“ใครอ่อยนาย นี่บัตรกินข้าวอยากกินอะไรก็ไปสั่งเองเถอะ” โหยวโยวโยวพูดด้วยใบหน้าแดงก่ำจากนั้นก็วางบัตรทานข้าวใบหนึ่งไว้บนโต๊ะ
“เดี๋ยวค่อยมาคุยกันนะ ขอฉันไปดูก่อนว่ามีอะไรกินบ้าง ท้องอิ่มสำคัญที่สุด” พูดเสร็จกัวไฮว่ก็หยิบบัตรทานข้าวขึ้นมาแล้วมุ่งไปยังอาหารอร่อยทั้งหลายตรงหน้า
“ให้ตายเถอะ นี่ร้านอาหารของโรงเรียนที่ดีที่สุดในเมืองอู่เฉิงจริงๆ เหรอเนื้อวัวไม่สด เนื้อหมูก็ไม่สด เนื้อทุกอย่างไม่มีอะไรสดเลยแถมผักนี่ก็ไม่น่ากินอีก พวกเขากลืนลงท้องกันไปได้ยังไงเนี่ย” กัวไฮว่พูดด้วยความทอดถอนใจ
“นายเป็นักเรียนฟู่จงจริงๆ ด้วย”ในขณะที่กัวไฮว่คิดวนไปวนมาใจหดหู่อยู่หน้าอาหารที่แสนจะไม่น่าพิศวาสนั่นเองเสียงใสๆก็ดังขึ้นข้างหูเขา
“ถังซี?” กัวไฮว่มองแวบแรกก็จำเด็กสาวคนนี้ได้เธอคือเด็กผู้หญิงที่ช่วยจ่ายเงินค่ารถให้เขานั่นเอง “ฉันก็เป็นักเรียนที่ฟู่จงน่ะสิไม่งั้นจะเข้าประตูใหญ่มาได้ยังไง ส่วนเงินนั่นฉันยังคืนเธอไม่ได้นะฉันไม่มีเงินติดตัวมาน่ะ แต่ว่าฉันเลี้ยงข้าวเธอได้นะ”
“ดีเลย งั้นวันนี้ฉันจะตามนายไปกินข้าวก็แล้วกัน”ถังซีพูดยิ้มๆ ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงได้มีความประทับใจที่ไม่เลวต่อเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้
“เสี่ยวซีทำอะไรอยู่เหรอ”ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าคนที่มาด้วยก็คือสาวสวยบนรถเมล์คนนั้นซูเยี่ยลูกพี่ลูกน้องของถังซี“ตาบ้านายนี่มันสุดยอดไปเลยนะตามเสี่ยวซีของฉันมาถึงที่นี่ได้ไงเนี่ย”
“เยี่ยจื่ออย่าพูดมั่วซั่วสิ บังเอิญเจอกันน่ะแต่ฉันตกลงกับกัวไฮว่แล้วว่าจะให้เขาเลี้ยงข้าวฉัน”ถังซีพูดยิ้มๆ ซูเยี่ยถึงกับเบิกตาโพล่งนี่ใช่ถังซีสาวสวยมอสี่ผู้เ็าแห่งโรงเรียนฟู่จงหรือเปล่า
“เสี่ยวซีเอาจริงๆ นะ ฉันเพิ่งมาโรงอาหารที่นี่เป็ครั้งแรกเลยไม่รู้ว่าที่นี่อะไรอร่อยบ้างถ้าให้ดีเอาเป็อาหารป่านะ หรือไม่ก็พวกสมุนไพรอะไรแบบนี้ก็ได้” กัวไฮว่พูดยิ้มๆ
“แผลาเ็บนตัวนายยังไม่หายดี ยังต้องบำรุงอยู่เหรอฉันรู้ว่าด้านหน้านี่มีที่ที่นึงพวกเราไปกันเถอะ” ถังซีพูดพลางดึงมือกัวไฮว่ขึ้นมาอีกครั้ง
“ไม่จริง ตาบ้านี่ ยังตามเสี่ยวซีไปอีกฮึน่าโมโหจังเลย” ซูเยี่ยก็รีบเดินตามไป
“ทำไมเด็กนี่ดีกับข้าขนาดนี้มีแผนการอะไรในใจหรือเปล่าไม่ได้การล่ะข้าต้องดูสักหน่อยแล้วว่านางคิดอะไร เทพแห่งจิตผู้ยิ่งใหญ่อย่างข้าถ้าถูกเด็กนี่หลอกเข้าเหล่าเทพเซียนบน์คงจะหัวเราะเยาะจนฟันหลุดเป็แน่” กัวไฮว่พูดพลางใช้วิชาอ่านจิตกับถังซี
