ได้ยินเจ็มม่าพูดแบบนี้ในใจซุนเฟยพลันตื่นตระหนก
อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้นที่องค์หญิงพบแองเจล่าบนถนน? และยังคุยกันถูกคอจนสนทนาติดลมกันทั้งวัน? องค์หญิงแห่งราชอาณาจักรเซนิทคนนั้นช่างมีความคิดที่ลึกซึ้งและเ้าเล่ห์เหลือเกิน แองเจล่าและเจ็มม่า ทั้งสองคนต่างเป็สาวน้อยที่มองโลกในแง่ดีแบบนี้จะเป็คู่ต่อสู้ของนางได้อย่างไร? ซุนเฟยแทบจะกล้าฟันธงเกินครึ่งเลยว่า องค์หญิงองค์นี้จงใจที่จะ ‘บังเอิญพบ’ สองคนนี้ จากนั้นก็ฉวยโอกาสสืบข่าวคราวของเขาไปอย่างเงียบๆ มากกว่าจริงไหม?
แม้ในใจจะมองออก แต่ซุนเฟยก็ยิ้มแล้วตอบว่า “จริงหรือ? ฮ่าๆๆ สาวน้อยเช่นแองเจล่าใครได้พบทำไมจะไม่รู้สึกชอบกันเล่า? ดูเหมือนว่าแม้แต่องค์หญิงแห่งราชอาณาจักรเซนิทก็ถูกความงามของแองเจล่าทำให้หลงใหลเช่นกันสินะ ฮ่าๆๆ...จริงสิ แองเจล่า ตลอดทั้งวันเ้าสนทนากับองค์หญิงเื่อะไรบ้าง?”
“มากมายเลยล่ะ...” แองเจล่าถูกซุนเฟยพูดชมหน้าก็พลันแดงระเรื่อ ใบหน้าขาวนวลเผยท่าทีเขินอาย นางจงใจทัดผมของนางเพื่อกลบความประหม่าก่อนจะยิ้มน้อยๆ ไม่กล้ามองหน้าซุนเฟยแล้วกล่าวว่า “องค์หญิงเหมือนจะสนใจเื่ราวของเมืองแซมบอร์ดมาก พวกเราสนทนาเื่ราวก่อนหน้านี้มากมาย โดยเฉพาะเื่ราวในอดีตของท่าน เหล่าขุนนางของเมืองแซมบอร์ดในปัจจุบัน อ้อ แน่นอนว่ายังมีเื่ผลของารักษาเมืองแซมบอร์ดครั้งนี้ด้วย...อเล็กซานเดอร์ องค์หญิงทรงชื่นชมในการกระทำของท่านมาก นางบอกว่าท่านฉลาดและกล้าหาญ เป็าาที่ดีที่ทุกคนควรเคารพ”
ซุนเฟยได้ยินดังนั้นหัวใจพลันขมขื่นขึ้นมา
สาวน้อยไร้เดียงสาทั้งสองคนตกเข้าไปในกับดักขององค์หญิงเต็มเปาเลย คาดว่าต่อจากนี้คงจะเทถั่วออกจากหลอดไม้ไผ่1ทั้งหมดเป็แน่ พูดได้ว่าคงทำความสะอาดจนเกลี้ยงเลย แม้แต่เื่ราวแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นกับอเล็กซานเดอร์ใน่เวลาสองสามวันนี้ คาดว่าคงถูกองค์หญิงคนนั้นล่วงรู้อย่างชัดเจนแน่นอน
“พวกเรายังพูด...เอ๊ะ?” พูดถึงตรงนี้ แองเจล่าก็พลันอุทานออกมาอย่างใ ดูเหมือนว่า ตอนนี้สาวน้อยผู้ใสซื่อคนนี้ก็พอจะตระหนักถึงอะไรบางอย่างได้ ทันใดนั้นก็เงยหน้ามองซุนเฟยพลางถามอย่างประหม่าว่า “นี่....อเล็กซานเดอร์ คงไม่ใช่ว่าข้าพูดเื่ที่ไม่สมควรพูดไปหรอกนะ?”
