“ปัง! ปัง! ปัง! ”
เสียงเคาะประตูอันบุ่มบ่ามปะปนกับเสียงโน้มน้าวของแม่เล้า
“ซ่างกวนฟูเหริน ท่านเข้าไปไม่ได้! มันผิดกฎ! ”
“ซ่างกวนฟูเหริน ยอดพธูคนใหม่ไม่มีความสัมพันธ์กับเถ้าแก่เฉิงจริงๆ ไม่ใช่แบบที่ท่านคิด! ”
“ซ่างกวนฟูเหริน นี่มัน…”
ไม่ช้าบานประตูก็ถูกเตะออก กูเฟยเยี่ยนมองเห็นผู้ที่เข้ามาผ่านทางลายฉลุของฉากกั้น ผู้ที่เข้ามาคือสตรีวัยกลางคนที่ผ่านการแต่งงานแล้ว เขามีอายุประมาณสามสิบห้าปี แม้ว่าจะเริ่มมีอายุแต่ใบหน้าและร่างกายต่างก็บำรุงรักษาอย่างดี มีความออดอ้อนและมีเสน่ห์อันน่าดื่มด่ำจนเรียกได้ว่าเป็สตรีที่งดงามท่านหนึ่ง
ว่ากันว่าซ่างกวนฟูเหรินคือบุคคลที่ยามเคลื่อนไหวก็ทรงอำนาจไม่ด้อยกว่าบุรุษ ยามสงบนิ่งก็สง่างาม รูปโฉมล้ำเลิศ อ่อนหวานละมุนละไม กูเฟยเยี่ยนคิดว่าข่าวลือนี้จริงทีเดียว
หลังจากที่ซ่างกวนฟูเหรินก้าวเข้ามาก็ปิดประตูเสียงดัง “ปัง”
กูเฟยเยี่ยนยังคงนั่งสงบนิ่งโดยไม่กล่าววาจาใดๆ
ซ่างกวนฟูเหรินอ้อมฉากกั้นด้วยท่าทางอันดุดัน ครั้นเห็นกูเฟยเยี่ยนจึงหยุดชะงักทันที
กูเฟยเยี่ยนแต่งกายเป็บุรุษ เอวบางรัดเข็มขัดหยก ศีรษะประดับด้วยรัดเกล้าหยก ถึงแม้ว่าผู้คนจะมองออกว่านางคือสตรี ทว่ามาดของความสูงส่งที่อยู่รอบกายหาได้ใกล้เคียงกับคำว่า “ยอดพธู”
“เ้า…”
ซ่างกวนฟูเหรินมองสำรวจนางครู่หนึ่งก่อนจะเข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น “อีนังหนู เ้ามีความกล้าเสียจริง! เ้าเจตนา! ”
ซ่างกวนฟูเหรินรู้จักสามีของตนเองเป็อย่างดี หลายปีมานี้นางไม่เคยเห็นเขาสนใจหญิงสาวคนใดมาก่อน รวมถึงตัวนางเองเช่นกัน
นางไม่เชื่อว่าสามีของตนเองจะเข้าไปพัวพันกับสตรีหอโคมเขียว นางเพียงแค่คิดว่าหญิงสาวผู้นี้อยากจะมีชื่อเสียงจนสติวิปลาสเสียแล้ว หญิงสาวผู้นี้กล้านำชื่อเสียงของสามีนางมาอ้างได้อย่างไร
ทันทีที่ได้พบนังหนูคนนี้นางก็รู้ว่าตนเองคิดผิด นังหนูคนนี้หาใช่ยอดพธู การที่ก่อเื่ใหญ่โตถึงเพียงนี้ก็เพราะเจตนาหลอกล่อให้นางมาหา
กูเฟยเยี่ยนรินน้ำชาพลางย้อนถามด้วยรอยยิ้ม “ฟูเหริน ถ้าไม่มีความกล้าจะได้พบท่านหรือ? ”
ซ่างกวนฟูเหรินดึงหน้าตึงพลางออกคำสั่ง “ตัวข้าฟูเหรินผู้นี้ให้เวลาเ้าหนึ่งถ้วยชา รีบนำป้ายหน้าประตูของเ้าไปเผาทำลายที่ถนนเดี๋ยวนี้ มิฉะนั้น เ้าจะต้องรับผิดชอบผลที่ตามมาเอง!”
