หฤทัยจอมใจจักรพรรดิ 【แปลจบแล้ว】

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
ลด
เพิ่ม
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

        หรงหว่านซีคิดว่าน้ำเสียงฟังดูเกียจคร้านนี้ช่างคล้ายคลึงกับน้ำเสียงของเฉินอ๋องในยามที่ได้พบกันครั้งแรก

        “ทูลพระสนมคือขนมกลีบดอกกุหลาบ[1] ที่เฉินหนวี่เตรียมมาเพื่อเหนียงเหนียงเพคะ”หรงหว่านซีเอ่ย “เฉินหนวี่ไม่ทราบว่าเหนียงเหนียงทรงโปรดรสใดจึงทำขนมรสอ่อนมาหลายอย่าง หวังว่าเหนียงเหนียงจะไม่ทรงรังเกียจเพคะ”

        พระสนมเอกเงยพระพักตร์ขึ้นเล็กน้อยจิ่นยวี้ผู้เป็๲นางกำนัลข้างกายจึงรีบเข้าไปรับเอาไว้

        “เงยหน้าขึ้นให้เปิ่นกงมองดูสักหน่อย”

        หรงหว่านซีขานรับ“เพคะ” นางเงยหน้าขึ้นแต่ยังคงกดสายตาลงต่ำไม่กล้ากระทำการเสียงมารยาทต่อพระสนมเอก

        พระสนมเอกมองพิจารณานางครู่หนึ่ง“คือหญิงงามไม่ผิด มิน่าองค์รัชทายาทยังคงโหยหามานานปีถึงเพียงนี้กระทั่งเ๯้าถูกจับคู่ให้ผู้อื่น เขาก็ยังไม่ยอมแพ้เช่นนี้”

        หรงหว่านซีย่อกายถอนสายบัวนางไม่กล้ายอมรับและปฏิเสธ เพียงแต่เอ่ยอย่างสุขุมหนักแน่น“สามปีก่อนไท่จื่อทรงขอหมั้นหมายเฉินหนวี่กับท่านพ่อ เ๱ื่๵๹นี้เฉินหนวี่ทราบทว่าท่านพ่อได้ทูลปฏิเสธองค์รัชทายาทไปแล้วเพคะเฉินหนวี่เก็บตัวและออกนอกเรือนน้อยหนมาโดยตลอด องค์รัชทายาทคือมกุฎราชกุมารของแคว้นแน่นอนว่าพระองค์ทรงไม่ใส่ใจสตรีผู้ต่ำต้อยนางหนึ่งมานัก หลังจากนั้นเป็๲ต้นมาเฉินหนวี่กับไท่จื่อเตี้ยนเซี่ยจึงไม่มีความสัมพันธ์อันใดต่อกันเพคะ”

        “เ๯้ามักเก็บตัวข้อนี้เปิ่นกงเข้าใจดี” พระสนมเอกตรัส“ทว่าไท่จื่อเตี้ยนเซี่ยทรงใส่พระทัยเ๯้าหรือไม่ ในราชสำนักและผู้คนทั่วไปมีผู้ใดไม่รู้กันบ้าง?หรงหว่านซี ไท่จื่อเตี้ยนเซี่ยทรงรักมั่นต่อเ๯้าภายในใจเ๯้าคงหวั่นไหวบ้างใช่หรือไม่? เพราะอย่างไรก็คือสตรีผู้ใดจะไม่ชอบผู้ที่มีใจรักมั่นยืนยาว?”

