หมันก้านเมื่อได้ยินน้ำเสียงที่เย็นะเืแฝงความชั่วร้ายของเสว่อู๋เหินดังลอยมาพลันรู้สึกเย็นวาบไปทั่วทั้งแผ่นหลัง เสียงนี้เขาคุ้นหูเพราะเมื่อตอนอยู่ในด่านทดสอบที่เก้าลูกน้องของเขาสองคนถูกสังหารตายในพริบตาก็เพราะเสียงที่ดังขึ้นมานี้ ดังนั้นทั้งเขาและอิ่นซาต่างะโเข้าไปอยู่ภายในวงล้อมการป้องกันของลูกน้องในทันที
“ไอ้ลูกสุนัขจากที่ใดกล้ามาเห่าหอนอย่างโอหังเช่นนี้? เสว่อู๋เหิน? คนของตระกูลเสว่? ถึงกับไปเป็สุนัขให้กับนครแห่งเทพเชียวรึ?” ก่อนหน้านี้ในด่านทดสอบที่เก้า เยาจีไม่ได้อยู่ใจกลางของลานกว้างที่ต่อสู้ตะลุมบอนกันจึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นตอนนี้เมื่อได้ยินเสว่อู๋เหินร้องออกมาอย่างโอหังอวดดีเช่นนี้จึงด่าทอออกไปอย่างไม่เกรงใจ
เพียงแต่...วินาทีต่อมาแสงสีทองหกสายพลันพุ่งออกมาจากทิศทางที่กองกำลังของนครแห่งเทพอยู่และพุ่งเข้าหาเยาจีโดยตรง ด้านเยาจีและลูกน้องข้างกายต่างรีบทำการป้องกันและทำการโจมตีออกไปในเวลาเดียวกัน
เยาจีใจเด็ดยิ่งกว่าใช้การเผาไหม้พลังปีศาจสร้างขึ้นเป็โล่พลังครอบร่างเอาไว้ แต่เมื่อพลังแสงสีทองทั้งหกสายมาถึงยังเบื้องหน้าของพวกเขา พวกเขาถึงได้รู้ว่ามันไม่ใช่อาวุธลับที่ถูกซัดออกมาแต่อย่างใด แต่มันเป็แมลงปีกแข็งสีทองหกตัวที่บินมาด้วยความเร็วสูง เยาจีเนื่องจากถูกห้อมล้อมเอาไว้ด้วยผู้คนจำนวนมาก ครั้นแล้วแมลงสีทองทั้งหกตัวมันทำการบินวนอยู่หลายรอบก่อนที่จะโจมตีเข้าใส่บนร่างของเยาจีในมุมที่คาดไม่ถึง
“อาาา...”
เยาจีพลังฝีมืออยู่ในระดับขั้นสูงสุดขอบเขตจักรพรรดิปีศาจ ตอนนี้ทำการเผาไหม้พลังปีศาจเปลี่ยนเป็โล่ที่สามารถป้องกันการโจมตีจากผู้มีพลังฝีมือระดับขั้นสูงสุดขอบเขตาาจักรพรรดิจำนวนหลายคนที่โจมตีเข้ามาพร้อมๆ กันได้ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าแมลงของเสว่อู๋เหินกลับถูกทำลายได้อย่างง่ายดายราวกับโล่กระดาษฉันนั้น ไม่สามารถที่จะต้านทานเอาไว้ได้ แมลงสีทองทั้งหกตัวมุดลงไปยังศีรษะและลำคอของเยาจี ต่อมาจึงเลือนหายไปภายในร่างของเขาอย่างไร้ร่องรอย
ต่อมาทั่วทั้งร่างของเขาพลันเปลี่ยนเป็สีดำสนิทขึ้นในทันที เืสีดำคล้ำเริ่มไหลทะลักออกมาจากรูสมองและลำคอที่แมลงมุดเข้าไป ภาพที่ได้เห็นทำเอาทุกคนต่างตกตะลึงพรึงเพริดขึ้น...
