บทที่ 117 ฮองเฮามีคำสั่งแล้ว
เย่จื่อเฉินตื่นเต้นดีใจ
รอคอยมาตั้งเนิ่นนาน ในที่สุดก็มีข่าวดีสักที
เย่จื่อเฉิน : อยู่ๆ เ้าสร้างแชทกลุ่มหน่อย แล้วลากข้ากับลูกค้าเข้ากลุ่มด้วย
องค์ชายสามนาจา : ทำไมล่ะ คุยในนี้เลยไม่ได้เหรอ?
นาจาถามมาอย่างน่ารักไร้เดียงสา
เย่จื่อเฉิน : นี่เป็กลุ่มพรีเซนเตอร์ มีแค่พวกเราก็เยอะพอแล้ว เ้าสร้างกลุ่มแชทแล้วลากลูกค้าคนนั้นเข้ากลุ่ม เขาก็จะเป็ลูกค้าของเ้า ข้าจะให้ค่าคอมเ้าด้วย
องค์ชายสามนาจา : ค่าคอม? ข้าไม่เข้าใจ แต่เอาตามที่ท่านเง็กเซียนว่าก็แล้วกัน
ติ๊ง!
เพียงครู่เดียว นาจาก็ได้สร้างกลุ่มแชทขึ้นมา คนในกลุ่มนอกจากตัวของนาจากับเย่จื่อเฉินแล้ว ก็ยังมีเทพอาหารที่สวมหมวกพ่อครัวอยู่ด้วยอีกหนึ่งคน
องค์ชายสามนาจา : @ไม่มีชื่อ @เทพอาหาร
เทพอาหาร : เซียนผู้น้อยมาแล้ว (มีสติกเกอร์ทำหน้าน่ารักต่อท้ายประโยค)
ดูท่าว่าเทพอาหารจะวางตำแหน่งของตัวเองเอาไว้ค่อนข้างต่ำเลยทีเดียว แต่ก็ดูเหมือนว่าจะเป็เื่ที่ถูกต้องแล้ว เพราะตำแหน่งของเทพอาหารบน์มันก็ไม่ใช่ตำแหน่งที่สูงสักเท่าไร
องค์ชายสามนาจา : ท่านเง็กเซียน เทพอาหารอยากซื้อสินค้าจากท่าน
เย่จื่อเฉิน : จะซื้ออะไร?
เย่จื่อเฉินลองมองดูในเบื้องต้น เทพอาหารผู้นี้น่าจะไม่ได้อยากซื้อของกิน มีความเป็ไปได้เก้าสิบเปอร์เซ็นต์ว่าเขาอาจจะอยากซื้อของใช้ในชีวิตประจำวัน
เทพอาหาร : ท่านเง็กเซียน เซียนผู้น้อยอยากจะซื้อเครื่องปรุงรสสักหน่อย
ไม่ผิดจากที่คิดเอาไว้
นึกถอนใจอยู่ในอก ถ้าเป็เครื่องปรุงรสก็ไม่ใช่สิ่งของราคาแพงแล้ว ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ ของแบบนี้มันใช้ได้นานด้วย
ถ้าบอกเขาไปว่าจะเอาวิทยายุทธ์ มันก็ดูจะเอาเปรียบเกินไปหน่อย
เย่จื่อเฉิน : ได้ ข้าขายเครื่องปรุงรสให้เ้า แล้วก็ไม่เอาวิทยายุทธ์จากเ้าด้วย ่นี้ข้าค่อนข้างสนใจในเื่การทำอาหาร
ทำอาหาร?
ภายในวิหารหลังหนึ่งบน์ชั้นสาม เทพอาหารสวมหมวกพ่อครัวมองดูข้อความในโทรศัพท์พร้อมกับอึ้งอยู่นาน
เขาอยู่บน์มาตั้งนาน ยังไม่เคยได้ยินว่ามีท่านเง็กเซียนท่านไหนสนใจการทำอาหารมาก่อนเลย
ได้ข่าวว่าท่านเง็กเซียนนิรนามผู้นี้คือเง็กเซียนที่อาศัยอยู่บน์ชั้นเดียวกันกับท่านเง็กเซียนไท่ไป๋จินซิง แต่เขาดันมาบอกว่าชอบทำอาหารแบบนี้…
เทพอาหาร : เซียนผู้น้อยยินดีแบ่งปันเคล็ดลับการทำอาหารให้กับท่านเง็กเซียนขอรับ
ตัดสินใจรวดเร็วมาก
เย่จื่อเฉินคิดว่าเทพอาหารผู้นี้จะลังเลสักหน่อย คิดไม่ถึงเลยว่าจะคุยกันง่ายแบบนี้
เย่จื่อเฉิน : ดี ถ้าอย่างนั้นเ้าส่งเคล็ดลับการทำอาหารมาให้ข้าก่อน ตอนนี้ข้ายังไม่มีเครื่องปรุงรส ต้องรออีกหน่อยถึงจะส่งไปให้เ้าได้
เทพอาหาร : ไม่มีปัญหา
ติ๊ง!
