ท้องฟ้าถูกย้อมเป็สีเขียว และลูกศรก็พุ่งตรงมาด้วยรังสีอาฆาต เงาดาบโลหิตถูกทำลายลงพร้อมๆ กับที่ท่านหญิงิจูรู้สึกได้ถึงแรงกระแทกอันหนักหน่วงที่กระทบร่าง หน้าอกของนางรัดแน่น และรู้สึกได้ถึงรสฝาดของเืในลำคอ
ร่างของนางกระเด็นออกไปในทันที!
ท่านหญิงิจูกรีดร้องด้วยความตื่นตระหนก ระหว่างที่นางใช้พลังปราณเพื่อคุ้มครองร่างทั้งร่าง ทำให้นางล้มไม่แรงมากนัก ถึงอย่างนั้น นางก็ยังได้รับาเ็ภายในเล็กน้อย
ทันใดนั้น ก้อนหินก็ปลิวเข้ามาจากทุกทิศทุกทางราวกับูเาถูกะเิออก ก้อนหินที่กระทบกับแสงสีเขียวกลายเป็ฝุ่นไปในเสี้ยววินาที พร้อมๆ กับเสียงะเิที่ดังขึ้น
จุดที่นางยืนอยู่ก่อนหน้านี้ บนเวทีที่สร้างขึ้นชั่วคราวจากหินอ่อนแข็งแกร่งคุณภาพสูงอายุนับพันปี มีหลุมขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น!
ข้างหลุมนั้น มีเศษหินกระจายอยู่ทั่ว แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าท่าร่างที่ฮวาชีเยว่เพิ่งจะใช้ไปนั้น ทั้งแข็งแกร่งและทรงพลัง หากท่านหญิงิจูไม่สามารถหลบมันได้รวดเร็วพอแล้วละก็ นางก็อาจจะกลายเป็เศษฝุ่นไปภายในชั่วพริบตา!
ทุกคนล้วนเงียบกริบ..
ฮวาเมิ่งซือใช้เวลาสองเค่อในการต่อสู้กับหลี่อวี่เหอ แต่ฮวาชีเยว่ใช้แค่กระบวนท่าเดียวบังคับให้คู่ต่อสู้ต้องลงจากเวที!
นี่คือคุณหนูใหญ่สกุลฮวาผู้ไร้ประโยชน์ในคำเล่าลือคนนั้นจริงๆ น่ะหรือ?
นี่คือฮวาชีเยว่ผู้เจิดจรัสในคำกล่าวขานคนนั้นจริงๆ น่ะหรือ?
ดวงตาของทุกคนเบิกกว้างราวกับระฆัง แม้แต่ฮ่องเต้ก็ยังนิ่งงันไป
ฮวาชีเยว่แสดงความเคารพท่านหญิงิจูที่อยู่ด้านล่างเวที “ท่านหญิงิจู สู้ได้ดี! ”
น้ำเสียงใสของนางดึงทุกคนกลับมาสู่ความเป็จริง และฮ่องเต้ก็ปรบมือขึ้นทันที “ยอดมาก! เยี่ยม! เอาชนะในกระบวนท่าเดียว ท่านหญิงจิ่งฮวาทำให้เราประหลาดใจจริงๆ! ”
ผู้คนรอบข้างเริ่มถกเถียงกัน และคนจำนวนมากก็ชื่นชมฉากอันยอดเยี่ยมที่เพิ่งจบลง
เทียนซีะโด้วยความตื่นเต้นพร้อมกับปรบมือขาวนุ่มของเขาไปด้วย
จี้เฟิงและจี้จิงต่างมองหน้ากัน พวกเขาทั้งคู่ต่างก็ใ แต่ก็ดีใจมากเช่นกัน
