เย่ชิงหานรู้สึกยินดีขึ้นภายในใจ ตนเองรวมร่างสัตว์อสูรระดับพลังปราณรบก็เพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับขั้นที่สองขอบเขตาาจักรพรรดิ แถมยังมีวิชาต่อสู้ร่างอสูรที่สามารถสังหารผู้มีพลังฝีมือระดับขอบเขตาาจักรพรรดิได้ในพริบตาอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังมีเวลาอยู่อีกถึงหนึ่งปี ถ้าหากโชคดีฝึกฝนจนบรรลุถึงระดับขอบเขตาาจักรพรรดิได้ละก็ อาศัยวิชาต่อสู้ร่างอสูรคงจะสามารถเอาชนะลู่ซีที่เฝ้ารักษาอยู่ประจำด่านนี้ได้อย่างแน่นอน
ไพ่ตายที่ตนเองเก็บซ่อนไว้ทั้งสองอย่างผู้เฝ้ารักษาด่านเขาไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งทำเป็ไม่รู้?
“สามร้อยกว่าปีแล้วในที่สุดก็มีผู้ที่ฝ่าด่านเข้ามาถึงเสียที หืม? ระดับพลังฝีมือต่ำถึงเพียงนี้เชียว? อายุก็ยังน้อยถึงเพียงนี้อีกด้วย? อ้อ......ที่แท้ก็เป็ผู้โชคดีที่ได้รับแหวนจักรพรรดิิญญานี่เอง...”
ในตอนนี้เย่ชิงหานนึกถึงคำที่ลู่ซีพูดขึ้นเมื่อตอนที่ปรากฏตัวออกมาทีแรก เป็คำพูดที่ฟังดูแปลกประหลาด ตนเองคือคนแรกในรอบสามร้อยปีที่ผ่านเข้ามาถึงในด่านนี้? ผู้โชคดีที่ได้รับแหวนจักรพรรดิิญญา? แล้วแหวนจักรพรรดิิญญามันคือสิ่งใดกัน?
ทันใดนั้นเย่ชิงหานพลันนึกถึงแหวนทองเหลืองของตนเองขึ้นมา รู้สึกว่าบนตัวแหวนจะมีตัวอักษรคำว่า “ิญญา” อยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแหวนวงนี้เป็ของที่อยู่ในูเาสุสานทวยเทพอีกด้วย เป็ของที่บิดาของเขาได้มาจากูเาสุสานทวยเทพ ดูท่าแหวนจักรพรรดิิญญาที่ชายชุดดำลู่ซีพูดถึงคงเป็แหวนทองเหลืองวงนี้แน่ๆ
เพียงแต่ว่าแหวนวงนี้ก็เพียงแค่สมบัติล้ำค่าระดับศักดิ์สิทธิ์เพียงแค่นั้นเองมิใช่รึ? นอกจากสามารถรักษาเยียวยาได้แล้วก็ไม่เห็นจะมีความสามารถอะไรอื่นอีก ตามหลักแล้วไม่น่าจะอยู่ในสายตาของผู้ฝึกยุทธ์ระดับเทพเช่นลู่ซีเสียด้วยซ้ำไป? หรือว่าแหวนวงนี้ยังมีความสามารถที่สุดยอดกว่านี้อีก? เพียงแต่ตนเองไม่ได้ค้นพบเท่านั้นเอง?
“ท่านผู้าุโ ที่ท่านพูดเมื่อสักครู่ว่าผู้โชคดีได้รับแหวนจักรพรรดิิญญา ท่านหมายถึงข้ารึ? แล้วนี่ใช่แหวนจักรพรรดิิญญาหรือไม่?”
เย่ชิงหานยกมือซ้ายขึ้นพร้อมกับแหวนทองเหลืองที่ปรากฏออกมาให้เห็น ้ามีตัวอักษริญญาขนาดใหญ่ที่ดูมีชีวิตชีวาและกระฉับกระเฉงทรงพลัง
“อืม...ถูกต้องนี่ก็คือแหวนจักรพรรดิิญญา แม้จะเสียหายไม่สมบูรณ์แต่ก็ยังนับว่าเป็ของวิเศษล้ำค่า สำหรับประวัติความเป็มาของแหวนและคุณสมบัติความสามารถ รอให้เ้าทะลวงผ่านทั้งสามด่านและได้รับกระบี่เทพเมื่อไหร่ข้าจะบอกให้เ้าฟังเอง ถ้าหากเ้าทะลวงผ่านไปไม่ได้และตายอยู่ที่นี่แหวนวงนี้ข้าก็จะริบกลับคืนมา ดังนั้นตอนนี้เ้าจึงยังไม่มีความจำเป็ที่จะต้องรู้!” ลู่ซีพยักหน้าพร้อมกับพูดขึ้นอย่างช้าๆ
เสียหายไม่สมบูรณ์? นี่ขนาดอยู่ในสภาพเสียหายไม่สมบูรณ์ยังเป็ของวิเศษล้ำค่าถึงเพียงนี้ ถ้าอย่างนั้นแหวนวงนี้ตอนที่ยังไม่ได้ชำรุดเสียหายจะไม่ยิ่งสุดยอดกว่านี้อีกรึ?
