ตอนที่ 2
@เชียงใหม่
ใช้เวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมงมาร์คและเจ๊เอวี่ก็มาถึงที่พักที่ทีมงานได้จัดเตรียมไว้ให้ ทันทีที่ลงมาจากรถอากาศเย็นกำลังดีปะทะกับผิวทำให้รู้สึกสดชื่นมากเพราะอยู่ใน่ฤดูหนาว มาร์คสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าไปเต็มปอดมองแสงสีทองสาดส่องจากดวงอาทิตย์ที่โพล่พ้นขึ้นเหนือแนวูเาน้อยใหญ่ที่มีหมอกปกคลุม ทำให้บรรยากาศโดยรอบเหมือนต้องมนต์สะกดให้หยุดมองและชื่นชมธรรมชาติเบื้องหน้า
รีสอร์ตนี้สวยมากสร้างอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่รายล้อมและเหมือนมีน้ำตกส่วนตัวเพราะมีน้ำตกไหลตัดผ่านบริเวณหน้าบ้านพักของแต่ละหลัง จากที่สักเกตุดูที่สร้างให้กลมกลืนกับธรรมชาติซึ่งไม่ว่ามองไปทางไหนก็สบายตา
มาร์คเลิกสนใจบรรยากาศรอบนอกแล้วเอากระเป๋าสัมภาระเข้าไปเก็บ พอเรียบร้อยดีแล้วก็ออกเดินทางไปดูหน้างานในไร่ชาที่มาร์คต้องถ่ายโฆษณาในตอนเช้าตรู่ของวันพรุ่งนี้ซึ่งอยู่ห่างจากที่พักพอสมควร
พอลงจากรถที่วิ่งขึ้นมาหลายร้อยโค้งเรียกได้ว่าคุ้มค่าจริงๆ ไม่ใช่เขาไม่เคยมาไร่ชา แต่ไร่ชาที่นี่กลับดูแตกแต่งจากที่อื่น สวยจนเกินบรรยายทำเอามาร์คต้องกลั้นหายใจให้กับความสวยของบันไดไร่ชาที่ลดหลั่นกันลงตามลำดับของที่นี่
“ว้าวววววว ! บรรยากาศดีมากเลย” มาร์คคิดว่าที่พักว่าสวยแล้ว ที่นี่สวยกว่า จะว่าไปก็สวยคนละแบบ
“ชอบละสิ” เจ๊เอวี่พูดยิ้มๆเมื่อเห็นมาร์คเอ็นจอยกับสถานที่ในการทำงานครั้งนี้มาก ดูสีหน้าและแววตาั้แ่ถึงที่พักก็รู้แล้วว่าชอบมากแค่ไหน
“อื้ออ สวยอ้ะเจ๊” มาร์คครางรับในลำคอด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“ป่ะ” เจ๊เอวี่กวักมือเรียก เมื่อไม่เห็นมาร์คเดินตามมาเสียที เพราะได้เวลาที่จะจัดคิวถ่ายงานในวันพรุ่งนี้
จากนั้นทั้งมาร์คและทีมงานทุกคนรวมถึงช่างภาพ ผู้กำกับและเจ๊เอวี่ก็ร่วมพูดคุยเกี่ยวกับรายละเอียดของวันพรุ่งนี้ เนื่องจากจะมีเ้าของแบรนด์มาร่วมรับชมการทำงานครั้งนี้ด้วย จึงต้องมีการบรีฟคิวให้ชัดเจนเพื่อเกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุด หลังจากสรุปงานกันเรียบร้อยก็ทานข้าวเที่ยงพร้อมกันทีมงาน มีการพูดคุยเล็กน้อยจากนั้นก็กลับที่พัก
“เจ๊ผมนอนนะ” ทันทีที่เข้ามาในบ้านพักมาร์คก็บอกผู้จัดการส่วนตัว เขามีนิสัยเสียอยู่หนึ่งข้อที่แก้เท่าไหร่ก็ไม่หายเสียทีนั่นคือก่อนทำงานเขาต้องพักผ่อนให้เพียงพอ
“ย๊ะ ฉันก็จะนอนเหมือนกัน เดินทางั้แ่เช้าเหนื่อยมากกกกกก” เอวี่บอกอย่างเห็นด้วยเพราะร่างกายตอนนี้้าๆพักผ่อน
