เมื่อได้ยินเสียงร้องของโต้ซา ฉือหางก็เข้ามาใกล้ๆ เอ่ยถามด้วยความงุนงงว่า "ร้องไห้ทำไมหรือ?"
หลินกู๋หยู่เงยหน้าขึ้นมองฉือหาง ขมวดคิ้วเล็กน้อย "ข้าเดาว่าเขาคงใกลัวผู้หญิงคนนั้น"
หลินกู๋หยู่ยื่นมือออกไปจับมือเล็กๆ ของเด็กน้อย เรียกเบาๆ ว่า "โต้ซา"
ขณะที่พูด นางก็เขย่าไหล่ของโต้ซาอย่างระมัดระวัง
อาจเป็เพราะมีคนจับมือของเขา โต้ซาค่อยๆ ลืมตาขึ้น
ดวงตาที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตา ใบหน้าเล็กๆ ของเขาก็แดงก่ำจากการร้องไห้ เมื่อเห็นหลินกู๋หยู่ เขาก็ลุกขึ้นนั่งและกอดคอของหลินกู๋หยู่แน่นโดยไม่พูดอะไร
หลินกู๋หยู่กอดโต้ซาอย่างเห็นอกเห็นใจ กัดริมฝีปากแน่น ตบหลังโต้ซาเบาๆ พลางกระซิบว่า "อย่ากังวลเลย ไม่เป็ไรแล้ว"
โต้ซาสูดจมูกอย่างแรง มองไปที่หลินกู๋หยู่ด้วยสายตาที่เศร้าโศก ร้องเรียกหลินกู๋หยู่เสียงแหบแห้งว่า "ท่านแม่"
"ไม่เป็ไรแล้ว ไม่เป็ไรแล้ว" หลินกู๋หยู่กล่าวพลางยกมือขึ้นเช็ดหยาดน้ำบนใบหน้าของโต้ซาอย่างระมัดระวัง สายตาของนางจับจ้องไปที่ครึ่งหน้าที่บวมของโต้ซาด้วยความรู้สึกเ็ป
ไม่สำคัญว่าเด็กคนนี้จะเป็ลูกแท้ๆ ของนางหรือไม่ ถูกตบตีเช่นนี้ ตราบใดที่ยังเป็มนุษย์ ย่อมรู้สึกเห็นอกเห็นใจ
หลังจากเลี้ยงดูโต้ซาเป็เวลานานเพียงนี้ หลินกู๋หยู่มองใบหน้าโต้ซา หยาดน้ำคลอวนอยู่ในเบ้าตา เด็กคนนี้เชื่อฟังและเป็เด็กดี คิดไม่ถึงว่าจะถูกตบตีถึงเพียงนี้
“ไม่เป็ไรแล้ว วันข้างหน้าจะไม่มีใครมารังแกเ้าอีกแล้ว” หลินกู๋หยู่กล่าวพลาง ยกมือขึ้นปาดน้ำตาบนใบหน้าของโต้ซา “ใครก็ตามที่้ารังแกเ้า แม่จะช่วยเ้าเอาชนะคนเ่าั้ให้ได้!”
โต้ซาขยับเข้าไปใกล้ใบหน้าของหลินกู๋หยู่ แตะริมฝีปากของนางเบาๆ จากนั้นนั่งตัวตรง มองนางด้วยดวงตาที่เปียกชื้น
“ไม่ร้องไห้แล้ว!” หลินกู๋หยู่พูดพลาง หยิบผ้าเช็ดหน้าด้านข้างมาเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของโต้ซาอย่างระมัดระวัง “เด็กดี”
เมื่อเห็นโต้ซาเป็เช่นนี้ ฉือหางรู้สึกทรมานใจอย่างมาก
เด็กน้อยเม้มริมฝีปากแน่น พยักหน้าอย่างแรง
เด็กคนนี้เชื่อฟังดี หลังจากปลอบโยนเพียงไม่นาน เขาก็หยุดร้องไห้
ฉือหางยืนอยู่ข้างๆ มองท่าทางอ่อนโยนของหลินกู๋หยู่ที่มีต่อโต้ซา เขารู้สึกงงงวยเล็กน้อย
เห็นได้ชัดว่าเขาได้รับาเ็เช่นเดียวกับลูกชายของเขา แต่เหตุใดท่าทีของหลินกู๋หยู่ถึงได้แตกต่างกัน?
