สำหรับราคาของร้านขายข้อมูลทั่วไปแล้ว ข้อมูลของสมบัติล้ำค่าจะคิดตามมูลค่าของสิ่งของชิ้นนั้น แต่อย่างมากก็เก็บแค่หนึ่งส่วนร้อยเท่านั้น
บัวหิมะน้ำแข็งมีมูลค่าเก้าล้านหยกดำ การได้หัวหยวนจือสามารถเพิ่มอัตราการได้บัวหิมะน้ำแข็งจริง ดังนั้นราคาของข้อมูลดังกล่าวก็จะขายกันอยู่ที่ประมาณเก้าหมื่นเหรียญหยกดำ
แต่ว่าเถ้าแก่ร้านคนนี้ เปิดปากก็จะเอาเลยทีเดียวสามล้านเหรียญหยกดำ!
มันไม่เรียกโขกสับจะเรียกว่าอะไรได้ล่ะ?
เฮยจีดึงสีหน้าลงเลยทีเดียว “พวกเ้านี่มันร้านอะไรกันแน่ นี่มันโขกราคากันชัดๆ ?”
ถึงแม้บนตัวของิอวี่จะมีเงินอยู่เจ็ดแปดล้านเหรียญหยกดำ แต่ว่าข้อมูลแค่นี้จะให้จ่ายสามล้านหยกดำเลยมันก็น่าขำเกินไป
เถ้าแก่หัวเราะแบบแปลกๆ ทั้งสองคนนี้ดูไม่ได้มีความสามารถอะไรเลย แค่เฮยจีคนเดียว หน้าตาดูดี ร่างกายนุ่มนิ่ม แค่เสื้อผ้าก็ดูแพงมากแล้ว ดูแวบเดียวก็รู้ทันทีว่าเป็คนมีเงิน!
ในตลาดมืด ไม่ว่าเ้าจะมีฐานะอะไร ถ้าหายตัวไปในสถานที่ที่มีคนดีและคนเลวอยู่ปะปนกันแบบนี้ก็ไม่มีใครสนใจ มันถึงเป็สาเหตุที่ทำให้พวกเขาไม่เกรงกลัวอะไรเลย
ร้านเล็กอย่างร้านจุยเฟิงปกติก็ใช้ข้อมูลหาเงิน แต่ด้วยวิธีการแบบนี้ต่างหากถึงจะได้เงินมาจำนวนมาก ขอแค่เจอคนอย่างิอวี่กับเฮยจีมาสืบหาข้อมูลอะไร ก็แทบจะเหมือนเข้าถ้ำเสือ ไม่ค่อยมีจุดจบที่ดีเท่าไรนัก!
“อะไร คิดจะเบี้ยวหรือ?”
ท่าทางของเถ้าแก่เริ่มนิ่ง จากนั้นก็เห็นพวกสายสืบก่อนหน้านี้ไปปิดประตูลงกลอน แล้วล้อมิอวี่กับเฮยจีเอาไว้ เพื่อปิดทางหนีทีไล่ของพวกเขา
พลังฝีมือของของพวกสายสืบก็แค่ขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่สามเท่านั้น แต่พวกเขารวมกันมีทั้งหมดห้าคน รับมือคนหนุ่มสองคนที่อยู่ตรงหน้านั้นมันเพียงพออยู่แล้ว
เถ้าแก่ยิ้มหวานตาหยี แล้วพูดว่า “เอาเงินออกมา พวกเ้าก็จะไปได้”
“คงไม่ง่ายอย่างนั้นกระมัง?” ิอวี่มองออกทุกอย่าง เขาพูดว่า “ถ้าเราออกจากที่นี่ไปแล้วไปตามคนมาจะทำอย่างไรล่ะ? เพื่อไม่ให้ความเลวความชั่วที่เ้าทำมันหลุดออกไป ข้าว่า เ้าฆ่าเราทิ้งเลยดีกว่า”
เถ้าแก่จ้องไปที่ิอวี่ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
เขาไม่ได้ยอมรับ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ!