“แหะๆ ข้าจะบอกความจริงอะไรให้พวกเ้าฟัง แมลงพวกนี้ข้ามีอยู่เยอะและตอนนี้พวกมันถูกข้าแอบส่งซุ่มซ่อนไว้ใต้พื้นดินใต้เท้าของพวกเ้าเป็ที่เรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งพิษของพวกมันร้ายแรงเป็อย่างมากถึงขั้นที่ไม่ว่าใครก็ตามที่ถูกมันกัดเข้าสักครั้งเพียงแค่วินาทีเดียวก็สามารถล่องลอยไปแดนสุขาวดี ดังนั้น...ทุกท่านถ้าหากยังไม่อยากตายละก็ ก็จงยืนอยู่กับที่อย่างว่าง่ายน่าจะดีที่สุด!”
เสว่อู๋เหินถอดหมวกสีทองใบใหญ่ที่อยู่บนหัวออก เผยให้เห็นดวงตาหยินหยางที่ดูแปลกพิเศษและใบหน้าที่หล่อเหลา ในเมื่อฐานะตัวตนที่แท้จริงถูกเปิดเผยแล้วจึงไม่มีความจำเป็ที่จะทำการหลบๆ ซ่อนๆ อีกต่อไป ถึงเวลาที่จะเดินออกมายืนอยู่อย่างสง่าผ่าเผยเพื่อประกาศให้คนทั้งทวีปและทั้งเขตปกครองเทพารู้ว่า... เขาเสว่อู๋เหินผู้นี้กลับมาแล้วอย่างผู้ที่แข็งแกร่ง!
“อาาา...”
ยอดฝีมือสามคนของเขตปกครองเทพปีศาจคิดที่จะลอบโจมตีเพื่อแก้แค้นให้เยาจี เพียงแต่ว่าพวกเขาเพิ่งคิดที่จะขยับตัวขึ้นเท่านั้นกลับต้องร้องขึ้นด้วยเสียงน่าเวทนาทั่วทั้งร่างดำสนิทแล้วก็ล้มลงไปกับพื้น บริเวณฝ่าเท้าของพวกเขาพลันปรากฏแสงสีทองขึ้นแล้วก็เลือนหายไป จากนั้นเืสีดำคล้ำไหลออกมาจากฝ่าเท้าเช่นเดียวกันกับเยาจี เห็นได้ชัดว่าถูกเสว่อู๋เหินลอบสังหารในพริบตาไปอีกสามคนแล้ว!
“อาาา...”
ในเวลาเดียวกันทางฝั่งเผ่าคนเถื่อนและเกาะเร้นลับมีเสียงร้องอย่างน่าเวทนาดังขึ้นมาอีกสองสายพร้อมกับคนที่ล้มลงสู่พื้นอีกสองคน
“อย่าขยับ! ทุกคนอย่าขยับ!”
ถึงตอนนี้หมันก้านและอิ่นซาเริ่มหวาดกลัวขึ้นมาแล้วรีบร้องสั่งการออกไปในทันที กองเืที่เจิ่งนองอยู่ตรงหน้าบอกความจริงกับพวกเขาว่าเ้าคนที่มีดวงตาหยินหยางที่แปลกประหลาดแผ่รังสีชั่วร้ายกระหายเืออกมาผู้นี้ ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะตอแยด้วย มิฉะนั้นแล้วจุดจบคงจะต้องน่าอเนจอนาถอย่างมากแน่ๆ
ทางฝั่งของเผ่าปีศาจที่ตายไปหลายคนก็เริ่มหวาดกลัวขึ้นมาแล้ว เยาจีและอีกสองคนที่ถูกฆ่าตายไปเมื่อสักครู่ล้วนเป็ผู้มีพลังฝีมือระดับสูงสุดของกองกำลังเผ่าปีศาจที่มาในครั้งนี้แล้ว แต่ทั้งสามดันมาตายลงอย่างกะทันหันและยังร้องออกมาอย่างน่าเวทนาเช่นนี้ด้วยยิ่งทำให้พวกเขาหวาดกลัวมากขึ้นไปอีก...