ซุนเฟยยิ้มแล้วส่ายหน้า “ไม่หรอก เื่พวกนี้ไม่เกี่ยวข้องกันเลยสักนิด...เอ่อ จริงสิ แองเจล่า พวกเราหยุดพูดเื่นี้ก่อนเถอะ ตอนนี้ข้ามีบางอย่างที่ต้องให้เ้าดู เ้าช่วยแสดงความคิดเห็นให้ข้าฟังทีนะ” ซุนเฟยพูดพลางจูงมือขาวนุ่มนิ่มของแองเจล่าให้เดินไปที่ห้องโถง สาวน้อยพยายามจะดึงมือนางออก แต่เมื่อไม่สำเร็จจึงปล่อยให้ซุนเฟยจูงมือนางต่อ เจ็มม่าเห็นแบบนั้นก็เอามือปิดปากแล้วแอบหัวเราะออกมา...
นางหัวเราะเบาๆ สุดท้ายก็ตัดสินใจไม่เดินตามไป
ซุนเฟยจะอยากปิดบังเื่นี้และต่อให้แองเจล่าจะไม่พูด สุดท้ายอีกฝ่ายก็ยังคงทราบข่าวจากช่องทางอื่นอยู่ดี เขาก็ไม่ได้หวังว่าจะสามารถปกปิดทุกอย่างไว้ได้อยู่แล้ว
ไม่ช้าทั้งสองคนก็เดินมาถึงห้องโถงใหญ่
ซุนเฟยหยิบชิ้นส่วนบางอย่างออกมาเหมือนเป็แผ่นหนังสัตว์บางๆ จากนั้นก็หยิบปากกาขนนกมาวาดบนนั้นไม่หยุด แม้ว่าสมัยมหาลัยเขาจะเรียนเอกภาษา แต่กลับชอบวาดรูปมาก เขาร่างภาพบนแผ่นหนัง ไม่ช้า ภาพวาดที่เสมือนจริงก็ปรากฏขึ้นมาบนแผ่นหนัง
แองเจล่าที่ยืนมองจากข้างๆ แม้ตอนแรกจะรู้สึกสงสัย แต่ก็ค่อยๆ เริ่มเข้าใจมาทีละนิด สุดท้าย ดวงตาที่มองไปที่ซุนเฟยก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ ในที่สุดสาวน้อยที่แสนฉลาดคนนี้ก็เข้าใจแล้วว่าซุนเฟยกำลังวาดอะไรบนแผ่นหนังอยู่ นั่นก็คือภาพจำลองเครื่องแต่งกายแปลกๆ นั่นเอง
“ฮึๆๆ เสร็จสักที...เป็อย่างไรบ้าง? แองเจล่า เ้ารีบมาดูสิ ถ้าทำเสื้อผ้าออกมาตามแบบภาพจำลองพวกนี้ เ้าจะยอมลองสวมมันดูไหม?” ซุนเฟยชี้ไปที่แผ่นหนังพลางถามอย่างภาคภูมิใจ
เสื้อผ้าที่เขาเพิ่งวาดออกมาเมื่อครู่ล้วนเป็ภาพที่เขาคัดเลือกมาอย่างรอบคอบ พิจารณาถึงระดับอารยธรรมและสภาพยุคสมัยของแผ่นดินอาเซรอท เขาไม่กล้าวาดพวกชุดอุกอาจแบบกระโปรงสั้น ถุงน่อง หรือกางเกงยีนส์พวกนั้นหรอก ภาพที่เขาวาดทั้งหมดมีอยู่สิบรูป ห้าแผ่นแรกเป็เครื่องแต่งกายผู้หญิงแบบชาวยุโรปสมัยโบราณซึ่งซุนเฟยอ้างอิงเครื่องแต่งกายนี้มาจากพวกนักแสดงหญิงในเื่ภาพยนตร์แฟนตาซี ‘ไพเรทส์ ออฟ เดอะ แคริบเบียน’ ในโลกเก่า พยายามให้เครื่องแต่งกายทุกชุดคงความคลาสสิกเอาไว้ และห้าแผ่นหลังเป็เครื่องแต่งกายของผู้ชาย เขาจงใจลำเอียงไปทางเครื่องแต่งกายจีนสมัยโบราณเล็กน้อย แน่นอนว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือเขาเปลี่ยนจากกระโปรงยาวๆ เป็กางเกง การที่พวกผู้ชายเมืองแซมบอร์ดสวมชุดหลวมๆ และไม่สวมกางเกงมันทำให้ซุนเฟยเจ็บน้องชายเป็อย่างมาก ดังนั้นเขาจึงเพิ่งกางเกงเข้าไปด้วย
