“โฮก!” หลังจากผู้ฝึกยุทธ์ชุดดำแปรสภาพมาร ลมปราณก็เปลี่ยนไปแกร่งขึ้นหลายเท่าก่อนจะพุ่งเข้าหาเย่เฟิงอย่างบ้าคลั่ง
เย่เฟิงชะงักไปชั่วขณะ นี่น่าจะเป็ครั้งแรกที่เขาประมือกับผู้ฝึกยุทธ์ที่แปรสภาพมาร ทั้งยังมีจำนวนมากกว่าและอยู่จุดสูงสุดของขั้นรวมชี่ ดังนั้นเย่เฟิงไม่กล้าประมาทแม้แต่นิดเดียว พลันพลังพวยพุ่งออกจากตัวหอกัเงินประกายและผสานไปด้วยอำนาจหอกขั้นผันแปรก่อนแทงออกไปทันที
“วูบ!” รังสีหอกทะลวงทุกสิ่ง ก่อนจะพุ่งไปแทงร่างผู้แปรสภาพมารคนหนึ่ง ซึ่งหอกนี้แทงลึกมาก แต่ผู้แปรสภาพมารคนนั้นเหมือนสูญเสียการรับรู้ความเ็ปไป เขาแผดเสียงคำรามอย่างเกรี้ยวกราด แล้วก็เหวี่ยงฝ่ามือโจมตีไปที่ศีรษะของเย่เฟิง
เย่เฟิงยกมือขึ้นต้านตามมาด้วยเสียงดังปัง ฝ่ามือของผู้แปรสภาพมารคนนั้นฟาดเข้าที่แขนของเย่เฟิงเต็มแรง ด้วยพลังอันแกร่งกล้าจึงทำให้เย่เฟิงตัวสั่นสะท้านไปชั่วขณะ เท้าสองข้างจมพื้นดิน เห็นชัดว่าหลังจากแปรสภาพเป็มารพลังของพวกเขาก็เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว
ดวงตาของเย่เฟิงเผยประกายเยือกเย็น จากนั้นใช้ย่างก้าวดาวตกผีเสื้อถอยออกห่างผู้แปรสภาพมารคนนั้นพลางคิดในใจว่า “พลังของผู้แปรสภาพมารน่ากลัวมาก การป้องกันก็น่าทึ่ง ซ้ำยังมีจำนวนคนมากกว่า ข้ามิอาจปะทะตรง ๆ ได้ ต้องรีบหาจุดอ่อนของพวกเขาให้เร็วที่สุด!”
ขณะที่เย่เฟิงคิดในใจ ผู้แปรสภาพมารเ่าั้กลับกระหน่ำโจมตีเย่เฟิงอย่างบ้าคลั่ง เย่เฟิงหลบหลีกและไม่ลืมที่จะแทงหอกโจมตี ทว่าการป้องกันของอีกฝ่ายแข็งแกร่งเกินไป แม้จะถูกหอกแทงร่างก็ไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ ราวกับเป็ร่างไร้ิญญาที่เดินเพ่นพ่านได้ แต่กระนั้นการโจมตีก็บ้าคลั่งขึ้นเรื่อย ๆ
เย่เฟิงเปิดฉากต่อสู้กับผู้แปรสภาพมารหลายคน การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือด ซึ่งผู้แปรสภาพมารทุกคนถูกหอกของเย่เฟิงแทงจนร่างเป็รูพรุน แต่กลับไม่ตายเสียที ส่วนเย่เฟิงเองก็าเ็สาหัสจากการถูกอีกฝ่ายโจมตีนับครั้งไม่ถ้วน เืไหลออกมุมปากไม่หยุดสภาพดูน่าเวทนา
