ซานเหล่าเอ้อกำลังเหวี่ยงขวานไปมาเพื่อสู้กับค้างคาวเพียงลำพังอยู่ด้านหลัง ตอนนี้มีค้างคาวใต้พิภพระดับหนิงกังสองตัวกำลังโจมตีเขาอยู่ ทำให้สถานการณ์ของซานเหล่าเอ้อค่อนข้างเลวร้าย
ซานเหล่าเอ้อมองไปทางพวกมู่เฟิงด้วยสีหน้าวิงวอน พร้อมกับะโออกมาด้วยความหวาดหวั่นว่า “เถี่ยหนิ่วช่วยข้าด้วย!”
“น้องชาย เ้าไม่ต้องไปสนใจเขา พวกเรารีบไปกันเถอะ”
หูเถี่ยหนิ่วดึงมู่เฟิงพร้อมพูดขึ้นอย่างเป็กังวล
มู่เฟิงขมวดคิ้ว ก่อนจะกล่าวว่า “พี่ชาย พวกท่านเข้าไปด้านในก่อนเถิด”
หลังจากมู่เฟิงกล่าวจบ บนมือของเขาก็มีแผ่นยันต์ปรากฏขึ้นหลายแผ่น จากนั้นเขาก็ทะยานร่างไปทางค้างคาวที่กำลังล้อมซานเหล่าเอ้อเอาไว้ทันที
“น้องเฟิงเย่!”
หูเถี่ยหนิ่วตกตะลึง ในเสี้ยววินาทีนั้นเขาเกิดความลังเลขึ้นมาชั่วขณะ ก่อนที่เขาจะกัดฟันถือดาบกระโจนตามออกไป
มู่เฟิงสะบัดฝ่ามือขว้างแผ่นยันต์บรรลัยกัลป์ออกไปหลายแผ่น
ตู้ม...!
เสียงะเิดังสนั่น ค้างคาวหนึ่งในสองตัวที่กำลังล้อมซานเหล่าเอ้อถูกเปลวเพลิงจากะเิแผดเผาร่างจนตายทันที
วี๊ด...!
ค้างคาวอีกตัวพลันส่งเสียงหวีดร้องออกมา ทันใดนั้นค้างคาวใต้พิภพอีกหลายตัวที่อยู่ในบริเวณนั้นก็แผดเสียงร้องก่อนจะพุ่งโจมตีมู่เฟิง
ทว่าในเวลาเดียวกันนั้น เส้นพลังปราณหลายสิบสายก็พลันปรากฏขึ้นบนฝ่ามือทั้งสองข้างของเด็กหนุ่ม พวกมันค่อยๆ สอดผสานกันจนกลายเป็ลายเส้น และอึดใจต่อมาลายเส้นกระบี่ทั้งสองเล่มก็ถูกควบแน่นขึ้นบนฝ่ามือของเขา
“ไป!”
