เหล้าขาวลดลงไปจนเหลือครึ่งขวดเป็ที่เรียบร้อย ชวีเสี่ยวปอดูเหมือนจะไม่พอใจเป็อย่างมากที่ทั้งสองคนดื่มเหล้าขาวขวดนี้ไม่หมด ทั้งยังเอาแต่บ่นพึมพำออกมาว่าซือจวิ้นรั้งเขาเอาไว้ไม่ให้เขาดื่มอยู่นั่น
คอของซือจวิ้นไม่ค่อยแข็งสักเท่าไหร่ เบียร์สามขวดก็เกินขีดจำกัดของเขาไปมากแล้ว ในตอนนี้เขานั่งพิงอยู่บนเก้าอี้โดยที่ไม่กล้าขยับเขยื้อน กำลังพยายามหาจุดสมดุลที่ทำให้เขาสามารถทรงตัวขึ้นมาได้ ความรู้สึกที่เหมือนกับว่ามีน้ำอยู่เต็มท้องไปหมดก็ไม่ใช่เื่โกหก ถ้าไม่ได้ระมัดระวังเพียงนิดก็อาจจะเกิดเื่เดือดร้อนขึ้นมาได้
ซือจวิ้นส่งเสียงพูดฮึมฮัมออกมาอย่างยากลำบาก : “นาย นายเชื่อไหมว่าตอนนี้ฉันจะโชว์น้ำพุแบบคนมีลีลาให้นายดู”
คำพูดนี้ค่อนข้างที่เห็นภาพมากเลยทีเดียว ทันใดนั้นเซี่ยเจิงจึงรีบฉีดกระดาษทิชชูออกมาเป็ชิ้นเล็กๆ พร้อมทั้งปั้นเป็ก้อนกลมๆ โยนใส่เขาไป พร้อมทั้งพูดออกไปอย่างรังเกียจว่า : “นายไม่ขยะแขยงหรือไง”
ซือจวิ้นเปิดปากหัวเราะฮึๆ ออกมา : “อุ๊บแหวะ——”
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ถึงขนาดที่เซี่ยเจิงก็ยังไม่ทันได้ตั้งตัวว่ามีเื่อะไรเกิดขึ้น หลังจากที่ซือจวิ้นอาเจียนออกมาจนหมดแล้ว เขาก็ไหลจากบนเก้าอี้ลงไปอยู่ที่พื้นราวกับว่าเป็ลูกบอลที่ถูกปล่อยลมออกมา แต่ชวีเสี่ยวปอกลับลุกขึ้นมาทันที พร้อมทั้งยื่นมือชี้ไปยังซือจวิ้น อยากที่จะพูดอะไรออกมาแต่กลับพูดไม่ออก ในตอนนั้นเองเขาก็ก้มตัวลงไป...
ให้ตายเถอะ นี่มันเป็โรคติดต่อกันหรือไงเนี่ย?
หลังจากที่จัดการกับซือจวิ้นเรียบร้อยแล้วในตอนนั้นก็เป็เวลาเที่ยงคืนพอดี
เซี่ยเจิงเงยหน้าขึ้นไปมองนาฬิกาครั้งหนึ่ง จากนั้นจึงเอามือเท้าเอวและเอนตัวไปด้านหลัง เพื่อยืดหลังของเขาสักหน่อย พร้อมทั้งถอนหายใจยาวตามออกมา ที่เขาบอกว่าคนเมานี่หลับเป็ตาย คำพูดนี้ไม่ใช่เื่โกหกเลยสักนิด ในตอนที่ลากซือจวิ้นจากเก้าอี้ไปโยนไว้บนโซฟา เซี่ยเจิงเกือบจะคิดว่าเขากำลังแบกปูนสองกระสอบอยู่อย่างไรอย่างนั้น
แต่ทว่ายังมีแบบทดสอบที่ยากขึ้นไปอีก
ชวีเสี่ยวปออาเจียนออกมาจนเลอะไปทั้งตัว และในตอนนี้กำลังนั่งอยู่บนพื้นโดยที่มือข้างหนึ่งจับพนักพิงของเก้าอี้เอาไว้ ส่วนมืออีกข้างก็พยุงหัวเข่าของเขาเอาไว้ หลับไปในท่าทางที่ยากที่จัดการเช่นนี้
“นายนี่สุดยอดเลยจริงๆ แบบนี้ก็นอนหลับได้ด้วย” เซี่ยเจิงมองเขา ทั้งยังรู้ว่าไม่ว่าจะพูดอะไรออกไปชวีเสี่ยวปอก็คงจะไม่ได้ยิน เขาผ่อนลมหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอจนดูเหมือนเป็เ้าแมวน้อยที่กำลังนอนหลับสนิทอยู่อย่างไรอย่างนั้นเลย