“ปัง!” ตอนนั้นเองมีการโจมตีหนึ่งมาเยือนเย่เฟิง ทำให้เกราะเทพาที่หุ้มร่างเย่เฟิงสั่นระริกราวกับจะแตกเสียให้ได้
“ไปให้พ้น!” เย่เฟิงแผดเสียงะโก่อนจะเหวี่ยงหมัดโจมตี ทำให้ผู้แปรสภาพมารคนหนึ่งเซถอยหลังไปหลายก้าว แต่เสียงคำรามดังออกจากปากไม่หยุด ราวกับรู้สึกไม่พอใจที่โดนหมัดของเย่เฟิงโจมตี
“ตายซะเถอะ!” เย่เฟิงแผดเสียงะโอีกครั้ง จู่ ๆ หอกแปรเปลี่ยนเป็กระบองก่อนจะควงกระบองแล้วฟาดออกไป ตามมาด้วยเสียงดังปัง ผู้แปรสภาพมารคนนั้นที่ถูกหมัดของเย่เฟิงซัดกระเด็นเมื่อครู่นี้โดนกระบองฟาดจนศีรษะแตกะเิ ก่อนร่างจะล้มลงไป
“จุดอ่อนของผู้แปรสภาพมารอยู่ที่ศีรษะ!” เย่เฟิงเห็นฉากนี้ก็ดีใจ จากนั้นเริ่มโจมตีศีรษะของผู้แปรสภาพมารทันที
“ตูม!” ไม่นานนักก็ได้ยินเสียงดังอีกครั้ง ศีรษะของผู้แปรสภาพมารคนหนึ่งถูกหมัดของเย่เฟิงซัดจนแตกะเิ จากนั้นเย่เฟิงใช้ย่างก้าวดาวตกผีเสื้อโดยอาศัยความเร็วของมันในการลงมือ และสำเร็จเกือบทุกรอบ
เวลาผ่านไปหนึ่งก้านธูป เย่เฟิงเหวี่ยงหมัดโจมตีอีกครั้ง ก่อนศีรษะของผู้แปรสภาพมารคนสุดท้ายจะแตกะเิ จนกระทั่งซากศพนอนเกลื่อนพื้น เืผสมกับสายฝนจนพื้นดินถูกย้อมด้วยเืสีแดงฉาน
“ใครกันแน่ที่้าฆ่าข้า?” เย่เฟิงถอนหายใจ ตอนนี้ทั่วร่างเขาเต็มไปด้วยาแ ทั้งยังมีเืออกตรงมุมปาก จากนั้นเย่เฟิงหมุนตัวไปมองจูเชวี่ยเว่ย ก่อนจะพบว่าอีกฝ่ายได้สติแล้ว ทั้งยังมีสภาพดูดีกว่าก่อนหน้านี้ไม่น้อย ดูเหมือนว่ายาลูกกลอนสองเม็ดนั้นจะได้ผล
ขณะนั้นจูเชวี่ยเว่ยมองมาที่เย่เฟิงด้วยความประหลาดใจ ในฐานะที่นางคือหนึ่งในสี่มหาองครักษ์แห่งอาณาจักรเว่ย นางจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าคนเหล่านี้ที่ถูกเย่เฟิงฆ่าเป็ใคร เป็ผู้ฝึกยุทธ์จุดสูงสุดของขั้นรวมชี่ที่เดินทางมาอาณาจักรจ้าวพร้อมกับพวกเขา ทว่าผู้ฝึกยุทธ์เหล่านี้กลับตายหมดเกลี้ยงเพราะถูกผู้ฝึกยุทธ์ขั้นรวมชี่ที่ 5 ฆ่าตาย ในหมู่คนเหล่านี้มีหลายคนที่ใช้ยาแปรสภาพมาร พลังต่อสู้จึงเพิ่มขึ้นหลายเท่า แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังถูกฆ่าอยู่ดี แล้วจะไม่ทำให้จูเชวี่ยเว่ยใได้อย่างไร?
