ไม่เพียงแค่ซีเสีย กระทั่งสายตาที่ลั่วจิ่งเฉินมองนางก็เต็มไปด้วยความซับซ้อน อารมณ์หวาดกลัวของซีเสียคือสิ่งที่หญิงสาวทั่วไปพึงมี แต่เหตุใดท่านแม่จึงใจเย็นเช่นนี้ เหมือนกับว่านางรับรู้ได้ั้แ่แรกแล้ว กระทั่งการตกมาอยู่ในมือของกองโจรเลี่ยหยาง ก็เหมือนอยู่ในการคาดการณ์ของนางแต่แรกแล้วก็ไม่ปาน
แล้วยังมีท่าทีของจ้าวจือชิงก็ผิดแปลกชอบกล ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาบอกว่าคนเ่าั้ไม่ใช่คู่ต่อกรของเขาหรือว่า… ภาพหนึ่งฉายขึ้นในความทรงจำของลั่วจิ่งเฉิน เขายิ้มขมขื่น ท่านแม่เยี่ยมยอดนัก นางหารือกับจ้าวจือชิงไว้ก่อนแล้ว ถึงขั้นปิดบังเขาด้วย เขาคือคนที่แบกรับอารมณ์ไม่ไหวถึงเพียงนั้นเชียวหรือ
ท่ามกลางความเงียบของทุกคน จู่ๆ คนของกองโจรเลี่ยหยางก็จับหญิงสาวคนหนึ่งมาขังไว้ในห้องด้านข้าง
เยี่ยนรั่วซวงที่ถูกมัดมองลั่วชีเหนียงขณะที่ดิ้นรน ดวงตาพลันเบิกกว้าง จากนั้นกลัวว่าจะมีคนเห็นความผิดปกติ จึงรีบหลุบตาลง
“พวกเ้ารู้ทั้งรู้ว่าข้าเป็ใครแต่ยังกล้าจับตัวข้ามา คิดว่าพวกเ้าจะรอดกันไปได้หรือ?” เยี่ยนรั่วซวงจงใจถามเสียงดัง ดวงตาคู่สวยหวานแฝงด้วยความโกรธเคือง
คนของกองโจรเลี่ยหยางช่ำช่องการปล้นชิงทรัพย์เป็อาจิณ ทั้งเคยลักพาตัวขุนนางและเ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่มานับไม่ถ้วน สำหรับเยี่ยนรั่วซวงก็ไม่นับว่าเป็อะไร
จะว่าไปแล้วนี่คือความโชคร้ายของเยี่ยนรั่วซวงเอง นับั้แ่ได้เปิดวิสัยทัศน์กับรสชาติอาหารจากฝีมือของชีเหนียงที่อำเภอเฉาแล้ว เยี่ยนรั่วซวงก็นับถือชีเหนียงอย่างยิ่ง นางมักจะติดตามเพื่อขอคำชี้แนะจากชีเหนียงอยู่บ่อยครั้ง ต่อมาเมื่อกลับไปยังเมืองหลวง พอได้ยินว่าอีกไม่นานชีเหนียงจะมาที่เมืองหลวง นางจึงถ่อมาจากเมืองหลวงเพื่อตั้งใจมารับชีเหนียงที่เมืองอัน แต่ใครจะรู้ว่าพอนางเพิ่งมาถึงเมืองอันก็บังเอิญเจอกับเหตุการณ์ที่กลุ่มโจรจับตัวชีเหนียงกลับค่ายโจร
เมื่อเห็นนางแต่งกายไม่ธรรมดา จึงรู้ว่านางคือลูกหลานของตระกูลร่ำรวย คนของกองโจรเลี่ยหยางมีหรือจะปล่อยโชคลาภให้หลุดลอยไป เมื่อครู่ก็มีคนมาถามเื่ของนางและเตรียมส่งเบาะแสให้แก่จวนสกุลเยี่ยน
“พวกเ้ากลับมานะ! จะไปไหนน่ะ?”
เยี่ยนรั่วซวงจงใจแหกปากส่งเสียงเพื่อดึงดูดความสนใจของชีเหนียง ส่วนชีเหนียงเมื่อเห็นนางปรากฏตัวอยู่ที่นี่ก็ประหลาดใจยิ่งนัก รอจนคนเฝ้าจากไป นางจึงเดินไปทางที่เยี่ยนรั่วซวงถูกขังไว้
“รั่วซวง รั่วซวง…”
เมื่อได้ยินเสียง เยี่ยนรั่วซวงก็หันมาตอบ “ท่านน้าลั่ว ท่านน้าลั่ว ข้าอยู่นี่”
เยี่ยนรั่วซวงเห็นชีเหนียงก็ดีใจอย่างมาก ชีเหนียงมองดูท่าทางที่ไร้ซึ่งความหวาดกลัวของนางพลันก็นึกถึงตอนที่ได้เจอกันเป็ครั้งแรก ใบหน้าเปี่ยมด้วยความสง่างาม ต่อมาพอคุ้นเคยถึงได้รู้ว่านางก็เป็เด็กร่าเริงคนหนึ่ง
ชีเหนียงส่งสัญญาณให้นางเสียงเบา “อยู่ดีๆ ไยเ้าจึงมาอยู่ที่นี่ได้? แล้วถูกพวกมันจับได้อย่างไร?”
