เหตุการณ์ในหมู่บ้านแห่งนี้ราวกับถูกแช่แข็ง ท่ามกลางฝนตกหนัก ชายสวมหน้ากากชุดดำพร้อมกระบี่สีทองในมือ ยืนอยู่ข้างหลังหลี่เฟิงที่ถูกฟันจนแขนขาด ส่วนตัวหลี่เฟิงเองก็อ้าปากร้องด้วยความเ็ป เพราะมันไม่ใช่สิ่งทั่วไปที่คนเราจะทนเ็ปได้
ข้างหน้าหลี่เฟิงเป็เด็กหนุ่มที่ใบหน้ามีแผลไฟไหม้เบิกตากว้างท่ามกลางสายฝน ขณะนี้อารมณ์ในใจของเด็กหนุ่มยากจะสงบลงได้ และมันก็พลุ่งพล่านมากขึ้นกว่าเดิมด้วยความตื่นเต้น
ผู้ฝึกวรยุทธ์ต้องห้าวหาญเช่นนี้!
เืที่สาดกระเซ็นถูกพายุฝนชะล้างออกไปอย่างรวดเร็ว เหลือร่องรอยเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เย่เฟิงยกมือขวาและจ่อกระบี่สีทองที่คอของหลี่เฟิง
“คนจากสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติอย่าขยับดีกว่านะ ไม่อย่างนั้นกระบี่เล่มนี้อาจตัดคอเ้านี่ขาดได้ทันที และฉันก็พูดจริงทำจริงด้วย” เย่เฟิงเอ่ยอย่างเ็าเพื่อควบคุมหลี่เฟิงที่แขนขาด
สมาชิกของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติมากกว่ายี่สิบคนเข้าสู่ภาวะระวังภัยขั้นสูงทันที แต่หัวหน้าทีมอยู่ภายใต้การควบคุมของศัตรู จึงยังไม่มีใครกล้าลงมือ
ผู้ฝึกวรยุทธ์ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างอยู่ในอาการอกสั่นขวัญแขวน หลี่เฟิงคนคลั่งแห่งสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติถูกใครบางคนฟันจนแขนขาดนับว่าเป็เื่ใหญ่! ยิ่งกว่านั้นหากมีใครเสียชีวิต ยุทธจักรคงโกลาหลแน่นอน
“ทุกคนล้อมตัวมันไว้!” หลี่เฟิงกัดฟันข่มความเจ็บขณะออกคำสั่งเสียงดังลั่น
ทหารของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติปฏิบัติตามคำสั่งและล้อมเป็วงกลมทันทีพร้อมกับเล็งปืนไปที่เย่เฟิงซึ่งยืนอยู่กลางวงล้อม
“แกคิดจะทำอะไร ไม่อยากมีชีวิตแล้วงั้นหรือ?” เย่เฟิงหรี่ตามองพลางกำกระบี่ในมือแน่น หลี่เฟิงคนนี้บ้าไปแล้วหรือ?
“หึ หึ หึ......” หลี่เฟิงยิ้มหยัน “อย่างแกน่ะเหรอ... จะฆ่าฉัน? หากแกฆ่าฉัน แกก็ไม่มีทางรอดอยู่ดี ฮะฮะฮ่า...”
เขายกแขนอีกข้างที่ยังใช้การได้ดีเพื่อออกคำสั่งให้สมาชิกของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติยิงเย่เฟิงทันที เขาไม่้าจับเป็อีกฝ่าย แต่้าจบชีวิตฝ่ายตรงข้ามลงเสียตรงนี้
อาจเพราะเขามีความแค้นต่อเหล่าผู้ฝึกวรยุทธ์ั้แ่ไหนแต่ไร และมันมากเสียจนเขาไม่อาจเจรจาอย่างประนีประนอมกับคนเหล่านี้ได้!
“งั้นแกก็ไปลงนรกซะ” ประกายเย็นเยือกปรากฏขึ้นในดวงตาของเย่เฟิง
เขาเพียงเชื่อฟังหลงหว่านเอ๋อร์ เธอไม่อยากให้ยุทธภพต้องวุ่นวาย แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่กล้าสังหารหลี่เฟิง ในเมื่อจะใช้กระบี่แก้ปัญหา เขาจะใช้ย่างก้าวไร้เงาระดับสองซึ่งเร็วพอจะคว้าตัวหลงหว่านเอ๋อร์แล้วหลบหนีจากการไล่ล่าของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ!
