ซางจื่อพยักหน้า “คุณหนูมีเื่อะไรไหมเ้าคะ?”
“ให้เขาไปตรวจสอบดูว่าเสื้อผ้าเหมือนกันราวกับพิมพ์เดียวกันสองชุดมีหมายความอะไร”ซูเฟยซื่อสั่งการอย่างเ็า
“เ้าค่ะ” ซางจื่อรับคำก็จะถอยออกไป
แต่กลับถูกซูเฟยซื่อะโเรียกไว้ “เ้าไม่ต้องตามข้าไปแล้วไปดูว่าตระกูลหลี่มีการเคลื่อนไหวอะไรหรือไม่”
มองดูเงาร่างที่จากไปของซางจื่อ ประกายแสงในดวงตาซูเฟยซื่อกะพริบวูบครั้งนี้ก็ดูว่าใครสามารถคว้าโอกาสได้ก่อนกัน
งานเลี้ยงฉลองวันสมภพเริ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเพียงเห็นซ่งหลิงซิวทรงพระภูษาัประทับนั่งบนบัลลังก์หลักซ้ายขวาประทับด้วยซูจิ้งโหยวกับพระสนมหวินตามลำดับ
เพียงเห็นซูจิ้งโหยวสวมเสื้อคลุมยาวสีฟ้าอ่อนขับผิวพรรณเนียนละเอียดดุจเครื่องเคลือบมวยผมร้อยเรียงทัดไว้ข้างหู ใช้ปิ่นปักผมทองซึ่งฝังไพลินไว้สามอันเหน็บประดับไว้เหลือผมสีดำขลับปอยหนึ่งละไว้ตรงหน้าอก งามสูงส่งสุกใสสงบนิ่ง
เดิมคิดว่าจุดเด่นวันนี้ต้องเป็นางแน่นอนไม่คิดว่าพระสนมหวินสวมภูษาคลุมผ้าแพรสีแดงเพลิงปักดิ้นทองทั้งชุด ดอกโบตั๋นบานสะพรั่งตรงหน้าอกอย่างมีเสน่ห์บนพระเกศาร้อยด้วยพุ่มระย้าพู่ทองและโกเมน ยามแย้มยิ้มพร้อมพุ่มระย้าไหวตุ้งติ้งเหมือนนางฟ้าดอกโบตั๋นบน์อวตารลงมา
เมื่อเทียบกับพระสนมหวิน ซูจิ้งโหยวพลันเหมือนนกยูงพบหงสาสง่าราศีสดใสอะไรต่างไม่เหลือทั้งสิ้น
ซูเฟยซื่อเห็นฉากนี้ อดไม่ได้ที่จะยกริมฝีปากขึ้นเบาๆ
ดูไปแล้ววัตถุประสงค์ของการจัดงานเลี้ยงวันสมภพของพระสนมหวินในครั้งนี้ก็คือเพื่อข่มรัศมีของซูจิ้งโหยวต่อหน้าธารกำนัลให้ทุกคนรู้ว่าใครจึงเป็ผู้มีคุณสมบัติที่สุดในการเป็เ้านายของวังหลังนี้
ผู้หญิงที่สามารถเข้าวัง ไม่ได้ง่ายอย่างที่คาดไว้จริงๆ
ครั้งนี้ซูจิ้งโหยวต้องโกรธตายทั้งเป็แน่ๆ
เวลานี้เอง จู่ๆ ซูเฟยซื่อก็พบว่ามีบางอย่างผิดปกติ
ตามเหตุผลแล้ว ต่อให้หลัวฉีลี่กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่จวน ต้องรุดกลับมาทันก่อนงานเลี้ยงวันสมภพเริ่มได้แน่นอนแต่ตอนนี้ที่นั่งของนางกลับว่างเปล่า
ไม่เพียงเท่านี้ กระทั่งที่นั่งของนางแซ่หลี่ก็ว่างเปล่าด้วยนี่...
หรือว่ามีการรวมหัววางแผนอะไรกันระหว่างหลัวฉีลี่กับนางแซ่หลี่?
ไม่ เป็ไปไม่ได้ ถ้าหลัวฉีลี่เป็คนของนางเองวันนี้ซูจิ้งเถียนก็ไม่จงใจวางแผนจัดการนาง
ซูเฟยซื่อคิดไปคิดมาไม่มีผลสรุปแต่กลับไม่เชื่อว่าเื่ทุกอย่างนี้เป็เพียงความบังเอิญ
ขณะนี้ จู่ๆ มือข้างหนึ่งก็วางลงบนไหล่ของนาง
“ใครหรือ?” ซูเฟยซื่อหันไปอย่างตื่นตัว
เพียงเห็นหลี่ิ่เอ๋อร์ทั่วหน้าตื่นตระหนกมองดูนาง“ญาติน้องสาม เ้าเป็อะไรไป?”