แองเจล่าหยิบแผ่นหนังมาถือไว้ ดวงตาคู่สวยเบิกกว้าง จ้องมองไปที่ภาพอย่างเงียบๆ แล้วค่อยๆ แย้มยิ้มออกมา ขนตางอนยาวกระพือตามแรงกะพริบตาของนางทำเอาซุนเฟยรู้สึกคันหัวใจยุบยิบ...นางตั้งใจมองอย่างละเอียดหลายรอบ ริมฝีปากที่แดงเหมือนเชอร์รี่ก็พูดออกมาอย่างตกตะลึงว่า “อเล็กซานเดอร์ ชุดพวกนี้สวยมาก ข้าชอบ...เพียงแต่สิ่งเหล่านี้คืออะไร?” แองเจล่าชี้ไปที่รูปเครื่องแต่งกายพวกนี้แล้วถามอย่างแปลกใจ
ซุนเฟยมองบางจุดที่แองเจล่าชี้แล้วอธิบายลักษณะและหน้าที่ของแต่ละส่วนของเสื้อผ้าอย่างอดทน ความจริงแล้วการทำชุดผู้หญิงแบบ ‘ไพเรทส์ ออฟ เดอะ แคริบเบียน’ มันค่อนข้างซับซ้อนมาก ซุนเฟยอธิบายตามความเข้าใจของตัวเองอย่างง่ายๆ แต่แองเจล่าก็ยังคงถามอยู่หลายรอบ...โชคดีที่ผู้หญิงเกิดมาพร้อมกับสัญชาตญาณที่ยอดเยี่ยมในเื่เสื้อผ้า หลังจากที่พูดคุยเสร็จก็พอจะเข้าใจทะลุปรุโปร่งเป็บางส่วน แองเจล่าต้องตกหลุมรักเครื่องแต่งกายผู้หญิงพวกนี้อย่างแน่นอน
“ข้าแทบจะรอสวมเสื้อผ้าพวกนี้ไม่ไหวแล้ว” สาวงามแองเจล่ากล่าว
ซุนเฟยยกมือปิดปากหัวเราะ
ดูเหมือนการแสวงหาความงามสำหรับมนุษย์เป็เื่ธรรมดา เครื่องแต่งกายที่ซุนเฟยเลือกต่างเป็ตัวแทนยุคสมัยและอารยธรรมที่เฟื่องฟู แน่นอนว่ามันสามารถเอาชนะใจว่าที่ราชินีในอนาคตได้อย่างรวดเร็ว นี่ทำให้ซุนเฟยมีความมั่นใจต่อแผนการต่อไปมากขึ้น
“แองเจล่า ่นี้เ้าคงยุ่งมาก เ้ากับเจ็มม่าช่วยข้าหาวิธีทำชุดพวกนี้ออกมาเพื่อดูผลลัพธ์ได้ไหม?” ซุนเฟยลองถาม
“ไม่มีปัญหา ข้า ท่านป้าโซเฟีย ท่านป้าลอร่า ท่านป้าแดนนี่ และท่านอาลอว์เรนซ์ต่างเป็คนคุ้นเคย พวกเขาเป็ช่างตัดเสื้อที่ดีที่สุดของเมืองแซมบอร์ด พวกนางทำชุดพวกนี้ออกมาในระยะเวลาสั้นๆ ได้อย่างแน่นอน” สุดท้าย การที่สามารถช่วยอเล็กซานเดอร์ได้นับว่าเป็เื่ที่แองเจล่ามีความสุขมาก นางตอบตกลงอย่างไม่ลังเล
“ฮ่าๆๆ ดีมาก” ซุนเฟยดีใจมาก ก่อนจะพูดต่อไปว่า “แองเจล่า เพื่อเป็การขอบคุณเ้า ข้าตัดสินใจออกแบบของขวัญพิเศษให้เ้า”
ซุนเฟยพูด ก่อนจะหยิบปากกาขนวาดลงบนแผ่นหนังอีกแผ่น
ในใจของแองเจล่าเต็มไปด้วยความดีใจ นางแทบอดใจรอดูของขวัญพิเศษสำหรับนางไว้ไม่อยู่ แต่จนกระทั่งซุนเฟยวางปากกาลง นางก็ยังมองไม่ออกว่ารูปภาพแปลกๆ นี้มันคืออะไรกันแน่ ริบบิ้นสามเส้นเชื่อมต่อกับผ้าวงกลมสองผืน ดูเหมือนจะคุ้นเคยเล็กน้อย แต่สาวน้อยไร้เดียงสาก็ยังคิดไม่ออกว่าเ้าสิ่งนี้คืออะไรกันแน่ หรือว่าจะเป็ชุด? แต่เ้าสิ่งนี้มันจะสวมอย่างไร? สวมตรงไหน?