อั่งเปาซองหนึ่งปรากฏขึ้นมาบนหน้าจอ เย่จื่อเฉินกดรับทันที
คุณได้รับอั่งเปาของเทพอาหาร
เคล็ดลับการทำอาหารของเทพอาหาร×1
เทพอาหารผู้นี้ใจกว้างจริงๆ คนอื่นส่งเคล็ดลับอะไรมาก็จะส่งมาทีละเล่ม แต่เซียนผู้นี้ส่งมาทีเดียวทั้งหมดเลย
เย่จื่อเฉิน : ได้รับแล้ว รอรับของได้เลย
เทพอาหาร : ขอรับท่านเง็กเซียน เซียนผู้น้อยขอลา
เมื่อคุยจบแล้ว เทพอาหารก็ได้หายออกไปจากกลุ่มทันที
ติ๊ง!
คนที่ส่งข้อความมาหาเขาคือองค์ชายสามนาจา
องค์ชายสามนาจา : ท่านเง็กเซียน อันนี้ถือว่าข้าหาลูกค้าได้สำเร็จแล้วใช่ไหม
เย่จื่อเฉิน : ใช่
องค์ชายสามนาจา : แล้วข้าจะได้ผลประโยชน์อะไรบ้าง
การบริหารธุรกิจช่างเป็สิ่งล่อใจเหล่าเทพเซียนกลุ่มนี้มากจริงๆ ขนาดนาจาผู้น่ารักก็เริ่มที่จะเรียกร้องเอาผลประโยชน์จากตนแล้ว
ปวดใจ!
แต่เย่จื่อเฉินก็ไม่ใช่คนขี้งกอยู่แล้ว เพราะการที่ได้เคล็ดลับการทำอาหารของเทพอาหารมานั้น นาจาเองก็มีส่วนร่วมด้วย
คิดๆ ดูแล้ว
เย่จื่อเฉิน : ให้ค่าเหนื่อยเ้าเป็ยอดสะสมหนึ่งพันวิทยายุทธ์ก็แล้วกัน
องค์ชายสามนาจา : ว้าว ถ้าอย่างนั้นข้าก็สามารถซื้อขนมได้เยอะเลยใช่ไหม
เย่จื่อเฉิน : แน่นอน
องค์ชายสามนาจา : ถ้าอย่างนั้น ข้าเอานมเปรี้ยวสิบขวด แล้วก็มันฝรั่งทอดกรอบหกห่อ
เย่จื่อเฉิน : ได้ แต่ต้องรอหน่อย
องค์ชายสามนาจา : ได้เลย
ติ๊ง!
ระดับความสนิทของคุณกับนาจาเพิ่มขึ้น 30 ระดับความสนิทปัจจุบันอยู่ที่ 230
หลังจากที่ได้อ่านผลประโยชน์ที่จะได้รับ ก็ดูเหมือนว่านาจาจะมีแรงจูงใจมากขึ้นกว่าเดิม พอกดเข้าไปดูหน้าไทม์ไลน์ของเขา เย่จื่อเฉินก็เห็นว่าองค์ชายน้อยผู้นี้เริ่มโพสต์รูปลงในวีแชทของตัวเองแล้ว
เย่จื่อเฉินเม้มปากยิ้มทันที
ดูเหมือนว่าในอนาคตจะต้องมีกลุ่มวีแชทธุรกิจผุดขึ้นมาในโลกเซียนแน่นอน
่สายในวันต่อมา
“อาเสี่ย”
เย่จื่อเฉินยืนอยู่ในสวนหม่อนภายในมหาวิทยาลัย เมื่อได้ยินเสียงร้องเรียกด้วยความดีใจจึงได้เงยหน้าขึ้น และก็ได้เห็นว่าเซี่ยเขอเข่อกับซูเหยียนเดินคู่กันมาทางที่เขายืนอยู่
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือสายตารอบข้างที่มองมาทางเย่จื่อเฉินก็ยิ่งแปลกมากขึ้น
ภายในสวนหม่อนของมหาวิทยาลัยไม่มีกฎข้อห้ามตายตัว ชายหญิงที่มาที่นี่ส่วนมากก็จะเป็คู่รักกันทั้งนั้น
พวกเธอสองคนเป็คนเลือกให้มาเจอกันที่นี่เอง หรือนี่จะเป็การประกาศสถานะ?
“อาเสี่ย รอนานเลยใช่ไหม ฉันกับซูซูซื้อน้ำมาให้นายด้วย”
เซี่ยเขอเข่อยื่นน้ำโค้กให้เย่จื่อเฉิน เขาถึงได้เห็นว่าในมือพวกเธอถือน้ำโค้กกันไว้คนละขวด
เสียงซุบซิบรอบข้างดังขึ้นเรื่อยๆ เย่จื่อเฉินรับน้ำโค้กมาแล้วเกาหัว
“ทำไมถึงเลือกมาเจอกันที่นี่ล่ะ ที่นี่มัน…”
“ทำไมล่ะ เป็ที่นี่ไม่ได้เหรอ?”
