ตอนที่อ๋าวหรานฟื้นขึ้นมาก็ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจอะไร ถึงเขาจะเป็ตัวรับะุ [1] แทนแต่จะอย่างไรก็ยังเป็หนึ่งในตัวละครสำคัญที่เกี่ยวข้องกับจุดเริ่มต้น การเดินเื่ จุดหักมุมและบทสรุปของนิยายเล่มนี้อยู่ดี จะตายง่ายๆ ได้อย่างไร? คาดว่าต่อให้เขาอยากตาย พล็อตเื่ก็คงสามารถหาทางพาเขากลับมาได้อยู่ดี แน่นอนทั้งหมดนี้เป็สิ่งที่ระบบบอกเขามา
ั้แ่ออกจากหมูบ้านสกุลอ๋าว เพื่อให้เขาประคองสติไว้ได้ ระบบในสมองได้พูดให้เขาฟังหลายเื่ รวมถึงนิยายเื่นี้เื่ที่เขามาอยู่ในนิยายเื่นี้ได้อย่างไร และบทบาทที่เขาต้องแสดงในนิยายเื่นี้ด้วย เรียกได้ว่าน่าเหลือเชื่อจนอ๋าวหรานยังเชื่อไม่ลงอยู่นิดหน่อย
เสียงเปิดประตูทำให้อ๋าวหรานดึงสติกลับมา
ถึงแม้ทั้งร่างจะถูกพันไว้ราวกับมู่ไหน่อี [2] แต่ศีรษะซึ่งเป็ร่างกายเพียงส่วนเดียวที่สามารถขยับได้ก็ยังเป็อิสระดีอยู่ อ๋าวหรานหันศีรษะมองไปด้านนอกประตู
สาวน้อยที่ผลักประตูเข้ามาสวมชุดกระโปรงยาวสีเหลืองห่าน ตาวาวฟันขาว ผมดกพลิ้วไสวตามสายลม สดใสน่ารักและงดงามเป็อย่างยิ่ง อ๋าวหรานมิใช่คนตื้นเขินแต่ก็ยังถูกรูปลักษณ์ของสาวน้อยตรงหน้าทำให้ตกตะลึงไปเหมือนกัน โดยเฉพาะดวงตาโตสีดำราวขนของอีกาที่ส่องประกายคู่นั้น บริสุทธิ์สดใสจนทำให้คนลุ่มหลง อ๋าวหรานอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง
จิ่งเซียง “ หน้าข้ามีอะไรติดหรือ?”
“ไม่...ไม่มี” อ๋าวหรานอดไม่ได้ที่จะหน้าแดง หากไม่ใช่เพราะมือขยับไม่ได้ อ๋าวหรานคงจะต้องปิดหน้า หาที่มุดหนีเข้าไปสักที่แน่ๆ โตขนาดนี้แล้ว ยังจะบ้าผู้หญิงอยู่อีก น่าอายนัก!!!
“ อะ...แฮ่ม ที่นี่คือที่ไหน? เป็เ้าที่ช่วยข้าไว้หรือ?”
บัดซบ ปั้นน้ำเป็ตัว น่าอายจริง! ท่าทางที่แท้จริงแล้วรู้เื่ทุกอย่าง แต่ต้องทำเป็ไม่รู้อะไรเลยเช่นนี้ทำให้อ๋าวหรานรู้สึกเหลือจะรับได้ แต่เขาพูดอะไรไม่ได้ ต้องกลั้นไว้จนแทบจะช้ำในตายอยู่แล้ว
จิ่งเซียงตอบพร้อมยิ้มระรื่น “ เ้ามีเืท่วมตัว นอนอยู่ที่ตีนเขาหมู่บ้านเรา ข้าเห็นเ้ายังมีลมหายใจอยู่จึงพาเ้ากลับมา คิดว่าถ้าช่วยให้รอดได้ก็ดี ไม่รอดก็ไม่เป็ไร ถือเสียว่าเป็การฝึกปรือฝีมือ”
แม่นาง เ้าช่างซื่อตรงมากเกินไปแล้ว!
ถึงแม้ท่าทางภูมิอกภูมิใจนั้นจะน่ารัก
แต่เ้าก็ควรจะสนใจความรู้สึกของคนป่วยบ้าง
คนสงบนิ่งเช่นอ๋าวหรานเองยังอดที่จะค่อนแคะไม่ได้
“ขอบคุณแม่นางที่ช่วยชีวิตข้าไว้ ข้าน้อยอ๋าวหราน ที่บ้านประสบภัยพิบัติ าเ็สาหัสหนีตายมาถึงที่นี่ เดิมทีคิดว่าจะต้องจบชีวิตลงเสียแล้ว โชคดีได้แม่นางมาช่วยไว้ บุญคุณยิ่งใหญ่ชาตินี้อ๋าวหรานจะไม่มีวันลืมเลือน”
แม่นางน้อยเดินเข้ามาใกล้ นางค่อยๆ ประคองอ๋าวหรานขึ้นมา ส่งยาให้เขา อ๋าวหรานอดกลั้นความเจ็บลุกขึ้นนั่ง ยกยาขึ้นมาดื่มทีเดียวจนหมด ขมมาก
จิ่งเซียงมองอ๋าวหรานที่กำลังอดกลั้นความเ็ปไว้ อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ
จิ่งเซียง “ เ้าแซ่อ๋าว?”
อ๋าวหราน “ ใช่แล้ว”
จิ่งเซียง “ หมู่บ้านสกุลอ๋าวเกี่ยวข้องอะไรกับเ้า?”