ต่างคนก็ต่างเข้าห้องนอนของตัวเองไป มาร์คะโลงเตียงนอนทันทีจากนั้นก็หลับยาว ตื่นอีกทีคือฟ้ามืดลงแล้ว
“หิวอ้ะ” มาร์คบ่นเบาๆแล้วลุกขึ้นจากที่นอนไปล้างหน้าล้างตาแล้วเดินออกจากห้องนอน
“ชาร์จแบตเต็มแล้ว ?” เจ๊เอวี่ถามยิ้มๆเมื่อเห็นใบหน้าของมาร์ค
“เต็มจนล้นครับ” มาร์คตอบแบบนี้เท่ากับว่าพรุ่งนี้มีพลังเหลือเฟือสามารถทำงานได้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้แน่
“ป่ะ ไปกินข้าวกัน” เอวี่ชวนมาร์คไปห้องอาหารของรีสอร์ตที่ได้โทรแจ้งเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว
06:06น. @ไร่ชา
ตื่นเช้ามาท้องฟ้าไม่ทันสว่างด้วยซ้ำมาร์คและทีมงานก็มาสแตนบายกันอยู่ที่ไร่ชา มาร์คก็เดินเข้าห้องไปแต่งหน้าทำผมโดยมีเจ๊เอวี่คอยดูความเรียบร้อย เมื่อทุกอย่างพร้อมรวมทั้งท้องฟ้าและเมฆหมอกก็เริ่มถ่ายงานเซ็ตแรกกันทันที พอเซ็ตแรกโอเคก็เปลี่ยนชุดแล้วถ่ายเซ็ตต่อไปทันที จนมาถึงเซ็ตสุดท้ายของงานภาพนิ่งตอนแสงเริ่มโผล่พ้นแนวเขา
“คุณมาร์คมองยอดชาในมือครับ ดีครับ จากนั้นก็ค่อยๆมองท้องฟ้า ดีครับ สวยครับ” ช่างภาพก็เริ่มกดชัตเตอร์อีกครั้งเมื่อได้ท่าที่สวยและดูดีของนายแบบ ไม่ว่าตากล่องจะบอกอะไรมาร์คสามารถทำได้ครบถ้วนสมบรูณ์อย่างผ่อนคลายกลมกลืนไปกับธรรมชาติ
“เปิดขวดชาดื่มเลยครับ” มาร์คที่อยู่ในชุดชาวเขาจับยอดอ่อนชาใส่กะบุงด้านหลังที่ตนสะพายอยู่ เขาหยิบขวดเครื่องดื่มชายี่ห้อนึงขึ้นมาเปิดดื่มอย่างช้าๆ ซึ่งช่างภาพสามารถถ่ายได้ทุกช็อตทุกท่าทางอากับกิริยา
“อย่างนั้นครับ ดีมาก อีกรูป แชะๆ เชะ” ช่างภาพทั้งเอ่ยชมเมื่อได้ภาพที่สวยตรงตามคอนเซ็ปต์ที่เ้าของแบรนด์ได้วางไว้ จากนั้นช่างภาพก็กดชัตเตอร์รัวๆ เซ็ตภาพนิ่งก็ถ่ายเสร็จเป็ที่เรียบร้อย
ในระหว่างที่ทีมงานกำลังเซ็ตฉาก แสง และไฟเพื่อเตรียมถ่ายแฟชั่นวิดีโอ พวกพี่ๆช่างแต่งหน้าก็รีบมาซับเหงื่อและเติมเมกอัพให้ทันที เ้าของแบรนด์ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มก็เข้ามานั่งชมด้วย มาร์คเดินไปทักทายสวัสดีอย่างนอบน้อม จากนั้นก็ขอตัวเดินกลับมาประจำที่ของตัวเองเพื่อทำงานต่อ
“น้ำเปล่าคะน้องมาร์ค” เจ๊เอวี่เดินถือน้ำเปล่าเย็นฉ่ำมายื่นให้
“ถ่ายแฟชั่นวิดีโอ คุณมาร์คพร้อมมั้ยครับ 1 2 3 แอ็คชั่น” หลังจากจบคำพูดของผู้กำกับมาร์คก็เริ่มทำงานอย่างจริงจังและตั้งใจ
“ดีมากครับคุณมาร์ค ดื่มแล้วสดชื่น เยี่ยม !!” ผู้กำกับเอ่ยชมอย่างไม่ขาดปาก
เ้าของแบรนด์มองอย่างชื่นชมเมื่อเห็นความเป็โปรเฟสชั่นนอลในการทำงาน ทุกอย่างดูลื่นไหล เย็นสบาย สดชื่นทุกอย่างแสดงออกผ่านทางสีหน้าและแววตา คือรู้สึกว่าเลือกพรีเซนเตอร์ได้ถูกคนจริงๆ
