หลังออกมาจากสุสาน ถังชิงหรูก็เหม่อลอยเหมือนิญญาไม่อยู่กับเนื้อกับตัว การได้พบกับมารดาในความทรงจำอีกครั้งทำให้นางมีความสุขมาก แต่ขณะเดียวกันก็สิ้นหวังอย่างที่สุด เพราะเป็การพบเมื่ออีกฝ่ายจากไปแล้ว นางขบคิดอยู่ว่าสมัยศตวรรษที่สามสิบเอ็ด มารดาหายตัวไปตอนที่ตนเองอายุเพียงไม่กี่ขวบ ต่อมานางจึงต้องใช้ชีวิตอยู่คนเดียวมายี่สิบกว่าปี แต่มารดากลับข้ามภพมายังเผ่าอิงกูเมื่อสองร้อยปีก่อน ก็หมายความว่าพวกนางน่าจะพบหลุมมฤตยูคนละที่ จึงข้ามภพมาอยู่ในยุคสมัยที่ต่างกัน
เพล้ง! อิงฉีเท้าสะดุด ล้มคะมำไปด้านหน้า แจกันทรงสูงในมือตกลงพื้นแตกละเอียด
ถังอวี้ซูถูกเกาทัณฑ์ยิงที่เอว เมื่อครู่จึงคว้าอิงฉีไม่ทัน ยามนี้เห็นนางหกล้ม ก็ผลุนผลันเข้าไปประคอง แต่กลับพบว่าร่างกายของตนเองอ่อนแอยิ่งนัก
อิงฉียังปวดใจเื่แจกันอยู่ พอเห็นถังอวี้ซูหน้าขาวซีดก็ไม่ห่วงเื่อื่นอีกต่อไป นางรีบเข้ามาประคองเขาขึ้น พลางหันมาถามกับถังชิงหรู "ชิงหรู เ้ารีบหาที่รักษาแผลให้อวี้ซูเร็วๆ เข้าเถิด เ้าดูหน้าเขาสิ แทบไม่มีสีเือยู่แล้ว"
ถังชิงหรูมองเทวรูปกวนอิมอยู่ไกลๆ ที่นั่นคือที่ตั้งศพของมารดานาง บัดนี้แจกันแตกไปแล้ว แม้ว่านางอยากจะพบมารดาอีกครั้งก็เป็ไปไม่ได้แล้ว หรือนี่จะเป็ลิขิต์ ์ให้พวกนางสองแม่ลูกได้พบกัน เมื่อพบกันแล้ว์ก็ปิดทางถอยของพวกเขา
"พวกเรากลับเผ่าอิงกูกันเถอะ" ถังชิงหรูกล่าวเสียงเรียบ "อวี้ซู เ้าแข็งใจอีกหน่อย ตอนนี้ไม่มีโอสถ ส่วนเกาทัณฑ์ที่เอวของเ้าก็จะถอนส่งเดชมิได้ การถอนเกาทัณฑ์โดยไม่มีโอสถเช่นนี้เป็อันตรายอย่างยิ่ง"
"ข้าเข้าใจ" ถังอวี้ซูเอ่ยด้วยความเกรงใจ "รบกวนแม่นางชิงหรูแล้ว"
พอกลับมาถึงเผ่าอิงกู ถังชิงหรูก็รักษาาแให้ถังอวี้ซู ยามนางจัดการเสร็จเรียบร้อย เฉินิกำลังจูงอาชาของพวกเขาสองคนไปเดินเล่น อาชาสองตัวนั้นชอบต้นหญ้าในทุ่งเขียวขจีผืนนี้เป็ที่สุด ยามกลับจวนก็กินแต่อาหารสัตว์ที่ถังชิงหรูใช้สมุนไพรเป็ส่วนผสม
ถังชิงหรูเดินออกมาจากกระโจม เห็นเฉินิมาแต่ไกล ขณะกำลังคิดจะเรียก ก็เห็นเงาร่างสีดำของคนผู้หนึ่งปรากฏบนเนินเขาไม่ไกลนัก คนผู้นั้นนั่งอยู่บนหลังอาชา มองมาทางพวกเขา แววตาเ็าไร้ความรู้สึก เขาสะบัดแส้ในมือ ควบอาชามุ่งหน้ามายังกระโจมหลังนี้
ถังชิงหรูเห็นเช่นนั้น ก็รีบวิ่งเข้าหาเฉินิ ชายหนุ่มเห็นหญิงสาววิ่งเข้ามาหา ใบหน้าหล่อเหลาก็ทอยิ้มกว้าง รังสีอันตรายที่พุ่งเข้ามาจากด้านหลัง ทำให้เขาพลิ้วกายหลบคนชุดดำผู้นั้นอย่างรวดเร็ว คนผู้นั้นจึงตวัดกระบี่เข้าหาถังชิงหรู