“ท่านน้าลั่ว ข้าอยากมารับท่านที่เมืองอัน ใครจะรู้ว่าพอลงจากรถม้าก็ถูกพวกมันจับตาดู ทว่าท่านน้าลั่ววางใจได้ ท่านลุงเยี่ยนก็มากับข้า หากรู้ว่าข้าหายไป ไม่แน่ว่าจะต้องมาตามหาข้าแน่”
พอเยี่ยนรั่วซวงส่งเสียง ลั่วจิ่งเฉินก็รู้สึกว่าเสียงนี้ช่างคุ้นเคยนัก โดยเฉพาะตอนที่ได้ยินคำว่าลุงเยี่ยน ดวงตาก็เสไปมองทางที่เยี่ยนรั่วซวงอยู่
นางนี่เอง! เด็กสาวที่เคยช่วยเหลือตนเองในวัดเฉิงเอิน เหตุใดนางจึงดูสนิทสนมกับท่านแม่เช่นนี้?
เมื่อได้ยินว่าเยี่ยนรั่วซวงถูกจับเพราะมาหาตัวเองชีเหนียงจึงไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไรดี
“ดีเหลือเกิน เดิมทีคิดว่าอีกหลายวันกว่าจะได้เจอท่านน้าลั่ว คิดไม่ถึงว่าวันนี้ก็ได้เจอ ท่านน้าลั่ว ข้าอยากกินขนมพันชั้นที่ท่านทำแล้ว”
เยี่ยนรั่วซวงคือนักกินตัวยง อีกทั้งรักในการทานของหวาน ่ที่อยู่ในอำเภอเฉา นางทานขนมฝีมือชีเหนียงไปไม่น้อย
“ตกลง รอออกไป ข้าจะทำพุดดิ้งน้ำตาลไหม้ให้เ้ากิน”
“พุดดิ้งน้ำตาลไหม้?” เยี่ยนรั่วซวงตาเป็ประกายทันใด “ใช่ของที่เหนียวนุ่มและรสชาติหวานเหมือนกับวุ้นผลไม้หรือไม่?”
แม้ว่านางยังไม่เคยทานวุ้นผลไม้ แต่เคยได้ยินน้าลั่วบอกว่ารสััค่อนข้างลื่นและหนึบหนับ
ทั้งสองคุยเื่ของกินราวกับไม่มีผู้อื่นอยู่ด้วย เมื่อคิดถึงใบหน้าเปล่งปลั่งของเยี่ยนรั่วซวงที่เผยความคาดหวังและดวงตายิ้มเหมือนจันทร์เสี้ยว ชั่วขณะนั้นสติของลั่วจิ่งเฉินก็ล่องลอยไปไกล
เมื่อชีเหนียงและรั่วซวงคุยกันจบ ชีเหนียงก็สังเกตเห็นว่าจิ่งเฉินเหม่อลอยอยู่ข้างๆ ดีที่ปกติแล้วเวลาอยู่บ้านจิ่งเฉินก็มักจะเป็เช่นนี้ ชีเหนียงเลยไม่สังเกตเห็นความผิดปกติใด เพียงแต่เมื่อรู้สึกตัวจิ่งเฉิงก็รู้สึกได้ว่ามือของตนเปียกไปด้วยเหงื่อชื้นๆ เต็มไปหมดซึ่งตนเองก็ไม่เข้าใจว่าเป็เพราะเหตุใด
…...
ทางด้านนี้ลุงเยี่ยนที่ไปซื้อขนมกลับมาถึงได้รู้ว่าเยี่ยนรั่วซวงหายตัวไป เขาร้อนใจจนทนไม่ไหวฉับพลันก็รีบนำป้ายจวนสกุลเยี่ยนไปแจ้งความที่เมืองอัน หลังแจ้งความลุงเยี่ยนก็ยังไม่วางใจจึงไหว้วานให้คนส่งสาส์นกลับไปแจ้งบ้านสกุลเยี่ยนที่เมืองหลวง
……
ตู้ิเจวียนที่อ่านสาส์นหัวใจแทบจะหลุดออกมาจากอก อีกทั้งสาส์นที่ได้รับพร้อมกันจากลุงเยี่ยนก็ยังมีสาส์นเรียกค่าไถ่จากกองโจรเลี่ยหยาง
สาส์นฉบับนี้ได้อยู่ในมือของนายท่านใหญ่แห่งจวนสกุลเยี่ยนเรียบร้อย ซึ่งก็คือบิดาของเยี่ยนรั่วซวง ท่านราชครูในองค์รัชทายาทองค์ปัจจุบัน
“ฮึ่ม!” เยี่ยนเซี่ยงิกำสาส์นไว้แน่นและโยนสาส์นฉบับนั้นลงอย่างเต็มแรง “กองโจรเลี่ยหยางช่างเหิมเกริมเกินไปแล้ว! หลายปีมานี้ก่อเื่วุ่นวายไม่ให้ราชสำนักได้สงบสุข กระทั่งสมรู้ร่วมคิดกับขุนนางชั่วในราชสำนักก่อเื่ทำร้ายราษฎรนับครั้งไม่ถ้วน พวกเขาช่างไม่เกรงกลัวกฎหมายและกฎ์จริงๆ!”