“คัทครับ พี่ขอแบบเมื่อกี้อีกรอบครับ ฟีลกำลังดี ดูสบายๆ ดื่มแล้วสดชื่นเหมือนอยู่ในไร่ชา รอบนี้พี่ขอแท็กไลน์ด้วยนะ” ผู้กำกับบอก มาร์คพยักหน้ารับยิ้มๆ จากนั้นก็ทำตามผู้กำกับบอกอย่างเต็มประสิทธิภาพเพราะเขารู้ดีว่าหากเทคนี้ดีมากงานก็เสร็จเร็ว แต่ก็ต้องอยู่ที่ผู้กำกับด้วยว่าถูกใจเขาและเ้าของแบรนด์รึยัง
“คัท เลิกกอง !!!” เป็ไปตามที่คิด เมื่อทุกอย่างลงตัวและไม่มีปัญหาอะไร ก็เลิกกองสิครับ
“เย้ๆๆๆๆๆ !!!” ทีมงานทั้งกองะโกันอย่างดีใจเมื่อผู้กำกับสั่งเลิกกอง เท่ากับว่าทุกคนจะมีวันหยุดได้เที่ยวก่อนกลับอีกหนึ่งวันเพราะการทำงานผ่านไปด้วยดีและรวดเร็ว นอกจากขอบคุณท้องฟ้าเมฆหมอกที่เป็ใจแล้วยังต้องขอบคุณมาร์คที่ทำให้การทำงานผ่านไปอย่างราบรื่น ไม่ผิดหวังจริงๆที่ได้มาร์คมาเป็พรีเซนเตอร์งานชิ้นนี้ ดูก็รู้ว่ามาร์คทำการบ้านมาดีทำให้ทั้งช่างภาพและผู้กำกับทำงานได้ง่าย ถ่ายงานเสร็จได้ไว ไม่ว่ามาร์คจะโพสต์ท่าไหนหรือแค่ขยับร่างกายเล็กน้อยอย่างเป็ธรรมชาติก็สามารถใช้งานได้ทุกภาพ และที่ทุกคนในกองชื่นชอบมาร์คเพราะมาร์คเป็คนสบายๆติดดินไม่เื่เยอะ พนักงานทานอะไรก็ทานเหมือนๆกัน อัธยาศัยดียิ้มเก่งร่าเริงและนอบน้อม
หลังจากเลิกกองแล้วรอพวกพี่ๆทีมงานเก็บของมาร์คก็เดินชมไร่ชาเล่นไปเรื่อยๆ
“น่ากินจัง แชะ !” มันคือลูกอะไรไม่รู้ดูแปลกตาดี มาร์คบ่นอุบอิบเบาๆพร้อมยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปเก็บไว้
“ชิมได้ครับ” คุณลุงที่เป็เ้าของไร่เอ่ยพูดด้วยรอยยิ้ม
“ลูกอะไรเหรอครับคุณลุง ?” มาร์คถามชื่อผลไม้ตรงหน้า
“เขาเรียกว่าลูกไหน” คุณลุงเ้าของไร่บอก
“ครับ ขอบคุณครับ” มาร์คตอบยิ้มๆ คุณลุงก็เก็บมาให้แล้ว 1 ผล มาร์ครับลูกไหนมาอยู่ในมือแล้วหยิบเข้าปากอย่างไม่รังเกียจ
“อร่อยมั้ย ?” ลุงเ้าของไร่ถามยิ้มๆ
“อร่อยครับ” มาร์คบอกแล้วยิ้มอย่างอารมณ์ดี
“เอาอีกมั้ย ?” ลุงเ้าของไร่ถามเมื่อเห็นมาร์คดูมีความสุขกับการทานผลไม้สดๆจากต้น แน่นอนสวนของเขาปลอดภัย 100% เพราะที่นี้ไม่ใช้เคมี
“ไม่เป็ไรครับ ผมเกรงใจ” มาร์คพูดตามที่ตนรู้สึก
“ไม่ต้องเกรงใจ รอเดี๋ยว” ลุงเ้าของไร่บอกแล้วก็เดินหลังไวๆ ปล่อยให้เขายืนมองเ้าลูกไหนอยู่คนเดียว คุณลุงหายไปสัก 5 นาทีก็กลับมาพร้ะกระกล้าขนาดใหญ่ซึ่งภายในเต็มไปด้วยลูกไหนทั้งนั้นเลย
“ลุงเพิ่งเก็บเมื่อเช้า สดเหมือนกัน” ลุงเ้าของไร่บอกยิ้มๆ เมื่อเห็นใบหน้าหล่อมองตะกร้าลูกไหนด้วยสายตาอึ้งๆ