จี้จงอดไม่ได้ที่จะยิ้มและพยักหน้าไม่ยอมหยุด “ข้าไม่ได้ดูนางผิดไป ตอนนั้นนางล้วนไม่ใส่ใจต่อทั้งคำชื่นชมและคำเหยียดหยาม ทำให้ทุกคนเชื่อว่านางเป็คนโง่ ความจริงแล้ว นางเป็คนฉลาดที่รู้จักซ่อนความฉลาดของนางเอาไว้... ตอนนี้... ตอนนี้นางได้แสดงความสามารถที่แท้จริงออกมาต่อหน้าทุกคน นาง้าเตือนคนที่ไม่เคารพนางพวกนั้น”
“ท่านพ่อพูดถูก ฮวาชีเยว่มีโอสถวิเศษ และเป็ที่สนใจของเหล่าตระกูลหลักมากมาย” จี้เฟิงยิ้มบาง แม้ว่าตระกูลจี้จะไม่เชื่อในหนทางการหาทรัพยากรมาด้วยวิธีการที่ป่าเถื่อนเืสาด แต่พวกเขาก็เป็ที่รู้จักว่าเป็ตระกูลที่อุดมสมบูรณ์
“ถ้าฮวาชีเยว่กลายมาเป็ศิษย์ของเรา ตระกูลจี้ก็สามารถเฉิดฉายได้อย่างแท้จริง! ” จี้จงยิ้ม
จี้เฟิงและจี้จิงหัวเราะ แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา
ฮวาชีเยว่เข้าร่วมการแข่งขันเพื่อเทียนซี ทันยังไม่แน่ชัดว่านาง้าที่จะเป็ศิษย์ของตระกูลจี้หรือไม่
ท่านหญิงิจูจ้องมองฮวาชีเยว่อย่างเกรี้ยวกราด นางเช็ดเืออกจากปากและวิ่งหนีไปด้วยความอับอาย
มันก็น่าอายเกินไปจริงๆ ที่แพ้ลงในกระบวนท่าเดียว
“การแข่งขับรอบที่สอง ท่านหญิงจิ่งฮวาชนะ! ”
พิธีกรประกาศและมองฮวาชีเยว่ด้วยความชื่นชม
ฮวาชีเยว่ลงจากเวทีไป ที่พื้นด้านล่าง เหล่าลูกศิษย์ของอวิ๋นสือโม่มองนาง แววตาต่างก็เต็มไปด้วยอารมณ์อันซับซ้อน
“สตรีนางนั้นสุดยอดไปเลย…”
“คนที่อยู่เื้ันางเป็ใคร? ”
ความรู้สึกอึดอัดอย่างหนึ่งเกิดขึ้นในใจของอวิ๋นสือโม่ เขาบอกไม่ถูกว่ามันเป็ความรู้สึกอะไรเพราะมันเพิ่งเคยเกิดขึ้นเป็ครั้งแรก
ในขณะเดียวกัน เหล่าบุคคลสำคัญจากตระกูลโอวหยาง ตระกูลเหลียว และตระกูลไป๋หลี่ ต่างก็มองไปยังฮวาชีเยว่ด้วยความตื่นใขณะที่นางกำลังเดินลงจากเวที ใบหน้าของพวกเขาเคร่งขรึม ในขณะที่ดวงตาฉายอารมณ์อันซับซ้อน
“สตรีนางนี้จัดการได้ไม่ง่ายเลย”
“คนที่อยู่เื้ันางนั้นยากยิ่งกว่า”
ไฉ่ชิงและไฉ่หนิงนั่งนิ่งด้วยความตกตะลึง ในดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ
“ไฉ่หนิง ข้าไม่ได้ดูผิดไปใช่หรือไม่? นางขี้แพ้นั่นชนะแล้วจริงๆ ? ”
“เ้าไม่ได้ดูผิด นางชนะแล้ว” ไฉ่หนิงเรียกคืนสีหน้าสงบนิ่งของเขากลับมา แต่สายตาที่เขามองฮวาชีเยว่กลับเปลี่ยนไป ตอนนี้มันซับซ้อนอย่างถึงที่สุด ผสมปนเประหว่างความตื่นใ ความลึกลับ และความสับสน…
