บทที่ 110 ิญญาไฟหยางศักดิ์สิทธิ์
“หลับหรือ? ผู้าุโ ท่านหมายความว่า...เสี่ยวหวงยังไม่ตาย มันยังสามารถกลับสู่สภาพเดิม กลับมามีชีวิตได้ใช่หรือไม่?”
“เสี่ยวหวง? นี่คือชื่อที่เ้าเปลี่ยนให้เ้าตัวเล็กหรือ? ก็เหมาะสมดี ใช่ มันจะกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ส่วนจะฟื้นขึ้นมาอย่างไรข้าไม่อาจรู้ได้”
“ไม่สำคัญ ตราบใดที่ยังมีความหวังในการฟื้นตัวก็ไม่สำคัญแล้ว”
เมื่อได้ยินคำพูดของลูกไฟ ฉู่อวิ๋นก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ความไม่สบายใจก็บรรเทาลงเล็กน้อย แม้ว่าโอกาสจะน้อยนิด แต่ก็ยังมีวิธีที่จะฟื้นคืนเสี่ยวหวงกลับมา
สัตว์ปีศาจตัวน้อยนี้เสียสละมามากเกินไป ฉู่อวิ๋นตัดสินใจแล้วว่าหากภายหน้าเสี่ยวหวงตื่นขึ้นมา เขาจะต้องป้อนยาดีๆ หาแกนสัตว์อสูรหายากมาให้มัน ต่อให้ต้องกำมันไว้ในมือเขาก็จะพามันไปด้วยทุกที่!
“ไม่สิ!” ทันใดนั้น ฉู่อวิ๋นก็สะดุ้งและนึกถึงเื่สำคัญขึ้นมาได้ ดังนั้นเขาจึงชี้ไปที่ลูกไฟอย่างรวดเร็วและพูดว่า “ผู้าุโ! ข้าหมดสติไปนานแค่ไหนแล้ว!? หรือจะบอกว่า ั้แ่ข้าเข้ามาจนถึงตอนนี้เวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว?”
ในวันนั้น ครั้งที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันของป่าสนธยา ก็เหลือเวลาเพียงไม่ถึงสองสัปดาห์ก่อนที่ฉู่ซินเหยาจะถูกบังคับให้แต่งงาน
ฉู่อวิ๋นกังวลมาก หากเขาพลาดโอกาสนี้ไป ก็คงเสียเปรียบจนไม่เหลือสิ่งใด
ลูกไฟเล็กๆ นั่นดูสงบมาก มันพูดช้าๆ “เ้า เ้าน่าจะหมดสติไปได้สักวันหรือสองวันกระมัง? ข้าผู้เฒ่าแทบจะไม่รับรู้เกี่ยวกับเื่วันเวลาเลย ถ้าไม่ใช่เพราะก่อนหน้านี้ิญญาไฟศักดิ์สิทธิ์จะออกไปดึงดูดิญญาเปลวไฟวันเว้นวัน ข้าก็คงบอกไม่ได้จริงๆ”
“วันสองวัน... โชคยังดี…” ฉู่อวิ๋นคล้ายโล่งใจ ดูเหมือนว่าิญญาศักดิ์สิทธิ์จะมีประโยชน์กับเขาอย่างมาก ใช้เวลาเพียงชั่วครู่ในการดูดซับพลังไฟ เขาก็สามารถฟื้นตัวได้ในระยะเวลาสั้นๆ
หากสามารถดูดซับิญญาศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดนี่ได้ ความแข็งแกร่งจะเพิ่มขึ้นถึงเพียงใดกัน?
ดวงตาของฉู่อวิ๋นเป็ประกาย และทันใดนั้นเขาก็ตั้งตารอคอย!
แต่ทว่าการดูดซับิญญาศักดิ์สิทธิ์นั้นเกี่ยวข้องกับความเป็ความตาย หากไม่ระวังอาจเกิดหายนะขึ้น ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยเห็นพลังของเสาเพลิงศักดิ์สิทธิ์ แค่เพียงคลื่นอากาศก็สามารถทำลายป่าใหญ่ให้ราบเตียนได้ทันที
อีกอย่าง แม้เขาจะได้เข้ามาในพื้นที่ิญญาศักดิ์สิทธิ์ที่ปลอดภัยอย่างยิ่ง แต่เขาก็ยังต้องรีบไปช่วยฉู่ซินเหยาที่เมืองชุยเสวี่ยน เวลาไม่เคยรอใคร หนทางสู่การกลับไปยังโลกเดิมก็เป็ปัญหาใหญ่เช่นกัน
ดังนั้น เพื่อให้เข้าใจชัดเจนยิ่งขึ้น ฉู่อวิ๋นจึงถามลูกไฟน้อย “ผู้าุโ ผู้น้อยขอบังอาจล่วงเกิน ในเมื่อท่านสามารถเข้ามาได้ ก็ควรจะออกไปได้นี่? แล้วเหตุใดท่านถึงกลายเป็ร่างิญญาและถูกขังอยู่ที่นี่เล่า?”