เห็นแองเจล่าทำท่าสงสัย ซุนเฟยกระซิบบอกเบาๆ ที่ข้างหูของสาวน้อย...
“อ๊ะ...ที่แท้มันคือ...”
ใบหน้าขาวเหมือนหยกเนื้อชั้นดีก็พลันแดงก่ำ
นางจ้องไปที่ซุนเฟยด้วยความโกรธ ท่าทางเขินอายหายวับไป
สาวน้อยรีบวิ่งพรวดพราดออกไปจากห้องโถงทันที
……
……
วันต่อมา เมืองแซมบอร์ดก็เกิดเื่แปลกๆ อยู่สองสามเื่ขึ้น
เื่แรก พัศดีโอเลเกร์จอมเ้าเล่ห์ก็เกิดเปลี่ยนนิสัยขึ้นมา คาดไม่ถึงจริงๆ ว่าเขาจะควักเงินตัวเองมาซ่อมแซมสถานรักษาพยาบาลทหารที่ไม่อาจใช้การได้อีก จากนั้นก็เริ่มปรับปรุงแก้ไข ว่ากันว่าเป็คำสั่งขององค์าาอเล็กซานเดอร์ที่้าสร้างเรือนจำใหม่เพื่อใช้คุมขังนักโทษที่กระทำผิดไม่ร้ายแรงมาก
นี่เป็เื่ดี
ในที่สุดชาวบ้านเมืองแซมบอร์ดก็จะไม่ต้องถูกคุมขังที่เรือนจำน่ากลัวที่เหมือนนรกนั่น ในอดีตมีนักโทษที่ถูกตัดสินจำคุกเพียงไม่กี่เดือนเพราะมีข้อพิพาทกับเพื่อนบ้าน แต่เพราะไม่สามารถทนต่อสภาพอากาศที่เย็นและชื้นในเรือนจำได้ ทำให้ต้องป่วยตายหรือแข็งตายเป็จำนวนมาก ทำลายชีวิตคนบริสุทธิ์ การสร้างเรือนจำหลังใหม่นี้สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ ความคิดนี้ทำให้มีชาวบ้านจำนวนมากต่างไปช่วยกันซ่อมแซมปรับปรุงสถานที่รักษาพยาบาลทหาร ทำเอาพัศดีโอเลเกร์รู้สึกประหลาดใจและดีใจมาก เพราะมีชาวบ้านเข้ามาช่วยสนับสนุน ทำให้ช่วยลดระยะเวลาในการสร้างได้
เื่ที่สอง ทุกเย็น องค์าาอเล็กซานเดอร์ผู้ยิ่งใหญ่จะมาปรากฏตัวอยู่ที่ลานหินกว้างทิศเหนือของเมืองแซมบอร์ด แล้วมานั่งเล่านิทานให้กับพวกเด็กๆ ในเมืองฟัง ไม่ช้า เื่ของพ่อมดโดราเอม่อนและโนบิตะจอมี้เี เื่สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ดที่ช่วยกันเอาชนะแม่มดใจร้าย เริ่มแพร่กระจายไปทั่วเมืองแซมบอร์ดจากปากของพวกเด็กๆ ทุกเย็น นอกจากพวกเด็กๆ ที่มาฟังองค์าาเล่านิทานในลานหินกว้างแล้ว ยังรวมไปถึงพวกหนุ่มๆ และสาวๆ อีกด้วย
ผ่านไปสองสามวัน ทุกคนก็ต้องพบเื่ที่น่าใ ตอนที่องค์าาอเล็กซานเดอร์มาที่ลานหินกว้าง เขาก็สวมเครื่องแต่งกายแปลกๆ ที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน แม้ว่าชุดนี้ดูแปลกตา แต่ทุกคนในเมืองแซมบอร์ดกลับปรับตัวให้คุ้นเคยอย่างรวดเร็ว เพราะเครื่องแต่งกายชนิดนี้เป็ชุดที่องค์าาอเล็กซานเดอร์สวมมาบ่อยๆ และเมื่อได้เห็นนานๆ เข้า ทุกคนก็เริ่มรู้สึกว่าเครื่องต่างกายชุดนี้ไม่เลวเลย โดยเฉพาะ ‘ผ้าไม้ไผ่’ สองข้างท่อนล่างนั่น มันดูอบอุ่นและสวยงาม ทั้งยังใช้ง่ายอีกด้วย