ความจริงแล้วที่พวกเขากลัวนั้นไม่ใช่พลังฝีมือของเสว่อู๋เหิน แต่กลัวรูปแบบการโจมตีที่แปลกประหลาดเสียมากกว่าซึ่งมีความเฉียบขาดเป็อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งใครจะรู้ว่าใต้เท้าของพวกเขายังมีแมลงซ่อนอยู่อีกมากมายเท่าใด? ไม่แน่ว่าวินาทีต่อไปอาจจะมีแมลงจำนวนมากมายนับไม่ถ้วนมุดออกมาจากพื้นดินแล้วพวกเขาก็กลายเป็ซากศพเน่าเปื่อยนอนกองบนพื้นไปก็เป็ได้
เย่เชียงตกตะลึง เยว่โหรวตกตะลึง เยว่ชิงเฉิงเองก็ตกตะลึง! ยอดฝีมือทุกคนของเขตปกครองเทพาล้วนตกตะลึง!
พวกเขาต่างมองเห็นสายตาจากดวงตาหยินหยางที่กวาดมองมาของเสว่อู๋เหินนั้นแฝงไปด้วยความเ็า ความยโสโอหัง และแววเย้ยหยัน...
แต่สิ่งที่พวกเขามองเห็นมากที่สุดก็คือ...ความเคียดแค้น
ความเคียดแค้นที่อัดแน่นอยู่ภายในอกทำให้ทั่งทั้งสรรพางค์กายของเขาแผ่รังสีเคียดแค้นเย็นะเืออกมา
ภาพเหตุการณ์ที่เสว่เฟยและเสว่เพียวโหรวปลิดชีวิตตนเองที่เมืองัท่ามกลางฝูงชนปรากฏขึ้นในหัวของพวกเขา พวกเขาเข้าใจดีว่าเสว่อู๋เหินจะกลับมาแก้แค้น จะกลับมาฆ่าคน...
“ฮ่าๆ...ทำได้ดีมาก เสว่อู๋เหินเ้าทำได้ดีมาก กลับไปข้าจะตบรางวัลให้เ้าอย่างงามพร้อมกับรายงานผลงานที่เ้าทำต่อท่านจ้าวเทวะ ตอนนี้...ข้าขอสั่งให้เ้าจัดการสังหารอิ่นซาเดี๋ยวนี้! เป็เพราะมันที่ปลุกปั่นเผ่าปีศาจและเผ่าคนเถื่อนให้มารุมโจมตีใส่คนของนครแห่งเทพ...”
ถูเฮยก้าวเดินสาวเท้าเข้ามาด้วยสีหน้ายโสโอหังกระหยิ่มยิ้มย่องอย่างได้ใจ
เพียงแต่ยังไม่ทันที่เขาจะทันได้พูดจบสีหน้าของเขาพลันต้องเปลี่ยนแปลงไปในทันที ดวงตาจ้องมองลงไปยังฝ่าเท้าของตนเอง จากนั้นทั่วทั้งร่างสั่นเทิ้มขึ้นพร้อมกับชี้นิ้วมาทางเสว่อู๋เหินเหมือนกับว่าอยากที่จะด่าอะไรออกมา เพียงแต่ไม่สามารถจะพูดอะไรออกมาได้ก็สิ้นลมไป ใต้ฝ่าเท้าของเขาในตอนนี้ปรากฏรูที่มีเืสีดำกำลังไหลออกมาสองแห่ง...
“ข้าไม่้าของรางวัลจากเ้า ส่วนเื่จ้าวเทวะเดี๋ยวข้าจะกลับไปรายงานเอง ตำแหน่งองครักษ์แห่งเทพคนที่ห้าครึ่งปีก่อนข้าทำการจองไว้เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นตอนนี้เ้าสามารถตายไปได้อย่างสบายใจ กองกำลังทูตแห่งเทพตอนนี้ข้าจะเป็หัวหน้าผู้นำเอง พวกเ้าคงไม่มีใครคัดค้านใช่ไหม?”