หลังจากได้ยินเช่นนี้ ลูกไฟน้อยก็หยุดนิ่งอยู่กลางอากาศ ราวกับนึกถึงความทรงจำที่ไม่อาจทนได้ ประกายแสงส่องสว่าง
หลังจากนั้นไม่นาน ลูกไฟน้อยก็พูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นสะท้านเล็กน้อย “เฮ้อ! เฮ้อ! เฮ้อ! พริบตาแห่งความโลภ พริบตาแห่งความโลภ!!"
“ในชีวิตนี้ของข้า ข้าทำความดีมามากมายนับไม่ถ้วน พลังโดดเด่นไร้เทียมทาน สมญานามับินหน้าหยก โยวกูจื่อ! ับินหน้าหยก! เ้าเคยได้ยินหรือไม่?”
“ขอภัยที่ผู้น้อยไม่รู้ความ... ไม่เคยได้ยิน”
“เช่นนั้นก็ถูกแล้ว นี่เป็ข้อพิสูจน์ว่าข้าติดอยู่ที่นี่มานานมากพอแล้ว——!!!”
ลูกไฟดวงนี้ชื่อ โยวกู่จือ มันล่องลอยฉวัดเฉวียน ก่นด่าไม่หยุดหย่อน ดูตื่นตระหนกอย่างมาก ก่อนจะะโ “ในตอนนั้น ข้าผู้นี้ควบคุมลมเมฆ เป็ใหญ่ในสี่สมุทร ไม่มีผู้ใดไม่รู้ ไม่มีผู้ใดไม่ทราบ!"
“แม้แต่ผู้เป็ะจากสำนักโด่งดังเ่าั้ยังต้องสั่นสะท้านเมื่อเห็นข้า! ช่างสง่างามเหลือเกิน!”
“น่าเสียดาย น่าเสียดาย! ข้าทำผิดไปเื่เดียว แค่เื่เดียวเท่านั้น! แล้วทุกอย่างก็จบลง! ข้าไม่ควรโลภในิญญาศักดิ์สิทธิ์นี้จริงๆ ข้าไม่ควรโลภมันเลยจริงๆ! ข้าเกลียดจะตายอยู่แล้ว ! อ๊าก--!”
ลูกไฟน้อยหมุนวนอย่างรวดเร็ว มันตื่นตระหนกมาก ฉู่อวิ๋นเองก็พูดอะไรไม่ออก
เขาสามารถจินตนาการได้ว่าหากร่างิญญานี้ยังมีชีวิตอยู่ มันจะเป็ชายชราที่ฉุนเฉียวและหยิ่งผยองอย่างแน่นอน ตอนเร่งรีบก็ะโขึ้นดึ๋งดั๋ง ตอนโกรธก็เป่าเคราฟู่ๆ
“ผู้าุโ ท่านใจเย็นก่อน มีเื่อันใดท่านก็ค่อยๆ พูด…” ฉู่อวิ๋นแนะนำ
“ใจเย็น? ใจเย็นอย่างไรไหว?! สามปี สามปีแล้วก็สามปี หลังจากสามปีก็ยังเป็สามปี เกือบจะพันปีแล้วเ้าหนู!” โยวกู่จื่อทั้งเศร้าทั้งโกรธจนน้ำตาไหล แน่นอนว่าน้ำตาที่ไหลออกมานั้นก็คือประกายแสง
“คำพูดเหล่านี้คุ้นเคยยิ่งนัก เหมือนข้าจะเคยได้ยินมันที่ไหนสักแห่ง…” ฉู่อวิ๋นหลั่งเหงื่อเย็นเยียบ แต่เมื่อเห็นว่าลูกไฟน้อยกำลังจะะเิตัวเองด้วยความโกรธ เขาจึงกล่าวเสริมอย่างรวดเร็ว “ไม่เป็ไร ผู้าุโ ท่านพูดต่อเลย...”