สุดท้าย ในวันที่แปด เมื่อซุนเฟยปรากฏตัวขึ้นบนลานหินกว้าง เขานำชุดแปลกๆ นั่นใส่เกวียนมาด้วย บอกว่าเป็ของขวัญให้ฟรีสำหรับเด็กที่ไม่มีเสื้อผ้าใส่และครอบครัวที่ยากจน เมื่อยามเข้าสู่ปลายฤดูใบไม้ร่วง อากาศก็เริ่มหนาวขึ้น แต่เสื้อผ้าเหล่านี้กลับช่วยชาวบ้านยากจนป้องกันสภาพอากาศที่หนาวเย็นนี้ได้
แน่นอนว่า นั่นเป็สิ่งสำคัญในแผนการนี้ของซุนเฟย ด้วยวิธีนี้ เครื่องแต่งกายที่ตัวเองออกแบบก็จะได้รับความนิยมในเมืองแซมบอร์ด อย่างน้อยๆ ก็ทำให้พวกผู้ชายและพวกผู้หญิงชอบที่จะสวมกางเกง นี่เป็จุดประสงค์รองของเขา
เื่แปลกๆ เื่ที่สามคือ เย็นวันที่สิบ หลังจากที่ซุนเฟยเล่านิทานประจำวันเสร็จ เขาได้ประกาศพระราชโองการใหม่ในนามของาาออกมา นั่นคือเด็กที่อายุระหว่างหกถึงสิบห้าปี ไม่ว่าจะผู้ชายหรือผู้หญิงจะต้องเข้าเรียนที่ ‘โรงเรียนแซมบอร์ด’ ทุกวันเพื่อได้รับการอบรมสั่งสอนทุกอย่าง เงื่อนไขนี้ใช้เป็ข้อกำหนดหน้าที่สำหรับเด็กทุกคนและจำเป็ต้องปฏิบัติตาม ผู้ปกครองไม่สามารถฝ่าฝืนได้ มิฉะนั้นจะถือว่าผิดกฎหมาย
และ ‘โรงเรียนแซมบอร์ด’ ก่อตั้งขึ้นที่คฤหาสน์ของอดีตเลขานุการบาร์เซิล หลังจากปรับแต่งคฤหาสน์แบบง่ายๆ และสภาพแวดล้อมเป็อย่างดีเรียบร้อยแล้ว ส่วนที่ทำให้ทุกคนในเมืองแซมบอร์ดคลั่งก็คือ อาจารย์ของโรงเรียนคือยอดฝีมืออันดับหนึ่งของเมืองแซมบอร์ดแฟรงก์ แลมพาร์ด และท่านผู้บัญชาการทหารสูงสุดเกอเทอ บรู๊ค รวมทั้งคนอื่นๆ ยิ่งไปกว่านั้น องค์าาอเล็กซานเดอร์ยังรับตำแหน่งเป็ครูใหญ่ของโรงเรียนอีกด้วย
หลังได้ยินว่าครูประจำชั้นเป็ใคร ทุกคนต่างพากันยื้อแย่งส่งลูกของตัวเองเข้า ‘โรงเรียนแซมบอร์ด’