“จะดีเหรอครับลุง” มาร์คถามอย่างเกรงใจแต่ใจก็อยากกินอีก
“เอาไปเถอะ ถือว่าเป็ของขวัญที่เราได้รู้จักกัน” ลุงเ้าของไร่บอกอย่างใจดีพร้อมรอยยิ้มที่แสนอ่อนโยน
“ครับ ขอบคุณอีกครั้งนะครับคุณลุง” มาร์คบอกด้วยรอยยิ้มกว้าง ก่อนจะเดินไปรวมตัวกับพวกพี่ๆเพราะได้เวลากลับที่พักแล้ว ระหว่างทางนั่งรถกลับรีสอร์ตมาร์คก็นั่งทานลูกไหนอย่างสบายใจโดยมีเจ๊เอวี่แย่งไปด้วย แต่มาร์คก็ไม่ลืมแบ่งให้กับทีมงานทุกคน ถึงจะได้แค่คนละลูกสองลูกแต่ก็ได้แบ่งๆกัน ทุกคนที่ได้ไปก็ยิ้มร่าเลยเหมือนกันเพราะมองอยู่นานแล้วั้แ่ที่มาร์คถือตะกร้าลูกไหนกลับมายังรถ
หลังจากถ่ายงานเสร็จก็จะมีเวลาเที่ยวและพักผ่อนอีกเล็กน้อย พรุ่งนี้เช้าก็ต้องเดินทางกลับพร้อมกันทั้งหมด
@จุดชมวิว
เป็จุดชมวิวที่ไม่ได้อยู่ห่างรีสอร์ตที่มาร์คพักมากนัก แต่เขาเดินเวียนไปเวียนมาหลายรอบแล้วก็ยังหาทางกลับรีสอร์ตไม่เจอเสียที ดูนาฬิกาข้อมือตอนนี้ก็เป็เวลาเกือบ 5 โมงเย็นแล้ว กลับไปถึงเจ๊เอวี่คงได้บ่นเขาหูชาอีกแน่เพราะตอนที่ออกมาเดินเที่ยวเล่นเขาไม่ได้บอกใครสักคนแม้แต่ทีมงานหรือผู้จัดการส่วนตัว และตรงที่เขาอยู่สัญญาณโทรศัพท์ก็ไม่ค่อยจะมี เดินหาสัญญาณและทางกลับจนเหนื่อยเลยกลับมานั่งพักที่จุดชมวิวเหมือนเดิม
“มาชมวิวเหรอครับ ?” เสียงนุ่มทุ้มดังขึ้นในระยะห่างไม่ไกลนัก ทำให้มาร์คละความสนใจจากโทรศัพท์ในมือเพื่อมองหาต้นกำเนิดเสียงก็เห็นผู้ชายหุ่นดีในชุดสบายๆเหมือนนักท่องเที่ยวทั่วไป อายุน่าจะแก่กว่าเขาเล็กน้อย ส่วนหน้าตาต้องบอกว่า ดูก็รู้ว่างเป็ลูกครึ่งแน่นอน ผมสีน้ำตาลอ่อนถูกเซ็ตเรียงตัวสวย คิ้วดกเรียงตัวอย่างเป็ระเบียบ ั์ตาสีน้ำตาลอ่อนผสมเทา จมูกโด่งได้รูปรับกับริมฝีปากหนา รวมๆคือโคตรหล่อ หล่อกว่าดาราอีก นายแบบอย่างมาร์คเองยังรู้สึกเขินๆกับความหล่อนี้ ยิ่งั์ตาที่มองมายังเขาชั่งให้ความรู้สึกแปลกใจ คุ้นหน้าเหมือนเคยเจอกันที่ไหนสักที่ ทั้งที่ไม่เคยเจอกัน
“เมื่อกี้ใช่ครับ แต่ตอนนี้ผมหลงทาง” มาร์ครู้สึกว่าตัวเองนั้นมองคนตรงหน้านานเกินไปเลยได้แต่ยิ้มแห้งๆแล้วตอบเสียงอ่อย รู้ดีว่าสิ่งที่ทำมันดูไม่มีมารยาทแต่เขาก็อดมองไม่ได้จริงๆ เหมือนสายตาคู่นั้นมันดึงดูด
“อ่าวเหรอครับ ?” ผู้ชายที่นั่งข้างๆถามอย่างแปลกใจ พรางมองสำรวจมาร์คเช่นกันแต่ไม่ได้มองแบบเปิดเผยอย่างที่มาร์คทำเมื่อครู่
“ใช่ผมแค่นั่งพัก เพราะเมื่อกี้เดินจนเหนื่อยแล้ว” มาร์คบอกยิ้มๆ รู้สึกเขินแปลกๆที่บอกอีกคนว่าเขาหลงทาง ตอนมาก็ง่ายดีแต่พอถึงจุดที่ไม่มีสัญญาณจีพีเอสก็ไปไม่เป็เหมือนกัน เหมือนเด็กน้อยหนีพ่อแม่เที่ยวแล้วหาทางกลับบ้านไม่เจอ -_-