"บังอาจ!" เฉินิหรี่ตา ทะยานเข้าหาบุรุษผู้นั้นอย่างโกรธเกรี้ยว เข้าขวางหน้าถังชิงหรูหมายรับกระบี่แทนนาง
ฉึบ! กระบี่เสียบเข้าที่อกของเฉินิ
"เปิดระบบป้องกันตัว..." ถังชิงหรูพูดในใจ
"ครับ" เสี่ยวอีตอบรับ
ถังชิงหรูกวัดแกว่งกระบี่เข้าหาคนชุดดำ ชายผู้นั้นรู้สึกได้ถึงพลังกร้าวแกร่ง ขณะคิดจะเบี่ยงกายหลบ กลับไม่อาจหลบพ้น เขาถูกซัดกระเด็นลอยไปไกลก่อนตกลงมาจากที่สูง หน้าอกเจ็บร้าว ลุกไม่ขึ้นนอนอยู่ตรงนั้นเป็เวลานาน
"เ้าเป็ใคร" ถังชิงหรูประคองเฉินิ ก่อนตวาดถามเสียงเข้ม "บังอาจลอบสังหารชิ่งอ๋อง ไปเอาความกล้ามาจากไหน ใครเป็ส่งเ้ามา"
อิงฉีได้ยินเสียงก็วิ่งออกมา พอเห็นคนชุดดำ สีหน้าก็เปลี่ยนเป็บึ้งตึง เอ่ยด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น "เ้ามาที่นี่ทำไม เห็นคนเผ่าอิงกูเรายังไม่ตายเลยรู้สึกยอมไม่ได้ใช่หรือไม่ ตอนนี้คิดจะมาฆ่าล้างชนเผ่าของเราล่ะสิ"
ชายชุดดำเงยหน้าขึ้น มองอิงฉีด้วยความโกรธแค้น "เผ่าอิงกูของเ้าไม่สมควรตายหรือไง ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมศิษย์พี่ถึงต้องสอดมือเข้ามายุ่งให้ยาถอนพิษกับพวกเ้า อีกไม่กี่วันข้าจะได้เก็บศพของพวกเ้าทั้งเผ่าอยู่แล้วแท้ๆ แต่กลับได้ยินข่าวว่าพวกเ้ารอดพ้นจากเงื้อมมือมัจจุราชมาได้"
"พวกเราเคยรักกัน แม้สุดท้ายมิอาจร่วมทาง อย่างน้อยก็เคยมีความทรงจำที่งดงามร่วมกัน เหตุใดเ้าถึงโเี้อำมหิตเช่นนี้" แววตาของอิงฉีเต็มไปด้วยความรวดร้าว กับบุรุษตรงหน้า นางเคยรัก แต่ที่มีมากกว่าคือความเกลียดชัง เมื่อเทียบกับชีวิตของคนทั้งเผ่า ความรักของนางกับบุรุษผู้นี้ได้แปรเปลี่ยนเป็ไม่มีค่าพอให้เอ่ยถึง นับจากบัดนี้เป็ต้นไป นางจะไม่รักเขาอีก จะมีแต่ความชิงชังและหมางเมินให้เท่านั้น
"แต่ไรมาไม่เคยมีใครทำแบบนี้กับข้า เมื่อไม่อาจอยู่ร่วมกัน ก็ไม่ควรมายั่วยวนข้า ข้าไม่มีทางปล่อยพวกเ้าไปแบบนี้ พวกเ้าแก้พิษได้คราหนึ่ง แต่ไม่อาจโชคดีไปได้ทุกครั้ง ใต้หล้านี้ผู้ที่สร้างพิษได้หาได้มีแค่ศิษย์พี่ของข้าเพียงผู้เดียว ข้ามีวิธีทำให้พวกเ้าอยู่ไม่สู้ตายอีกเยอะ"
"เ้ากล้า!" อิงฉีถลึงตาใส่ชายหนุ่ม "ต้องให้ทำอย่างไรเ้าถึงจะยอมปล่อยคนเผ่าข้าไป"