“ตื่นขึ้นมาก่อนๆ ” เซี่ยเจิงมองชวี่เสี่ยวปอั้แ่้าลงไปด้านล่างหนึ่งรอบ ยืนยันแล้วว่ามีเพียงศีรษะของเขาแค่อย่างเดียวที่สามารถลงมือจัดการได้ จากนั้นเขาจึงยื่นนิ้วชี้ออกไปจิ้มเข้าที่แก้มของชวีเสี่ยวปอไปสองครั้ง “ปอเอ๋อร์ ตื่นขึ้นมาก่อนตื่นขึ้นมาอาบน้ำก่อนได้ไหม? ”
อาจจะเป็เพราะเขารู้สึกคันตรงใบหน้า ชวีเสี่ยวปอจึงทำท่าสูดจมูก ราวกับกำลังแสดงปฏิกิริยาตอบกลับมา แต่เขาไม่มีวี่แววที่จะลืมตาขึ้นมาเลย ช่างไม่ไว้หน้ากันเอามากๆ
คออ่อนขนาดนี้ยังจะกล้าไปบังคับให้เขาดื่มหมดขวดอีก?
เซี่ยเจิงถอนหายใจออกมา ไม่รู้ว่าชวีเสี่ยวปอไปเอาความกล้ามาจากไหน ทว่าในตอนนี้ตัวเขาเองต้องเรียกความกล้าขึ้นมาควบคุมมาตรการทางเพศของเขาเอาไว้สักหน่อยแล้ว
นี่...ฝนตกเหรอ?
ชวีเสี่ยวปอจ้องมองด้วยความงุนงง รู้สึกเหมือนมีหยดน้ำกำลังไหลลงมากระทบเข้าที่ตัวของเขา
เดี๋ยวนะ
ฝนปรับอุณหภูมิได้ด้วยเหรอ? ทำไมน้ำที่ตกกระทบลงมาบนตัวถึงได้ร้อนเล็กน้อยด้วยล่ะ?
ชวีเสี่ยวปอใช้ความพยายามเป็อย่างมากถึงจะสามารถลืมตาขึ้นมาได้ แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นไปแล้วเห็นแสงไฟบนเพดานแยงตาเข้ามา เขาจึงหลับตาลงไปอีกครั้ง ในที่สุดเขาก็รู้สึกตัวขึ้นมาแล้วว่าที่จริงไม่ใช่ฝนตก แต่กลับมีคนกำลังถือฝักบัวอาบน้ำให้ไหลมาบนตัวของเขา
ความรู้สึกไม่สบายที่ผิวทำให้เขาหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อย แต่ภายใต้ผลของฤทธิ์แอลกอฮอล์ ชวีเสี่ยวปอรู้สึกว่าขนาดเอนตัวหลบยังต้องใช้พลังอย่างมากเลยทีเดียว ในตอนนั้นเขาอ้าปากพูดออกมาคำหนึ่งอย่างยากลำบาก : “ร้อน”
ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครพูดอะไรออกมา แต่อุณหภูมิของน้ำก็ถูกปรับให้อยู่ในอุณหภูมิที่พอดีแล้วเรียบร้อย
ชวีเสี่ยวปอจึงลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง
“รู้สึกตัวแล้ว? ”
เสียงของเซี่ยเจิงฟังดูไกลออกไปมาก แต่ใบหน้ากลับอยู่ตรงหน้าเขา ความขัดแย้งกันเช่นนี้ทำให้ชวีเสี่ยวปออยากที่จะพิสูจน์ดูสักหน่อยว่าคนที่อยู่ตรงหน้านี้เป็คนจริงๆ หรือไม่ แต่ในขณะที่พยายามยกแขนขึ้นมากลับถูกเซี่ยเจิงหยุดเอาไว้ก่อน
“อย่าขยับ ไม่ต้องรีบ ใกล้จะอาบเสร็จแล้ว”
“อืม ทรมานอะ” ชวีเสี่ยวปอทำเสียงไม่พอใจ ทั้งยังพูดเน้นออกไปอีกครั้ง “ทรมาน...บ้าเอ๊ย”
ชวีเสี่ยวปอที่จู่ๆ อารมณ์ก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างกะทันหัน เบิกตากว้างขึ้นมา
เมื่อครู่นี้เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติไป จนกระทั่งเขามองไปเห็นเสื้อผ้าของเซี่ยเจิงที่เปียกโชกไปหมดทั้งตัว แล้วจึงก้มลงมามองดูตัวเอง
เปลือยเปล่า !