“แล้วคุณจะไปที่ไหน ให้ผมช่วยมั้ย ?” ผู้ชายสุดหล่อคนนั้นถามอย่างใจดี
“คือผมอยากกลับที่พักครับ” มาร์คยิ้มกว้างอย่างดีใจที่เห็นทางออกสำหรับเื่นี้เลยรีบบอกจุดประสงค์ของตัวเองทันที
“คุณพักที่ไหน ?” ผู้ชายคนนั้นยังคงถามต่อ
“ผมพักที่ธารารีสอร์ต” มาร์ตอบกลับ ผู้ชายคนนั้นคลี่ยิ้มนิดๆ นั่นทำให้มาร์คมั่นใจขึ้นอีกนิดว่าเขารู้จัก แต่ก็แอบแปลกใจนิดๆเพราะดูเขาก็เป็นักท่องเที่ยวเหมือนกันไม่น่าจะใช่คนในพื้นที่ แล้วจะไปส่งเขาได้ป่าวเนี่ยมาร์คได้แต่โอดครวญในใจ
“โอเคเดี๋ยวผมไปส่ง” มาร์คแทบร้องเย้ออกมาเมื่อได้ยินคำพูดนี้ออกจากปากหนา คงรู้จริงๆ มั้งนะ
“จริงนะ ?” มาร์คถามย้ำเพื่อความแน่ใจว่าจะไปส่งเขาจริงๆ
“ครับ” เขารู้สึกยิ้มขำปนเอ็นดูนักท่องเที่ยวหลงทางคนนี้ในเวลาเดียวกัน ดูตลกดีแต่ก็ดูมีเสน่ห์ดึงดูดชวนให้มอง
“ขอบคุณ” มาร์คเอ่ยยิ้มๆแล้วลุกขึ้นเดินตามธาราไป
“แล้วคุณไม่กลัวผมเป็ขโมยบ้างเหรอ ทำไมถึงเชื่อคนง่าย?” ในระหว่างทางที่กำลังเดินกลับที่พักเขาก็ถามมาร์คขึ้นอีกครั้ง
“ก็ถ้าคุณเป็หัวขโมยคงเป็หัวขโมยที่รวยมาก แบรนด์เนมทั้งตัว” มาร์คพูดแขวะอย่างขำๆ มองั้แ่หัวจรดเท้า ทั้งเสื้อกางเกงเสื้อแจ็คเก็ตและรองเท้าเป็แบรนด์กุชชี่ แต่ละชิ้นรวมๆกันก็ประมาณ 2 แสนนิดๆ ส่วนนาฬิกาปาเต๊ะเรือนนั้นรุ่นนี้ถ้าเขาจำไม่ผิดก็เกือบสามล้าน ต่างหูคาเทียร์อีก 5 หมื่น คือถ้าบอกว่ามาร์คปล้นเขาถึงจะถูก พอก้มมองดูตัวเองแล้วรู้สึกว่าเสื้อผ้าเขาถูกไปเลย ส่วนอีกคนไม่บอกก็รู้ว่าโคตรพ่อโคตรแม่รวย ถึงจะแต่งตัวชิวๆ แต่ขอโทษครับไม่ทราบว่าจะไปเดินแบบที่ไหนก่อน ?
ถึงมาร์คจะเป็คนติดดินไม่ชอบใช้จ่ายฟุ่มเฟือยแต่ใช่ว่าของพวกนี้เขาจะไม่มี และยิ่งเขาเป็นายแบบติดอันดับของประเทศเื่แฟชั่นถือได้ว่าเป็สิ่งสำคัญมาก
“สังเกตเก่งเหมือนกันนะคุณ” เขาหันมายิ้มขำให้มาร์คที่เดินตามหลังโดยไม่ได้สนใจคำแดกดันสักเท่าไหร่
“แน่นอน” มาร์คเดินมาเคียงคู่แล้วพูดยิ้มๆอย่างภูมิใจ เขามั่นใจในระดับนึงว่าที่เห็นตรงหน้าบนเรือนร่างกำยำนี้เป็ของแท้ทุกชิ้น
“แล้วคุณมาเที่ยวเหรอ ?” เขาถามขึ้นอีกครั้ง เพื่อไม่้าให้ระหว่างทางที่เดินกลับนั้นเงียบจนเกินไป
“เปล่าครับ ผมมาทำงาน” มาร์คตอบไปตามตรง ทั้งที่จะไม่บอกก็ได้แต่เขาก็เลือกที่จะบอก
“ทำงาน ?” เขาถามกลับ เพราะไม่เข้าใจว่าคนหลงทางคนนี้มาทำงานอะไรที่นี่ จะว่ามาเป็ลูกจ้างเก็นชาคงไม่ใช่ เพราะดูจากการแต่งตัวแล้วห่างไกลจากอาชีพนั้นมาก หน้าตาผิวพรรณก็ดูลูกคุณหนูถึงจะไม่ขาวมากอย่างเขาแต่ก็จัดอยู่ในกลุ่มคนขาว