มู่เฟิงโบกมือทั้งสองข้างออกไปพร้อมกัน ลายเส้นกระบี่ทั้งสองก็กลายเป็ลำแสงกระบี่พุ่งทะลวงไปหากลุ่มค้างคาวทันที ทำให้ค้างคาวใต้พิภพจำนวนกว่าสิบตัวที่กำลังพุ่งเข้ามาถูกลำแสงกระบี่ทั้งสองตัดผ่านร่างจนขาดออกเป็สองส่วน
มือทั้งสองข้างของมู่เฟิงยังคงควบคุมกระบี่ลายเส้นให้เคลื่อนไหวต่อไป กระบี่ลายเส้นทั้งสองเล่มในยามนี้ได้กลายเป็ลำแสงสังหารไปเรียบร้อยแล้ว และลำแสงทั้งสองก็พุ่งผ่านร่างของค้างคาวใต้พิภพไปทีละตัว แน่นอนว่าภาพการสังหารอันน่าทึ่งนี้ย่อมทำให้หูเถี่ยหนิ่วต้องมองมันด้วยความตื่นตะลึง
ในที่สุดซานเหล่าเอ้อก็สามารถหนีจากการถูกล้อมมาได้ สีหน้าของเขาแสดงใก้เห็นถึงความรู้สึกขอบคุณเป็อย่างยิ่ง จากนั้นเขาก็รีบกระโจนร่างเข้าไปในห้องใต้หลังคาอย่างรวดเร็ว
มู่เฟิงใช้แผ่นยันต์บรรลัยกัลป์ช่วยในการเปิดทาง เมื่อสบโอกาสพวกเขาก็รีบพุ่งเข้าไปยังห้องใต้หลังคาและปิดประตูทันที
ประตูห้องใต้หลังคาถูกเปิดและปิดลงอย่างรวดเร็ว แต่ในระหว่างนั้นกลับมีค้างคาวใต้พิภพตัวหนึ่งพุ่งตามเข้ามาด้วย ทำให้หัวของมันถูกประตูหนีบคาเอาไว้ คนด้านในจึงรีบใช้กระบี่ตัดคอของมันอย่างรวดเร็วจนสามารถปิดประตูลงได้ในที่สุด
ด้านนอกยังมีฝูงค้างคาวบินวนอยู่รอบๆ พวกมันไม่ได้ใช้กำลังทำลายเพื่อเข้าไปด้านใน ฝูงค้างคาวเหล่านี้เป็อสูรพิทักษ์ที่อดีตเ้าของพระราชวังแห่งนี้เลี้ยงเอาไว้ แน่นอนว่าพวกมันจะไม่มีทางทำลายหรือสร้างความเสียหายให้กับอาคารเหล่านี้เป็อันขาด
เมื่อพวกเขาเข้ามายังห้องใต้หลังคาได้สำเร็จ ทุกคนก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
“ให้ตายเถอะ คิดไม่ถึงเลยว่าภายในพื้นที่ของชั้นสามจะมีค้างคาวใต้พิภพมากมายขนาดนี้อยู่ด้วย!”
ชายร่างผอมสูงสบถออกมา
“ใช่แล้ว ไม่แปลกใจเลยที่ในอดีตจะมีคนรอดออกไปจากชั้นสามเพียงไม่กี่คน๐
สีหน้าของหูเถี่ยหนิ่วพลันเคร่งขรึมลง
“เ้ากระทิงเหล็ก เ้าลิงผอม ขอบคุณพวกเ้ามาก"
ซานเหล่าเอ้อหอบหายใจพักหนึ่ง จากนั้นเขาก็ประสานหมัดคำนับไปทางหูเถี่ยหนิ่วและชายร่างผอมสูง
ชายร่างผอมสูงผู้นี้มีนามว่าโหวโซ่ว เป็ชาวยุทธ์ยอดฝีมือที่ขึ้นชื่อในเมืองจิ่วซาน มีฉายาว่าลิงผอม ส่วนกระทิงเหล็กคือฉายาของหูเถี่ยหนิ่ว
“ไม่ต้องขอบคุณเหลาจื่อ เหลาจื่อไม่ได้คิดจะช่วยเหลือเ้า หากอยากจะขอบคุณ เ้าก็ไปขอบคุณน้องเฟิงเย่เถอะ เขาคือคนที่้าช่วยเ้า”
โหวโซ่วกล่าวออกไปตามตรง
หลังจากได้ยินดังนั้นซานเหล่าเอ้อก็มีสีหน้าสลับซับซ้อน เขาหันไปมองมู่เฟิงก่อนจะพยักหน้าให้อีกฝ่ายเพื่อแสดงความขอบคุณ
“หึๆ ซานเหล่าเอ้อ คราวนี้ถือว่าเ้าคำนับพี่ใหญ่ได้ถูกคน เพราะหากไม่ใช่เพราะน้องเฟิงเย่ เกรงว่าตอนนี้เ้าคงจะกลายเป็อาหารของพวกค้างคาวไปแล้ว”
หูเถี่ยหนิ่วกล่าวอย่างเย้ยหยัน
ซานเหล่าเอ้อทำได้เพียงยิ้มอย่างเก้อเขิน โดยไม่ได้กล่าวอะไรออกมา
มู่เฟิงกวาดตามองห้องใต้หลังคาขนาดใหญ่ ภายในห้องใต้หลังคาแห่งนี้มีทั้งหมดสามชั้น และไม่มีสิ่งใดผิดปกติ สิ่งของที่อยู่ภายในมีเพียงภาพวาดอักษรเท่านั้น นอกจากนี้ในมุมที่อยู่ห่างออกไปลยังมีชั้นหนังสืออยู่หนึ่งชั้น และบนชั้นหนังสือก็มีตำราวางอยู่มากมาย แต่พวกมันล้วนถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่นหนาเตอะ มู่เฟิงเดินไปยังชั้นหนังสือนั้นอย่างสงสัย
ในขณะเดียวกันฝูงค้างคาวที่อยู่ด้านนอกก็ยังคงบินวนเวียนไปมาและโจมตีผู้คนไม่หยุด
“ฆ่ามัน…!”