ที่ด้านข้างอวิ๋นสือโม่ หวงฝู่เซียนหัวเราะอย่างมีความสุข “ฮ่าๆๆ ท่านชนะจริงๆ ด้วย พี่อวิ๋นฮวาชีเยว่คนนี้ชนะได้ยังไงกัน? หืม พลังปราณของนางเมื่อกี้เป็สีเขียว นางเป็ผู้ใช้พลังปราณขั้นภูมิลักษณ์ั? ”
หวงฝู่เซียนตกตะลึงตัวแข็งทื่อ ในขณะที่อวิ๋นสือโม่ยิ้มอย่างลึกลับโดยที่ไม่ได้พูดอะไร
ฮวาชีเยว่ซ่อนความสามารถของนางเอาไว้ดียิ่ง จนแม้แต่อวิ๋นสือโม่ก็ไม่รู้ว่านางเป็ผู้ใช้พลังปราณขั้นภูมิลักษณ์ั การแสดงความสามารถของนางในวันนี้จะต้องเป็การตักเตือนใครบางคนเป็แน่
ในเมื่อนางแข็งแกร่งอย่างยิ่ง นางก็สามารถข่มขู่คนที่มีเจตนาร้ายต่อนางได้ ยิ่งไปกว่านั้น มีคนมากมายที่้าโอสถวิเศษอย่างต้นหลงแดง
ตระกูลใหญ่มากมายจับจ้องฮวาชีเยว่มานานแล้ว แต่พวกเขาไม่กล้าลงมือบุ่มบ่าม
ฮวาชีเยว่กลับมายังที่นั่งของนาง และได้ยินเสียงหัวเราะของจี้จิง เมื่อหันไป นางก็เห็นจี้จิงเดินเข้ามายืนอยู่ข้างกายนาง “น้องชีเยว่ เ้าหลอกพวกเรา! ”
ฮวาชีเยว่ยิ้มบาง “แต่ตอนนี้ท่านรู้แล้ว? ”
จี้จิงยิ้ม “ทำไมข้าถึงได้รู้สึกว่าทุกคนกำลังจับตามองเ้าอยู่กันนะ ไอ้หยา เ้าเพิ่งจะกลายเป็คนดัง เ้าใช้กระบวนท่าเท้าผนวกิญญาที่ไม่ได้พบเห็นมาพันปีแล้ว! น้องหญิง อาจารย์ของเ้าเป็ใครกัน? ”
“ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกัน! เขาไม่ยอมบอกข้า! ” ฮวาชีเยว่ยิ้ม ถึงแม้ว่านางจะมีความประทับใจที่ดีต่อจี้จิง นางก็ไม่กล้าบอกความจริงออกไป
ผู้หญิงสองคนพูดคุยกันอย่างตื่นเต้นในขณะที่ผู้คนเริ่มเข้ามาห้อมล้อมฮวาชีเยว่
ประกายประหลาดวาบผ่านดวงตาของฮองเฮา ดูเหมือนว่าตอนนี้จะจัดการกับฮวาชีเยว่ที่แสดงความแข็งแกร่งที่แท้จริงออกมาได้ยากขึ้นแล้ว ฮ่องเต้จะต้องพยายามดึงนางเข้ามาอยู่ในราชวงศ์เป็แน่
ฮ่องเต้พยักหน้าไม่หยุดอยู่ข้างๆ พระองค์ทอดพระเนตรไปยังองค์ชายใหญ่แล้วยิ้ม “องค์ชายใหญ่ ไม่ใช่ว่าท่านหญิงจิ่งฮวาเพิ่งจะกลายเป็คนดังหรือยังไง เราไม่ได้เห็นผู้ใช้พลังปราณแบบนางมานานแล้ว! ”
ฮ่องเต้ยิ้ม และองค์ชายใหญ่ก็พยักหน้าเช่นกัน “เสด็จพ่อตรัสถูกแล้ว ฮวาชีเยว่เป็ผู้ใช้พลังปราณขั้นภูมิลักษณ์ั ด้วยอายุแค่สิบแปดปีเท่านั้น นางควรจะเป็ยอดอัจฉริยะของอาณาจักรฉางจิง หรือแม้กระทั่งทวีปเทียนหยวน! ”