ภายในใจของเย่ชิงหานตกตะลึงอย่างถึงที่สุด ดูท่าแหวนวงนี้ที่บิดาของตนเองได้รับมาจากูเาสุสานทวยเทพจะเป็ของที่ไม่ธรรมดาจริงๆ ตอนนี้อยู่ในสภาพเสียหายไม่สมบูรณ์แม้แต่ผู้ฝึกยุทธ์ระดับเทพยังบอกว่าเป็ของดี ถ้าอยู่ในสภาพสมบูรณ์ก่อนหน้านี้คงจะเป็สมบัติล้ำค่าในระดับที่ไม่อาจจะคาดเดาได้อย่างแน่นอน
ครุ่นคิดอยู่สักพักเย่ชิงหานจึงถามขึ้นอีกหนึ่งคำถาม “ท่านผู้าุโ ตอนนี้ถ้าข้าโจมตีใส่ท่าน ท่านคงไม่ตอบโต้ใช่ไหม? ท่านพูดเองว่าอีกหนึ่งปีหลังจากนี้ถึงจะลงมือสังหารข้า!”
ลู่ซีพยักหน้าอย่างราบเรียบ แต่มุมปากเผลอขึ้นแล้วยิ้มออกมา “เ้าวางใจได้ ภายในระยะเวลาหนึ่งปีเ้าปลอดภัยอย่างแน่นอน แต่ว่าถึงข้าไม่ฆ่าเ้าก็ไม่ได้หมายความว่าข้าจะไม่ซ้อมเ้าถ้าเ้ามายั่วโมโหข้า!”
....
“ท่านผู้าุโ ตอนนี้ระดับพลังปราณรบของท่านปรับลดลงมาอยู่ระดับขั้นที่สองขอบเขตาาจักรพรรดิแน่แล้วรึ? ยังมีระดับพลังิญญาที่ต้องปรับลงมาอยู่ที่ระดับขั้นสูงสุดขอบเขตาาจักรพรรดิอีก? และภายในหนึ่งปีต้องอยู่ในระดับขั้นพลังฝีมือเช่นนี้ตลอด?”
เย่ชิงหานสอบถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้งแล้วเตรียมตัวทำการโจมตีเพื่อทดสอบดู เมื่อเห็นลู่ซีพยักหน้าตอบรับเขาจึงรีบโคจรพลังปราณรบขึ้น มือถือกริชวิ่งออกไปด้วยความเร็วจากนั้นทำการะโลอยตัวสูงขึ้นพร้อมกับร้องเสียงดังออกมา “ท่านผู้าุโรับกระบวนท่า ท่าตัดแยกปฐี!”
คลื่นพลังแสงคมมีดสีเขียวฟันปกคลุมลงมายังตำแหน่งศีรษะของลู่ซี ชั่วพริบตาเดียวคลื่นพลังแสงคมมีดขนาดยาวฟันลงมาอยู่เหนือศีรษะ้าของเขาแล้ว อีกไม่นานก็จะฟันลู่ซีขาดออกจากกันกลายเป็สองซีก
ฟิ้ว...
ลู่ซียังคงสีหน้าราบเรียบดังเดิม รอจนกระทั่งคลื่นพลังคมมีดห่างจากศีรษะราวครึ่งเมตรถึงได้สะบัดมือออกไปอย่างง่ายๆ คลื่นพลังแสงรูปกระบี่สีดำสายหนึ่งพลันปรากฏขึ้นจากนั้นพุ่งขึ้นไปหาคลื่นพลังแสงคมมีดที่กำลังฟันลงมา
ปัง!
พลังงานสองสายปะทะชนกันจนเกิดการะเิขึ้น ทำให้รอบด้านเกิดแรงลมปะทะอย่างบ้าคลั่ง เพียงแต่การะเิเล็กน้อยเพียงเท่านี้ทำได้แค่ทำให้เส้นผมและเสื้อผ้าของเย่ชิงหานและลู่ซีสะบัดปลิวขึ้นมาเพียงเท่านั้นแรงกระแทกกลับไม่ได้มีผลอะไรต่อพวกเขามากมาย
“กระบวนท่าตัดแยกปฐีท่าที่สอง!”