“ถ่ายแบบโฆษณาครับ” มาร์คตอบไปตามตรง ทำให้อีกคนมองหน้าเขานิดๆ
“คุณเป็ดารา?” เขาถามมาร์คกลับ
“ผมเป็นายแบบ” มาร์คตอบด้วยรอยยิ้มที่ดูมีความสุขเมื่อพูดถึงอาชีพของตัวเอง ใช่เมื่อก่อนเขาไม่ชอบมัน แต่ตอนนี้มันคือชีวิตของเขาก็ว่าได้
“ไว้ผมจ้างคุณบ้าง” เขาบอกอย่างหยอกล้อ ซึ่งมาร์คเองก็คิดว่าอีกฝ่ายแค่ชวนเขาคุยขำๆ เท่านั้นไม่ได้จริงจังอะไรนัก
“จริงเหรอครับ” แต่มาร์คก็แกล้งถามกลับไปเช่นกัน บรรยากาศเริ่มมืดและเย็นลงเรื่อยๆ เขาเลยได้แต่กอดตัวเองเอาไว้แน่นเมื่อลมเย็นปะทะเข้ากับผิว
“ครับ” เขาตอบกลับ
“ขอบคุณล่วงหน้า” มาร์คตอบเสร็จก็เดินนิ่งๆ ไม่ได้พูดอะไรต่อ
“หนาวเหรอ ?” เมื่อมาร์คเงียบ เขาหันมองคนที่เดินข้างๆด้วยความแปลกใจ ก็เห็นอีกคนปากเริ่มซีดตัวสั่นสะท้านด้วยความหนาวคงจะไม่เคยชินกับอากาศของที่นี่สักเท่าไหร่ ่นี้ถือว่าเย็นกำลังดีสำหรับเขาแต่คงไม่ดีสำหรับอีกคน
“ครับ หนาวมาก” มาร์ตอบด้วยปากสั่นๆ
“อ้ะ” เขาบอกพลางถอดเสื้อคลุมยื่นไปให้มาร์คก็มองหน้าอีกคนอย่างขอบคุณแล้วหยิบสวมทันที มาร์ครู้สึกอุ่นขึ้นทันตาเพราะเสื้อเพียงตัวเดียว แต่กลิ่นที่ติดมาด้วยคือหอมมาก
“แล้วคุณไม่หนาวเหรอ ?” มาร์คถามอย่างสงสัยและเกรงใจที่อีกคนยอมถอดเสื้อนอกของตัวเองให้เขา
“ไม่อะผมชิน อดทนหน่อยใกล้ถึงแล้ว” เขาตอบยิ้มๆ แล้วบอกเมื่อใกล้ถึงทางแยกที่จะเลี้ยวเข้ารีสอร์ต เขาไม่แปลกใจหรอกทำไมคนข้างกายเขาถึงได้หาทางกลับรีสอร์ตไม่เจอ เพราะทางที่เชื่อมกับทางเข้าจุดชมวิวมันเป็ทางแคบเล็กๆเท่านั้น ถ้าหากอ้อมไปทางเข้าใหญ่ก็ไกลหลายกิโล
“อื้อ คุณอยู่ที่นานแล้ว ?” มาร์คถามอย่างอดสงสัยไม่ได้เมื่ออีกคนเดินนำมาร์คอย่างชำนาญราวกับว่ารู้เส้นทางเป็อย่างดีโดยไม่ต้องเปิดจีพีเอสช่วยสักนิด
“ผมมาแค่่หน้าหนาวเท่านั้น” เมื่อเขาตอบแบบนี้สิ่งที่มาร์คคิดได้คืออีกคนคงมาเที่ยวแน่นอน
“อื้อ หนาว” มาร์คครางเบาๆ เมื่อลมหนาวปะทะหน้าอีกระลอก
“ถึงแล้ว เดี๋ยวผมเดินไปส่งที่ห้อง” ทันทีที่เดินเข้าในสวนของรีสอร์ตเขาก็บอกคนข้างกาย
“อื้ม บ้านริมน้ำตกหลังที่ 9” มาร์คตอบรับยิ้มๆ แต่ปากนั้นซีดหมดแล้ว ก่อนจะบอกว่าตนนั่นพักที่บ้านหลังไหน อีกคนก็เดินพาไปส่งจนถึงบ้านพัก
“ขอบคุณคุณมากที่มาส่ง คุณ ?” มาร์คเอ่ยขอบคุณจากในเพราะถ้าไม่ได้ผู้ชายคนนี้พากลับมาเขาก็คงจะต้องค้างเติ่งอยู่ที่บนจุดชมวิวซึ่งคาดว่าต้องนอนหนาวตายแน่ๆ และเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ทราบชื่อของคนใจดีคนนี้เลย
“ธาราครับ” ธาราเอ่ยแนะนำตัวอย่างสุภาพ