โยวกู่จื่อแค่นเสียงอย่างเ็าด้วยความเย่อหยิ่ง และพูดต่อ “ในตอนนั้น ข้าอาศัยการฝึกฝนิญญาที่ยอดเยี่ยมของข้าพิชิตผู้แข็งแกร่งเ่าั้ อนาคตไร้ขอบเขตคอยจำกัด!”
“ตอนนั้น ข้าบังเอิญเดินผ่านป่าเวรนี่ ด้วยความหยั่งรู้อันล้ำลึก ข้าจึงค้นพบความแปลกประหลาดใจกลางป่าทึบแห่งนี้ทันที ที่นี่ยังมีอีกมิติหนึ่ง!”
“ข้าจึงหยิบอาวุธวิเศษอวกาศอันล้ำค่าออกมาจัดการขวากหนามตามเส้นทางและเข้ามาที่นี่ แต่ทันทีที่เข้ามา ข้าก็ใมาก ์! เคราะห์ร้ายดวงนี้พุ่งเข้าโจมตีข้าเข้าแล้ว! ที่นี่มีกลุ่มิญญาไฟหยางศักดิ์สิทธิ์ที่ยังไม่กำเนิดอยู่!"
“ิญญาไฟหยางศักดิ์สิทธิ์?” ฉู่อวิ๋นเริ่มสนใจขึ้นมา
“ถูกต้อง สิ่งเล็กๆ พวกนี้เรียกว่าิญญาไฟหยางศักดิ์สิทธิ์ มันเกิดจากการรวบรวมพลังของดวงอาทิตย์ เป็หยางที่แข็งแกร่งและทรงพลังที่สุด อีกทั้งในบรรดาิญญาไฟศักดิ์สิทธิ์ มันก็เป็สิ่งที่หยิ่งผยองที่สุดอีกด้วย!” โยวกู่จื่อพูดอย่างตื่นเต้น!
“ิญญาไฟศักดิ์สิทธิ์มีหลายประเภท?”
“ใช่ เ้าต้องรู้ว่าสิ่งนี้นั้นกำเนิดอย่างอัศจรรย์ โดยทั่วไปมีิญญาศักดิ์สิทธิ์มากกว่าหนึ่งประเภท สำหรับิญญาไฟศักดิ์สิทธิ์นั้นมีไฟ์ ไฟพื้นพิภพ ไฟสายฟ้า ไฟนรก มากมายหลายประเภท และไฟหยางนั้นแข็งแกร่งที่สุด สิ่งสำคัญที่สุดคือในเวลานั้นมันยังอยู่ใน่เริ่มต้นและง่ายต่อการดูดซับ!”
“หากข้าสามารถดูดซับมันได้สำเร็จ พลังิญญาของข้าก็จะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวะโ แม้แต่ราชันมนุษย์ก็ไม่ต้องกลัวด้วยซ้ำ! ดังนั้น ข้าจึงไม่ลังเลเกี่ยวกับเื่นี้เลย”
“แต่ว่า! เพียงเพราะการตัดสินใจที่หลอกลวงนี้ ข้าถึงกับต้องทำลายกายารูปธรรมของตัวเอง! บัดซบ! แม้ว่าเ้าตัวน้อยที่ร้ายกาจนั้นจะดูสงบมาก แต่ก่อนที่ข้าจะได้แตะต้องมัน มันก็เผาไหม้ขึ้นมาอย่างรุนแรง ข้าประมาทไปเพียงครู่เดียวก็ถูกละลายตายไปในทันที! น่าขยะแขยงนัก!”
หลังจากได้ยินเช่นนั้น ิญญาไฟหยางศักดิ์สิทธิ์วัยเยาว์ที่อยู่เหนือแท่นบูชาก็ล้มตัวลง ดูร่าเริงมาก และคล้ายกำลังหัวเราะ
“ผลก็คือ ร่างกายของข้าถูกทำลาย และแม้แต่อาวุธวิเศษอวกาศก็ถูกเผาทิ้ง! ทำได้เพียงกลายเป็ิญญาเล็กๆ ที่หลงเหลืออยู่ และติดอยู่ที่นี่เป็เวลาพันปี! พันปี!”
เมื่อมาถึงจุดนี้ โยวกู่จือก็หล่นลงกับพื้นด้วยความโกรธและเสียใจอย่างมาก โดยมีสะเก็ดแสงปลิวไปรอบๆ ราวกับว่าเขากำลังร้องไห้
“ผู้าุโ ท่านอย่าตื่นกลัวไป ข้าเข้าใจท่าน” ฉู่อวิ๋นถอนหายใจและ้าตบไหล่โยวกู่จือ แต่พบว่าผู้าุโคนนี้เป็เพียงลูกไฟเล็กๆ ดังนั้น ฉู่อวิ๋นจึงทำได้เพียงแตะสะเก็ดแสงเ่าั้อย่างปลอบโยนแทน
“นี่ ไอ้หนู! นั่นคือพลังิญญาของข้า อย่ามาแตะเล่นนะ เจ็บแทบตาย!” โยวกู่จือขู่
ฉู่อวิ๋น “...”
