าไม่ต้องกลัวรึไง?” จางเจิ้งเต้าคำราม แม้อยากร่ำไห้แต่ไม่มีน้ำตา
“ใครว่าข้ากลัวพรรคอีกาทองคำตามฆ่า?” หวังเค่อถลึงตา
“เ้าไม่กลัว?” จางเจิ้งเต้าไม่เชื่อ
“ข้าไม่กลัวอยู่แล้ว ศิษย์พรรคอีกาทองคำจะฆ่าข้าได้อย่างไร? ข้าแค่กลัวว่าจะคุมกำลังไม่อยู่จนเผลอฆ่าพวกมันทั้งหมดในกระบี่เดียวต่างหาก! ข้าอยากช่วยชีวิตพวกมันก็เลยให้เ้ารับหน้าที่นี้ไป นี่ก็เพื่อความอยู่ยั้งยืนยงของฝ่ายธรรมะเรา! ข้าไม่นิยมฆ่าสัตว์ตัดชีวิต!” หวังเค่อเอ่ยเสียงเข้ม
จางเจิ้งเต้าตาโต ทำท่าเหมือนจะพุ่งเข้าไปบีบคอหวังเค่อเ้าคนหน้าไม่อายให้ตายไปเสียเดี๋ยวนั้น เ้าเป็แค่เซียนเทียนขั้นสอง หนึ่งกระบี่สังหารดวงธาตุทองคำตายยกก๊วน? เ้ายังมีหน้ามาคุยโวขนาดนี้ได้อีก? ทำไมเ้าไม่บอกว่าตัวเองสามารถใช้หนึ่งกระบี่พิฆาตทารกแกนิญญาได้ไปเลยล่ะ?
หวังเค่อเอ่ยอย่างจริงจัง “ข้าไม่อยากฆ่าใครจริงๆ!”
สิ่งที่หวังเค่อพูดเป็ความจริง หากตนได้รับภัยคุกคามถึงตาย กระบี่เทพมหาสุริยันมิดับสูญภายในร่างก็จะออกมาปกป้องผู้เป็นายโดยอัตโนมัติ!
แต่จางเจิ้งเต้าต่อให้ถูกทุบตีจนตายก็ไม่มีทางเชื่อคำพูดของหวังเค่อ มันรู้สึกเพียงว่าตัวเองภูมิใจในความหน้าไม่อายตลอดมา แต่พอเทียบกับหวังเค่อแล้วยังเทียบกับลมผายไม่ได้ด้วยซ้ำ! บนโลกนี้ถึงกับมีคนหน้าไม่อายขนาดนี้อยู่ด้วยหรือนี่?
“แกว้ก~~~~~~~~~~~~~~!”
ตอนนั้นเองก็มีเสียงร้องเศร้าสร้อยของกระเรียนดังมาจากฟากฟ้าไกล ทั้งสองหน้าเปลี่ยนสีรีบหันหน้าไปตามต้นเสียง จริงดังคาด ตรงหมู่เมฆไกลออกไปปรากฏเงาร่างของกระเรียนมงกุฎแดงฝูงใหญ่อยู่รำไร
ฝูงกระเรียนคล้ายััได้ว่าพวกพ้องของพวกมันถูกจับกิน จึงกู่ร้องลากยาวออกมาอย่างเศร้าหมอง ฝูงกระเรียนกู่ร้องพร้อมกัน จากนั้นก็พุ่งเข้าหาหวังเค่อและจางเจิ้งเต้าอย่างหมายมาด
“มาไวปานนี้เชียว?” จางเจิ้งเต้าอุทาน
“รีบหนี!” หวังเค่อลากตัวจางเจิ้งเต้าเข้าป่า
เมื่อเข้ามาแล้วหวังเค่อก็นำหุ่นไล่กาในอกเสื้อมายัดใส่มือของจางเจิ้งเต้า
“นำตัวตายตัวแทนของข้านี้ไปด้วย รีบหนี! ขี่กระบี่บินไปเลย!”
หวังเค่อเร่งจางเจิ้งเต้าก่อนถีบมันออกนอกพงไพร เปิดเผยอล่างฉ่างต่อทุกสายตา
จางเจิ้งเต้า “…!”
“มันอยู่นั่น อย่าให้มันหนีไปได้!”
“มันกินกระเรียนสิบเก้า ไอ้ลูกตัวบัดซบเอ๊ย มันกินกระเรียนสิบเก้าหรือนี่ ข้าเลี้ยงดูมันมาตั้งกี่ปี ข้าจะแลกชีวิตกับเ้า!”
………
“อย่าหนีนะ!”
……
…
ไกลออกไประงมด้วยเสียงะโขู่ฆ่า คนทั้งหมดตั้งปณิธานว่าจะเอาเืหัวจางเจิ้งเต้าออกมาให้ได้
“หวังเค่อ เ้าลูกตัวบัดซบ! หากเ้าช่วยองค์หญิงโยวเยว่ไม่ได้ละก็ ข้าจะให้เ้าตายไปกับข้าด้วย!” จางเจิ้งเต้าสบถด่าอย่างหดหู่เหลือแสน จากนั้นขี่กระบี่บินพุ่งหนีไปไกลลิบ
จางเจิ้งเต้าเหาะไปไกล บรรดาศิษย์พรรคอีกาทองคำขี่กระเรียนตามหลังเร่งความเร็วตามไปติดๆ
“อย่าให้มันหนีไปได้!”
“ขี่กระบี่บินหนี? นั่นต้องสิ้นเปลืองพลังปฐมธาตุมหาศาล มันหนีได้ไม่ไกลหรอก ตามไปเร็ว!”
………
“ข้าจะฆ่าไอ้ลูกตัวบัดซบนั่น!”
……
…
เสียงฆ่าฟันดังห่างออกไป
หวังเค่อยืนอยู่ในป่า มองส่งคนกลุ่มใหญ่จากไปก่อนถอนใจหาย “พรรคอีกาทองคำบ้าดีเดือดโดยแท้! จางเสินซวีเองก็ใจแคบชะมัดยาด จำต้องใช้คนเยอะแยะปานนี้ด้วยรึ? ถุ้ย!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้