และผลจากการใช้ทักษะอำพรางตา สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติไม่มีทางหาหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าเื่นี้เกี่ยวข้องกับเย่เฟิงและหลงหว่านเอ๋อร์ได้แน่นอน
ขณะที่เย่เฟิงจะใช้กระบี่ในมือสังหารหลี่เฟิงกลับหยุดชะงักลง เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยทว่าจริงจังดังขึ้น
“ทุกคนหยุดเดี๋ยวนี้!” ตรงทางเข้าหมู่บ้าน ปรากฏของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติอีกหน่วยหนึ่งซึ่งอยู่ภายใต้การนำของเหลยิกำลังวิ่งเข้ามาด้วยท่าทีขึงขัง
ในสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ ถ้าหลี่เฟิงเป็พวกหัวรุนแรง เหลยิก็คงเป็พวกอนุรักษนิยมที่้าแก้ปัญหาเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติระหว่างคนในยุทธจักรกับคนธรรมดามาตลอด
เมื่อหลงหว่านเอ๋อร์เห็นว่ามีคนมาทางนี้ก็รีบวิ่งไปยืนข้างเย่เฟิงทันที เธอไม่สนใจว่าคนในทีมสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติกำลังเล็งปืนมา เพราะสำหรับเธอแล้ว การได้อยู่ร่วมกับเย่เฟิงนั้นสำคัญยิ่งกว่าชีวิตตัวเอง
“ไอ้บ้านี่ ช่างขยันสร้างแต่เื่เสียจริง” เหลยิมองหลี่เฟิงที่แขนขาดอย่างไม่แยแส จากนั้นหันไปมองเด็กหนุ่มที่อยู่ในสภาพอนาถท่ามกลางสายฝนที่กระหน่ำลงมา นอกจากนี้ยังมีหน้ากากที่ตกอยู่ด้านข้าง เหลยิจึงเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดได้ทันที
“สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติมีคำสั่งให้อพยพผู้อยู่อาศัยออกจากหมู่บ้านเท่านั้น!” เขาะโสั่งเสียงดังท่ามกลางสายฝน “พาหลี่เฟิงไปส่งหน่วยฉุกเฉินที่โรงพยาบาลก่อน เฮ้นาย ช่วยทำให้หลี่เฟิงหมดสติที”
“เหลยิ! นายบ้าไปแล้วเหรอ!” หลี่เฟิงอดกลั้นความเ็ปก่อนะโลั่น “ยิงมันให้ตายเลย ฆ่ามันซะ...”
ตุบ
เย่เฟิงใช้สันในมือฟาดหัวหลี่เฟิงจนสลบ
“งั้นคุณจัดการที่เหลือด้วยแล้วกัน” เย่เฟิงเอ่ยเสียงเบาและปล่อยหลี่เฟิง “ถ้าพวกคุณคิดสงสัยฉัน บอกไว้ก่อนว่าฉันไม่ได้เป็คนเริ่ม”
ความเร็วของการใช้ย่างก้าวไร้เงาระดับสองเพียงพอที่จะจัดการกลุ่มคนจากสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติที่นี่แล้วหลบหนีไป แต่เย่เฟิงไม่ใช่อันธพาลที่อยากทำอะไรก็ทำโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง
“ทุกคนถอนตัว พาหลี่เฟิงไปด้วย” เหลยิมองเย่เฟิงด้วยสายตาที่แปลความหมายไม่ออก
รูปลักษณ์ของชายสวมหน้ากากคนนี้ดูแล้วไม่คุ้นเคยอย่างยิ่ง แต่จากกระบี่สีทองเล่มยาว เขาก็รู้ได้ทันทีว่าชายสวมหน้ากากคนนี้ต้องเป็คนเดียวกับชายสวมหน้ากากผู้ปรากฏตัวที่เมืองเยี่ยนจิง
“และสำหรับผู้ฝึกวรยุทธ์ทุกคน” ก่อนหันหลังเดินจากไป เหลยิกล่าวประโยคหนึ่งทิ้งท้าย “เ้าหน้าที่สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติแจ้งมาว่าพายุฝนลูกนี้แตกต่างจากพายุฝนปกติ และอุณหภูมิจะลดลงอย่างรวดเร็ว หากพวกคุณอยากอยู่ที่นี่ต่อไปก็ขอให้ดูแลตัวเองด้วย”