และยังมีคนกลุ่มหนึ่งกำลังถูกฝูงค้างคาวล้อมโจมตีอย่างหนัก ซึ่งพวกเขาก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็พวกข่งย่วนนั่นเอง เหล่าบัณฑิตถูกโจมตีจนต้องแยกกันต่อสู้ โดยทางฝั่งของนางในตอนนี้เหลือเพียงแค่ตัวนาง ข่งเซวียนเอ๋อร์และซือถูคงเท่านั้น
ในบรรดาคนทั้งสามข่งเซวียนเอ๋อร์นั้นอ่อนแอที่สุด แต่โชคยังดีที่ข่งย่วนและซือถูคงต่างก็มีวรยุทธ์ระดับหนิงกังขั้นเก้าทั้งคู่ พวกเขาจึงยังสามารถยืนหยัดต่อสู้กับฝูงค้างคาวมาได้จนถึงตอนนี้ และพวกเขาก็กำลังมุ่งหน้าไปยังห้องใต้หลังคาซึ่งเป็ห้องใต้หลังตาเดียวกันกับมู่เฟิง
ข่งย่วนตบฝ่ามือโจมตีออกไปอย่างต่อเนื่อง ค้างคาวที่กำลังบินอยู่กลางอากาศแผดเสียงร้องออกมาก่อนที่ร่างของพวกมันจะถูกบดขยี้จนกลายเป็เศษชิ้นส่วน
ทางด้านซือถูคงกำลังตวัดกระบี่ในมือเพื่อปล่อยลำแสงกระบี่สีทองให้กวาดออกไปเช่นกัน และลำแสงนี้ก็พุ่งทะยานผ่านร่างของค้างคาวไปหลายตัว ทำให้ร่างของพวกมันถูกตัดจนขาดออกเป็สองส่วน
“วี๊ด...!”
ทันใดนั้นเสียงหวีดร้องเสียดหูก็พลันดังขึ้นมาจากมุมหนึ่งของพระราชวังซึ่งอยู่ห่างออกไปจากจุดที่พวกเขาอยู่ ไม่นานหลังจากนั้นค้างคาวั์ที่มีความยาวหลายเมตรก็บินตรงเข้ามา
ค้างคาวใต้พิภพตัวนี้ต่างจากค้างคาวใต้พิภพตัวอื่นๆ ขนของมันเป็สีขาวบริสุทธิ์ทั้งตัว ดวงตาเป็สีแดงก่ำ ปีกทั้งสองที่กำลังกางออกนั้นมีความกว้างราวๆ เจ็ดถึงแปดเมตร นอกจากนี้ร่างกายของมันยังมีคลื่นพลังแปลกประหลาดของกลุ่มก้อนพลังปราณอันรุนแรงเป็อย่างยิ่งอีกด้วย บ่งบอกได้ว่าพลังของมันนั้นแข็งแกร่งมากเพียงใด
มันคือาาค้างคาวใต้พิภพระดับหยวนตาน!
“อ๊าก…!”