บางครอบครัวที่ยากจนก็กังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่น่าจะสูง แต่หลังจากทราบว่าโรงเรียนไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมใดๆ ความกังวลใจทั้งหมดก็สลายไป ในโลกที่โหดร้ายอย่างแผ่นดินอาเซรอทที่ผู้เข้มแข็งกลืนกินผู้อ่อนแอ ไม่มีพ่อแม่คนไหนไม่คาดหวังว่าลูกๆ ของพวกเขาจะกลายเป็ขุนนางชั้นสูงหรือนักรบยิ่งใหญ่ เดิมทีความฝันพวกนี้สำหรับพวกเขามันเป็สิ่งที่ไกลตัวมาก แต่ตอนนี้ ด้วยคำสั่งขององค์าาอเล็กซานเดอร์ ทำให้ความฝันอันห่างไกลนี้กลายเป็เข้ามาใกล้ พวกเขาเข้าใจอย่างแน่ชัดว่า คำสั่งนี้ไม่ต่างอะไรกับของขวัญ เป็ของขวัญที่องค์าาอเล็กซานเดอร์มอบให้ ทำให้ลูกของพวกเขาได้รับโอกาสที่หาได้ยาก ที่จะได้รับการสั่งสอนจากแลมพาร์ดและนักรบหนึ่งดาวที่แข็งแกร่งอย่างบรู๊ค ได้รับโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตและโชคชะตาของตัวเอง
เป็พระมหากรุณาธิคุณจากองค์าาอเล็กซานเดอร์
เมืองแซมบอร์ดไม่เคยมีชีวิตชีวาเหมือนทุกวันนี้ และไม่เคยมีความสุขขนาดนี้มาก่อน องค์าาอเล็กซานเดอร์มักจะนำเื่ที่น่ายินดีและเหนือความคาดหมายมาให้แก่ชาวบ้านเสมอ ทุกคนเริ่มคุ้นเคยกับการสวมกางเกงสบายๆ แล้วพากันนั่งดื่มเหล้าสนทนากัน แน่นอนว่าพวกเขามักจะพูดอย่างภาคภูมิใจเื่ที่ลูกชายหรือลูกสาวของตัวเองได้รับคำชมเชยจากท่านแลมพาร์ดในโรงเรียน และอดไม่ได้ที่จะร้องสรรเสริญเสียงดังว่า “องค์าาจงเจริญ!” แล้วชนแก้ว ท่ามกลางเสียงพูดคุย พวกเขามักจะอวยพรขอให้พระเ้าคุ้มครองรักษาองค์าา
……
แน่นอนว่า่หลายวันมานี้ซุนเฟยไม่ว่างเลย
นอกจากจัดการเื่จุกจิก เวลาส่วนใหญ่ของทุกวันเขาจะต้องเสียเวลาคลุกอยู่ที่หอสมุดหลวงของเมืองแซมบอร์ด ในหอสมุดหลวง ซุนเฟยแทบจะอ่านหนังสือหมดทุกเล่ม ได้เรียนรู้เข้าใจเื่ราวของแผ่นดินอาเซรอทอย่างลึกซึ้ง แต่ซุนเฟยก็ไม่ได้ละเลยที่จะศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับทักษะทุกอย่างของตัวละครในโลก Diablo ตอนนี้ตัวละครคนเถื่อนเลเวลอัพถึง 20 ตัวละครจอมเวทย์เลเวลอัพถึง 10 ตัวละครพาลาดินเลเวลอัพถึง 12 เนโครแมนเซอร์เลเวลอัพถึง 12...
และเขาก็ได้รวบรวม ‘น้ำยาฮัลค์’ ได้หลายสิบขวด หลังจากผ่านการทดลองและค้นคว้ามาหลายวัน ซุนเฟยแทบจะเข้าใจผลและประโยชน์ของน้ำยาที่มาจากการเปลี่ยนแปลงนี้ได้อย่างครบถ้วน เขารู้สึกว่าถึงเวลาที่จะใช้ประโยชน์จากน้ำยาเหล่านี้มาเพิ่มพลังให้แก่เหล่าผู้นำของเมืองแซมบอร์ดสักที
-----------------
1 เทถั่วออกจากหลอดไม้ไผ่ หมายถึง ถูกซักฟอก