บรรยากาศที่น่ากลัวแบบนี้ มันทำให้เฮยจีถึงกับเสียวสันหลังแล้วก็ขนลุก ทำให้นางยื่นมือออกไปจับชายเสื้อของิอวี่ที่อยู่ใต้โต๊ะโดยไม่รู้ตัว
นางไม่มีพลังอะไรเลยในตอนนี้ การเดินทางมาถึงเมืองเสวี่ยเยวี่ยก็ว่าไม่ง่ายแล้ว แต่นางก็รู้สึกดีมาก นางไม่คิดเลยว่าจะมาเจอกับฝันร้ายแบบนี้?
ไม่นาน เถ้าแก่ร้านก็ชักสีหน้าโเี้ “เหอะๆ เ้าเดาถูกแล้ว เอาของออกมา สบายใจได้ ข้าจะทำให้พวกเ้าตายอย่างสบายที่สุด”
หลังจากที่พวกเขาสองคนตาย เถ้าแก่ก็จะให้ลูกน้องฉีกพวกเขาออกเป็ชิ้นๆ แล้วเอาไปฝังที่หลังสวนที่ไม่มีใครรู้ ดังนั้น การหายตัวไปของิอวี่กับเฮยจีในคืนนี้ มันก็จะไม่เกี่ยวอะไรกับเถ้าแก่เลย!
แต่ิอวี่กลับยิ้ม ยิ้มแบบสบายๆ เหมือนกับไม่ใช่เื่ของเขาเลย
“ข้าให้โอกาสเ้าแล้วนะ แต่ว่าเ้าไม่รักษาเอาไว้เอง” ระหว่างที่พูด ิอวี่ก็เดินลมปราณในร่างกาย กำลังคิดจะลงมือก็มีเสียงดังขึ้นมาจากด้านนอกประตู
“ก๊อกๆๆ ... ”
“ไม่ทราบมีคนอยู่ไหม? เห็นไฟยังไม่ปิด ประสกอยู่หรือไม่?”
“บ้าชะมัด!” ท่าทางของเถ้าแก่เปลี่ยนไป ในเวลาสำคัญเขาจะปล่อยให้คนมาก่อกวนได้อย่างไร? เขารีบยื่นมือออกไปเพื่อบีบคอิอวี่กับเฮยจี สายสืบอีกห้าคนก็หยิบดาบแล้วฟันไปที่ิอวี่กับเฮยจีเพื่อ้าให้พวกเขาตายทันที!
แต่ในเวลานี้เอง ิอวี่กลับโอบเอวเฮยจีเอาไว้ แล้วหลบการล้อมโจมตีของพวกเขาไปได้อย่างง่ายดาย จากนั้นก็ถอยไปยังหน้าประตู
“อะไรกัน?”
เถ้าแก่ร้านถึงกับตะลึงไป ความเร็วของิอวี่มันเหนือความคาดหมายของเขามาก เขาเห็นเงาแวบๆ ิอวี่ก็หลบออกไปได้แล้ว
ตอนนี้เถ้าแก่ร้านถึงได้เข้าใจแล้วว่า ความสามารถของิอวี่นั้นเขาจะประมาทไม่ได้เด็ดขาด เพราะมันเหนือกว่าพวกเขาหลายเท่า ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงไม่ทันแม้แต่จะแตะโดนชายเสื้อของิอวี่เลย?