ผู้ฝึกยุทธ์หลายคนที่โดนปิดล้อมด้วยฝูงค้างคาวก่อนหน้านี้ถูกเสียงหวีดร้องเล็กแหลมของาาค้างคาวใต้พิภพเสียดแทงเข้าไปในแก้วหูจนได้รับความเ็ปราวกับศีรษะกำลังจะฉีกออกจากกัน
พรึ่บ!
าาค้างคาวใต้พิภพกระพือปีกอย่างแรง ทันใดนั้นร่างของมันก็พุ่งตัวออกไปราวกับลำแสงสังหาร เพียงไม่นานกรงเล็บอันแหลมคมของมันก็เจาะทะลวงเกราะป้องกันพลังกังหยวนของยอดฝีมือระดับหนิงกังผู้หนึ่งได้อย่างรวดเร็ว ก่อนที่กรงเล็บนั้นจะบดขยี้ศีรษะของอีกฝ่ายจนกลายเป็เศษเนื้อ
มันใช้กรงเล็บทั้งสองตรึงศพของชายผู้นั้นเอาไว้ จากนั้นก็ใช้ปากขนาดใหญ่ฉีกกระชากร่างของเขาเพื่อจิกทึ้งทรวงอกของศพออก กอนที่มันจะคว้านหาหัวใจซึ่งบรรจุแก่นโลหิตเอาไว้ออกมา และกินมันลงไปทันที แน่นอนว่าภาพนี้เป็ภาพที่โหดร้ายและน่าสยดสยองเป็อย่างยิ่ง
จากนั้นาาค้างคาวใต้พิภพก็อ้าปากพ่นเปลวเพลิงสีดำออกมา เปลวเพลิงพุ่งทะลวงออกไปหลายสิบเมตร ก่อนจะโจมตีร่างของยอดฝีมือระดับหนิงกังผู้หนึ่งทันที
“อ๊าก…!”
ยอดฝีมือระดับหนิงกังผู้นั้นกรีดร้องออกมาอย่างน่าสังเวช เกราะป้องกันจากพลังกังหยวนของเขาถูกหลอมละลายลงอย่างรวดเร็ว ไม่นานเปลวเพลิงสีดำนั่นก็แผดเผาร่างของเขาจนกลายเป็เถ้าถ่าน
หลังจากนั้นาาค้างคาวใต้พิภพก็หันไปมองพวกข่งย่วนต่อทันที มันบินทะยานไปทางคนทั้งสามโดยพลัน
“แย่แล้ว มันกำลังมาทางพวกเรา!”
สีหน้าของคนทั้งสามพลันเปลี่ยนไปเป็อย่างมาก ทันใดนั้นกระบี่ยาวสีแดงเล่มหนึ่งก็พลันปรากฏขึ้นในมือของข่งย่วน หญิงสาวะโออกมาพร้อมกับฟันกระบี่ปลดปล่อยลำแสงกระบี่สีแดงหลายสายไปทางาาค้างคาวใต้พิภพทันที
ทางด้านซือถูคงเองก็ใช้พลังทั้งหมดตวัดกระบี่ปลดปล่อยลำแสงกระบี่สีทองออกไปโจมตีเช่นกัน
าาค้างคาวใต้พิภพกระพือปีก ฉับพลันนั้นพลังหยินก็ถูกควบแน่นขึ้นเป็เกราะป้องกันสีดำด้านหน้าของมันทันที ลำแสงกระบี่ที่พุ่งเข้ามาโจมตีเ่าั้จึงถูกสกัดกั้นเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย
าาค้างคาวใต้พิภพตวัดกรงเล็บอันแหลมคมของมันไปทางคนทั้งสาม และในพริบตานั้นข่งย่วนก็เข้าไปขวางหน้าข่งเซวียนเอ๋อร์เอาไว้เพื่อปกป้องน้องสาวของตนทันที
ปัง...!
กรงเล็บอันทรงพลังตบไปบนร่างของข่งย่วนอย่างแรง ทำให้นางต้องพ่นเืออกมาก่อนจะปลิวกระเด็นออกไปไกลหลายเมตร
“พี่หญิง!”
