“เ้าอยากสู้? เช่นนั้นก็สู้!”
ไป๋หยุนเฟยเก็บทวนเปลวอัคคีในมือกลับมาขณะเดียวกันก็ถีบเท้ากับพื้นทะยานเข้าหาหลงเทากู่ตรงหน้าราวเกาทัณฑ์หลุดจากแหล่ง
หลงเทากู่ยิ้มเย็นเยียบที่มุมปาก เนื่องเพราะคู่ต่อสู้กลับเก็บอาวุธเอาไว้ แม้จะประหลาดใจอยู่บ้างแต่มันก็ลอบถอนหายใจโล่งอกก่อนจะพุ่งเข้าหาไป๋หยุนเฟยเช่นเดียวกัน
เดิมทีระยะระหว่างทั้งคู่ก็ใกล้กันมากอยู่แล้วพวกมันจึงพุ่งเข้าสู่ระยะจู่โจมในชั่วพริบตา ชั่วขณะที่เข้าถึงตัวอีกฝ่าย หลงเทากู่ก็ย่อกายลงและชิงเตะเท้าขวากวาดจู่โจมใส่ขาไป๋หยุนเฟย
ไป๋หยุนเฟยที่พุ่งกายอย่างเร่งร้อนกลับหยุดร่างยั้งสภาวะได้ในพริบตา ขณะเดียวกันชายหนุ่มเอนร่างกลับหลังพร้อมกับล่าถอยไปหลายก้าวก็หลบเท้าที่เตะกวาดเข้ามาได้พ้นในพริบตา จากนั้นร่างไป๋หยุนเฟยก็บิดพลิกเป็วงโค้งกลางอากาศแปรเปลี่ยนจากเอนหลังกลับกลายเป็งอร่างไปด้านหน้าพร้อมกับยกมือขวาขึ้น วัตถุทรงสี่เหลี่ยมชิ้นหนึ่งก็พลันปรากฏอยู่ในมือไป๋หยุนเฟยก่อนจะทุบลงใส่ศีรษะคู่ต่อสู้!
ที่ชายหนุ่มถืออยู่ในมือจะเป็อะไรหากไม่ใช่ก้อนอิฐระดับ +13!
แม้การจู่โจมของหลงเทากู่จะถูกคู่ต่อสู้ใช้ท่าร่างอันพิสดารหลบรอดไปได้ก็ไม่ทำให้มันประหลาดใจ ดวงตามันสาดประกายวูบขณะจะยืดกายเพื่อรุกต่อเนื่องกลับต้องแตกตื่นที่เห็นคู่ต่อสู้รุกกลับในทันทีที่หลบกระบวนท่ามันพ้น หลงเทากู่ไม่ทันเห็นชัดตาว่าวัตถุทรงสี่เหลี่ยมนั้นเป็อะไรก็รีบไขว้แขนปิดป้องเบื้องหน้าศีรษะอย่างเร่งร้อน
“พลั่ก!” ทันทีที่หลงเทากู่ตั้งท่ารับมือท่าจู่โจมก็มาถึง พลังอันหนักหน่วงปะทะกับหลงเทากู่บังคับให้มันล่าถอยอย่างไม่ยินยอมไปหลายก้าว แม้สองแขนจะเ็ปแต่ก็ไม่นับว่าสาหัสอันใด
เดิมทีไป๋หยุนเฟยหมายจะไล่ตามไปจู่โจมอีก แต่มันได้ยินเสียงเคลื่อนไหวดังมาจากทั้งซ้ายและขวาโดยพร้อมเพียง ย่อมเป็หลงเทาอี้และหลงเทาที่จู่โจมเข้ามา ชายหนุ่มไม่มีทางเลือกได้แต่ขยับกายหลบเลี่ยงหมัดและเท้าจากศัตรูทั้งสอง ขณะที่ถอยหลังก็ส่งเท้าเตะปะทะกับท่าเตะของหลงเทาบีบให้อีกฝ่ายถอยกลับไปหลายก้าว แต่ตัวมันเองก็ต้องถูกหมัดจากหลงเทาอี้ชกใส่จนโงนเงนไปครึ่งก้าว ไป๋หยุนเฟยแค่นเสียงเ็าส่งก้อนอิฐในมือออกไปกระทบถูกหัวไล่คู่ต่อสู้อย่างแ่เบา
แต่ครานี้หลงเทาอี้ไม่โชคดีเช่นพี่ชายมัน ยามถูกก้อนอิฐกระทบถูก ทีแรกมันลอบหวั่นเกรงแต่หลังจากนั้นก็พบว่าหัวไหล่ตนไม่เ็ปเท่าใดนักทั้งยังไม่าเ็แม้แต่น้อย ชั่วขณะที่หลงเทาอี้ลอบยินดีอยู่นั้นพลังที่แปลกพิสดารพลันทะลักจากไหล่ในบัดดลก่อนจะแผ่ซ่านไปทั่วร่างในชั่วพริบตา จากนั้นทั้งร่างมันก็ลอยละลิ่วตีลังกาออกไปกระแทกใส่หลงเทาที่ด้านหลังอย่างไม่อาจควบคุม ทั้งคู่ล้มกลิ้งกลับหลังไปพร้อมกันกระทั่งไปถึงข้างกายหลงเทากู่จึงหยุดลงได้
นี่เป็ผลกระทบพิเศษจากก้อนอิฐระดับ +13 เหวี่ยงขว้าง!