อ๋าวหรานชะงักเล็กน้อยตอบว่า “หัวหน้าหมู่บ้านสกุลอ๋าวคือบิดาของข้าเอง”
จิ่งเซียงที่ได้รับคำตอบจากอ๋าวหรานกลับมีอาการลังเลเล็กน้อย “เ้า...”
อ๋าวหรานไม่สนใจความเ็ปบนร่างรีบลุกขึ้น กล่าวอย่างกระวนกระวาย
“แม่นาง ไม่ทราบว่าตอนนี้หมู่บ้านสกุลอ๋าวเป็เช่นไรบ้าง? ยัง...ยังมีใครรอดชีวิตอีกบ้างหรือไม่? ”
จิ่งเซียง “ถูกไฟเผาวอดวายไปหมดแล้ว คนที่ยังมีชีวิตรอดอยู่ เกรงว่าจะมีเ้าเพียงคนเดียว”
ต่อให้รู้ว่านี่จะเป็เพียงนิยายเื่หนึ่ง ตนเองเป็แค่เพียงคนนอก เดิมไม่ได้อยู่ในนิยายเื่นี้ แต่อ๋าวหรานก็ยังอดปวดใจไม่ได้ เป็ความเ็ปเสมือนจริงอย่างยิ่ง
เหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่หมู่บ้านสกุลอ๋าวยังคงชัดเจน เสียงร้องไห้น่าอนาถดังระงมราวกับยังดังอยู่ข้างหู แจ่มชัดยิ่งนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งมารดาของร่างนี้ ผู้ซึ่งไม่ลังเลที่จะขวางอยู่ด้านหน้าเพื่อปกป้องเขาเอาไว้ แค่คิดขึ้นมา อ๋าวหรานก็รู้สึกว่าหัวใจราวกับถูกคนบีบคั้นอย่างรุนแรง
หายใจไม่ออก!
“นี่นี่นี่! อย่าร้อนรนจนเกินไป ร่างกายเ้าเต็มไปด้วยาแ อย่าขยับมั่วซั่ว ข้าช่วยเ้าไว้ด้วยความยากลำบาก ถ้าเ้าตายไปความลำบากของข้ามิเสียเปล่าหรอกหรือ”
จิ่งเซียงเห็นอ๋าวหรานกำหมัดแน่น แววตาเลื่อนลอย นางใจนรีบพูดปลอบใจครั้งแล้วครั้งเล่า หวังจะเรียกการรับรู้ของเขาให้กลับคืนมา
อ๋าวหรานเป็คนที่มีเจตจำนงแข็งกล้า ในที่สุดก็อดทนไว้ได้ ไม่เป็ลมไปเสียก่อน แต่ก็เหมือนคนที่อยู่ในสภาวะขาดน้ำ นั่งพิงกำแพงเงียบๆ ดวงตาแดงก่ำดูห่อเหี่ยวเป็อย่างมาก
“นี่ สุภาษิตโบราณว่าไว้ ตราบเขาเขียวยังอยู่ ไยกลัวไร้ฟืนเผา [3] ขอแค่เ้ามีชีวิตอยู่ ตระกูลอ๋าวของเ้าก็ยังไม่สูญสิ้นไป เ้ามีชีวิตอยู่ต่อไปให้ดี คงมีสักวันที่จะได้แก้แค้น และทำให้ตระกูลอ๋าวของเ้าเจริญรุ่งเรืองสืบต่อไป”
เด็กน้อยคนนี้เดิมทีดูเหมือนใจร้ายแล้งน้ำใจ แต่แท้จริงแล้วเป็คนดีมีเมตตา คำพูดของนางทำให้หัวใจของอ๋าวหรานอบอุ่น เป็สาวน้อยที่น่ารักอย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงภายนอก
อ๋าวหรานขยับปากยิ้มเล็กน้อย “ขอบคุณแม่นางที่ปลอบใจ อ๋าวหรานเข้าใจแล้ว”
“อืมอืม เ้าเข้าใจก็ดีแล้ว เ้าพักรักษาตัวที่นี่ก่อน หมู่บ้านสกุลจิ่งของข้าเลี้ยงเ้าไหว พี่ชายของข้าใกล้จะกลับมาแล้ว เขาจะต้องช่วยเ้าแน่ เดี๋ยวจะส่งยาและอาหารมาให้เ้า เ้ากินแล้วก็พักผ่อนให้ดี มียาของหมู่บ้านสกุลจิ่งอยู่ อาการาเ็ของเ้าดูแลรักษาสักหนึ่งถึงสองเดือนก็คงจะลุกจากเตียงได้แล้ว ”
พี่ชาย? หมายถึงตัวเอกใช่ไหม?
“ขอถามแม่นางที่นี่คือที่ไหน? แม่นางมีนามว่ากระไร?”
“ ที่นี่คือหมู่บ้านสกุลจิ่ง ข้าชื่อจิ่งเซียง”
จิ่งเซียง น้องสาวแท้ๆของตัวเอกในนิยายเื่นี้
[1] ตัวรับะุแทน(炮灰)ทหารไร้ค่าในา ถูกส่งให้ไปตายแทน
[2] มู่ไหน่อี (木乃伊) หรือ มัมมี่
[3] ตราบเขาเขียวยังอยู่ ไยกลัวไร้ฟืนเผา (留得青山在,不怕没柴烧) หมายถึง Where there is life, there is hope หากยังมีชีวิตก็ยังมีหวัง