เสว่อู๋เหินหันหน้าที่เ็ามองไปยังเหล่าทูตแห่งเทพทั้งหลาย จนกระทั่งพวกเขาเ่าั้พยักหน้าตอบรับด้วยความกลัวเขาถึงได้ยิ้มขึ้นอย่างเ็าแล้วหันหน้ากลับไปพูดขึ้นต่ออิ่นซา “ถ้าอย่างนั้น...สมบัติล้ำค่าระดับสูงสุดตกเป็ของข้า คิดว่าทุกคนคงไม่มีใครคัดค้านใช่ไหม? ข้าไม่ใช่คนที่ชื่นชอบการฆ่าคนเป็ผักปลา ข้าชอบใช้เหตุผลในการพูดคุย! ดังนั้น คนที่ใช้เหตุผลในการพูดคุยกับข้าก็จะมีชีวิตที่ยืนยาว!”
“คุณชายเสว่ ข้าชอบที่สุดก็คือคนที่ใช้เหตุผลในการพูดคุย ข้าย่อมไม่คัดค้าน!” อิ่นซารีบพูดรับคำขึ้นเป็คนแรก ยกมือขึ้นเห็นด้วยอย่างไม่ลังเล
หมันก้านเองก็อยากจะยกมือขึ้นเห็นด้วยเช่นกัน แต่พอยกขึ้นเห็นนิ้วกลางหายไปจึงรีบหดมือกลับคืน จากนั้นพูดขึ้นด้วยสีหน้าประจบสอพลอ “อืม...คุณชายเสว่ แน่นอนว่าข้าไม่คัดค้าน ตอนที่อยู่บนเกาะแห่งความมืดมิดข้าก็รู้แล้วว่าท่านเป็คนชอบพูดด้วยเหตุผล! ฮ่าๆ...สมบัติล้ำค่าระดับสูงสุด ผู้แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้นที่จะได้ ข้าไม่คัดค้านอย่างแน่นอน!”
“เผ่าปีศาจก็ไม่คัดค้าน!” เผ่าปีศาจก็รีบพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว ราวกับกลัวว่าหากตอบออกไปช้าอาจจะมีคนตายเพิ่มขึ้นอีก
“ฮ่าๆ...ไม่มีใครคัดค้านก็ดี เห็นไหมว่าข้าชอบพูดด้วยเหตุผล อืม...พวกเ้ายืนอยู่กับที่อย่างว่าง่ายข้ารับรองว่าพวกเ้าจะปลอดภัย” เสว่อู๋เหินลูบเส้นผมที่อยู่หน้าผากด้านหน้าอย่างสุภาพพร้อมกับรอยยิ้มที่เจิดจรัส
ผ่านไปชั่วครู่เขาหันกลับไปมองทางด้านที่คนของเขตปกครองเทพาอยู่ ดวงตาหรี่ลงแต่รอยยิ้มกลับเจิดจรัสมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมแล้วพูดขึ้น “อืม...ในเมื่อพูดถึงเหตุผล ถ้าอย่างนั้น...ข้าคิดว่าข้าคงต้องใช้เหตุผลพูดกับเหล่าผู้ยิ่งใหญ่ของเขตปกครองเทพาบ้างแล้วละ!”
เมื่อสายตาที่หรี่ลงและรอยยิ้มที่อ่อนโยนของเสว่อู๋เหินปรากฏขึ้น เหล่ายอดฝีมือของเขตปกครองเทพาทั่วทั้งร่างพลันรู้สึกหนาวสั่นขึ้น เวลานี้พวกเขารู้สึกราวกับว่าภายในูเาสุสานทวยเทพพลันมีลมหนาวของเหมันตฤดูพัดผ่านเข้ามาจนทำให้เย็นะเืเข้าไปถึงภายในกระดูก...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้