เดิมทีหลงเทากู่หมายจะพุ่งเข้าไปร่วมจู่โจมศัตรูด้วย แต่ยามที่มันเคลื่อนกายไปได้เพียงก้าวแรกก็พบเห็นน้องชายและญาติผู้น้องลอยละลิ่วกลับหลังอย่างสิ้นท่า หลงเทากู่ชะงักเท้ามองดูอาวุธในมือไป๋หยุนเฟยด้วยความหวาดกลัวอย่างเปี่ยมล้น แม้จะเป็ถึงวีรชนิญญาแต่มันก็อดไม่ได้ต้องเบิกตากว้างอย่างตื่นตะลึง
“เ้าล้อข้าเล่นหรือ?! ก้อนอิฐ?!”
กระนั้นไป๋หยุนเฟยก็คร้านจะถกเื่อาวุธในมือกับมัน ชายหนุ่มจึงใช้ท่าเท้าเหยียบคลื่นพุ่งเข้าจู่โจมอีกครั้งโดยปราศจากคำพูดใด
แม้จิตใจหลงเทากู่จะสับสนและประหลาดใจต่อก้อนอิฐในมือคู่ต่อสู้แต่มันก็รีบลบความคิดนั้นทิ้งในทันที หลงเทากู่แค่นเสียงเ็าจากนั้นวกอ้อมพี่น้องทั้งสองบนพื้นและเร่งฝีเท้าพุ่งไปเบื้องหน้าเข้าหาศัตรู
ชั่วขณะที่ทั้งคู่เข้าปะทะกัน ยามปะทะกับหมัดที่เปี่ยมพลังของหลงเทากู่ไป๋หยุนเฟยเหยียดยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย ชายหนุ่มขยับเท้าเลื่อนไถลหลบเลี่ยงการปะทะกับคู่ต่อสู้ จากนั้นเคลื่อนขวางและพลิกร่าง ภายใต้แววตาแตกตื่นของศัตรู ไป๋หยุนเฟยวกอ้อมไปด้านหลังหลงเทากู่และจู่โจมใส่หลงเทาและหลงเทาอี้ที่กำลังลุกขึ้น
ไป๋หยุนเฟยอาศัยแรงเคลื่อนจากการพุ่งกายไปเบื้องหน้าเตะใส่หลงเทาอี้และเหวี่ยงก้อนอิฐใส่ศีรษะหลงเทาโดยพร้อมเพียงกัน
จะอย่างไรหลงเทาอี้ก็เป็วีรชนิญญาจึงมีปฏิกิริยาอย่างรวดเร็ว มันม้วนตัวหลบเลี่ยงลูกเตะในทันที แต่หลงเทากลับไม่โชคดีเช่นนั้นมันเพิ่งรู้สึกตัวจากความสับสนที่ถูกกระแทกลอยละลิ่วโดยไม่คาดคิด มิหนำซ้ำมันก็ไม่คาดคิดว่าศัตรูจะละทิ้งการต่อสู้กับหลงเทากู่หันมาจู่โจมตนเองที่อ่อนแอที่สุดในฝ่ายตน
หลงเทาจึงถูกก้อนอิฐทุบอย่างถนัดถนี่ ขณะร้องครวญครางอย่างเ็ปร่างก็ลอยละลิ่วออกไป ครานี้ผลกระทบพิเศษไม่ได้บังเกิดขึ้นแต่มันถูกแรงกระแทกส่งร่างปลิวกระเด็นออกไป กระนั้นหลงเทายังคงบังคับกล้ามเนื้อบนศีรษะเสริมความแข็งแกร่งได้ทันในชั่วขณะสุดท้าย อาการาเ็มันจึงไม่สาหัสเท่าใดนัก