ซูเหยียนเบ้ปาก ดวงตาคู่สวยกวาดตามองนักศึกษาที่อยู่รอบๆ
จากนั้น ซูเหยียนกับเซี่ยเขอเข่อก็เชิดใส่สายตาของนักศึกษาทุกคน โดยการแยกกันกอดแขนเย่จื่อเฉินเอาไว้คนละข้าง
นักศึกษาที่อยู่รอบๆ ฮือฮากันขึ้นมาทันที
เย่จื่อเฉินเองก็กลืนน้ำลายลงคอเบาๆ ก่อนจะฉีกยิ้มแล้วลุกขึ้น
“พวกเธอ…”
“พวกเราสองคนตั้งใจ ไม่ได้เหรอ?” ซูเหยียนเชิดคางสวยขึ้น เซี่ยเขอเข่อก็พยักหน้ารับคำ “ฉันกับซูซูตั้งใจ”
“เดี๋ยวนะ เธอสองคน…”
เย่จื่อเฉินงงจริงๆ แล้วนะ
พวกเธอสองคนตั้งใจ!
หรือว่าทั้งหมดนี้จะเป็แผนของพวกเธอสองคน? ถ้าอย่างนั้นซูเหยียนก็…
“หลายวันก่อนฉันกับเขอเข่อคุยกันแล้ว” ซูเหยียนยิ้มบางๆ
“อื้อ คุยกันนานเลยล่ะ” เซี่ยเขอเข่อก็พยักหน้าตอบรับ
“สรุปว่า…”
อึก
เย่จื่อเฉินกลืนน้ำลายลงคอ ดูเหมือนว่า…
“เราสองคนตัดสินใจให้นายได้เปรียบ”
ซูเหยียนหรี่ตาตอบกลับ เย่จื่อเฉินสะท้าน สีหน้าตะลึงงันทันที
“มีความสุขมากใช่ไหมล่ะ ดาวมหาลัยทั้งสองคนชอบนายพร้อมกัน แถมยังยอมให้มีคนอื่นได้ ในใจนายมีความสุขมากใช่ไหมล่ะ”
เซี่ยเขอเข่อเองก็เชิดหน้าเล็กๆ นั้นขึ้น แล้วพูดเสียงห้วนแฝงไว้ด้วยความคลุมเครือ
“แต่นายอย่าได้ใจไป ตอนนี้ฉันกับซูซูเป็พันธมิตรกันก็เพราะจะกันคนนอก”
อยากบอกว่า
เซี่ยเขอเข่อพูดได้ถูกเผงเลย ความจริงแล้วในใจของเย่จื่อเฉินนั้น…
มีความสุขสุดๆ!
ดาวมหาลัยเทคโนโลยีปิงเฉิงทั้งสองคนมาชอบเขา แถมยังคบเขาพร้อมกันทั้งสองคนอีก
เื่นี้ไม่ว่าเกิดขึ้นกับใคร ก็เอาไปคุยโวได้ตลอดชีวิตเลยล่ะ
แต่ว่า
กันคนนอกนี่มันคืออะไร
หมายความว่าพวกเธอสองคนจะไม่ยอมให้มีคนอื่นเข้ามาอีกแล้วใช่ไหม แล้วเซียวอี้เหม่ยกับหวงเซิงเหม่ยล่ะจะทำยังไง
คนที่มีด้ายแดงมีอยู่สี่คน
เย่จื่อเฉินแอบมองซูเหยียนกับเซี่ยเขอเข่อ แล้วจึงลองถามหยั่งเชิงดู
“แล้วถ้ามีคนอื่นอีก…”
“นายว่าไงนะ?”
ยังพูดไม่จบ ซูเหยียนก็แหวขึ้นทันที
กลับกลายเป็เซี่ยเขอเข่อที่ดูสงบกว่าอย่างเห็นได้ชัด ปกติเธอต้องโวยวายแล้ว แต่สำหรับเื่นี้กลับไม่ได้มีความเห็นอะไรมากมายนัก
“เย่จื่อเฉิน ฉันขอบอกนายไว้เลยนะ ถ้านายยังกล้าไปมีผู้หญิงอื่นอีกละก็…”
“...”
เย่จื่อเฉินกลืนน้ำลายลงคอ ร่างกายเกร็งไปหมด
“ฉัน…”
“ถ้าเกินห้าคน นายเตรียมตัวตายได้เลย”
กะพริบตาปริบๆ
งงหนัก
ผิดคาด!
“เดี๋ยวนะ ซูเหยียน เมื่อกี้เธอว่าไงนะ ฉันหูฝาดไปหรือเปล่า?”
เย่จื่อเฉินหันขวับไปมองซูเหยียน แต่กลับเห็นอีกฝ่ายถลึงตาใส่เขาอย่างดุดันพร้อมกับพูดเสียงห้วน
“ฉันบอกว่า ถ้านายไปมีผู้หญิงอื่นเกินห้าคน นายเตรียมตัวตายได้เลย”
“แล้วถ้าไม่เกินล่ะ?”
“ก็…แบบนั้นฉันก็ยังพอรับได้ อย่างน้อยก็ยังแบ่งกันได้คนละวันไง”
ซูเหยียนยู่ปากตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงออดอ้อนทันที
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้