กูเฟยเยี่ยนเอ่ยถามอีกครั้ง “ฟูเหรินไม่ถามก่อนหรือว่าข้า้าพบท่านเพราะเื่ใด? ”
ั์ตาของซ่างกวนฟูเหรินปรากฏถึงความเอือมระอา ทุกปีจะมีคนอยู่ไม่กี่คนที่พยายามคิดหาวิธีพบนาง มีใครบ้างที่ไม่ได้มาเพราะเื่ของการทำธุรกิจ? ถ้าไม่ใช่มาขอทำงานร่วมกันก็ต้องขอผลประโยชน์ ถ้าไม่ใช่มาขอผลประโยชน์ก็ต้องขอให้ปล่อย นางรำคาญมากเหลือเกิน!
นังหนูคนนี้หลอกนางได้สำเร็จ และทำให้นางเกิดโทสะ วันนี้นอกจากนางจะไม่ให้ยกเว้นให้แล้ว นางยังจะต้องรู้ให้ได้ว่านังหนูคนนี้มาจากผู้ทำการค้าคนใด นางจะจัดการผู้ทำการค้าคนนั้นเพื่อเชือดไก่ให้ลิงดู เพื่อเป็ตัวอย่างแก่ผู้ที่จะกระทำเช่นนี้!
ซ่างกวนฟูเหรินนั่งลงโดยแสร้งทำเป็ไม่รีบร้อน “ว่ามา เ้ามีชื่อเสียงเรียงนามว่าอย่างไร เป็บุตรีของตระกูลใด ตระกูลเ้าทำการค้าขายสิ่งใด? พบเจอเื่ใดกัน? ”
กูเฟยเยี่ยนคือบุคคลที่มีความเฉลียวฉลาด นางไม่มีความตั้งใจมาเจรจาซื้อขายกับซ่างกวนฟูเหรินอยู่เเล้ว ครั้นนางได้ยินคำถามเช่นนี้ก็ทราบทันทีว่ามีหลุมพรางแห่งการหลอกลวง! นางนำสุราออกมาหนึ่งขวดพลางยื่นแก่ซ่างกวนฟูเหริน “ฟูเหริน ท่านดูแล้วก็จะทราบเอง!”
ซ่างกวนฟูเหรินรับขวดสุรามาพิจารณา ขวดสุรานี้ไม่มีเครื่องหมายตัวอักษรใดๆ ไม่มีแม้กระทั่งชื่อสุรา นางเปิดฝาสุราออกมาดมกลิ่น นางรู้สึกว่ากลิ่นนี้หอมละมุนน่าดึงดูด ทว่าไม่อาจคาดเดาได้ว่าเป็สุราชนิดใด เนื่องด้วยนางไม่คุ้นเคยกับสุรา
ในขณะที่นางกำลังจะเอ่ยถาม กูเฟยเยี่ยนกลับเอ่ยขึ้นมาอย่างหนักแน่น “ฟูเหริน ท่านคือผู้ที่มีความเฉลียวฉลาด ท่านน่าจะทราบว่าผู้น้อยมาทำไมใช่หรือไม่? ท่านทราบอยู่แก่ใจ! ที่นี่ไม่ใช่สถานที่แห่งการเจรจา ผู้น้อยจะไม่มากความนัก เื่นี้มีเพียงแค่เถ้าแก่เฉิงกับท่านที่ทราบ ผู้น้อยมิอาจพบเถ้าแก่เฉิงได้ ผู้น้อยหมดหนทางแล้วจริงๆ จึงต้องใช้วิธีการที่ละลาบละล้วงในการหลอกล่อท่านมา หวังว่าท่านจะให้อภัย”
ซ่างกวนฟูเหรินรู้สึกสงสัยทันทีที่ได้ยินเช่นนี้
นางเนี่ยนะรู้อยู่แก่ใจ? นางไม่ทราบด้วยซ้ำว่าสุราขวดนี้มาจากผู้ค้าขายคนใด? นางไม่รู้จักสุรากลิ่นนี้ และไม่รู้ว่าเกิดเื่อะไรขึ้น!