เถ้าแก่ร้านเริ่มรู้สึกใจเสีย แต่อย่างไรมันก็สายเกินไปแล้ว
ิอวี่ยิ้มอย่างจนใจ เดิมเขาคิดอยากจะฆ่าทิ้งสักคนสองคน แต่หากว่ามีความเคลื่อนไหวอะไรขึ้นมาคนข้างนอกก็จะต้องบุกเข้ามาแน่ ถึงเวลานั้นพอเห็นว่าิอวี่ฆ่าคน เขาก็จะกลายเป็ผู้ร้ายแทน
พอคิดได้แบบนี้ ิอวี่ก็ถีบประตูออก เห็นเงาคนห้าคนยืนอยู่
ในบรรดาห้าคนนั้น คนด้านหน้าสุดเป็ชายหนุ่มหัวโล้น เขาไว้หนวดรูปทรงราวกับเข็ม ใบหน้าขึงขัง ตัวเหยียดตรง ร่างกายกำยำ ที่คอห้อยประคำสีดำเอาไว้
ทั้งๆ ที่อากาศหนาว แต่เขากลับสวมชุดสีเขียวเข้มบางๆ กล้ามเนื้อแขนแน่นๆ ที่เต็มไปด้วยเส้นเืทำให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง ที่เอวมีผ้าคาดสีดำ ยืนอยู่อย่างนั้นราวกับเป็กำแพงเหล็ก ทำให้รู้สึกว่าไม่ควรไปแตะต้องเลย
ด้านหลังของเขาก็เป็ชายอีกสี่คนซึ่งหัวโล้นเช่นเดียวกัน เพียงแต่ไม่ได้ดูน่ากลัวเหมือนคนที่ยืนอยู่ด้านหน้า
ชายคนที่อยู่ด้านหน้ามองเข้าไปในร้าน เห็นเถ้าแก่ร้านกับสายสืบห้าคนที่มีอาวุธในมือ กำลังรีบเก็บอาวุธอย่างลุกลี้ลุกลน
“เกิดอะไรขึ้น?” ชายคนนั้นเอ่ยปากถามด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
ชายคนนี้มีชื่อว่าลู่หยวนคง เป็หลวงจีนที่มีพลังยุทธ์ขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่เจ็ดระดับหลอมความเป็เทพ ครั้งนี้เขาพาศิษย์ของเขามา ก็เพื่อขึ้นไปบนยอดเขาเซิงหาน ท้าทายอากาศที่หนาวเหน็บ ต่อให้ไม่สามารถเก็บบัวหิมะน้ำแข็งได้ พวกเขาก็ถือว่ามาฝึกฝนเพิ่มความก้าวหน้า
ลู่หยวนคงพาคนมาถึงเมืองเสวี่ยเยวี่ยก็มาหาข้อมูลที่ตลาดมืดเลย หาอยู่นานก็มาเจอร้านนี้ที่ยังมีไฟอยู่จึงหวังว่าจะลองถามดู เขาถึงได้เลือกที่จะเคาะประตู แต่กลับมาเจอสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า
ิอวี่อธิบายว่า “เมื่อครู่เรามาหาข้อมูลของบัวหิมะน้ำแข็งกับหัวหยวนจือ เดิมคิดว่าคงแค่ไม่กี่หมื่นหยกดำเท่านั้น แต่ว่าพวกเขากลับเรียกราคาเราถึงสามล้านหยกดำ แล้วก็ลงกลอนประตูคิดจะฆ่าเราทิ้ง อาวุธในมือของพวกเขาคือหลักฐาน”
ลู่หยวนคงกับอีกสี่คนด้านหลังได้ยินดังนั้นก็มองไปที่เถ้าแก่ร้าน แล้วก็เข้าใจเื่ราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด
ิอวี่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนพวกนี้ แต่ในเมื่อลู่หยวนคงมาเจอเื่แบบนี้แล้วจะนิ่งดูดายไม่ได้
“เป็เช่นนี้จริงหรือ?” ลู่หยวนคงหน้านิ่งลง แล้วเดินไปหาเถ้าแก่ร้านกับสายสืบอีกห้าคนทันที
ถึงแม้ิอวี่จะพูดว่าคนพวกนี้คิดอยากจะฆ่าเขา แต่ลู่หยวนคงก็ดูออก ถึงแม้ิอวี่จะตั้งใจชี้นำ แต่คนพวกนี้ก็มีความคิดโลภอยากปล้นชิงทรัพย์จริงๆ
“เ้า ... เ้าจะทำอะไร ...อ๊า!”
เถ้าแก่ร้านยังคิดจะอธิบาย แต่คิดไม่ถึงเลยว่าลู่หยวนคงใช้แค่ไม่กี่หมัดก็ทำให้พวกเขาล้มไปกองกับพื้นแล้ว!
เถ้าแก่ร้านล้มไปนอนกองกับพื้น ร้องะโด้วยความเ็ป แต่สายตากลับยังมีรอยยิ้ม ที่จริงอาการของเขาไม่ได้เจ็บมากมายอะไร แต่ตอนนี้ต้องแสดงให้เ็ปที่สุดเพื่อเอาตัวรอด
“เอาล่ะ เื่นี้จบแค่นี้เถอะนะ” ลู่หยวนคงหันมาพูดกับิอวี่ พอได้ยินเถ้าแก่ร้านร้อง ในใจก็รู้สึกว่าโชคดี วันนี้คงไม่มีเื่อะไรไปมากกว่านี้แล้ว
“ข้าคิดว่าไม่”
ิอวี่กลับปฏิเสธคำของลู่หยวนคง เถ้าแก่ร้านได้ยินดังนั้น ในใจก็รู้สึกว่าแย่แล้ว แต่ก็ปลอบใจตัวเองว่า ไม่หรอก เขาคงไม่กล้า ...