“พี่ไฮว่จำฉันไม่ได้ล่ะสิ ฉันก็คือเด็กสาวที่เดินตามหลังพี่ในตอนนั้นไงล่ะไม่คิดเลยว่าพี่จะแย่ได้ขนาดนี้ แย่ยิ่งกว่าตอนเด็กๆ อีก แต่ว่าพี่ก็คือพี่ไฮว่ของฉันเป็พี่ไฮว่ของฉันมาตลอดใครใช้ให้ตอนห้าขวบพี่มามองคนอื่นเขาแบบนั้นล่ะ” ความคิดของถังซีแจ่มชัดอยู่ในสมองของกัวไฮว่
“เ้าเด็กนี่ตอนเด็กๆ แย่ขนาดนี้เลยเหรอดูท่าข้าต้องคอยดูชีวิตเมื่อก่อนของกัวไฮว่เสียแล้ว”เทพแห่งจิตเบิกตาโพล่ง
“ซุปงูร้อยรสอันนี้ดี โสมป่าต้มสมุนไพรเจ็ดชนิดอันนี้ไม่เลวเลยซุปกวางอันนี้ก็ดี”กัวไฮว่มองเมนูพลางพูดสั่งอาหารไปเจ็ดแปดอย่าง “เสี่ยวซีอยากกินอะไรก็สั่งอันนั้นเลยไม่ต้องเกรงใจฉันของที่ฉันกินอาจจะไม่ถูกปากเธอเท่าไหร่”
“สายกิน สายกินของจริง” เยี่ยซูมองสิ่งที่กัวไฮว่สั่งแล้วลอบพูดกับตัวเองในใจ
“โหยวโยวโยวนี่นา ตาบ้านี่ นายเก็บบัตรใบนี้มาใช่ไหมนี่มันรูปดาวโรงเรียนจิ่วจงที่ย้ายเข้ามาคนนั้นนี่ นายรู้จักเธอรึเปล่า” ในขณะที่กัวไฮว่รูดบัตรจ่ายเงินนั่นเองซูเยี่ยก็เห็นรูปถ่ายบนบัตรทานข้าว
“กินข้าว กินข้าว ทำไมเธอวุ่นวายขนาดนี้เนี่ยคนในรูปบนบัตรก็คือแฟนฉันตอนเรียนที่จิ่วจงแต่ไม่ทันจะได้เปลี่ยนรูปน่ะถ้าเธอให้รูปฉันฉันก็จะแปะลงไป”กัวไฮว่ก็เบิกตามองซูเยี่ยเช่นกันเขาพูดขึ้นด้วยเสียงดัง
“ไม่เลวเลยนี่ของพวกนี้ยังพอกินเข้าไปได้ถ้าเปลี่ยนจากงูเป็อาหารป่านะรสชาติจะดีกว่านี้อีกโสมไม่ใช่อาหารป่าแต่ก็ยังดีที่ทำให้อายุยืนมีพลังไม่น้อย”กัวไฮว่กินไปคิดไป
“เสี่ยวซีอย่ามัวมองฉันสิ พวกเธอกินสิ ดูเธอสิผอมจะแย่อยู่แล้วกินเยอะๆ หน่อย” กัวไฮว่พูดพลางคีบเนื้อห่านลงไปในถ้วยของเสี่ยวซี “เธอมองอะไรน่ะอยากกินอะไรก็คีบเองสิหรือว่าอยากจะให้พี่สุดหล่อคนนี้คีบให้”เมื่อกัวไฮว่เห็นซูเยี่ยเบิกตามองเขากับเสี่ยวซีก็พูดพลางถลึงตาแบบเดียวกันบ้าง
“เสี่ยวซีเธอเปลี่ยนไป”ซูเยี่ยไม่รู้จะพูดอย่างไรเธอส่ายศีรษะไม่ได้มองพวกเขาจากนั้นก็เริ่มกิน
"กัวไฮว่นายมันเลว ฉันอุตส่าห์รอนายไปกินข้าวแต่นายดันมากินที่นี่”ในขณะที่ทั้งสามกินอย่างเอร็ดอร่อยนั้น ประตูห้องอาหารก็พลันเปิดออกสาวสวยคนหนึ่งพุ่งเข้ามาพูดกับกัวไฮว่อย่างโมโหสุดขีด
“โหยวโยวโยว? นายนี่มันแย่จริงๆ เลยนะบัตรข้าวเป็ของโหยวโยวโยวจริงด้วยนายเล่นสนุกอยู่หรือไงเอาเงินผู้หญิงมาจีบสาวเนี่ยสุดยอดไปเลย”ซูเยี่ยพูดดูมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น
“นั่งลง เอะอะโวยวายอะไรกัน พี่ล่ะเกลียดเวลามีคนพูดตอนกินข้าวอยากกินอะไรก็สั่ง ถ้าไม่สั่งก็กินของที่มีอยู่ก็พอได้นั่งลงกินดีๆ” กัวไฮว่พูดพลางมองโหยวโยวโยว
“นี่น้องนั่งลงกินเถอะ เดี๋ยวฉันไปเพิ่มอาหารอีกสองอย่าง” ถังซีพูดพลางลุกขึ้นมาย้ายเก้าอี้ให้โหยวโยวโยวจากนั้นตัวเองก็เดินตรงออกไป