“ข้าไม่เป็ไร” ซูเฟยซื่อตอบด้วยสีหน้าสงบ
แม้กล่าวว่านางกับหลี่ิ่เอ๋อร์เกี่ยวพันเป็ญาติกันแต่ไม่มีการคบหาไปมาหาสู่กัน
ตอนนี้ในใจนางกำลังสับสนวุ่นวายไปหมดไม่มีเวลาที่จะคุยเื่ไร้สาระกับหลี่ิ่เอ๋อร์อีกจริงๆ
“ไม่เป็ไรก็ดี ข้ายังคิดว่าทำให้เ้าใกลัวไปแล้ว”หลี่ิ่เอ๋อร์กลับกล่าวต่อไปอย่างไม่รังเกียจท่าทีของซูเฟยซื่อ
ซูเฟยซื่อขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิดบ้าง “ไม่ทราบว่าญาติพี่สาวหาเฟยซื่อมีธุระอะไรหรือไม่?”
“ความจริงข้ารู้สึกอยากไปห้องสุขาแต่ไม่รู้ว่าห้องสุขาของพระราชวังอยู่ที่ใด ข้าได้ยินว่าญาติน้องสามเข้าวังบ่อยไม่ทราบว่าญาติน้องสามสามารถไปเป็เพื่อนได้หรือไม่?”หลี่ิ่เอ๋อร์กล่าวอย่างอ้อนวอน ตาทั้งสองมองปริบๆดูท่าทางน่าสงสาร
เดิมเป็เื่ปกติมากที่ไม่รู้ว่าห้องสุขาในพระราชวังอยู่ที่ใดแต่ก็ไม่ปกติแล้วที่หลี่ิ่เอ๋อร์มาหานางเพื่อขอความช่วยเหลือ
ใครไม่รู้ว่าคุณหนูสามของจวนอัครมหาเสนาบดี เพิ่งได้รับความโปรดปรานเมื่อเร็วๆนี้ จึงมีคุณสมบัติได้เข้าวัง
ถ้าหลี่ิ่เอ๋อร์คิดหาห้องสุขาจริงๆควรให้ซูจิ้งเถียนพานางไปจึงจะถูก ไฉนจึงได้มาหานาง?
นอกเสียจากว่าจุดประสงค์ของการมาตามหานางไม่ใช่เื่นี้แต่เป็อย่างอื่น
คิดมาถึงตรงนี้ ในใจซูเฟยซื่อหัวเราะเ็าอย่างช่วยไม่ได้
มาได้กำลังดี นางกำลังกังวลไม่รู้ว่าพวกนางเล่นลวดลายอะไร
“ในเมื่อเป็เช่นนี้ ถ้าอย่างนั้นก็ไปกันเถอะ” จู่ๆท่าทีของซูเฟยซื่อเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ทำเอาหลี่ิ่เอ๋อร์เซ่อไปแล้ว
ตกลงง่ายขนาดนั้นเลยหรือ? หลังจากหลี่ิ่เอ๋อร์ได้สติกลับมาก็ดีใจจนเกือบจะะโออกมา
นางกลัวว่าซูเฟยซื่อจะเห็นพิรุธอะไรอีก รีบจับมือนางวิ่งลากออกไปจากห้องโถงจัดเลี้ยง
บอกว่าให้ซูเฟยซื่อไปหาห้องสุขากับนางแต่เท้าของหลี่ิ่เอ๋อร์กลับวิ่งอย่างรวดเร็ว ไม่ได้มองไปรอบๆ ด้วยซ้ำ
เห็นได้ชัดมากว่าในใจนางมีจุดหมายมานานแล้ว
ตามที่คาด ไม่นานนักซูเฟยซื่อก็ถูกหลี่ิ่เอ๋อร์พามาที่สวนบุปผชาติหลวง
“ญาติพี่สาว เ้าไม่ใช่้าหาห้องสุขาหรือ? ทำไมถึงพาข้ามาที่สวนบุปผชาติหลวงเล่า?”ซูเฟยซื่อแกล้งทำเป็ไม่รู้พลางถาม
“ข้าได้ยินว่าในสวนบุปผชาติหลวงมีห้องสุขามากมาย”หลี่ิ่เอ๋อร์ไม่สนว่าข้ออ้างนี้สามารถหลอกซูเฟยซื่อได้หรือไม่ชะลอฝีเท้าลงก็หันดูซ้ายขวาขึ้นมาแล้ว ราวกับว่ากำลังมองหาอะไรบางอย่าง
“โอ้” ซูเฟยซื่อตอบอย่างว่านอนสอนง่าย ตามอยู่ด้านหลังนางแกล้งทำเป็ไม่รู้อะไรเลย
“อ้า!” เป็เวลานี้เอง จู่ๆหลี่ิ่เอ๋อร์กรีดร้องเสียงแหลมขึ้นมาก้าวถอยหลังอย่างรุนแรงก็เหยียบไปบนเท้าของซูเฟยซื่อแล้ว
ซูเฟยซื่อขมวดคิ้ว เจ็บแต่ไม่ได้ปวดมากหรือหลี่ิ่เอ๋อร์พานางมาที่นี่ก็เพื่อแกล้งเหยียบเท้าของนางโดยไม่รู้ตัว?
