เหมยเซียงขอบคุณนางจ้าวลุกขึ้นเตรียมจะเอาเห็ดหลินจือเืกลับไปเก็บที่ห้องทางด้านข้างกลับได้ยินเสียงอิ๋งเหอดังมาจากนอกประตู
“ฮูหยินใหญ่หลับแล้วหรือไม่” อิ๋งเหอยิ้มพลางถามเหมยหลานสาวใช้ขั้นรองที่เฝ้าประตูอยู่
“มีธุระหรือเ้าคะพี่อิ๋งเหอ? ฮูหยินใหญ่อยู่ในห้องเ้าค่ะ ข้าจะไปดูให้”
“รบกวนน้องเหมยหลานแล้วฮูหยินบ้านข้าสั่งให้ข้านำตำรับปรุงเห็ดหลินจือเืมามอบให้ฮูหยินใหญ่ฮูหยินบอกว่านางเคยเห็นวิธีกินเห็ดหลินจือเืมาก่อน จึงบอกว่าจะเอาให้ฮูหยินใหญ่ดูว่าจะนำไปใช้ได้หรือไม่”
น้ำเสียงของอิ๋งเหอสดใสอ่อนโยน คำพูดของนางดังเข้าไปถึงในห้องนอน
นางจ้าวที่อยู่ในห้องได้ยินก็หันไปพยักหน้าให้เหมยเซียง“เอาของวางไว้ในที่สะดุดตาก่อน แล้วเ้าออกไปรับนางเข้ามา”
เมื่อได้ยินคำสั่ง เหมยเซียงก็เข้าใจสิ่งที่ฮูหยินใหญ่หมายถึงนางรีบเอากระถางดอกไม้ที่อาหนูมอบให้กลับไปไว้ที่ชั้นหัวเตียง และวางกล่องเห็ดหลินจือเืไว้ที่ชั้นหัวเตียงด้วยเช่นกัน
เมื่อนางจัดการจนแล้วเสร็จ เหมยหลานก็เปิดม่านที่ประตูเข้ามาพอดี
“มีเื่ใด เข้ามาก็ไม่รู้จักเบาไม้เบามือเสียบ้างฮูหยินใหญ่กำลังเตรียมจะพักผ่อนอยู่ทีเดียว”
เหมยเซียงแสร้งทำเหมือนว่าไม่มีเื่ใดและเตรียมจะออกไป
เหมยหลานแลบลิ้นออกมาอย่างซุกซน ยิ้มเอ่ยกับเหมยเซียงว่า “พี่เหมยเซียงเหมยหลานรู้ว่าท่านพูดจาง่ายนัก ท่านจะโทษเหมยหลานได้อย่างไรกัน”
เหมยหลานผู้นี้เป็ลูกพี่ลูกน้องห่างๆ ของเหมยเซียงปกติสนิทสนมกันไม่เบา เหมยหลานจึงมิได้ระวังตัวกับนางมากนัก
“เอาเถิด มีเื่ใดก็รีบบอกมา ฮูหยินใหญ่กำลังจะนอนพักแล้ว”
เหมยเซียงใช้หลังนิ้วไล้จมูกของอีกฝ่ายเหมยหลานสนิทกับนางมาั้แ่เล็ก และนางก็ชอบเหมยหลานจากใจจริง
“พี่เหมยเซียง เป็พี่อิ๋งเหอจากเรือนฮูหยินมาหาเ้าค่ะบอกว่าฮูหยินมีตำรับปรุงเห็ดหลินจือเืจะมอบให้ฮูหยินใหญ่เ้าค่ะ”
“เอาเถิด ข้าได้ยินที่พวกเ้าพูดหมดแล้วฮูหยินนี่ก็ช่างรู้จักเลือกเวลาเสียจริง ให้อิ๋งเหอเข้ามาเถิด”เสียงคำสั่งของฮูหยินใหญ่ดังออกมาจากในห้อง
“รีบไปๆ” เหมยเซียงผลักเหมยหลานออกไป ส่วนตนเองก็เข้าไปในห้องเพื่อประคองนางจ้าวให้นั่งพิงที่หัวเตียง
“คารวะฮูหยินใหญ่เ้าค่ะ” เหมยหลานนำอิ๋งเหอเข้ามาในห้อง
“เป็ฮูหยินส่งเ้ามาสินะ มีเื่ใด”นางจ้าวเอ่ยด้วยท่าทีอ่อนเพลีย อิ๋งเหอไม่กล้าอยู่นานกลัวจะรบกวนฮูหยินใหญ่พักผ่อนจึงรีบพูดว่า “ฮูหยินใหญ่เ้าคะ ฮูหยินสั่งให้ข้านำตำรับปรุงเห็ดหลินจือเืแผ่นนี้มามอบให้ฮูหยินใหญ่เ้าค่ะอยากให้ฮูหยินใหญ่ลองดูว่าจะใช้ได้บ้างหรือไม่”
อิ๋งเหอพูดพลางยื่นกระดาษในมือมอบให้ฮูหยินใหญ่