ปรากฏพลังอันหนักหน่วงกระแทกใส่เอวด้านซ้ายของไป๋หยุนเฟย ที่แท้หลงเทากู่หันกายกลับมาต่อยหมัดใส่ ไป๋หยุนเฟยส่ายโงนเงนไปด้านซ้ายครึ่งก้าวก็เผชิญกับลูกเตะจากหลงเทาอี้ที่จู่โจมใส่ทรวงอก มันรีบขวางก้อนอิฐเบื้องหน้าทรวงอกอย่างว่องไว เท้านี้ของหลงเทาอี้จึงปะทะถูกก้อนอิฐแทน แต่ก่อนจะทันได้ถอนเท้าขวากลับมามิคาดว่าหลงเทาอี้กลับถูกส่งลอยละลิ่วออกไปอีกครั้งโดยไม่ทันรู้ตัว --- หลงเทาอี้นับว่าโชคร้ายยิ่งที่การกระทบถูกก้อนอิฐครานี้ก็ถือเป็การถูกก้อนอิฐจู่โจม มิหนำซ้ำยังกระตุ้นผลกระทบ‘เหวี่ยงขว้าง’ให้เกิดขึ้นอีกครั้ง...
ดวงตาไป๋หยุนเฟยทอแววยินดีวูบรีบฉวยโอกาสอันหาได้ยากยิ่งที่ศัตรูทั้งสามแยกออกจากกันถอยเท้าครึ่งก้าวเพื่อทรงกาย แต่ชั่วขณะที่จะหันกลับก็รู้สึกถึงพลังที่รุนแรงจู่โจมเข้ามาจากด้านหลังอีกครั้ง เป็หลงเทากู่รุกจู่โจมเข้ามาอีก ราวกับสังเกตพบว่าหากจู่โจมใส่ลำตัวนั้นไม่อาจทำร้ายไป๋หยุนเฟยาเ็จนสาหัสได้ ครั้งนี้มันจึงมุ่งเป้าจู่โจมใส่ศีรษะ!
ไป๋หยุนเฟยไม่อาจหันกายได้ทันท่วงทีจึงได้แต่ฟุบกายลง เท้าคู่ต่อสู้จึงเฉียดผ่านแผ่นหลังมันไปอย่างหวุดหวิด ไป๋หยุนเฟยฉวยโอกาสเตะกวาดใส่เท้าซ้ายที่เป็หลักค้ำร่างของหลงเทากู่ แต่ครานี้ศัตรูกลับตื่นตัวอยู่ก่อนจึงะโหลบเลี่ยงได้
ไป๋หยุนเฟยอาศัยแรงเหวี่ยงจากการเตะพลิกกายแล้วพุ่งเข้าปะทะอย่างต่อเนื่อง ยามที่หลงเทากู่หยั่งเท้าทรงกายได้ก็เห็นคู่ต่อสู้พุ่งเข้าหาอีกครั้ง มันแค่นเสียงเ็าก่อนจะจู่โจมใส่ไป๋หยุนเฟยโดยปราศจากความหวาดหวั่น
ทั้งคู่ล้วนเป็วีรชนิญญาระดับกลางจึงผลัดกันรุกรับ พวกมันประมือออกกระบวนท่ามากมายในชั่วพริบตาเดียว กระบวนท่าหลงเทากู่มั่นคงและไร้ช่องโหว่ แม้ไป๋หยุนเฟยจะเชื่อมั่นในความเร็วของท่าร่างแต่ชายหนุ่มก็ได้เปรียบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น นับว่าเป็ไปไม่ได้ที่จะเอาชนะศัตรูได้ในเวลาไม่นาน
ที่ย่ำแย่คือหลงเทากู่ก็พบเห็นแล้วว่าก้อนอิฐในมือของคู่ต่อสู้มีบางอย่างพิเศษเหนือธรรมดาจึงระมัดระวังไม่ยอมถูกก้อนอิฐกระทบถูก
เห็นศัตรูอีกสองคนพุ่งเข้ามาอีกครั้ง ไป๋หยุนเฟยก็ไม่อาจระงับความกังวลในใจได้ ขณะเผชิญหมัดที่จู่โจมใส่ใบหน้าชายหนุ่มจึงไถลเท้าเอนกายหลบเลี่ยงกระบวนท่าไปได้ ชั่วขณะที่ไป๋หยุนเฟยยกมือขึ้นเตรียมจะตอบโต้ --- ชั่วขณะนั้นกลับเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น
กำปั้นคู่ต่อสู้ที่พลาดเป้าไปแล้วพลันกางออกเป็ฝ่ามือ ส่วนแขนก็บิดพลิกอย่างพิสดารและจู่โจมเข้าใส่คอหอยไป๋หยุนเฟยจากแง่มุมที่ไม่อาจเป็ไปได้
หัตถ์พลิกแขน!