เย่เฟิงเดินมาหาจูเชวี่ยเว่ย แล้วกล่าวว่า “ข้าจะพาเ้าออกไปจากที่นี่”
ขณะพูดเย่เฟิงก็อุ้มร่างจูเชวี่ยเว่ยขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะเดินออกไป
“เ้าช่วยข้าไว้หรือ?” ระหว่างทางจูเชวี่ยเว่ยเอ่ยถามเย่เฟิง แม้น้ำเสียงจะดูอิดโรย แต่กลับไพเราะน่าฟัง
“ถือว่าใช่กระมัง” เย่เฟิงพยักหน้าก่อนพูดขึ้น “เ้าาเ็สาหัส ข้าต้องหาสถานที่ที่ปลอดภัยเพื่อรักษาเ้า”
“เหตุใดเ้าถึงทำเช่นนี้? แล้วเ้ารู้หรือไม่ว่าเมื่อครู่คนที่้าฆ่าเ้าเป็ใคร?” จูเชวี่ยเว่ยได้ยินเช่นนั้นก็เม้มปากเล็กน้อยก่อนกล่าวเช่นนั้น
“ใคร?” เย่เฟิงซักถาม
“คนขององค์ชายต้าเว่ย” จูเชวี่ยเว่ยกล่าว
“เป็พวกเขาจริง ๆ ด้วย!” เย่เฟิงพึมพำ ก่อนหน้านี้ในใจเขาก็เริ่มสงสัยอีกฝ่ายแล้ว เพียงแต่ไม่มีหลักฐานมาพิสูจน์
“ฟิ้ว ๆ ๆ!” ขณะนั้นมีเสียงสายลมหลายสายดังขึ้น ก่อนจะมีลูกศรจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งมาจากที่ไหนสักที่ ทำเย่เฟิงเผยสีหน้าเย็นเยียบ จากนั้นเขาแทงหอกัเงินประกายออกไปอย่างต่อเนื่องเพื่อต้านลูกศรที่พุ่งเข้ามา
“ฟิ้ว ๆ ๆ!” ทว่าลูกศรราวกับปรากฏออกมาไม่มีที่สิ้นสุด ทั้งยังรวดเร็วเข้าขั้นร้ายกาจ
ที่หัวไหล่และเอวของเย่เฟิงถูกลูกศรโจมตีจนเืไหล ลูกศรพวกนี้ทรงพลังมาก เห็นชัดว่าถูกยิงมาจากคันธนูใหญ่ที่ทรงพลังอย่างมากเช่นกัน หากเย่เฟิงไม่มีเกราะเทพาคุ้มกายก็คงถูกลูกศรสองดอกนั้นทะลวงร่างไปแล้ว
“ไม่ต้องสนข้า ขืนเป็เช่นนี้เ้าได้ตายที่นี่เป็แน่!” จูเชวี่ยเว่ยที่อยู่ในอ้อมกอดกล่าวอย่างร้อนใจ
เย่เฟิงรู้ว่าสิ่งที่จูเชวี่ยเว่ยพูดมามีเหตุผล จากนั้นเขาใช้หอกัเงินประกายต้านลูกศร พร้อมกับถอยหลังแล้ววางร่างจูเชวี่ยเว่ยไว้ที่ใต้ต้นไม้ กล่าวว่า “ข้าพยายามจะรักษาชีวิตเ้า แต่ตอนนี้มีคน้าฆ่าข้า หากอยากมีชีวิตรอดก็ขึ้นอยู่กับเ้าแล้ว”
แววตาของจูเชวี่ยเว่ยดูสับสนงงงวย แม้จะอยากพูดบางอย่าง แต่กลับเห็นเย่เฟิงเดินออกไปแล้ว