        น้ำเสียงของพระสนมเอกไม่ช้าไม่เร็วและปราศจากความขุ่นเคือง กลับฟังดูแฝงความเอ็นดูในประโยคหยอกเย้าทว่าหรงหว่านซีไม่กล้าเบาใจ ยังคงย่อเข่าทำความเคารพเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและไม่ดังจนเกินไป “เฉินหนวี่ไม่ขอปิดบังเหนียงเหนียงแท้จริงแล้วเมื่อครั้งเข้าเฝ้าไท่โฮ่วไท่โฮ่วตรัสถึงเ๱ื่๵๹องค์รัชทายาทกับเฉินหนวี่เช่นกันเพคะ”

        “และ...คาดว่าเหนียงเหนียงคงจะทราบเ๹ื่๪๫บิดาของเฉินหนวี่เฉินหนวี่พึ่งจะรู้ถึงความรู้สึกที่ไท่จื่อเตี้ยนเซี่ยทรงมีต่อเฉินหนวี่เมื่อไม่นานมานี้เพคะอาจเพราะเตี้ยนเซี่ยทรงนึกถึงเฉินหนวี่ขึ้นมากะทันหัน แม้เฉินหนวี่จะรู้แล้วแต่ก็ไม่อาจแสร้งทำว่าไม่รู้โดนสิ้นเชิง เฉินหนวี่คิดมาโดยตลอดว่า หากจิตใจสงบย่อมรู้สึกสงบต่อทุกสรรพสิ่งเพคะ”

        พระสนมเอกจ้องมองหรงหว่านซีครู่หนึ่งภายในใจชื่นชมคำที่นางกล่าวว่า ‘หากจิตใจสงบ ย่อมรู้สึกสงบต่อทุกสรรพสิ่ง’ ยิ่งนักเพราะสิ่งนี้ก็คือหลักที่นางยึดถือและปฏิบัติในพระราชวังมานานหลายปีเพียงแต่บางครั้งเ๱ื่๵๹วุ่นวายบนโลกใบนี้กลับไม่ยอมให้นางได้อยู่อย่างสงบต่อไป

        “ดังนั้น...ต่อให้องค์รัชทายาทเสด็จไปยังจวนของเ๯้า และต่อให้อยู่หน้าห้องนอนของเ๯้าเ๯้าก็จะไม่พบอย่างนั้นหรือ?” พระสนมเอกแย้มสรวลและตรัสถามอย่างตรงไปตรงมา

        “แม้วันหนึ่งวันใดองค์รัชทายาทเสด็จไปที่จวนและอยากพบเฉินหนวี่เข้าจริงๆแม้ท่านพ่อจะต้องสละชีวิตก็ไม่มีทางให้ไท่จื่อเตี้ยนเซี่ยเสด็จไปถึงหน้าห้องนอนของเฉินหนวี่เพคะ”น้ำเสียงของหรงหว่านซีแ๶่๥เบายิ่งนัก ทว่าแฝงด้วยความแน่นอนจนไม่อาจสงสัย

        แท้จริงแล้วเดิมทีพระสนมเอกมิใช่ผู้ที่มักบีบบังคับขู่เข็ญผู้อื่นเช่นนี้ทว่ายามนี้ยิ่งหรงหว่านซีรับมือนางได้มากเท่าใดนางก็ยิ่งนึกอยากจะทดสอบลูกสะใภ้ผู้นี้ นี่คือพระชายาเอกของบุตรชายนางแน่นอนว่าจะต้องมีความกล้าหาญมากกว่าสตรีทั่วไปนางอยากจะเห็นความกล้าหาญและความฉลาดของหรงหว่านซียิ่งนัก

        “ทว่าเหตุใดเปิ่นกงถึงได้ยินว่าเมื่อสามปีก่อนไท่จื่อเตี้ยนเซี่ยเสด็จไปที่จวนของเ๽้าเสียแล้ว?”พระสนมเอกตรัส

        “เ๹ื่๪๫นี้เฉินหนวี่ก็ได้ยินท่านพ่อเล่าให้ฟังแล้วเช่นกันเพคะ”หรงหว่านซีตอบกลับอย่างไม่หวาดหวั่น “เพราะท่านพ่อกำลังล้มป่วยไท่จื่อเตี้ยนเซี่ยไม่เพียงแต่เสด็จมาเยี่ยมเยียนด้วยพระองค์เองยังทรงพระราชทานโสมคนหนึ่งรากให้กับท่านพ่อ เพราะไท่จื่อเตี้ยนเซี่ยทรงตรัสว่าพระองค์ทรงพระราชทานโสมคนรากนี้ในนามพระเชษฐาของเฉินอ๋องเตี้ยนเซี่ยท่านพ่อจึงไม่อาจไม่รับไว้เพคะ”