ถ้าหากใช่ นางก็ผิดหวังกับโอกาสนี้ของพวกนางเกินไปแล้ว!
“ญาติพี่สาว เ้าเป็อะไรไป?”ระงับความไม่พอใจจไว้ซูเฟยซื่อเงยหน้าขึ้นกลับพบแววอำมหิตชั่วร้ายปราดหนึ่งที่กะพริบผ่านไปอย่างรวดเร็วในดวงตาของหลี่ิ่เอ๋อร์โดยไม่ได้ตั้งใจ
“ญาติน้องสาม...ญาติน้องสามเ้ารีบดู...”หลี่ิ่เอ๋อร์ใกลัวชี้ไปในพุ่มไม้ ร่างทั้งร่างสั่นเทิ้มไปหมด
ซูเฟยซื่อขมวดคิ้ว มองตามนิ้วที่ชี้ไปของหลี่ิ่เอ๋อร์ดวงตาทั้งสองข้างเบิกกว้างอย่างอดไม่ได้
เพียงเห็นในพุ่มไม้กำลังมีคนหนึ่งฟุบคว่ำ ดูเหมือนยังมีกลิ่นคาวเือยู่ลางๆ
นี่...คนตายแล้วหรือ?
ซูเฟยซื่อใจหวั่นไหวคราหนึ่ง ใจนเท้าสะดุดซะแล้วผลักหลี่ิ่เอ๋อร์ล้มไปกับพื้นโดยตรง
แกล้งทำเป็ไม่รู้หรือ? ใครก็ทำเป็นะ!
หลี่ิ่เอ๋อร์ถูกนางผลักใส่โดยไม่ทันระวังทันที รีบใช้มือทั้งสองข้างป้องยันพื้นไว้อย่างไม่รู้ตัวสองมือนุ่มพลันถูกหินบาดเป็รอยหลายรอยแล้ว
ถึงแม้บอกว่านางไม่ได้เป็ทองล้ำค่าแบบซูจิ้งเถียนขนาดนั้นแต่ยังเป็คุณหนูของตระกูลหลี่ด้วย ไหนจะเคยถูกคนปฏิบัติเช่นนี้มาก่อน
รู้สึกเ็ปคิดเงยหน้าขึ้นด่าซูเฟยซื่อในทันใดแต่กลับเห็นแววใและไร้เดียงสาบนใบหน้าของซูเฟยซื่อ “ญาติพี่สาว คนนี้เป็ใคร? ทำไมถึงมาล้มคว่ำอยู่ที่นี่ได้? ตายแล้วหรือไม่?”
เห็นซูเฟยซื่อเป็แบบนี้ หลี่ิ่เอ๋อร์รีบระงับความโทสะลงไป
ไม่ได้ ตอนนี้นางต้องอดทน มีเพียงอดทนจึงสามารถประสบความสำเร็จ
มิฉะนั้นถ้าล้มเหลว นางจะอธิบายให้นางแซ่หลี่ ซูจิ้งเถียนยังมีทั้งครอบครัวตระกูลหลี่ได้อย่างไร
คิดมาถึงตรงนี้ หลี่ิ่เอ๋อร์รีบลุกขึ้นจากพื้นดินจับมือซูเฟยซื่อไว้ ก็เดินไปหาคนคนนั้น “ข้าไม่รู้ด้วยเหมือนกัน เราเข้าไปดูดีหรือไม่?”
ฟังดูเหมือนกำลังซักถาม แต่การเคลื่อนไหวของนางกลับบังคับซูเฟยซื่อเข้าไป
ประกายคมกริบกระแสหนึ่งกะพริบผ่านไปในดวงตาของซูเฟยซื่ออย่างรวดเร็วดูไปแล้วครั้งนี้นางหลบไม่พ้น รีบเร่งสาวเท้าซะเลย
แต่เมื่อนางได้เห็นคนที่นอนคว่ำอยู่ในพุ่มไม้ชัดๆคิ้วก็ขมวดขึ้นมาทันที
เพียงเห็นคนนั้นสวมชุดกระโปรงยาวสีแดงกุหลาบทั้งร่างหน้าซีดเซียว ดวงตาทั้งคู่หลับสนิทเห็นได้ชัดว่าก็เป็หลัวฉีลี่ที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว
แต่ที่หน้าอกของหลัวฉีลี่ยังมีมีดสั้นเสียบคาไว้เืสดกระเซ็นเต็มเสื้อผ้าทั้งหมด ดูจากระดับการแข็งตัวของเืนางควรเพิ่งถูกแทงาเ็มาไม่นาน
ซูเฟยซื่อรีบก้าวไปข้างหน้า ใช้นิ้วตรวจสอบลมหายใจของหลัวฉีลี่ไม่มีลมหายใจแล้ว
เกิดเื่อะไรขึ้น ทำไมหลัวฉีลี่มาตายที่นี่? ใครฆ่านางกัน?
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้