ทันใดนั้น โยวกู่จือก็ลุกขึ้นอีกครั้งและพูดว่า “โชคดีที่ยังมีไข่ฟองหนึ่งอยู่ ถ้าไข่นี้ไม่ฟักออกมาเป็สัตว์ปีศาจ คอยฟังข้าพูดพล่ามถึงเื่ภายนอก เกรงว่าข้าคงฆ่าตัวตายไปนานแล้ว!"
“สัตว์ปีศาจ? ท่านหมายถึงเสี่ยวหวงหรือ?” ฉู่อวิ๋นถาม
“ใช่ เ้าตัวเล็กนั่นนั้นถือกำเนิดขึ้นหลังจากิญญาของข้าถูกขังอยู่ที่นี่ห้าร้อยปี เพิ่งเรียนรู้การใช้พลังแห่งเวิ้งว้างได้ก็หลบหนีออกจากสถานที่ภูตผีแห่งนี้ แอบออกไปเล่น”
“แต่เมื่อขอให้มันพาข้าออกไปด้วย มันก็ส่ายหัวทุกครั้ง ดูเหมือนว่ามันจะไม่สามารถขนย้ายสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ยกเว้นตัวมันเอง” โยวกู่จือพูดอย่างหงุดหงิด
“นำสิ่งมีชีวิตอื่นผ่านความเวิ้งเวิ้งมาไม่ได้ แล้วเหตุใดมันถึงพาข้าเข้ามาได้เล่า?” ฉู่อวิ๋นสับสน ในตอนนั้นที่เสี่ยวหวงใช้เกราะอากาศก็ใกล้จะสิ้นพลังแล้ว ย่อมไม่อาจพาเขาเข้ามาได้
“เฮ้อ! สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับิญญาไฟหยางศักดิ์สิทธิ์!” โยวกู่จือกระแอมอีกครั้งและอธิบายว่า “เ้าหนูนี่จะออกไปดึงดูดิญญาเปลวไฟทุกค่ำ แต่หัวขโมยเช่นมันเพื่อหลอกตาผู้คนแล้วจึงปรากฏกายเพียงครู่เดียว”
“ในยามนั้น พื้นที่นี้จะเชื่อมต่อกับโลกภายนอกและสามารถเข้าออกได้ แต่เมื่อสองวันก่อน ิญญาไฟหยางศักดิ์สิทธิ์รู้สึกเหมือนว่ามันเกือบจะเสร็จแล้ว ดังนั้นจึงเชื่อมต่อกับโลกภายนอกอีกครั้ง ดูดซับิญญาเปลวไฟที่รวมตัวกันบนท้องฟ้าอย่างบ้าคลั่ง และปล่อยให้มันเข้าสู่่วัยทารกได้สำเร็จ”
“ตอนนั้น เ้าตัวน้อยนั่นห่อหุ้มเ้าด้วยพลังแห่งความเวิ้งว้าง จากนั้นก็เข้ามาที่นี่อย่างรวดเร็ว”
เมื่อได้ยินดังนั้น ฉู่อวิ๋นก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามว่า “โอ้? ในเมื่อิญญาไฟหยางศักดิ์สิทธิ์นี้เชื่อมต่อกับโลกภายนอกทุกวัน ซ้ำเมื่อสองวันก่อนยังเชื่อมต่อกันอยู่นาน เหตุใดในตอนนั้นผู้าุโถึงไม่ถือโอกาสหนีไปหรือ?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ โยวกู่จือก็โกรธขึ้นมาอีกครั้ง เขาเสียใจอย่างยิ่ง และพูดว่า “เ้าคิดว่าข้าไม่อยากหรือ?! ข้าเป็เพียงร่างิญญาเล็กๆ ที่ไม่สมบูรณ์! ในอดีตมันเป็เพราะตามความเร็วไม่ทัน แต่วันก่อน...”
“แต่วันก่อน! เป็ิญญาศักดิ์สิทธิ์เวรนั่นต่างหากที่ไม่ยอมปล่อยข้าไป! ตอนนั้นมันดูดซับิญญาเปลวไฟในอากาศเพื่อการพัฒนา ในขณะเดียวกันมันก็ผูกร่างิญญาของข้าไว้กับแท่นบูชา!”