“จริงด้วยๆ องค์ชายตรัสถูกแล้ว มีผู้ใช้พลังปราณแม้แต่ในขั้นเมฆาทะยานน้อยยิ่งนัก และฮวาชีเยว่ก็ถึงขั้นภูมิลักษณ์ัแล้ว... อาจารย์ที่อยู่เื้ันางจะต้องแข็งแกร่งยิ่งกว่าอย่างแน่นอน! ” ฮองเฮากลับมามีท่าทางดังเดิมและยิ้ม แววตาของนางแสดงความโหยหา “ฝ่าา ถ้าเราสามารถดึงดูดฮวาชีเยว่ให้เข้ามาเป็ส่วนหนึ่งของราชวงศ์ได้ อาณาจักรของเราจะมั่นคงยิ่งขึ้น”
ฮ่องเต้ยิ้มระหว่างที่กำลังคิดถึงความเป็ไปได้ต่างๆ
ฮองเฮาพูดถูกในเื่ที่ว่า มันออกจะน่าเสียดายหากอัจฉริยะอย่างฮวาชีเยว่จากไปอยู่ที่อื่น
ทว่า ผู้ใช้พลังปราณาุโมักจะเย่อหยิ่งและควบคุมไม่ได้ มันจะเป็เื่ที่ดีมากถ้าฮวาชีเยว่จะไม่ต่อต้านราชวงศ์
การต่อสู้รอบที่สามได้เริ่มขึ้น เป็ธรรมดาที่การแข่งขันนี้ไม่น่าตื่นเต้นเท่ากับการต่อสู้ระหว่างฮวาชีเยว่กับท่านหญิงิจู
มีหลายคนเข้ามาเชิญฮวาชีเยว่ไปรับประทานอาหารกลางวัน รวมถึงตระกูลเหลียว ตระกูลซย่า และตระกูลไป๋หลี่ ฮวาชีเยว่ปฏิเสธพวกเขาทุกคน
เมื่อถึงเวลาอาหารกลางวัน กลางแข่งขันหยุดลงชั่วคราว และจะกลับมาเริ่มขึ้นอีกครั้งหนึ่งเค่อก่อนยามเว่ย
ฮวาชีเยว่พาเทียนซีและคนอื่นๆ ไปยังภัตตาคารเซิงซีที่เต็มไปด้วยผู้คนแน่นขนัดเนื่องจากว่ามันตั้งอยู่ใกล้กับสนามแข่ง มีหลายคนที่ชมการแข่งขันจากชั้นที่สามและชั้นที่สี่ของภัตตาคาร
การมาถึงของฮวาชีเยว่ดึงดูดความสนใจของผู้ชายได้หลายคน หญิงสง่างามในชุดขาวเป็ผู้ใช้พลังปราณอัจฉริยะ และหญิงผู้นั้นก็มีโอสถวิเศษ
ทันใดนั้น ชื่อเสียงของฮวาชีเยว่ก็เปลี่ยนจากผู้หญิงไร้ประโยชน์มาเป็อัจฉริยะตัวจริงผู้มีชื่อเสียง ผู้ชายคนไหนจะไม่อยากทำความรู้จักกับนางเล่า?
“โอ้ นั่นท่านหญิงจิ่งฮวาของเรานี่! เชิญขอรับ! ”
เถ้าแก่จางแห่งภัตตาคารเซิงซียิ้มขณะเชิญฮวาชีเยว่ไปยังห้องวีไอพีชั้นบนสุด
หลังจากที่สั่งอาหารกับเทียนซีแล้ว ฮวาชีเยว่ก็เห็นจี้เฟิง จี้จิงพากันเดินเข้ามาในห้อง หวงฝู่เซียนก็เอ่ยปากเหน็บแนมขณะที่เขามองฮวาชีเยว่อย่างเหยียดหยาม “ฮวาชีเยว่ ช่างเสแสร้งยิ่งนัก เ้าหลอกทุกคนด้วยการแกล้งทำเป็ว่าเ้าไม่ใช่ยอดฝีมือ! ฮึ่ม เ้าเพิ่งจะทำให้ข้ากังวลผลการพนันไป! ”
ฮวาชีเยว่เหลือบมองเขา “ข้าคิดว่าข้าไม่ได้เชิญท่าน”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หวงฝู่เซียนก็ะโโหยงด้วยความโกรธ เขาชี้หน้านางและะโ “เ้าๆๆ ...”