“ฟิ้ว ๆ ๆ!” ลูกศรจู่โจมมาอย่างต่อเนื่องราวกับห่าฝน ในขณะที่เย่เฟิงหลบหลีกห่าฝนลูกศร เขาก็รับลูกศรได้หลายดอกก่อนจะปาลูกศรกลับคืนไปในทิศทางที่พวกมันพุ่งมา
“โอ๊ย” ตอนนั้นเองมีเสียงร้องหลายเสียงดังมา
ด้วยการโต้กลับของเย่เฟิงทำให้ฝ่ายตรงข้ามมีผู้ฝึกยุทธ์ตายหลายคน ทั้งยังทำให้ผู้ฝึกยุทธ์คนอื่น ๆ เกิดความหวาดกลัวและไม่กล้าซ่อนตัวต่อ พวกมันต่างปรากฏตัวแล้วพุ่งเข้าโจมตีเย่เฟิงทันที
เย่เฟิงมองผู้ฝึกยุทธ์เ่าั้ก่อนพบว่าผู้ฝึกยุทธ์เหล่านี้แตกต่างจากคนที่เว่ยฉีเทียนส่งมา ไม่ว่าจะเป็เครื่องแต่งกายหรือกลิ่นอายก็ล้วนแตกต่างชัดเจน ดังนั้นเย่เฟิงจึงแน่ใจว่าคนเหล่านี้ไม่ใช่ชาวอาณาจักรเว่ย แต่น่าจะเป็คนของบางกองกำลังที่มีความแค้นกับเขา
“ตระกูลตู๋กู ตระกูลเฉิน ตระกูลโจว จวนเซิ่งอ๋อง นิกายศักดิ์สิทธิ์เทียนยวี่ กองกำลังเหล่านี้ล้วนมีความแค้นกับข้า ไม่รู้ว่าจะเป็หนึ่งในพวกเขาหรือไม่?” เย่เฟิงคิดในใจ บัดนี้เขามีศัตรูทั่วเมืองหลวง เมื่อออกจากสำนักยุทธ์เทียนเสวียนก็ถูกจับตามองแล้ว ทั้งยัง้าให้เขาตายกันทั้งนั้น
“เย่เฟิง เ้าอยู่แค่ขั้นรวมชี่ที่ 5 แต่ไม่นึกว่าจะดึงดูดกองกำลังมากมายให้ส่งคนมาฆ่าเ้า วันนี้เ้าไม่ตายดีแน่!” พลันมีเสียงเย็นเยือกดังมาจากทิศทางหนึ่ง นาทีต่อมามีผู้ฝึกยุทธ์อีกกลุ่มปรากฏตัวพร้อมไอสังหารพวยพุ่งจากร่าง
“ในเมืองหลวงมีคนอยากฆ่าข้าตั้งเยอะแยะ แต่จนถึงตอนนี้ก็ไม่เห็นมีใครทำสำเร็จสักคน เพราะคนพวกนั้นที่อยากสังหารข้าก็ล้วนตายด้วยคมหอกของข้าทั้งสิ้น หากพวกเ้าไม่อยากตายก็ไสหัวไปซะ!” เย่เฟิงกล่าวเสียงเย็นขณะกวาดตามองคนเ่าั้ แม้เผชิญหน้ากับผู้ฝึกยุทธ์ตั้งมากมายเช่นนี้ เขาก็ยังคงสงบนิ่ง
“จะตายอยู่รอมร่อ ยังกล้าพูดจาเช่นนี้อีก วันนี้เ้าต้องตาย ฆ่าเขาซะ!” ผู้ฝึกยุทธ์คนนั้นแสยะยิ้ม แต่เมื่อสิ้นเสียงก็มีหลายเงาร่างเคลื่อนไหวพร้อมกับตวัดมีดยาว