“เ้าเลิกทำงานก่อน ไปดูว่าบะหมี่สุกหรือยัง?” หลินกู๋หยู่มองไปที่ฉือหางที่ยืนอยู่ข้างๆ และเอ่ยด้วยท่าทางงุนงง “ถ้าสุกแล้ว อีกสักพักเราจะได้ทานอาหาร”
ฉือหางรับคำ ก่อนที่จะเดินออกไปข้างนอก ล้างมือแล้วเดินไปที่เตา
หลินกู๋หยู่ช่วยโต้ซาเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยรอยยิ้ม "โต้ซาหยุดร้องไห้แล้ว น่ารักมาก"
ในเบ้าตายังคงคลอด้วยหยาดน้ำตา ใบหน้าเล็กๆ ของโต้ซาขมวดมุ่นเป็รอยย่น แต่หยาดน้ำในเบ้าตาก็ยังคงไม่ไหลลงมาแต่อย่างใด
เมื่อเห็นโต้ซาเช่นนี้ หลินกู๋หยู่ก็ถอนหายใจอย่างจนปัญญา หยิบผ้าเช็ดหน้าที่อยู่ข้างๆ เช็ดใบหน้าให้สะอาดแล้วอุ้มเขาขึ้นมา
ฉือหางใช้ตะเกียบคนบะหมี่ในหม้อ เมื่อเห็นว่าน้ำเดือด "บะหมี่พร้อมแล้ว ทานตอนนี้ได้เลย"
“รออีกสักครู่เถอะ” หลินกู๋หยู่เหลือบมองบะหมี่ที่ยังไม่สุกในหม้อ “มันยังไม่สุก”
โต้ซาพิงศีรษะบนคอของหลินกู๋หยู่ เขาเป็เด็กดีมาก
เมื่ออาหารพร้อมแล้ว หลินกู๋หยู่ป้อนโต้ซาด้วยตะเกียบ ก่อนที่ตนเองจะรับประทานอาหาร
หลังทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว หลินกู๋หยู่และฉือหางกำลังง่วนอยู่กับการทำเตียงเตา ด้านข้างเตียงมีโพรง ฉือหางกำลังง่วนอยู่กับการสร้างปล่องไฟด้วยหิน
ทางด้านหลินกู๋หยู่ทำการย้ายตู้ทั้งหมดไปด้านข้าง หากปล่องไฟอยู่ติดกับผนัง เช่นนั้นก็ต้องไม่วางตู้ไว้ตรงนั้น ไม่เช่นนั้นหากไฟไหม้จะทำอย่างไร?