“ดูสิโหยวโยวโยวคนสวยความต่างนี่แหละคือความต่างของเมียหลวงกับเมียน้อยในสมัยก่อน” กัวไฮว่พูดต่ออย่างไม่เกรงกลัวฟ้าดิน
“กัวไฮว่นาย…” โหยวโยวโยวโกรธจนพูดอะไรไม่ออก
“นี่เธอ สวัสดีนะฉันชื่อซูเยี่ย”ซูเยี่ยเดินเข้าไปใกล้โหยวโยวโยวยื่นมือออกมาพร้อมทั้งยิ้มแล้วพูดว่า “ร่ำลือกันว่าดาวโรงเรียนจิ่วจงย้ายมาที่ฟู่จงสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นจริงๆ”
โหยวโยวโยวชะงักไปครู่หนึ่ง ยื่นมือเรียวสวยมาจับมือซูเยี่ยเช่นกันเธอไม่ได้รู้สึกโกรธโหยวโยวโยวแต่กลับมีความประทับใจที่ไม่เลวต่อหญิงสาวที่หน้าตาสะสวยพอๆกันกับตนเองคนนี้
“เสี่ยวซีเมื่อก่อนเราเคยรู้จักกันใช่ไหม”กัวไฮว่มองถังซีแล้วถามขึ้น
“เ้าสี่หนึ่งในสี่ตัวอันตรายแห่งเมืองอู่เฉิงจะมารู้จักเด็กผู้หญิงอย่างฉันด้วยเหรอ” ถังซีเบิกตาโพล่งก่อนจะถามกัวไฮว่กลับ
“ฉันจำได้ว่าตอนเด็กๆ สมัยอยู่ที่ถนนเก่าในเมืองอู่เฉิงมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเดินตามหลังฉัน ฉันเรียกเธอว่าถังซี[1]เพราะว่าเธอติดฉันมากเลยแต่ว่าตอนที่ฉันย้ายออกจากที่นั่นไป ฉันอยากจะบอกลาเธอสักหน่อยแต่ว่าหาเธอไม่เจอ”กัวไฮว่พูดเสียงเบา“แต่ฉันต้องหาเธอให้เจอเพราะฉันเคยรับปากกับเธอไว้ว่าฉันจะขอเธอเป็เมีย ฮ่าๆ”
“นายยังจำสัญญาที่นายให้ไว้กับเด็กผู้หญิงคนนั้นได้ด้วยเหรอ” ถังซีเบิกตาโพล่ง “สิบปีมาแล้วที่แท้เ้าสี่หนึ่งในตัวอันตรายที่ชอบต่อยตีคนอื่นที่แท้ในก้นลึกของหัวใจเขาก็เหมือนกับตัวเธอเองที่มีดินแดนบริสุทธิ์สำหรับทั้งสองคน”
“เสี่ยวถังซีพี่หาเธอเจอแล้วล่ะ มาให้จูบเธอแบบเมื่อก่อนหน่อยสิ” เขาโอบถังซีไว้ในอ้อมอกโดยไม่สนว่าถังซีจะมีปฏิกิริยาอย่างไรจากนั้นก็จูบเธอ
“มาดูเร็วเ้าหญิงน้ำแข็งโรงเรียนเราแล้วผู้ชายนั่นใครทำไมเขาไร้มารยาทกับนางฟ้าของเราแบบนี้ ต่อยมัน!” ในขณะปากของกัวไฮว่ทาบบนริมฝีปากของถังซี ทั้งโรงอาหารก็พลันวุ่นวายนักเรียนชายสิบกว่าคนวางจานในมือ ไม่นานก็ล้อมกัวไฮว่เอาไว้โหยวโยวโยวกับซูเยี่ยได้ยินเสียงเอะอะข้างนอกก็รีบวิ่งมา
“ฮะ! ฝันไป ฝันไปแน่ๆ”ซูเยี่ยพูดพลางส่ายศีรษะไปมา
“ตาบ้านี่ บอกให้ฉันออกมาสั่งอาหารใหม่ แต่ตัวเองดันมาจูบกับสาวสวยอยู่ตรงนี้ให้ตายสิ” โหยวโยวโยวก้าวไปด้านหน้าก่อนจะพูดขึ้นเสียงดัง
“หึงเหรออย่าโกรธเลยเดี๋ยวเธอก็ได้”กัวไฮว่พูดพลางทาบปากไว้บนริมฝีปากของโหยวโยวโยว จากนั้นไม่นานกัวไฮว่ก็มองซูเยี่ยพร้อมถามว่า“สาวน้อย ทำไม เธอก็อยากด้วยเหรอ”
[1]อักษร稀 ซึ่งแปลว่าไม่ปกติพ้องเสียงกับชื่อของถังซี