เมื่อเห็นว่าลู่ซีทำตามคำพูดไม่ได้ใช้วิชาต่อสู้พิเศษอะไร ทำเพียงแค่ปล่อยพลังปราณรบออกมา ลู่ซีอาศัยพลังปราณรบที่แข็งแกร่งกว่าสองเท่าในการต้านทานการโจมตีของเย่ชิงหานเพียงเท่านั้น ดังนั้นภายในใจของเขาจึงรู้สึกยินดีขึ้นมา ร่างกายหมุนเปลี่ยนทิศทางออกไปด้านข้างพร้อมกับฟันพลังแสงคมมีดออกมาครั้งหนึ่งจากมุมที่แปลกประหลาด
“กระบวนท่าตัดแยกปฐีท่าที่สาม ท่าที่สี่...กระบวนท่าวายุติดตามท่าที่หก...”
ในเวลาเดียวกันเขายืมแรงจากร่างกายที่กำลังร่วงหล่นลงมาฟันออกไปอีกหนึ่งครั้ง รอจนกระทั่งเขาเหยียบลงสู่พื้นพลังแสงคมมีดถูกฟันออกไปจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน เมื่อเหยียบลงสู่พื้นก็ไม่ได้หยุดอยู่เฉยๆ แต่อย่างใด จังหวะฝีเท้าเริ่มเคลื่อนย้ายย่ำวนไปมารอบๆ กายของลู่ซีอย่างรวดเร็ว ในเวลาเดียวกันกริชในมือก็ฟาดฟันออกไปด้วยกระบวนท่าต่างๆ ไม่ซ้ำกันกลายเป็คลื่นพลังแสงคมมีดสายแล้วสายเล่าพุ่งเข้าใส่ลู่ซีอย่างต่อเนื่อง
ห้องโถงใหญ่พลันสว่างไสวขึ้นด้วยแสงสีเขียวที่สาดส่อง ระยะเวลาเพียงแค่สองวินาทีเย่ชิงหานได้ฟันพลังแสงคมมีดออกไปถึงสิบแปดสายแล้ว พลังแสงคมมีดเ่าั้พุ่งโหมกระหน่ำเข้าใส่ลู่ซี คลื่นพลังแสงคมมีดยาวกว่าหนึ่งเมตรจากทั้งสี่ทิศแปดด้านและจากทุกๆ มุมพุ่งตรงเข้าไปหาเขา มองดูเป็ภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจน่าดูชมเป็อย่างยิ่ง
สำหรับคลื่นพลังแสงคมมีดที่พุ่งตรงเข้ามาลู่ซีไม่ได้มีสีหน้าเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด ยังคงมีสีหน้าราบเรียบตามเดิม ในทางตรงกันข้ามดวงตากลับปรากฏแววของความเย้ยหยันขึ้นมา มือข้างซ้ายเริ่มโบกสะบัดขึ้นมาอย่างไม่ใส่ใจราวกับกำลังทำการสะบัดมือไล่ยุงฉันนั้น เมื่อมือของเขาเริ่มโบกสะบัดขึ้นกลางอากาศพลันปรากฏพลังแสงรูปกระบี่สีดำขึ้นตามมา จากนั้นพลังแสงรูปกระบี่แยกกันออกไปพุ่งปะทะชนเข้ากับคลื่นพลังแสงคมมีดแต่ละสายที่พุ่งเข้ามาอย่างแม่นยำ
ปัง ปัง ปัง!
เสียงที่ดังคล้ายกับการจุดประทัดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง รอบกายของลู่ซีราวกับถูกจุดขึ้นด้วยพลุมากมายนับไม่ถ้วน ประกายแสงไฟแตกออกไปทั่วทั้งสี่ทิศสีสันลานตา หลังจากเกิดการะเิขึ้นรอบกายของลู่ซีพลันบังเกิดคลื่นลมพัดอย่างบ้าคลั่ง พัดชายเสื้อผ้าของเขาจนบังเกิดเสียงดังขึ้นอยู่ไม่ขาด
‘สุดยอดจริงๆ ทำการควบคุมพลังได้ถูกต้องแม่นยำเป็อย่างมาก แม้แต่พลังแสงรูปกระบี่สีดำสายเดียวก็ไม่ขาดไม่เกิน?’