เมื่อคิดถึงเื่นี้ หลินกู๋หยู่ก็ย้ายตู้ไปที่ข้างประตู
ไม่ว่าหลินกู๋หยู่จะไปที่ใด โต้ซาก็จับชายเสื้อผ้าของหลินกู๋หยู่และเดินตามไปที่นั่น
"ทำเตียงเล็กให้โต้ซาเถอะ" ฉือหางเงยหน้าขึ้นและชำเลืองมองหลินกู๋หยู่ "วางไว้บนปล่องไฟฝั่งนี้ได้พอดี จะได้ไม่ต้องกังวลว่าโต้ซาจะหนาว"
เ้าก้อนซาลาเปาเล็กมองไปที่ฉือหางปราดหนึ่ง จากนั้นเอนตัวพิงหลินกู๋หยู่
“เช่นนั้นก็ได้” หลินกู๋หยู่พยักหน้าเห็นด้วย “อย่าทำให้ใหญ่เกินไป และไม่ต้องสูงเกินไป”
"ตกลง!" ฉือหางรีบสร้างเตียงขนาดเล็กหนึ่งหลัง วางหินจำนวนมากบนปล่องไฟ จากนั้นวางแผ่นไม้ที่แตกหักไว้้า
หลินกู๋หยู่ปูผ้าห่ม้า แต่เมื่อััก็ยังรู้สึกไม่สบายมือ "กระดานนี้ไม่ค่อยดี นอนไม่สบาย"
"ข้าจะไปถามฝั่งท่านแม่ว่ามีไม้กระดานหรือไม่?" ฉือหางยืนขึ้น เนื่องจากก้มลงเป็เวลานาน เอวของเขารู้สึกเ็ปเล็กน้อย
หลินกู๋หยู่คิดอยู่ครู่หนึ่ง ดูเหมือนว่าในบ้านไม่มีกระดานที่เหมาะสม "งั้นเ้ารีบไปถามเถอะ"
ฉือหางตอบรับแล้วเดินตรงไปข้างนอก
ไม่นานฉือหางก็กลับมาพร้อมฉือซู่ ทั้งคู่ถือแผ่นไม้หนาๆ หนึ่งแผ่น
“ขอบคุณพี่ชายใหญ่” หลินกู๋หยู่กล่าวด้วยรอยยิ้ม
ในตอนเช้าวันนี้ฉือซู่ไม่อยู่บ้าน แต่เมื่อเขากลับมาในภายหลัง เขาก็ได้ยินซ่งซื่อพูดถึงเื่นี้ไม่มากก็น้อย
ฉือซู่จ้องมองไปที่ใบหน้าของโต้ซา เห็นอาการบวมที่ใบหน้าด้านหนึ่งของเขา เขาพูดอย่างเป็ทุกข์ว่า "โต้ซา มานี่ มาให้ลุงดู"
โต้ซามองฉือซู่อย่างอ่อนแอระคนขี้อาย เอาแต่กอดขาของหลินกู๋หยู่ ไม่เต็มใจที่จะมองฉือซู่
หลินกู๋หยู่มองที่ท่าทีของโต้ซา อดไม่ได้ที่จะััที่ศีรษะของโต้ซา พูดกล่าวขอโทษว่า "พี่ชายใหญ่ ข้าขอโทษจริงๆ ดูเหมือนว่าโต้ซาจะหวาดกลัวจากเหตุการณ์เมื่อเช้านี้"
ฉือซู่เดิมเป็คนคุยง่าย เมื่อเห็นการแสดงออกของโต้ซา เขาก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เม้มริมฝีปากแน่น ก่อนที่จะพูดว่า "โธ่ จ้าวหยางก็จริงๆ เลย นางทำเช่นนี้ได้อย่างไร?"
พอได้ยินสิ่งที่ฉือซู่พูด พลันนึกถึงใบหน้าของจ้าวหยาง หลินกู๋หยู่ก็รู้สึกอึดอัดระคนขยะแขยง
เมื่อนางมาที่นี่ โต้ซาขี้กลัวมาก อีกทั้งไม่ยอมพูด
หลังจากเวลาผ่านไป โต้ซาก็ค่อยๆ ร่าเริงและกลายเป็เด็กช่างพูด นอกจากนี้เขาริเริ่มทักทายผู้อื่น และชอบที่จะคิดถึงนาง
จิตใจของเด็กๆ เปราะบางเกินไป เมื่อประสบพบเจอกับเหตุการณ์เล็กน้อยก็อาจจะกลายเป็ริ้วแผลในวัยเยาว์
ถ้าเป็ไปได้ หลินกู๋หยู่ไม่อยากให้โต้ซาเห็นจ้าวหยางอีกแม้แต่ครั้งเดียว
"พวกเ้าทำได้ดีทีเดียว" ฉือซู่มองไปที่เตียงขนาดใหญ่ของฉือหาง "ทำเช่นนี้จะได้ผลหรือ มันจะอุ่นหรือไม่?"