แม้แต่กางเกงในสักตัวก็ไม่มี !
นั่งอยู่บนพื้นกระเบื้องในห้องน้ำทั้งที่ไม่มีอะไรปกปิดก้นเอาไว้อย่างนี้เลย !
ให้ตายเถอะ !
“นายอ้วกออกมาจนเลอะไปทั้งตัว” เซี่ยเจิงปิดฝักบัวลง เสียงของเขาจึงชัดเจนขึ้นมาก ทันทีที่เห็นท่าทางของชวีเสี่ยวปอเซี่ยเจิงก็รู้ได้ทันทีว่าในหัวของเขากำลังครุ่นคิดอะไรอยู่ “หรือว่านายเลือกที่จะนอนอยู่กับอ้วกแบบนี้ทั้งคืนล่ะ”
“ฉันอ้วกเหรอ? ” ชวีเสี่ยวปอขมวดคิ้วพยายามนึกย้อนกลับไปอย่างละเอียด ถึงแม้ว่าฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จะยังโจมตีอยู่อย่างไม่หยุดยั้ง แต่ดูเหมือนว่าจะเกิดเื่เช่นนี้ขึ้นมาจริงๆ
“อืม นายกับซือจวิ้นแข่งขันกันอ้วกออกมาจนตัดสินแพ้ชนะไม่ได้เลยละ ในสนามแข่งขันก็ยังไม่ได้เก็บกวาดให้สะอาดเลยด้วย เดี๋ยวนายออกไปดูได้เลย” เซี่ยเจิงหยิบผ้าขนหนูที่แขวนอยู่ที่หลังประตูขึ้นมา “ลุกเองได้ไหม?”
“อืม นึกออกแล้ว” จู่ๆ ชวีเสี่ยวปอก็รู้สึกเหนียมอายขึ้นมาแล้ว ถึงแม้ว่าเซี่ยเจิงจะเปียกโชกไปหมดทั้งตัว แต่เสื้อผ้าก็ยังอยู่ครบเรียบร้อยดี ในขณะที่ตัวเองกลับเปลือยก้นพูดกับเขาเช่นนี้ จึงทำให้รู้สึกไม่มั่นใจเลยแม้แต่น้อย
ถึงแม้จะไม่รู้ว่าในเวลาแบบนี้จะใช้ความมั่นใจไปทำไมกัน มันใส่เป็เสื้อผ้าไม่ได้สักหน่อย
แต่แค่รู้สึกว่ามันแปลกน่าดูเลย
คิดไม่ถึงว่าตัวเองและเ้าปอน้อยจะถูกเปิดเผยออกมาพร้อมกัน ทั้งยังต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอายเช่นนี้
“ลุกไม่ขึ้นเหรอ? ” ชวีเสี่ยวปอไม่ได้ส่งเสียงพูดอะไรออกมาอยู่พักใหญ่ เซี่ยเจิงจึงนั่งยองๆ ลงไป
“ไม่ใช่” ชวีเสี่ยวปอพูดโพล่งออกมาเสียงแหบ “หยิบเสื้อผ้าให้ฉันก่อนได้ไหม? ”
“ที่นายมีฉันก็มีเหมือนกัน” เซี่ยเจิงเอ่ยด้วยท่าทางจริงจัง
“ฉันหมายความว่าแบบนั้นที่ไหนกันเล่า? ” ถ้าหากเขาไม่ได้หมดเรี่ยวหมดแรงไปทั้งตัว ชวีเสี่ยวปอรู้สึกว่าเขาอาจจะยันเซี่ยเจิงจนกระเด็นออกไปได้เลยทีเดียว แต่ในตอนนี้ความมั่นใจและพละกำลังของเขากลับไม่เพียงพอเอาซะเลย การเตะคนในตอนที่เปลือยก้นอยู่เช่นนี้ก็ยิ่งจะทำให้ทำร้ายตัวเองหนักขึ้นไปกว่าเดิม “ฉันไม่รู้หรือไงว่าที่ฉันมีนายก็มีเหมือนกัน? ”