ภายในใจเย่ชิงหานรู้สึกตกตะลึงเป็อย่างมาก ตัดสินใจว่าจะไม่ทำการทดสอบอีกต่อไป สี่สิบเก้ากระบวนท่าเย่หวงอานุภาพพลังโจมตีไม่ค่อยรุนแรงมากเท่าไร พลังการโจมตีระดับนี้คงทำให้ลู่ซีรู้สึกแค่คันๆ เพียงเท่านั้น ดูแค่ที่เขายืนอยู่กับที่ไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อยก็พอจะรู้แล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าทำให้าเ็เลย
“ท่าตัดแยกทลายโลกา!”
คลื่นพลังแสงคมมีดสายหนึ่งที่ยาวกว่าและใหญ่กว่าหลายเท่าซึ่งดูราวกับัเพลิงพลันพุ่งตรงเข้าไปหาลู่ซีอีกครั้ง เย่ชิงหานรวบรวมพลังทั้งหมดที่มีโจมตีออกไปด้วยพลังและกระบวนท่าที่มีอานุภาพรุนแรงที่สุดในตอนนี้ ระดับขั้นพลังปราณรบภายในร่างนั้นเดิมทีไม่มีวิชาต่อสู้ระดับสูงทำให้แสดงศักยภาพออกมาได้แค่ร้อยละห้าสิบ แต่เมื่อแตกขยายกระบวนท่าเย่หวงจนถึงสี่สิบเก้ากระบวนท่าทำให้แสดงศักยภาพของพลังออกมาได้เต็มร้อยส่วน
แต่ว่าท่าตัดแยกทลายโลกาเป็การผสานรวมทั้งสี่สิบเก้ากระบวนท่าเข้าด้วยกันจึงทำให้อานุภาพเพิ่มขึ้นมาอีกหลายเท่าตัว ทำให้เมื่อใช้กระบวนท่าออกมจึงสามารถดึงศักยภาพของพลังปราณรบออกมาได้สามถึงห้าร้อยส่วน อานุภาพของพลังโจมตีอย่างน้อยเทียบเท่าผู้มีพลังฝีมือระดับแรกขอบเขตาาจักรพรรดิทั่วๆ ไปเลยก็ว่าได้ เขาไม่เชื่อว่าลู่ซีที่ปรับลดพลังฝีมือของตนเองลงมาอยู่ที่ระดับขั้นที่สองขอบเขตาาจักรพรรดิจะสามารถต้านทานกระบวนท่านี้เอาไว้ได้โดยไม่เป็อะไรเลย
เป็ดั่งที่คาดคิดไว้จริงๆ!
เมื่อลู่ซีมองเห็นคลื่นพลังแสงคมมีดัเพลิงที่ลอยเข้ามา ท่าทีดูถูกในดวงตาของเขาพลันเลือนหายไปในทันที จากนั้นแทนที่ด้วยความจริงจังและราบเรียบ ทันใดนั้นม่านพลังครอบโปร่งแสงที่มีลวดลายสีดำพลันปรากฏขึ้นมา ในเวลาเดียวกันมือข้างขวาของลู่ซีที่ไม่เคยขยับเขยื้อนมาก่อนเริ่มขยับขึ้น มือทั้งสองข้างดันออกมาด้านหน้าพร้อมๆ กัน จากนั้นพลังแสงรูปกระบี่สีดำที่มีขนาดใหญ่กว่าก่อนหน้าหลายเท่าตัวพลันพุ่งออกมาปะทะเข้ากับพลังแสงคมมีดัเพลิงอย่างหนักหน่วง
ปัง!
เสียงะเิที่ดังขึ้นมาในครั้งนี้ดังยิ่งกว่าครั้งก่อนๆ ที่เคยะเิขึ้นมาราวกับฟ้าที่ผ่าลงมาในตอนกลางวัน กลางอากาศปรากฏแสงสีขาวแสบตาสว่างขึ้นมา จากนั้นแรงอัดกระแทกมหาศาลจากการะเิกระแทกร่างของเย่ชิงหานถอยกรูดกลับไปราวสิบกว่าเมตรถึงค่อยทรงตัวให้หยุดลงได้ หน้าอกรู้สึกเจ็บจุกจนแทบกระอักเืออกมา
สูดลมหายลึกเข้าไปหลายครั้ง เย่ชิงหานลืมตาขึ้นมองดูเห็นลู่ซีถอยหลังห่างออกไปจากจุดเดิมที่ยืนอยู่สองถึงสามก้าว ภายในใจรู้สึกยินดีขึ้นมาพร้อมกันดวงตาที่หรี่ลง
อย่างนี้ถึงจะมีลุ้น!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้