“ให้ตายเถอะ! อย่างไรเสียข้าก็เคยเป็นักพรตมีชื่อเสียง แต่ตอนนี้กลับถูกกลุ่มิญญาศักดิ์สิทธิ์ที่ยังไม่พัฒนาเลี้ยงไว้เป็สัตว์เลี้ยง ช่างน่าหงุดหงิดจริงๆ!”
“อา! โลกภายนอกช่างสวยงาม! อา! อากาศภายนอกต้องสดชื่นมากแน่! ข้าผู้เป็นักพรตผู้กล้าหาญกลับมาตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ได้ ์อิจฉาผู้รุ่งโรจน์ ์อิจฉาผู้รุ่งโรจน์!”
“แต่ตอนนี้เ้าตื่นขึ้นมาก็ดีแล้ว! ตอนนี้ข้ารอดแล้ว ข้ารอดแล้ว! ฮ่าๆๆ--!”
“ผู้าุโ... ใจเย็นๆ ท่านค่อยๆ พูดได้หรือไม่…” ฉู่อวิ๋นโน้มน้าวอีกครั้ง
จากคำพูดของโยวกู่จือ ฉู่อวิ๋นได้ข้อมูลมามากมาย และคำถามในอดีตของเขาหลายข้อก็ได้รับความกระจ่าง
แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ทำอะไรไม่ถูก ชายชราคนนี้ดูเหมือนจะหดหู่ใจมาก เขา้าระบายความคับข้องใจทั้งหมดที่อัดแน่นอยู่ในจิติญญามาหลายปีออกมาในคราวเดียว
แต่ฉู่อวิ่นยังคงมีเหตุผล เขาถามต่อ “ในเมื่อผู้าุโบอกว่าเมื่อข้าตื่นขึ้นมาก็รอดแล้ว แล้ว... เราจะออกไปอย่างไรหรือ? ข้าควรทำอย่างไร?”
“หือ ออกไปอย่างไรหรือ?” เมื่อได้ยินเช่นนี้ โยวกู่จือก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากครุ่นคิดอยู่นานเขาก็พูดอย่างใจเย็น “ข้าไม่รู้ สิ่งที่ข้าหมายถึงเมื่อครู่ คือในที่สุดก็มีคนมาคุยกับข้าได้แล้ว”
ฉู่อวิ๋น “...”
โยวกู่จือ “...”
“ผู้าุโ...”
“หืม?”
“ท่านพูดมาตั้งมาก แต่สุดท้ายแล้วความหมายของท่านคือ... ท่านก็ไม่รู้ว่าจะออกไปได้อย่างไรหรือ?”
โยวกู่จือเงียบงัน และแสงเล็กๆ ของเขาก็เริ่มสลัว หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็พูดว่า “หืม? ดูท่าจะใช่นะ เ้าหนู ความสามารถในการเข้าใจของเ้าไม่แย่ ได้คะแนนเต็ม”
“ไม่มีวิธีอื่นแล้วจริงๆ หรือ?” ฉู่อวิ๋นถามซ้ำอีกครั้งอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“เ้าหนู ถ้าข้ารู้วิธีออกไป ข้าจะยังติดอยู่ที่นี่เป็พันปีหรือ? รู้หรือไม่ว่าการอยู่คนเดียวมันเป็อย่างไร? รู้หรือไม่ว่าความโดดเดี่ยวมันเป็อย่างไร? ถ้าเ้าสนใจ ข้าจะเล่าให้เ้าฟังพันเื่ในหนึ่งคืน”
โยวกู่จือร่ำร้อง น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและโกรธแค้น คับข้องใจจะตายอยู่แล้ว
“สิ่งที่ท่านพูดก็มีเหตุผลดี... ข้าไม่มีคำจะพูดอีก” ฉู่อวิ๋นจะเป็ลม ยกมือขึ้นมากุมขมับอย่างรู้สึกหมดหนทาง ทรุดตัวลงกับพื้น เขาต้องติดอยู่ที่นี่ไปตลอดชีวิตหรือ?
ไม่อาจยอมรับได้!
แต่โยวกู่จือคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “เอ๊ะ? ไม่สิ... ใช่ว่าจะไม่มีวิธี...”
“วิธีอะไรหรือ?!” ฉู่อวิ๋นสะดุ้งขึ้นมาทันที
“ไปกลืนไฟเวรนั่นซะ!”