นางจ้าวอ่านวิธีใช้เห็ดหลินจือเืในมือด้วยใจที่ยิ่งโมโหขัดเคืองนางเพิ่งสะกดความหวังที่จะได้ใช้เห็ดหลินจือเืลงไปได้อย่างยากเย็นเมื่อครู่นี้เองความอัดอั้นที่นางมีของอยู่ในมือแต่กลับใช้ไม่ได้ยังคงรุกเร้าอยู่ในใจไม่หยุด
คิดไม่ถึงว่าน้ำกาใดยังไม่ทันเดือดองค์หญิงกลับหยิบเอากานั้นมา [1]ครานี้ยังให้อิ๋งเหอส่งตำรับปรุงมาให้อีกมิเท่ากับเป็การย้ำเตือนว่านางมีเห็ดหลินจือเืที่สามารถทำให้รูปโฉมของนางย้อนมาอยู่ในวัยสองแปด[2] ได้ และไม่ต้องกลัวว่าจะมิได้รับความชื่นชอบจากท่านแม่ทัพอีกหรอกหรือ
แต่นางจะกล้าใช้หรือ? อย่าว่าแต่ยามนี้นางกำลังตั้งท้องอยู่ต่อให้ไม่มีเื่วุ่นวายใจนี้นางก็กลัวว่าจะถูกวางยาพิษจนตาย
“กลับไปขอบคุณฮูหยินแทนข้าด้วย บอกว่าน้ำใจของฮูหยินไฉ่เอ๋อร์รับเอาไว้แล้ว”
นางจ้าวเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น คนอื่นฟังแล้วคงนึกว่านางดีใจเกินไปมีเพียงตัวนางเองที่รู้ว่านางอยากจะเอาตำรับปรุงยานี่ฉีกให้กระจุยแล้วโยนใส่หน้าองค์หญิงไปเสีย
“กลับไปเถิด ข้าอยากพักแล้ว”นางจ้าวพยายามเค้นรอยยิ้มพลางเก็บตำรับปรุงยา แล้วสั่งความเป็ทีส่งอิ๋งเหอกลับ
“ฮูหยินใหญ่เ้าคะฮูหยินบ้านข้ามีเื่หนึ่งอยากจะบอกท่านเ้าค่ะ”
อิ๋งเหอว่าพลางมองไปรอบๆ แต่กลับมิได้พูดต่อ
นางจ้าวที่มีประสบการณ์ผ่านโลกมามากเพียงมองก็เข้าใจความคิดของอิ๋งเหอแล้วจึงสั่งความกับเหมยเซียงว่า “เหมยเซียงเ้าให้เหมยหลานไปที่ห้องครัวหลังทำน้ำบ๊วยให้ข้าถ้วยหนึ่ง ส่วนเ้าก็ไปรออยู่ที่หน้าประตู”
เหมยเซียงรับคำแววตาหนักอึ้งขณะแอบมองอิ๋งเหอหลายหนจึงค่อยเดินออกไป
อิ๋งเหอรอจนในห้องเหลือเพียงนางและฮูหยินใหญ่สองคนจึงเดินไปที่ข้างเตียงแล้วโน้มตัวเข้าไปกระซิบเสียงเบากับฮูหยินใหญ่ว่า“ฮูหยินใหญ่เ้าคะ ฮูหยินบ้านข้าสั่งให้มาบอกท่านว่าดอกไม้กระถางนั้นไม่ชอบมาพากลเ้าค่ะ
ฮูหยินบอกว่าแม้ดอกไม้กระถางนั้นจะหน้าตาไม่เหมือนดอกหญ้าเงาเ้าแม้สักน้อยแต่ฮูหยินบอกว่าดอกไม้ชนิดนั้นเป็ดอกไม้คู่แฝดกับดอกหญ้าเงาเ้าเหมือนดอกบัวแฝดเช่นนั้นเ้าค่ะ เพียงแต่ชนิดหนึ่งแข็งแรงทนทานส่วนอีกชนิดหนึ่งกลับเล็กดั่งเด็กทารกแต่พวกมันเป็ดอกไม้คู่แฝดที่เกิดจากเหง้าเดียวกันขนานแท้เ้าค่ะขอให้ฮูหยินใหญ่คอยระวังเอาไว้ด้วย”
คำพูดของอิ๋งเหอทำนางจ้าวตื่นใจนมือเย็นเฉียบแม้เดิมทีนางก็ตั้งอยู่ในความระแวงระวังเป็หลักอยู่แล้วยามปกติล้วนไม่เอาดอกไม้นั้นมาอยู่ใกล้ตัวเกินไป แต่เพราะนางชื่นชอบมันนักจึงอดไม่ได้ที่จะนำมาถือเล่นอยู่บ่อยครา