สีหน้าของข่งเซวียนเอ๋อร์พลันเปลี่ยนไปเป็อย่างมาก นางรีบเข้าไปประคองข่งย่วนอย่างรวดเร็ว
ส่วนซือถูคงนั้นสามารถหลบหลีกกรงเล็บอันทรงพลังนั่นได้ทัน
ใบหน้าของข่งย่วนขาวซีด กรงเล็บเมื่อครู่ทำให้นางได้รับาเ็ภายในสาหัส แน่นอนว่าพลังของอสูรร้ายระดับหยวนตานนั้นไม่ใช่เื่ล้อเล่น
“ย่วนเอ๋อร์!”
เวลานี้มีค้างคาวใต้พิภพจำนวนมากกำลังล้อมพวกเขาอยู่ ซือถูคงแผดเสียงร้องเรียกหญิงสาวด้วยความกังวล สีหน้าของเขาพลันเปลี่ยนเป็น่าเกลียด หลังจากลังเลอยู่ชั่วขณะ สุดท้ายเขาก็ใช้พลังกังหยวนห่อหุ้มร่างกายของตัวเองเอาไว้ก่อนจะบุกฝ่าวงล้อมออกไป เขาตัดสินใจทอดทิ้งหญิงสาวทั้งสองเอาไว้เื้ั และหนีเข้าไปที่ห้องใต้หลังคาเพียงลำพัง
“พี่ใหญ่ซือถู!”
ข่งเซวียนเอ๋อร์มองตามซือถูคงที่ทอดทิ้งนางและข่งย่วนไว้ด้านหลัง ดวงตาของนางทั้งใและเต็มไปด้วยความผิดหวัง
“แค่กๆ...”
ข่งย่วนกระอักเืออกมาสองครั้ง ตอนนี้บริเวณรอบๆ มีกลุ่มค้างคาวใต้พิภพจำนวนมากกำลังล้อมเอาไว้ ดูเหมือนว่าาาค้างคาวใต้พิภพจะมั่นใจมากว่าหญิงสาวทั้งสองคนคงไม่รอดเป็แน่แล้ว ดังนั้นมันจึงบินไปจัดการกับผู้บุกรุกคนอื่นต่อ
“ทำอย่างไรดี จะทำอย่างไรดี พี่หญิง เราถูกพวกมันปิดล้อมเอาไว้แล้ว”
ข่งเซวียนเอ๋อร์มองไปทางฝูงค้างคาวใต้พิภพจำนวนมาก ดวงตาคู่สวยของนางแดงก่ำ ไม่นานหยดน้ำตาสีใสก็เอ่อล้นออกมา
ข่งย่วนฝืนบังคับร่างกายให้ลุกขึ้นมาอีกครั้ง มือของนางจับกระบี่เอาไว้แน่น ตอนนี้ภายในใจของนางรู้สึกเศร้าหมองเป็อย่างยิ่ง ในที่สุดวันนี้นางก็ได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของซือถูคงแล้ว
“ตายเสีย!”
มว่าในตอนนั้นเองก็มีเสียงคำรามเสียงหนึ่งดังขึ้น พร้อมกับประตูห้องใต้หลังคาที่เปิดออกอย่างกะทันหัน เงาร่างหนึ่งปรากฏขึ้นก่อนจะปล่อยกระบี่สีขาวสองเล่มออกไปโจมตีฝูงค้างคาวทันที ทำให้ค้างคาวพวกนั้นถูกสังหารไปทีละตัว
“เซวียนเอ๋อร์ มาทางนี้เร็วเข้า!”
มู่เฟิงะโเสียงดัง พร้อมกับปล่อยกระบี่ลายเส้นออกไปโจมตีค้างคาวใต้พิภพ เมื่อหญิงสาวทั้งสองเห็นผู้มาใหม่ พวกนางก็พลันชะงักค้างไปทันที จากนั้นทั้งสองก็รีบพุ่งไปทางมู่เฟิงอย่างรวดเร็ว