“อาจจะอุ่นไม่มากก็น้อย” ฉือหางวางแผ่นไม้บนเตียงเล็กที่เตรียมไว้สำหรับโต้ซา “มันน่าจะดีกว่าเตียงปกติมาก”
เมื่อได้ยินสิ่งที่ฉือหางพูด ฉือซู่ก็พยักหน้าอย่างเคร่งขรึม "ใช่ ถ้าพวกเ้าคิดว่าได้ผล วันหลังก็บอกข้าด้วย ข้าจะทำให้ท่านแม่ของเราด้วย"
"ได้" ฉือหางพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
หลังจากส่งฉือซู่ออกไป หลินกู๋หยู่และฉือหางก็ทำงานต่อ เตียงของพวกเขาย่างด้วยไฟ หลังจากรอสักพักหนึ่ง หลินกู๋หยู่ก็ยื่นมือไปแตะเตียงเตา
มันแข็งแรงเพียงพอแล้ว
“เ้าหิวหรือไม่?” หลินกู๋หยู่มองฉือหาง รอยยิ้มระหว่างคิ้วและดวงตาชัดเจนอย่างมาก “เ้าอยากกินอะไร?”
"ในบ้านมีอะไรก็ทำอันนั้นเถอะ!" ฉือหางเริ่มเก็บกวาดและจัดห้องให้เป็ระเบียบอย่างรวดเร็ว
หลินกู๋หยู่เริ่มก่อฟืนที่เตา โต้ซาเดินตามหลินกู๋หยู่ต้อยๆ ดูเหมือนว่าตราบใดที่เขาปล่อยมือ หลินกู๋หยู่ก็จะหายไปไม่กลับมาอีก
ข้าวต้มในหม้อใบหนึ่ง ด้านข้างผัดผักในกระทะ ที่บ้านไม่มีเนื้อสัตว์ ดังนั้นหลินกู๋หยู่จึงทำผัดผักสองจาน
ผัดผักพร้อมแล้ว น้ำแกงก็พร้อมแล้ว หลินกู๋หยู่ใช้กระทะผัดผักอุ่นหมั่นโถวที่เย็นชืด
"เตียงอุ่นหรือไม่?" หลินกู๋หยู่เอ่ยถามฉือหางด้วยรอยยิ้ม
ฉือหางเพิ่งล้างมือ มองดูห้องที่สะอาดและเป็ระเบียบเรียบร้อย "ไม่รู้เหมือนกัน เ้าลองดูสิ!"
หลินกู๋หยู่ลากโต้ซาไปที่ข้างเตียงเล็กของเขา วางมือลงบนเตียง แตะมันสักพักหนึ่งแล้วดึงมือกลับอย่างพึงพอใจ มันอุ่นและไม่รู้สึกร้อนเกินไป
จากนั้นก็เดินไปที่เตียงใหญ่ของพวกเขาสองคน เตียงของพวกเขาไม่อบอุ่นเท่าเตียงของโต้ซา อาจเป็เพราะเตียงของพวกเขาเปิดออกสู่ภายนอกโดยตรง อากาศเย็นบางส่วนถูกสายลมพัดพาเข้ามา
"ก็พอได้ เ้ามาััดูสิ!" หลินกู๋หยู่ยิ้มๆ ขณะมองฉือหางที่อยู่ข้างๆ เขา
ฉือหางััเตียงอย่างสบายๆ ด้วยรอยยิ้มว่า "วันหลังข้าจะทำให้ปล่องไฟข้างนอกให้ยาวอีกสักหน่อย เตียงของเราจะได้อุ่นขึ้น"
“เช่นนั้นก็ได้” หลินกู๋หยู่ตอบด้วยรอยยิ้ม อุ้มโต้ซาขึ้นมาวางบนเตียงโดยตรง “อุ่นหรือไม่?”