กลับไม่คิดว่าดอกไม้ชนิดนี้เป็ดอกไม้คู่แฝดของดอกหญ้าเงาเ้าแต่เหตุใดนางจึงมิรู้สึกไม่กระปรี้กระเปร่าเหมือนครั้งที่ได้กลิ่นดอกหญ้าเงาเ้าเล่ากลับเรียกได้ว่านางไม่มีอาการผิดปกติใดเลย
“ฮูหยินใหญ่เ้าคะ ฮูหยินบ้านข้ายังบอกอีกว่านางก็เคยอ่านจากในหนังสือเมื่อนานมาแล้ว ประการแรกนางไม่เคยเห็นดอกไม้นี้จริงๆมาก่อน ประการที่สองก็ไม่รู้ว่าในหนังสือนั้นเขียนเอาไว้จริงเท็จเช่นใดจึงไม่อาจมั่นใจได้เต็มสิบส่วน เพียงรู้สึกว่ามันมีหน้าตาเหมือนกับดอกไม้ที่ฮูหยินเคยอ่านมายิ่งนักส่วนว่าจะเก็บเอาไว้หรือไม่ ก็ต้องแล้วแต่ความประสงค์ของฮูหยินใหญ่เองเ้าค่ะ”
อิ๋งเหอพูดจบนางก็คอยสังเกตสีหน้าของฮูหยินใหญ่อย่างระมัดระวังนางถูกฮูหยินเรียกตัวเข้าไปรับคำสั่งในห้องว่าให้มาเตือนฮูหยินใหญ่ โดยให้แสร้งไปในนามว่ามาส่งตำรับปรุงยานางไม่อยากไปเลย เพราะนางรู้สึกว่าฮูหยินใจดีเกินไป เกรงว่าเป็คนดีเกินไปแล้วจะไม่ได้ผลดีกลับมาหากถูกคนประสงค์ร้ายสวนกลับจะไม่ถูกใส่ร้ายเอาอีกหรือ
เพียงแต่ฮูหยินบอกว่าผู้อื่นไม่ล่วงเกินข้า ข้าไม่ล่วงเกินผู้อื่นยิ่งไปกว่านั้นเด็กยังไม่ทันได้ลืมตาดูโลกเลย เด็กมีความผิดใดจึงต้องให้เขามารับความทุกข์ทรมานของโลกมนุษย์ มิอาจให้เด็กที่ยังไม่เคยเห็นเดือนเห็นตะวันต้องมาตายั้แ่อยู่ในท้องได้
อิ๋งเหอจึงฝืนใจมานางไม่รู้ว่าฮูหยินใหญ่แสดงละครให้ฮูหยินดูั้แ่แรกหรือไม่ หรือว่าไม่รู้จริงๆนางหวังจะได้เห็นพิรุธจากสีหน้าแววตาของฮูหยินใหญ่ จะได้บอกกล่าวความคิดอ่านของอีกฝ่ายให้ฮูหยินรู้
“ขอบคุณฮูหยินแทนข้าด้วย ข้าอยู่ในจวนแม่ทัพนี้มาโดยตลอดจึงเป็เพียงเด็กสาวที่ไม่เคยได้พบเห็นโลกภายนอกหรือเข้าใจเื่พรรค์นี้อย่างแท้จริงหากมิได้ฮูหยินมาเตือนด้วยความหวังดี เกรงว่าข้าก็คงต้องมาเสียลูกไปโดยไม่รู้เื่ราวอันใดข้าขอบคุณฮูหยินจากใจจริง อิ๋งเหอยามเ้ากลับไปจะต้องนำคำของข้าไปบอกให้ฮูหยินฟังรอสักสองวันให้ข้ามีเรี่ยวแรงกว่านี้ ข้าจะไปขอบคุณฮูหยินด้วยตนเอง” นางจ้าวพูดจบ สีหน้านางกลับเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายเปลี่ยนไปมาไม่หยุด
อิ๋งเหอมองไม่ออกว่าจริงหรือเท็จ แต่ก็ไม่เหมาะจะอยู่ต่อนางจึงเตรียมกลับไปบอกกล่าวกับฮูหยิน ให้ฮูหยินตัดสินเองดีกว่า
“เ้าค่ะ บ่าวจะนำความของฮูหยินใหญ่ไปแจ้งต่อฮูหยินบ่าวขอตัวลาไปก่อนนะเ้าคะ”
อิ๋งเหอพูดจบก็คารวะฮูหยินใหญ่แล้วหันหลังจากไป
_____________________________
เชิงอรรถ
[1] น้ำกาใดไม่เดือดหยิบกานั้นมา หมายถึงเื่ที่ไม่อยากคิดไม่อยากเอ่ยถึง แต่อีกฝ่ายกลับเอ่ยถึงขึ้นมา
[2] วัยสองแปด คือ อายุแปดขวบสองครั้ง หมายถึง่อายุ 15-16 ปี