เขาได้แต่อ้าปากพูดคำว่า “เ้า” สองสามครั้ง แต่ก็ไม่สามารถพูดต่อจบจนได้
ฮวาชีเยว่แทบจะไม่สนใจเลยว่าหวงฝู่เซียนหยาบคายกับนางหรือไม่ ทว่า มันก็ไม่เหมาะที่จะอดทนคนที่โหวกเหวกโวยวายเช่นนี้อีกต่อไปแล้ว
อวิ๋นสือโม่มองฮวาชีเยว่อย่างอ่อนโยนก่อนจะอธิบาย “น้องหวงฝู่ออกจะตรงไปสักหน่อย ท่านหญิงอย่าได้เก็บมาใส่ใจ”
ฮวาชีเยว่หัวเราะขึ้นจมูก และกำลังจะรับชามที่เสี่ยวเอ้อร์ส่งให้ เมื่ออวิ๋นสือโม่หยิบมันไปและวางไว้ตรงหน้านางอย่างนุ่มนวล “ข้าวอร่อยมาก กินกับหมูเปรี้ยวหวานก็ยิ่งทำให้อร่อยขึ้น”
ฮวาชีเยว่สับสนเล็กน้อยว่าทำไมจู่ๆ อวิ๋นสือโม่ถึงได้อ่อนโยนนัก แต่นางก็รับซี่โครงหมูเปรี้ยวหวานที่เขาส่งให้อย่างเป็ธรรมชาติ
การปฏิบัติระหว่างพวกเขาทั้งเป็ธรรมชาติและอบอุ่นในสายตาของคนอื่นๆ ราวกับว่าพวกเขาเป็คู่รักกันมานานแล้ว
จี้เฟิงไอแล้วยิ้ม “ชีเยว่ เ้าซ่อนได้ดียิ่งนัก ข้าไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเ้าอยู่ในระดับภูมิลักษณ์ัขั้นฐาน”
“ก็ไม่เชิง ไม่มีพวกท่านคนไหนถามว่าข้าเป็ผู้ใช้พลังปราณหรือไม่มาก่อนนี่! ” ฮวาชีเยว่ยิ้มตอบ ปิดปากทั้งจี้จิงและจี้เฟิงลง
มือขาวอวบของเทียนซีดึงกระโปรงนาง ขณะที่เขาส่งสัญญาณว่าเขาอยากกินลูกชิ้นปลาที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
ก่อนที่ฮวาชีเยว่จะทันตอบสนอง อวิ๋นสือโม่ก็ส่งลูกชิ้นสองสามลูกมาให้ในช้อนคันเล็ก “เทียนซี จานนี้อร่อยหรือไม่? ”
เทียนซีพยักหน้าอย่างหนักแน่น
“ข้าคาดไม่ถึงว่า คุณภาพของอาหารจะยังเหมือนเดิมทั้งที่เปลี่ยนเ้าของร้านไปแล้ว” อวิ๋นสือโม่ยิ้มราวกับว่าท่าทางเ็าราวกับน้ำแข็งของเขาถูกลมฤดูใบไม้ผลิละลายไปแล้ว วันนี้เขายิ้มบ่อยมาก
หลังจากที่อวิ๋นสือโม่พูดจบ เขาก็เอื้อมมือไปเช็ดน้ำแกงที่มุมปากของฮวาชีเยว่
นั่นทำให้ฮวาชีเยว่ตัวแข็งเป็หินไปโดนสิ้นเชิง
“วันนี้เขาไม่ได้กินยามาหรือไง ทำไมจู่ๆ เขาถึงได้เป็แบบนี้? ”
ทุกคนหันไปมองอวิ๋นสือโม่ด้วยความใ โดยเฉพาะจี้จิง นางแอบรักราชันย์โอสถ หนานอ๋อง ผู้ที่มีชื่อเสียงว่าไม่สนใจเื่รักใคร่มาตลอด แต่ว่า นางก็ไม่เคยได้รับปฏิกิริยาตอบกลับจากเขาเลย
ความอ่อนโยนของอวิ๋นสือโม่ที่มีต่อฮวาชีเยว่ทำให้นางเข้าใจว่า บางทีแล้ว อวิ๋นสือโม่ชอบฮวาชีเยว่ ไม่ใช่นาง
จี้จิงจะยอมถอยให้กับฮวาชีเยว่ บุคคลในตำนานของทวีปเทียนหยวนด้วยความยินดี พวกเขาเหมาะสมกันจริงๆ!
แต่แล้วพี่ชายของนางเล่า?