แต่หลังจากนั้น ิอวี่ก็ชักกระบี่ออกมาแล้วฟันลมปราณกระบี่ออกไป เถ้าแก่ร้านกับพวกถึงกับตะลึง เพราะมันฟันตรงไปที่คอหอยของพวกเขาในทันที!
“เอ่อ ... !”
ก่อนตาย เถ้าแก่ร้านเอามือจับไปที่คอแล้วมองมาที่ิอวี่ ทำไมเขาถึงได้ลงมือเด็ดขาดขนาดนี้ แม้แต่ลู่หยวนคงที่มีอาณาจักรพลังขั้นที่เจ็ดอยู่ด้วยเขาก็ยังกล้าลงมือ!
ถ้ารู้แต่แรกว่าเป็คนเหี้ยมโหดขนาดนี้ คิดว่าเขาจะกล้าไปมีเื่ด้วยหรือ? ในใจของเถ้าแก่ร้านรู้สึกเสียใจมาก แต่ว่าเขาไม่มีโอกาสได้กินยาเสียใจอะไรอีกแล้ว คอของเขาเอนไปเล็กน้อย สายตามองไปที่เพดานแล้วก็หมดลมไปในที่สุด
เมื่อเห็นคนพวกนี้ตายไป ิอวี่ถึงรู้สึกว่าได้รับการปลดปล่อย
ก็ไม่รู้ว่าเถ้าแก่กับพวกฆ่าคนบริสุทธิ์ไปไม่รู้เท่าไร เขาทำแบบนี้ก็ถือว่าแก้แค้นให้กับดวงิญญาที่ไม่ได้รับความเป็ธรรมเ่าั้!
“สร้างเวรสร้างกรรมกันไปแล้วจะจบจะสิ้นกันเมื่อไหร่? ประสกน้อย ควรจะปล่อยวางให้อภัยบ้างนะ”
พอเห็นิอวี่ฆ่าคนไปอย่างไร้ความปราณี ลู่หยวนคงก็ขมวดคิ้ว
หลวงจีนด้านหลังของลู่หยวนคงเองก็ส่ายหน้า เมื่อได้ศิษย์พี่หยวนคงช่วยแล้วิอวี่ก็ปลอดภัย คนพวกนี้ก็แค่โลภ แต่ิอวี่กลับฉวยโอกาสสังหารพวกเขา
คนๆ นี้ โเี้เกินไปหรือเปล่า?
“ความคิดของคนออกบวชเป็อย่างไร ข้าไม่เข้าใจหรอก” อะไรที่ควรอธิบายิอวี่คิดว่าเขาก็พูดไปหมดแล้ว ในเมื่อลู่หยวนคงไม่เชื่อเขา เขาก็ไม่อยากอธิบายอะไรมากอีก มันเหนื่อยเปล่า
“อามิตตาพุทธ แรงอาฆาตของประสกน้อยนั้นหนักนัก กรรมจะตอบสนองเข้าสักวันนะ”
ิอวี่ส่ายหน้ายิ้มแล้วพูดว่า “เหอะๆ ข้ายังต้องเร่งเดินทางต่ออีก ไม่อยากโต้เถียงกับพวกท่านแล้ว”
พูดจบิอวี่ก็จะพาเฮยจีไป
“ช้าก่อนประสกน้อย”
ลู่หยวนคงในฐานะนักบวชชั้นสูง เขามีการอบรมและการศึกษาที่ดี เขาไม่ได้เสียมารยาทพื้นฐานไปเพียงเพราะิอวี่ลงมือโเี้ เขายังคงถามด้วยความมีมารยาทอย่างมากว่า “เมื่อครู่ได้ยินประสกน้อยพูดว่าท่านมาเพราะบัวหิมะน้ำแข็งและหัวหยวนจือ เราเองก็จะไปหามันเช่นกัน ประสกน้อยบอกข้อมูลให้เราได้ทราบด้วยได้หรือไม่?”