ครั้นเห็นท่าทีที่หนักแน่นของกูเฟยเยี่ยน คำพูดที่ซ่างกวนฟูเหริน้าจะเอ่ยออกมาก็เก็บคืนทันที นางอดสงสัยไม่ได้ว่าที่หอการค้าเกิดเื่ใหญ่อันใดขึ้น สามีปิดบังนางมาโดยตลอด?
นางกำลังไตร่ตรอง กูเฟยเยี่ยนจึงกล่าวอีกว่า “ซ่างกวนฟูเหริน ท่านโปรดตอบผู้น้อยสักประโยคเถอะ! ”
ซ่างกวนฟูเหรินกลัวว่าเมื่อตนเองเอ่ยถามมากแล้ว นังหนูคนนี้จะรับรู้ว่านางไม่ทราบสถานการณ์ใดๆ นางจึงไม่ตอบกลับไป
นางแสร้งทำเป็ทำเอ่ยรับรู้ทุกอย่าง “เื่นี้เป็เื่ใหญ่จริงๆ เอาเป็ว่า รอข้ากลับไปพิจารณาก่อนค่อยตอบเ้า แต่เ้าต้องรีบนำป้ายนั้นไปเผาทำลายก่อน! ”
กูเฟยเยี่ยนปีติยินดีเหลือเกิน หญิงสาวรีบลุกขึ้นยืนทันที “เื่นี้ขอเพียงแค่ฟูเหรินเต็มใจพิจารณา ฟูเหรินจะให้ผู้น้อยทำสิ่งใด ผู้น้อยก็จะทำทั้งหมด! ”
ซ่างกวนฟูเหรินเผยรอยยิ้มออกมา “รอไปก่อน! ”
นางลุกขึ้นพลางจงใจนำสุราขวดนั้นกลับไปด้วย
ทันทีที่ซ่างกวนฟูเหรินออกไป กูเฟยเยี่ยนจึงปิดประตูลงพลางหันหลังกลับมาหัวเราะเสียงดังลั่น ดวงตาที่สดใสของนางแวววาวจนยากที่จะพรรณนาได้
ความปีติยินดีของนางเมื่อครู่นี้ไม่ได้เกิดจากความเสแสร้งแกล้งทำ แต่นางมีความปีติจริงๆ ! ซ่างกวนฟูเหรินหลงกลแล้ว! นางทำสำเร็จแล้ว!
หอการค้าเสวียนคงจะไปมีเื่ใหญ่อะไรกัน นางเพียงแค่แสร้งทำเพื่อตบตาซ่างกวนฟูเหริน ซ่างกวนฟูเหรินจะต้องเกิดความสงสัยว่าเถ้าแก่เฉิงมีเื่ปิดบังและจะนำสุราขวดนั้นไปซักถามเถ้าแก่เฉิงอย่างแน่นอน!
ต่อจากนี้ เื่ราวจะสำเร็จหรือไม่ขึ้นอยู่กับว่าสุราขวดนั้นจะถูกปากเถ้าแก่เฉิงหรือเปล่า! เถ้าแก่เฉิงคือผู้ที่ติดสุรา ถ้าได้พบสุราที่ใช่ ไม่ว่าอย่างไรก็จะมีความสนใจ
สุราขวดนั้นมีความแรงกว่าของสุราที่มอบแก่หัวหน้าผู้ดูแลอยู่เท่าตัว เป็สุราที่กูเฟยเยี่ยนตั้งอกตั้งใจปรุงออกมา ซึ่งแน่นอนว่าขาดซานชีไปไม่ได้
กูเฟยเยี่ยนมีความมั่นใจในสุรานั้นเต็มร้อย!