นี่เป็เคล็ดิญญาระดับต่ำที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกับหมัดแขนยาวแต่ต่างวิธีการ ความแตกต่างระหว่างวิชาทั้งสองคือเคล็ดวิชานี้ไม่ได้‘ยืด’แขนออก แต่เป็‘ดัด’แขนแทน การใช้แขนที่บิดพลิกในแง่มุมที่เป็ไปไม่ได้ ย่อมสร้างความแตกตื่นแก่คู่ต่อสู้ไม่น้อย
การเปลี่ยนกระบวนท่าอย่างฉับพลันนี้ต่อให้ใช้ท่าเท้าเหยียบคลื่นก็เกินกว่าที่ไป๋หยุนเฟยจะหลบหลีกได้ทัน ยามอับจนปัญญาจึงได้แต่ถีบเท้าถอยหลังสุดกำลัง แต่กระนั้นไป๋หยุนเฟยก็ยังคงถูกมือดาบที่กวาดขวางนี้จู่โจมถูกลำคอ
ไป๋หยุนเฟยย่ำเท้ากับพื้นไม่หยุดยั้งอาศัยท่าเท้าเหยียบคลื่นสุดกำลังเพื่อสร้างเงาร่างลวงตาขึ้นมา พริบตาเดียวก็ล่าถอยออกไปกว่าห้าวา ชายหนุ่มรู้สึกว่าลมหายใจขาดห้วงไปขณะที่กระบวนท่าเมื่อครู่จู่โจมถูก ความเ็ปที่ลำคอส่งผลให้มันต้องไออย่างหนักหน่วงโดยไม่อาจควบคุม
กระนั้นยามที่ไป๋หยุนเฟยเคลื่อนไหวช้าลง หลงเทากู่ก็ออกกระบวนท่ารุกไล่ตามมา!
แววตาไป๋หยุนเฟยทอแววอำมหิตเลือนราง แทนที่จะล่าถอยมันกลับเคลื่อนไปด้านหน้าสร้างเงาร่างลวงตาเข้าพัวพันกับศัตรู ครานี้คู่ต่อสู้ยังคงออกหมัดจู่โจมใส่ศีรษะโดยไม่ลังเล ในจังหวะสุดท้ายไป๋หยุนเฟยเอนกายไปด้านขวาพร้อมกับเหวี่ยงก้อนอิฐกระแทกใส่หัวไหล่ของศัตรู
ดวงตาหลงเทากู่ทอประกายวูบ มันดัดพลิกแขนอีกครั้งหมัดที่พลาดเป้าเหวี่ยงก็กลับมาจู่โจมใส่ขมับไป๋หยุนเฟย แต่กระนั้นหลงเทากู่กลับเป็ฝ่ายต้องประหลาดใจเมื่อไป๋หยุนเฟยก็พลันดัดแขนเปลี่ยนทิศทางกลางคันไปจู่โจมใส่แขนขวามันแทน
ไป๋หยุนเฟยไม่ได้ใช้หัตถ์พลิกแขนแต่เป็เพราะเตรียมการไว้ล่วงหน้า มันใช้พลังิญญาฝืนควบคุมกล้ามเนื้อและกระดูกบนแขนอย่างหักโหมเพื่อเปลี่ยนทิศทางจู่โจม แม้ว่าแขนจะต้องาเ็ก็ตามแต่ไป๋หยุนเฟยก็ยังปรารถนาจะพิชิตเคล็ดิญญาของศัตรูให้ได้!
“พลั่ก!”
เสียงทุ้มหนักดังขึ้นยามที่ก้อนอิฐกระแทกถูกข้อมือศัตรูอย่างถนัดถนี่