เพราะลู่หยวนคงช่วยิอวี่เอาไว้ แล้วหัวหยวนจือก็มีคนที่มีความสามารถสูงได้ไป ิอวี่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เลยบอกข้อมูลที่เขาได้มา
พอได้ยินข้อมูลของหัวหยวนจือ หลวงจีนทั้งสี่คนด้านหลังของลู่หยวนคงก็รู้สึกตื่นเต้น ถึงแม้พวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าจะได้ใช้หัวหยวนจือ แต่หากศิษย์พี่ลู่หยวนคงของพวกเขาได้ใช้ ไม่แน่ว่าอาจจะสามารถขึ้นไปถึงยอดเขา และนำบัวหิมะน้ำแข็งมาก็ได้!
ลู่หยวนคงคำนับแล้วพูดว่า “ขอบคุณประสกน้อยมากที่ให้ข้อมูลที่มีประโยชน์กับเราขนาดนี้ ในเมื่อเราก็ไปทางเดียวกัน เราไปด้วยกันดีไหม ถือว่าเป็การตอบแทน เราเองก็จะคุ้มกันความปลอดภัยให้กับประสกน้อยทั้งสองด้วย”
ระหว่างที่พูด ลู่หยวนคงก็มองไปที่เฮยจี เขาเป็ถึงผู้แข็งแกร่งขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่เจ็ดระดับหลอมความเป็เทพ พลังััหยั่งรู้เขาสูงมาก ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเฮยจีเป็หญิงที่แต่งกายเป็ชายล่ะ
ลู่หยวนคงเป็นักบวช เขาไม่ได้มีความคิดเชิงชู้สาวเลย แต่คนออกบวชยึดถือความมีเมตตา ทุกชีวิตล้วนแต่สมควรได้รับการปกป้อง ิอวี่ความสามารถยังต่ำนัก มันเลยทำให้เขารู้สึกเป็กังวลเื่ความปลอดภัยของเฮยจีขึ้นมา
ดังนั้น การคุ้มกันิอวี่กับเฮยจีไปส่งให้ถึงที่ ก็ถือเป็การทำความดีอย่างหนึ่ง
......
ผ่านไปสองชั่วยาม
ในค่ำคืนที่หนาวเย็น ลมพัดส่งเสียงหวีดหวิว บนยอดเขาหิมะทางชายแดนทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองเสวี่ยเยวี่ย
บริเวณเชิงเขาใต้ต้นไม้ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะแห่งหนึ่ง มีหิมะก้อนใหญ่ตกลงมาจากบนต้นไม้ ซึ่งตรงบริเวณนั้นมีเงาของคนหลายคนกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด มีการปะทะอาวุธกันอย่างรุนแรง ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นและมีลมแรงยามค่ำคืนอันมืดมิดแบบนี้
การต่อสู้ดำเนินต่อไป มีต้นไม้หลายต้นโค่นล้มลงอย่างต่อเนื่อง!
แล้วในกระโจมสีดำที่ห่างออกไปสองลี้ ก็มีเงาคนอีกหลายคนกำลังเดินทางมา
พวกเขาก็คือพวกของลู่หยวนคงที่พาิอวี่กับเฮยจีมา หลังจากเดินทางกันมาสองชั่วยาม ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงยังเชิงูเาหิมะ
ทุกคนไม่ได้เข้าไปใกล้บริเวณนั้น แต่หลบอยู่หลังโขดหินก้อนใหญ่ แล้วรออยู่อย่างเงียบๆ ประมาณหนึ่งก้านธูป
หลังจากที่แน่ใจว่าคนฝั่งนั้นไม่ได้เห็นพวกเขา ลู่หยวนคงก็เพ่งเล็งสายตา แล้วพูดคำว่า “เพ่ง” ออกมา
สมาธิทั้งหมดเข้าสู่จิต ดวงตาหยั่งรู้เปิดออก!
เพราะลู่หยวนคงมีขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่เจ็ดแล้ว พลังจิตของเขาจึงแข็งแกร่งมาก แค่การใช้ดวงตาหยั่งรู้ พลังการรับรู้ก็แข็งแกร่งกว่าศิษย์น้องที่อยู่ในระดับกระชากิญญาไม่รู้กี่เท่า