หลายปีมานี้ราชสำนักมักจะปรากฏเหตุการณ์ที่ลูกหลานขุนนางถูกจับตัวเรียกค่าไถ่ ส่วน่นี้เขาเองก็มีประเด็นเห็นต่างกับคนบางกลุ่ม ดังนั้นพวกเขาจึงคิดจะลงมือกับลูกสาวของตน! เยี่ยนรั่วซวงคือเด็กสาว ชื่อเสียงของสตรีนั้นสำคัญ กองโจรเลี่ยหยางถึงขั้นให้ตนเองนำทองคำหนึ่งหมื่นตำลึงไปไถ่ตัวคนที่เมืองอันในสามวันให้หลัง มิเช่นนั้นก็จะกำจัดตัวประกันทิ้ง
นี่เท่ากับไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ
เยี่ยนเซี่ยงิได้รับการหยามเกียรติอย่างสูงสุดและเดือดดาลยิ่งนัก
……
ส่วนทางด้านกองโจรเลี่ยหยาง จ้าวจือชิงฟื้นมาก็ถูกคนกลุ่มหนึ่งล้อมไว้ เขาแอบรวบรวมกำลังภายใน แม้ว่าจะไม่ลื่นไหลนัก แต่ก็ยังพอใช้งานได้ ดีที่ร่างกายของเขาแข็งแรง ทำให้ผงอ่อนแรงของคนพวกนี้ใช้ไม่ค่อยได้ผลกับเขานัก
จ้าวจือชิงหรี่ตามองดูรอบห้องและไม่เห็นชีเหนียงกับลั่วจิ่งเฉินจึงรู้ว่าตนเองถูกแยกกับพวกนางแล้ว
เพียงแต่คนกลุ่มนี้ไม่มีใครออกปาก เขาจึงไม่พูดอะไรเช่นกัน ทั้งสองฝ่ายต่างจ้องมองกันอยู่แบบนั้น
สือเลี่ยหยางคิดไม่ถึงเลยว่าจ้าวจือชิงจะอดทนอดกลั้นได้ถึงเพียงนี้ เขากวักมือเรียกเ้าสี่มา
“เ้าเป็คนออกความเห็น เื่นี้เ้าต้องจัดการเอง หากเอาไม่อยู่…” สือเลี่ยหยางทำท่าใช้มือปาดคอ เ้าสี่ย่อมรู้ความหมายดี
แต่หารู้ไม่ว่าแม้พวกเขาจะเสียงค่อยเพียงใด แต่ก็ล้วนอยู่ในสายตาของจ้าวจือชิงทั้งหมด
สือเลี่ยหยางพาคนกรูกันออกไป เ้าสี่ก้มศีรษะคำนับเพื่อส่งสือเลี่ยหยางจากไป
“เ้าช่างอดทนเก่งนัก” เ้าสี่เดินมาข้างหน้าเขา เชือกที่พันธนาการตัวเขายังไม่ถูกแก้ออก “หลายปีมานี้นี่เป็ครั้งแรกที่ข้าได้เจอคนที่เข้ามาอยู่ในค่ายโจรเลี่ยหยางแล้วยังสุขุมใจเย็นได้ถึงเพียงนี้”
จ้าวจือชิงขยับข้อมือโดยไม่เงยศีรษะขึ้น “เช่นกันเช่นกัน ความอดทนของท่านต่างหากที่เก่งกาจ”
“เ้าหมายความเช่นไร?” สายตาของเ้าสี่มองจ้าวจือชิงอย่างระมัดระวัง
เมื่อเห็นอีกฝ่ายเป็เช่นนี้ จ้าวจือชิงก็หัวเราะอย่างดูแคลน “ฮ่าฮ่า เดิมทีคิดว่าเ้าจะเป็คนประเภทใดเสียอีก คิดไม่ถึงว่าแค่นี้ก็กลัวแล้วหรือ? ก็แค่การคิดไม่ซื่อกับตำแหน่งหัวหน้ากองโจรนี้ มีอะไรน่าตื่นใกัน”
-----