“พวกเราไปกันเถอะ” หลังจากนั้นเหลยิก็พาคนจากสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ หลี่เฟิงที่หมดสติ รวมทั้งแขนข้างที่ขาดของอีกฝ่ายไปยังรถบรรทุกทหารที่อยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านนี้
คนของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติถอนกำลังไปแล้ว บรรยากาศในหมู่บ้านแห่งนี้เงียบงันลงทันที มีเพียงเสียงของสายฝนที่ยังคงโหมกระหน่ำ
เย่เฟิงเก็บกระบี่ของตัวเองและมายืนข้างหลงหว่านเอ๋อร์ ข้างหน้าพวกเขาคือเด็กหนุ่มที่พยายามลุกขึ้นและควานหาหน้ากากเพื่อสวมมันอีกครั้ง
“ขอบคุณครับ...” เสียงของเด็กหนุ่มแหบเล็กน้อย
“ฉันแค่ผ่านมาพอดี” เย่เฟิงพูดอย่างเฉยชา เขาไม่สนใจเด็กหนุ่มคนนี้มากนัก เพราะกำลังยุ่งอยู่กับการใช้จิตหยั่งรู้กวาดมองรอบหมู่บ้าน และในที่สุดก็ััได้ถึงอะไรบางอย่าง
ลัวเฟิงตอนนี้นอนอาการโคม่าอยู่บนเตียงที่บ้านแห่งหนึ่ง มีคนสองคนจากสำนักหมัดเทวาคอยดูแล ชายทั้งสองอยู่ในวัยกลางคนและมีระดับพลังลมปราณมากถึงสี่สิบปี!
ดูเหมือนลัวเฟิงจะเป็บุคคลสำคัญของสำนักหมัดเทวา มิฉะนั้นทางสำนักหมัดเทวาคงไม่ส่งผู้แข็งแกร่งเช่นนี้คอยคุ้มครองลัวเฟิง
เย่เฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่ใช่เื่ง่ายที่จะสังหารลัวเฟิง ‘อีกไม่นานหลงโม่หรานกับชายชราเคราขาวก็จะกลับมาแล้ว ฉะนั้นเรายังไม่ควรผลีผลามทำอะไร ตอนนี้รีบออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดก่อน...’
เย่เฟิงโอบไหล่หลงหว่านเอ๋อร์และกำลังจะออกไปจากที่นี่ ขณะนั้นชายหนุ่มใช้จิตหยั่งรู้กวาดมองรอบๆ เป็ครั้งสุดท้าย และััได้ถึงบางอย่างที่อยู่ในบ้านพักอีกหลัง ซึ่งทำให้เขาใจนชะงักไป
สิ่งที่อยู่ในบ้านหลังนั้น แท้จริงคือร่างของคนคุ้นเคยถูกขังไว้ นั่นก็คือน้าของหลงหว่านเอ๋อร์ถูกขังอยู่ในห้องนอน อีกทั้งยังมีชายร่างอ้วนที่มีระดับพลังลมปราณถึงสามสิบปีคอยเฝ้าอยู่!
“น้าเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?” เย่เฟิงขมวดคิ้วและกระซิบถามหลงหว่านเอ๋อร์
“อะไรนะ? เป็ไปไม่ได้ที่...” หลงหว่านเอ๋อร์ใ “ถูกพ่อฉันจับไว้งั้นเหรอ? ไม่นะ!”
เธอเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าน้าช่วยเธอหนีออกจากบ้านจนถูกหลงโม่หรานจับได้ และต้องตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ด้วยนิสัยของพ่อ ใครก็ตามที่กล้าท้าทายเขาก็ต้องตายด้วยกระบี่ของเขา!
“นี่มันแย่มาก” สีหน้าของเย่เฟิงมืดครึ้ม
จิตหยั่งรู้ของเขาััได้ว่าชายร่างอ้วนในห้องนอนกำลังเหยียดยิ้มใส่ชูชู
“...ผู้หญิงแพศยาแบบเธอ ยังไงผู้นำตระกูลก็ต้องสั่งให้ฉันฆ่าเธออยู่ดี ก่อนเธอจะตาย ฉันขอเล่นอะไรสนุกๆ สักหน่อยแล้วกัน...” ชายร่างอ้วนแสยะยิ้มขณะปลดเข็มขัดของตัวเอง
เย่เฟิงจึงโคจรพลังงานลมปราณจนปรากฏกระบี่สีทองอีกครั้ง แม้หลงโม่หรานใกล้จะกลับมาแล้วก็ตาม แต่ไม่ว่าอย่างไร เขาจะไม่ยอมปล่อยให้ชูชูเจอกับสถานการณ์เช่นนั้นแน่!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้