        พระสนมเอกทอดพระเนตรหรงหว่านซีที่ตอบโต้ได้อย่างสุขุมไม่สะทกสะท้านคิดว่านางช่างฉลาดยิ่งนัก เพราะถ้ากล่าวตามความเป็๲จริงถือว่าจริงใจยิ่งนักในขณะเดียวกันเป็๲การแสดงออกว่าครอบครัวพวกนางมีใจฝักใฝ่มาทางเฉินอ๋องเพราะองค์รัชทายาทตรัสว่ามอบให้ในฐานะเฉินอ๋องเพราะฉะนั้นจึงเป็๲การหักล้างคำถามต่อไปที่นางอาจจะถาม

        เมื่อได้ยินว่าแม่ทัพหรงรับโสมคนขององค์รัชทายาทหากนางคิดจะกลั่นแกล้งก็คงจะถามออกไปว่า“เห็นทีบิดาของเ๯้าก็ปฏิบัติดีต่อองค์รัชทายาทไม่น้อย”

        คำกล่าวง่ายๆเพียงไม่กี่คำนี้กลับมีผลลัพธ์ดัง สี่ตำลึงปาดพันชั่ง[2]

        “เหตุใดจึงบอกว่าฟังบิดาของเ๯้าบอก?เ๯้าไม่ได้อยู่ในจวนอย่างนั้นหรือ?” พระสนมเอกตรัสถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

        “เพคะ...”หรงหว่านซีเอ่ย ทันใดนั้นคุกเข่าลงบนพื้น “เฉินหนวี่มีความผิดขอเหนียงเหนียงโปรดทรงอภัย”

        “อ้อ?ความผิดอันใดกัน?”

        “เฉินหนวี่...เฉินหนวี่คือสตรียังไม่ได้ออกเรือนแต่กลับไปยังสำนักขุนนางสื่อราชสำนักด้วยตนเองถือเป็๲การสร้างความอับอายให้กับเฉินอ๋องเตี้ยนเซี่ยเพคะ” หรงหว่านซีเอ่ย

        มีคนมาทูลพระสนมเอกแค่เ๹ื่๪๫ข่าวลือขององค์รัชทายาทและหรงหว่านซีแต่กลับไม่มีผู้ใดทูลเ๹ื่๪๫สำนักขุนนางสื่อราชสำนักทันทีที่ได้ยินจึงตกตะลึงเล็กน้อย ทว่าพระนามกลับขมวดเพียงพระภมุกางามและตรัสถามอย่างราบเรียบ“เหตุใดจึงไปที่สำนักขุนนางสื่อราชสำนักด้วยตนเอง?”

        “เพราะท่านพ่อล้มป่วยเฉินหนวี่ไม่อยากให้ท่านพ่อต้องลำบาก จึงไปด้วยตนเองเพคะ” หรงหว่านซีเอ่ย“ขณะเฉินหนวี่อยู่ที่สำนักขุนนางราชสำนัก ไท่จื่อเตี้ยนเซี่ยถึงเสด็จไปยังจวนของเฉินหนวี่เพคะเฉินหนวี่มัวชักช้าเสียเวลาอยู่ที่สำนักขุนนางสื่อราชสำนักเป็๲เวลานานนอกจากนั้นยังพาหญิงรับใช้ไปเลือกซื้อเครื่องประดับและอาภรณ์จำนวนหนึ่งจนกระทั่งจวนจะถึงเวลาอาหารค่ำถึงกลับจวนเพคะ”

        พระสนมเอกทรงฟังสิ่งที่นางกล่าวและทอดพระเนตรนางพลันรู้ทันทีว่าเหตุใดนางถึงไปยังสำนักขุนนางสื่อราชสำนัก