โต้ซามองรอยยิ้มบนใบหน้าของหลินกู๋หยู่ ใช้มือเล็กๆ แตะที่เตียงสองครั้ง แล้วผงกศีรษะ
หลังจากรอให้หมั่นโถวอุ่นแล้ว หลินกู๋หยู่ก็เรียกทุกคนทานอาหาร
ต้มน้ำร้อนสำหรับอาบน้ำครู่หนึ่ง ทันทีที่ปิดประตู ภายในห้องก็ร้อนขึ้น
โต้ซาทานข้าวไปเพียงครึ่งชาม ไม่ว่าหลินกู๋หยู่จะเกลี้ยกล่อมเขามากเท่าใด เขาก็ไม่ยอมทานอีก
บนใบหน้าที่ในวันปกติทั่วไปจะฉายรอยยิ้มอยู่เสมอ แต่คราวนี้เขาไม่ยิ้มอีกแล้ว เด็กน้อยดูอ่อนเพลียไร้ชีวิตชีวา
หลังทานอาหารเย็น หลินกู๋หยู่พาโต้ซาออกไปเดินเล่น แต่โต้ซาดูเหมือนจะไม่มีอารมณ์อยากเดินเท่าใดนัก
หลังจากผ่านไปราวครึ่งชั่วยาม หลินกู๋หยู่ขอให้ฉือหางนำถังไม้มาเพื่อเตรียมอาบน้ำให้โต้ซา
โต้ซานั่งในถังไม้อย่างอ่อนแรง เขาไม่เล่นน้ำเหมือนเคย
หลังจากช่วยเขาอาบน้ำ ฉือหางก็ช่วยโต้ซาเช็ดตัวให้สะอาด จากนั้นก็อุ้มไปที่เตียง
ถึงตาหลินกู๋หยู่อาบน้ำแล้ว ทันทีที่หลินกู๋หยู่จะจากไป โต้ซาก็เริ่มงอแงเนื่องจากไม่มีที่ให้จับ
"ทำไมวันนี้โต้ซาถึงไม่เชื่อฟังเช่นนี้" ฉือหางขมวดคิ้ว เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมลูกชายของเขาที่เชื่อฟังมากในวันธรรมดาถึงได้จู้จี้จุกจิกขนาดนี้
หลินกู๋หยู่ได้ยินสิ่งที่ฉือหางพูด จึงยื่นมือไปผลักฉือหางและพูดเบาๆ ว่า "เ้าพูดถึงอะไร ทำไมเ้าไม่ไปล้างตัวก่อน ข้าค่อยไปหลังจากที่เขาหลับ"
หลังจากเกลี้ยกล่อมอย่างยากเย็น โต้ซาก็ผล็อยหลับในที่สุด ฉือหางอาบน้ำเสร็จพอดี เขาสวมชุดนอนที่หลินกู๋หยู่เตรียมไว้ให้ เดินไปที่ด้านข้างของหลินกู๋หยู่และกระซิบว่า "ข้าเปลี่ยนน้ำให้เ้าแล้ว ไปล้างตัวเสีย"
หลินกู๋หยู่รีบอาบน้ำแล้วเข้านอนอย่างรวดเร็ว
ฉือหางดับตะเกียงน้ำมันก๊าดด้านข้าง ทิ้งตัวนอนบนเตียงอุ่นๆ แล้วรู้สึกสบายตัวเป็อย่างยิ่ง
ฉือหางหันไปด้านข้าง ขยับกอดหลินกู๋หยู่เข้ามาในอ้อมแขน จากนั้นฝังศีรษะจูบนางโดยไม่เอ่ยวาจา
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้