ท่ามกลางความเงียบ ในที่สุดจวินจิ่วเฉินกับเหมยกงกงที่แอบฟังอยู่ในความมืดก็เดินออกมา กูเฟยเยี่ยนตรงไปหาจวินจิ่วเฉินด้วยความดีอกดีใจพลางเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม “เตี้ยนเซี่ย เื่นี้สำเร็จได้แน่! ”
จวินจิ่วเฉินมองดูรอยยิ้มสดใสของกูเฟยเยี่ยนด้วยความดีใจเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าได้รับผลกระทบจากนาง ดวงตาลึกลับคู่นั้นอดไม่ได้ที่จะเผยถึงรอยยิ้มที่แสดงให้เห็นถึงความเอ็นดู
กูเฟยเยี่ยนดีใจมากจึงไม่ได้สังเกตเห็น เหมยกงกงก็ด้วยเช่นกัน ในยามนี้จุดสนใจของเหมยกงกงล้วนอยู่ที่กูเฟยเยี่ยน เขาแทบอยากจะรีบไปเขียนจดหมายทูลรายงานเทียนอู่ฮ่องเต้ทันที
นังหนูคนนี้หาใช่ผู้ชอบสร้างปัญหา! แต่นางคือผู้ที่ฉลาดทันคน! เหลือเชื่อมาก เหลือเชื่อมากจริงๆ !
ทั้งสามคนอยู่ต่อไม่นาน หลังจากที่กำชับแม่เล้าแล้วก็ออกจากหอโคมเขียวเพื่อกลับไปรอที่โรงเตี้ยม พวกเขายังต้องรับมือกับหัวหน้าผู้ดูแล และห้ามทำให้หัวหน้าผู้ดูแลซ่างกวนเกิดความสงสัย
ยามบ่ายกูเฟยเยี่ยนต้องประจบสอพลอหัวหน้าผู้ดูแลอีกครั้งและให้หัวหน้าผู้ดูแลซ่างกวนรอข่าวจากเ้าของหมู่บ้านต่อไป ครั้นหัวหน้าผู้ดูแลซ่างกวนออกไปได้ไม่นาน แม่เล้าก็ให้คนมาส่งข่าวว่าซ่างกวนฟูเหรินมาหาอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อกูเฟยเยี่ยนกับคนอื่นๆ มาถึงหอโคมเขียว ฟ้าก็มืดค่ำลงแล้ว
แม่เล้าพาพวกเขาไปที่ประตูด้านหลัง พวกเขาจึงสังเกตเห็นว่าที่ประตูด้านหลังมีรถม้าหรูหราจอดอยู่คันหนึ่ง ซ่างกวนฟูเหรินยืนรออยู่ข้างรถม้าด้วยใบหน้าที่บูดบึ้ง
ครั้นนางเห็นกูเฟยเยี่ยน สีหน้าของนางก็ย่ำแย่ลงกว่าเดิม เห็นได้ชัดว่าซ่างกวนฟูเหรินทราบแล้วว่าตนเองตกหลุมพรางเสียแล้ว “นังหนู ฝีมือไม่ธรรมดาเลย! แต่ไม่รู้ว่าชีวิตจะยืนยาวแค่ไหนกันเชียว เชิญ! ฟูจวิน [1] ของข้า้าพบเ้า!”
—————-
เชิงอรรถ
[1] ฟูจวิน หมายถึง คำที่ภรรยาใช้เรียกสามีที่เป็ขุนนางชั้นสูงหรือผู้ที่สูงศักดิ์