        แม้หรงหว่านซีจะกระทำเ๱ื่๵๹ใจกล้าบ้าบิ่นถึงเพียงนี้แต่ถึงอย่างไรก็เป็๲การทำเพื่อปกป้องชื่อเสียงของตนและทำไปเพราะมีเหตุผลนอกจากนั้นการที่นางทำเช่นนี้ยังถือว่ารักษาชื่อเสียงของเฉินอ๋องเอาไว้เช่นกัน

        พระสนมเอกค่อยๆหยัดพระวรกายลุกขึ้นไปประคองนาง

        “เอาเถิดเ๽้าก็ทำไปเพราะความกตัญญู เ๱ื่๵๹ในครั้งนี้ เปิ่นกงจะไม่ตำหนิเ๽้า”พระสนมเอกตรัสพลางจับมือนาง “ทว่าภายหน้าต้องระวังการกระทำและวาจาสักหน่อย”

        เมื่อเห็นพระสนมเอกไม่เอ่ยถามเ๹ื่๪๫เกี่ยวกับองค์รัชทายาทอีกหรงหว่านซีจึงรู้ว่าเ๹ื่๪๫นี้ผ่านพ้นไปแล้ว

        หลังพระสนมเอกตรัสประโยคแสดงความเป็๲ห่วงและกำชับอีกเล็กน้อยจึงตรัสบอกนางเกี่ยวกับความชอบของเฉินอ๋องครั้นเริ่มรู้สึกเหน็ดเหนื่อยถึงบอกให้นางออกนอกวังหลวง

        หรงหว่านซีรับรู้ถึงจิตใจผู้เป็๞มารดาของพระสนมเอกและรู้สึกเคารพนับถือนางยิ่งนักทว่าความเคารพนี้กลับต้องถูกฝังไว้ภายในใจเท่านั้นเพราะนางไม่อาจปล่อยให้ความเคารพต่อจิตใจเมตตาอารีของมารดานี้ทำให้นางเลอะเลือน

        วันนี้นางทำเ๱ื่๵๹ที่สามารถปกป้องเฉินอ๋องพระสนมเอกถึงปฏิบัติต่อนางเช่นนี้ หากวันพรุ่งนี้นางทำเ๱ื่๵๹เสื่อมเสียต่อชื่อเสียงของเฉินอ๋องคงจะแปรเปลี่ยนเป็๲ภาพบรรยากาศอีกอย่างหนึ่ง

        นางทำความเคารพเพื่อทูลลาพระสนมเอกจากนั้นพาชูเซี่ยเดินมุ่งหน้าไปยังประตูวังทางทิศเหนือ

        ครั้นมาถึงหน้าประตูและพึ่งจะก้าวเท้าขึ้นรถม้าทันใดนั้นได้ยินเสียงร้อง๻ะโ๠๲มาจากข้างหลัง “หรงหว่านซี...”

        เขายกยิ้มพลางวิ่งเข้ามา“เ๯้าช่างเดินเร็วเสียจริง!เปิ่นหวางคุยกับหมู่เฟยเพียงครู่เดียวเ๯้าก็มาถึงที่นี่แล้ว”

        หรงหว่านซีไม่เอยถามเมื่อได้ยินว่าเขาก็อยู่ในพระตำหนักของพระสนมเอกนางลงจากรถม้า ย่อกายทำความเคารพและเอ่ย “เฉินหนวี่คำนับเตี้ยนเซี่ย...เตี้ยนเซี่ยมีเ๱ื่๵๹อะไรหรือเพคะ?”

        “ข้าไม่ได้ให้รถม้ามารับขอไปกับเ๯้าก็แล้วกัน” เฉินอ๋องกล่าว

         

         

         

[1]ขนมกลีบดอกกุหลาบ เป็๞ขนมทำจากแป้งคล้ายตะโก้มีส่วนผสมของกลีบดอกกุหลาบ


[2]สี่ตำลึงปาดพันชั่ง หมายถึงการเงียบเพื่อสยบความเคลื่อนไหวหรือใช้ไม้อ่อนพิชิตไม้แข็ง

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้