“ขอบคุณมากครับคุณธาราถ้าไม่ได้คุณผมคงแย่แน่ ผมชื่อมาร์คครับ” มาร์คเอ่ยขอบคุณธาราอีกครั้ง ก่อนจะบอกชื่อกับไปพร้อมยื่นมือทำความรู้จัก
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ / เช่นกันครับ” ธาราบอกยิ้มๆ มาร์คเองก็ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
จากนั้นธาราก็เดินออกไป ส่วนมาร์คก็เดินเข้าบ้านพักด้วยรอยยิ้มมุมปากนิดๆ คนบ้าอะไรยิ้มแล้วหล่อมาก หล่อวัวตายควายล้ม หล่อไม่ไหว >\\\\<
“หายไปไหนมา?” เสียงเจ๊เอวี่ดังเข้าโสตประสาททำเอามาร์สะดุ้งนิดๆ
“เจ๊ ผมในะเนี่ย !!” มาร์คบ่นอุบอิบ คิ้วขมวดมุ่น
“ตอบมา หายไปไหนมา แล้วนั่นเสื้อใคร แล้วใครมาส่ง ?” เอวี่รัวคำถามใส่ทันทีเมื่อเห็นว่ามาร์คไม่ยอมตอบคำถามของเธอ และยิ่งไปกว่านั่นเธอเห็นผู้ชายหน้าตาดีมากมาส่งมาร์คถึงหน้าห้องพัก
“เห้ยเสื้อ! อ่าวหายไปซะแล้ว” มาร์คร้องเสียงหลงด้วยความใที่ตัวเองนั้นลืมคืนเสื้อธารา พอเปิดประตูออกไปดูก็ไม่เจอธาราที่ทางเดินแล้ว เอาเป็ว่าถ้ามีโอกาศได้เจอกันอีกค่อยซักไปคืน
“ตอบมา ?” เอวี่ก็ยังคงถามย้ำอีกครั้ง ก็เธอหาตัวมาร์คทั้งเย็นแต่ไม่เจอตัว พอกลับมาก็เซอร์ไพรส์เธอซะนี่
“พอดีเดินเที่ยวแล้วหลงทาง คุณธาราเลยอาสาเดินมาส่ง” มาร์คบอกอย่างรู้สึกผิดนิดๆ เพราะรู้ไม่ว่ายังไงเอวี่ก็ต้องตามหาเขาแน่นอน
“แนะรู้จักชื่อเขาด้วย” เอวี่แขวะเล็กๆน้อยๆอย่างหมั่นไส้
“ก็ทำความรู้จักกันเฉยๆ” มาร์คบอกยิ้มๆ ให้กับความกวนของเจ๊เอวี่
“เออดี เจ๊ชอบ เขาหล่อดี” อยู่เจ๊เอวี่ก็พูดโพล่งขึ้นมาซึ่งมาร์คเองก็เห็นดีเห็นงามด้วย
“ผมก็ว่าเขาหล่อ” มาร์คพูดจากใจเพราะธาราหล่อมากจริงๆ
“อ้ายยยยยยยยยย หรือว่าคนนี้ ถ้าคนนี้ชั้นให้ผ่าน สิบเต็มร้อยไม่หักสักคะแนน!” เจ๊เอวี่กรี๊ดซะมาร์คใไม่น้อย และใยิ่งกว่ากับสิ่งที่เจ๊คิด
“บ้าน่าเจ๊” มาร์คคิดว่าคงไม่ใช่หรอกมั้ง
“จริงนะย๊ะ น้องมาร์คต้องเชื่อเจ๊” เอาเข้าไปครับ เห็นหล่อๆ ไม่ได้เลยจริงๆ ต้องยอมใจเจ๊
“เจ๊ต้องใจเย็นก่อน ถ้าใช่จริงผมกับเขาคงได้เจอกันอีก” มาร์คบอกไปตามที่คิด ถ้าคนมันใช่อยู่เฉยๆเดี๋ยวก็ได้เจอ
“ย๊ะ สุดหล่อของเจ๊ ว่าแต่เก็บกระเป๋ายัง ? พรุ่งนี้ต้องเดินทางกลับแต่เช้า” เอวี่ถามเื่กระเป๋าสัมภาระที่ต้องใช้เดินทาง
“ยังครับ” มาร์คตอบแล้วยิ้มแห้งๆ ก็เขามัวแต่สนใจจุดชมวิวก็เลยยังไม่ได้เก็บ
“มาเดี๋ยวเจ๊เก็บให้เอง ไปอาบน้ำไป” เจ๊เอวี่ส่ายหน้ายิ้มๆ ก่อนจะไล่มาร์คให้ไปอาบน้ำ
“ขอบคุณครับเจ๊เอวี่คนสวย แต่ได้ข่าวว่าหน้าที่เจ๊นะ” ก็จริงอย่างที่มาร์คว่า แต่มาร์คชอบเก็บเองจนเป็นิสัยเธอเลยไม่ค่อยได้ทำหน้าที่ในส่วนนี้มากนัก