เย่เฟิงควงหอกแล้วแทงหอกไปยังศีรษะของผู้ฝึกยุทธ์คนนั้น แต่ขณะเดียวกันมีการโจมตีสามสายพุ่งมาที่ด้านหน้าเขา ซึ่งเป็กระบวนท่าสังหารที่หมายชีวิตเขา ทว่าจู่ ๆ เขาใช้ย่างก้าวดาวตกผีเสื้อหลบหนีพร้อมกับมีพลังดาราหุ้มร่าง แผนที่ดาวขนาดใหญ่แผ่ปกคลุมทั่วพื้นที่ จากนั้นเขาแทงหอกต่อเนื่องสามครั้ง ก่อนจะมีผู้ฝึกยุทธ์สามคนถูกแทงคอหอยจนตายคาที่
“ตาย!” พลันมีรังสีดาบพุ่งมาหาเย่เฟิงจากทางซ้าย แต่เย่เฟิงยกหอกขึ้นต้าน ก่อนจะเหวี่ยงหมัดโจมตี ตามมาด้วยเสียงดังปัง ทำให้บริเวณหน้าอกของอีกฝ่ายยุบลง พร้อมกับร่างไร้ิญญาที่กระเด็นปลิวออกไป
“บุกพร้อมกัน ข้าก็อยากดูว่าเขาที่อยู่ขั้นรวมชี่ที่ 5 จะรอดจากเงื้อมมือของพวกเราไปได้อย่างไร!” ผู้เป็หัวหน้ากล่าวเสียงเย็น จากนั้นคนทั้งสองฝ่ายผนึกกำลังเป็หนึ่งเดียวกัน และฟังคำสั่งของเขาเพียงผู้เดียว เห็นชัดว่าสมรู้ร่วมคิดกันมาก่อนหน้านี้แล้ว
ผู้ฝึกยุทธ์กว่ายี่สิบคนเข้าปิดล้อมเย่เฟิง พวกเขาอยู่จุดสูงสุดของขั้นรวมชี่ แต่คนที่เป็หัวหน้าเหลืออีกแค่ก้าวเดียวก็จะบรรลุขั้นยุทธ์แท้แล้ว
กระบวนทัพเช่นนี้มาเพื่อจัดการเย่เฟิงที่อยู่ขั้นรวมชี่ที่ 5 เพียงคนเดียว ไม่ว่ามองอย่างไร เย่เฟิงก็ต้องตายอย่างแน่นอน
ดวงตาของเย่เฟิงเผยประกายคมกริบ พลังแห่งเก้าวัชรหุนหยวน ทักษะหล่อิญญา และคัมภีร์หล่อกายาเทพาพวยพุ่งออกจากร่างเย่เฟิงอย่างบ้าคลั่ง เคล็ดวิชาหอกเงินประกายแกร่งกล้า เมื่อแทงหอกจักต้องมีคนตาย
“ไม่ได้การแล้ว ขืนเป็เช่นนี้ต่อไป ข้าคงต้องตายด้วยน้ำมือของคนพวกนี้เป็แน่!”
เย่เฟิงเผยสีหน้าเย็นเยียบ อวัยวะภายในร่างกายััได้ถึงแรงกดดันมหาศาล หากต่อสู้ต่อไป พลังหยวนในกายเขาจะเหือดแห้งในอีกไม่ช้า
“หอกดุจั!” เย่เฟิงแผดเสียงะโ พลันหอกแปรเปลี่ยนเป็เทพั ก่อนจะเขมือบกินผู้ฝึกยุทธ์สองคนที่อยู่ตรงหน้า
“พรึ่บ!” เย่เฟิงฉวยโอกาสนี้ใช้ย่างก้าวดาวตกผีเสื้อหนีออกไป ก่อนจะไปถึงตัวจูเชวี่ยเว่ยในพริบตา ทำจูเชวี่ยเว่ยต้องใกับพลังที่เย่เฟิงแสดงออกมา
“ข้าจะพาเ้าออกไปจากที่นี่!”
เย่เฟิงอุ้มร่างจูเชวี่ยเว่ยขึ้นมาแล้วหนีออกไปจากที่นี่ด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ โดยไร้ซึ่งความลังเลใด ๆ