“หยิบๆ หยิบให้เดี๋ยวนี้แหละ” เซี่ยเจิงหลุดขำออกมา เมื่อครู่เพียงแค่้าที่จะแกล้งเขาเล่นเฉยๆ แต่ชวีเสี่ยวปอที่หน้าบางขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกนี้ทำให้เขาประหลาดใจอยู่ไม่น้อย “ถ้างั้นนายก็เช็ดตัวให้แห้งก่อน? ”
เซี่ยเจิงยื่นมือออกไปประคองชวีเสี่ยวปอขึ้นมา ในขณะนั้นฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ได้ลดลงไปส่วนหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังคงเวียนศีรษะอยู่เล็กน้อย ชวีเสี่ยวปอรับผ้าขนหนูมา แล้วเช็ดไปตามร่างกายอย่างลวกๆ จากนั้นจึงพิงไปที่กำแพงแล้วพยุงตัวลุกขึ้นมา รอเซี่ยเจิงที่กำลังไปหยิบเสื้อผ้ามาให้
จำไม่ได้เลยว่าเซี่ยเจิงเอาเขาเข้ามาในห้องน้ำด้วยวิธีไหน และยิ่งไปกว่านั้นเขาจำไม่ได้เลยสักนิดว่าเสื้อผ้าถูกถอดออกมาได้ยังไง
...เซี่ยเจิงช่วยถอดงั้นเหรอ
การถามเองตอบเช่นนี้ช่างน่ารำคาญเสียจริงๆ
ทำไมดื่มเหล้าจนเมาขนาดนี้แล้วยังจะมีปฏิกิริยาตอบสนองเช่นนี้อยู่อีกเนี่ย เป็บ้าไปแล้วหรือยังไง
การที่คนอื่นมาช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้า ช่วยอาบน้ำให้แบบนี้นับว่าเป็ครั้งแรกของเขา
“ยังมึนอยู่เหรอ? ” เซี่ยเจิงผลักประตูเข้ามาก็เห็นชวีเสี่ยวปอกำลังก้มหน้าใช้ศีรษะพิงเข้าหากำแพง และกำลังหลับตาอยู่ เขาจึงรีบยื่นมือออกไป “จับฉันเอาไว้หน่อยไหม? ”
“เปล่า” ชวีเสี่ยวปอลืมตาขึ้นมาทันที “ฉันแค่กำลังตั้งสติ ตั้งสติสักหน่อยน่ะ” พูดออกมาพลางมองไปยังเสื้อผ้าที่อยู่บนมือของเซี่ยเจิง เสื้อกล้ามและกางเกงขาสั้นอย่างละตัว
เหมือนจะขาดอะไรบางอย่างไป
“ไม่มีกางเกงในเหรอ” ชวีเสี่ยวปอเกาศีรษะไปมา รู้สึกกลุ้มใจขึ้นมาเล็กน้อยแล้ว
“ไม่มีตัวใหม่อะ มีแต่ตัวเก่าที่ฉันใส่ไปแล้ว” เซี่ยเจิงผงะไป จากนั้นจึงอธิบายออกมา “กลัวว่านายจะรังเกียจเลยไม่ได้เอามาให้”
ชวีเสี่ยวปออ้าปากอยากจะพูดออกมาว่า “รังเกียจบ้านนายสิ” แต่เขากลับรู้สึกว่ามันจะไม่ทำให้เขาดูเป็คนนอกเลยสักนิด เขาจึงใช้มือข้างหนึ่งคว้ากางเกงขาสั้นมาสวมไว้อย่างรวดเร็ว แล้วพูดกัดฟันออกไปว่า“ปล่อยโล่งก็ปล่อยโล่งวะ”