“อ้ายยยยย ไม่พูดจะดีกว่านะน้องมาร์ค” เอวี่ว่ากลับอย่างขำขัน
“ฮ่าๆๆๆ” มาร์คหัวเราะร่าอย่างอารมณ์ดีแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป
“แล้วเสื้อเขาละ ?” ทันทีที่มาร์คออกมาจากห้องน้ำเจ๊เอวี่ก็ถามทันทีว่าจะเอายังไงกับเสื้อแจ็คเก็ตตัวนั้น
“ซักไว้ก่อน ถ้ามีโอกาสได้เจอกันค่อยเอาไปคืน” มาร์คบอกเมื่อนึกถึงใบหน้าของเ้าของเสื้อ
“อืมดี ว่าแต่เก็บเลยมั้ย ?” เอวี่ถามเพราะนี่คือชิ่นสุดท้ายแล้วที่ต้องเก็บลงกระเป๋า
“เอาไว้ก่อนก็ได้ สวยดีพรุ่งนี้ผมใส่กลับ แต่ตอนนี้ผมหิวอะ” มาร์คบอกยิ้มๆ
“บนโต๊ะเลย” เอวี่ยู่ปากไปทางโต๊ะนั่งเล่น
“ขอบคุณครับ” มาร์คบอกยิ้มๆก่อนจะเดินไปนั่งทานอาหารที่โต๊ะนั่งเล่น
“ย๊ะ ไปนอนละ ฝันดี” เอวี่ออกจากห้องของมาร์คแล้วเดินเข้าห้องตัวเอง
“ฝันดีครับ” มาร์คบอกไล่หลังเอวี่ไป ทานอาหารเสร็จก็เล่นโซลเชี่ยวแป๊ปนึงก็เข้านอน
ทุกคนตื่นเช้าทานอาหารเสร็จเรียบร้อยก็ขึ้นรถกันทันทีหากช้ากลัวจะไม่ทันไฟท์บิน ในระหว่างที่กำลังนั่งรถไปยังสนามบินมาร์ก็มองวิวทิวทัศน์ที่นอกหน้าต่างรถตลอดทาง
“น่าซื้อบ้านไว้ที่นี่สักหลังเจ๊ว่ามั้ย” มาร์คพูดขึ้นยิ้มๆ ถ้ามีก็ดีแต่เขาก็ไม่ได้ชอบอากาศหนาวจัดสักเท่าไหร่ แบบเมื่อคืนก็ไม่ไหว
“อืม เจ๊ว่าสวยดี” เอวี่ออกความคิดเห็น
“เน้อะ แต่ผมชอบทะเลมากกว่า” มาร์คพูดยิ้มๆ ชอบนะูเาแต่ก็ชอบทะเลเหมือนกัน
“แล้วพูดเพื่ออออออ?!” เอวี่ถามอย่างไม่เข้าใจ
“ก็อยากมีสองแห่งเลยไง เอาไว้เปลี่ยนบรรยากาศ” มาร์คอธิบายขยายความให้เจ๊เอวี่ได้เข้าใจ
“ย๊ะ พ่อคนสองใจ” เอวี่ว่าอย่างขำๆ
“ใจเดียว หลายใจอ้ะผมว่าเจ๊มากกว่า” อยู่ๆมาร์คก็หลอกด่าเจ๊เอวี่ไปหนึ่งดอก
“ว่าเจ๊อีกแล้ว เจ๊ออกจะเป็คนรักเดียวใจเดียว” เอวี่บอกยิ้มๆ
“เหรอครับ ?” มาร์คถามกลับอย่างกวนๆ
“ย๊ะ” เอวี่ตอบ
“ฮ่าๆๆ” มาร์คหัวเราะลั่นรถเมื่อเอวี่ทำหน้าเหมือนเด็กเอาแต่ใจ
ลงจากเครื่องก็แวะหาอะไรทานก่อนเข้าคอนโดกับเจ๊เอวี่ พอกลับมาถึงคอนโดก็แชทหาเพื่อนรักทันที ถามไถ่ว่าเป็ยังไงบ้างสิ่งที่ได้คือตินบอกว่าทุกอย่างโอเคแล้วตินนี้ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่เสียงมันดูเหนื่อยแปลกๆแต่เขาก็ไม่ได้ถามหรอกนะเพราะอยู่ๆมันก็รีบชิงตัดสายไปซะก่อน
ในคำว่าเพื่อน แค่เพื่อนบอกว่าโอเคเราก็สบายใจ
มาร์คนอนเอามือก่ายหน้าผาก นอนพลิกตัวไปมาหลาย ตะหลบก็ยังนอนไม่หลับเสียที ได้แต่นึกถึงั์ตาสีน้ำตาลปนเทานั่น
หวังว่าเราคงจะได้เจอกันอีก ธารา
………………………………………………
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้