"หย่ากับเขาซะ แล้วแต่งงานกับข้า ไม่ต้องไปเป็หัวหน้าเผ่าผายลมอะไรนี่หรอก แค่ติดตามข้าก็พอ" ชายผู้นั้นมองนางอย่างยโสโอหัง "แล้วข้าก็จะให้อภัยเ้า"
ถังชิงหรูพันแผลให้เฉินิอยู่ ได้ยินวาจาของบุรุษผู้นั้นก็พูดกับอิงฉี "คนเผ่าเ้าไม่มีความผิด คนผู้นี้โเี้ผิดมนุษย์ หาใช่บุรุษที่ดีพอสำหรับเ้า"
"เ้าเป็ใคร เื่ของพวกเราต้องให้เ้าสอดปากเข้ามายุ่งด้วยหรือ" ชายผู้นั้นตวาดใส่อย่างรุนแรง "หากพูดมากอีกคำ ข้าจะวางยาพิษให้เ้าเป็ใบ้เสีย"
"ยังคิดจะใช้พิษของศิษย์พี่เ้าอีกน่ะหรือ" ถังชิงหรูประคองเฉินิขึ้นมา เคราะห์ดีที่แผลไม่ลึก มิเช่นนั้นนางก็ไม่รู้จะชดใช้ความเสียหายนี้อย่างไร นางพิจารณาบุรุษตรงหน้าั้แ่หัวจรดเท้า ก่อนกล่าวต่อ "เ้าไม่คิดบ้างเล่า หน้าตาเ้าหล่อเหลากว่าถังอวี้ซู แต่ทำไมอิงฉีกลับเลือกเขาแทนที่จะเป็เ้า เคยใคร่ครวญถึงสาเหตุบ้างหรือไม่"
"แน่นอนว่าเพราะคนในเผ่าของพวกเขาไม่ยอมให้พวกเราอยู่ด้วยกัน เขาคงเป็คนที่เผ่าอิงกูหามาส่งเดช ถึงอย่างไรนางก็หนีไม่พ้นอยู่แล้ว" ชายผู้นั้นเชื่อมั่นว่าความรู้สึกของอิงฉีที่มีต่อเขายังไม่เปลี่ยนแปลงไป ที่ต้องแต่งงานเพราะถูกคนในเผ่าบีบบังคับ ดังนั้น เขาถึงได้ชิงชังคนในเผ่าอิงกูขนาดนี้
"เพ้อเจ้อ ข้ารักถังอวี้ซู ยอมแต่งงานมีลูกให้เขา และจะอยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่า" อิงฉีดับฝันของเขาอย่างไม่เหลือเยื่อใย
"พวกเ้าค่อยพูดค่อยจากันเถอะ" ถังชิงหรูหันไปพูดกับอิงฉี "อย่าให้เื่แบบนี้เกิดขึ้นอีก ถึงอย่างไรคนมากมายก็ต้องถูกทำร้ายเพราะพวกเ้า แม้ว่าระหว่างเ้ากับเขาจะยังมีความรู้สึกดีต่อกันก็ไม่อาจอยู่ร่วมกันได้อีกแล้ว อีกอย่าง ข้าเชื่อว่าคุณชายผู้นี้แค่คิดไม่ตก มิถึงขั้นคุยตกลงกันไม่ได้"
อิงฉีไม่รู้สึกอะไรกับคนผู้นี้แล้วจริงๆ แม้ว่าจะเคยรู้สึก แต่ความทรงจำที่งดงามเ่าั้ถูกทำลายไปจนหมดสิ้นแล้ว แต่คำพูดของถังชิงหรูก็มีเหตุผล นางไม่อาจให้เื่อันใดก็แล้วแต่เกิดขึ้นอีก เพราะความรักของพวกเขาสองคนทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องถูกทำร้าย เื่นี้จำเป็ต้องมีจุดสิ้นสุด ไม่อาจยืดเยื้ออีกต่อไป
ถังชิงหรูประคองเฉินิเข้าไปในกระโจม แม้ว่าาแจะพันเสร็จเรียบร้อย แต่เขาเพิ่งาเ็ อย่าให้าแกระทบกระเทือนเป็ดีที่สุด
ในกระโจม ถังชิงหรูนั่งดื่มชากับเฉินิ ถังอวี้ซูาเ็สาหัส จึงหลับไปแล้ว
พวกเขาได้ยินสองคนด้านนอกขี่ม้าไปจากตรงนั้นแล้ว ทั้งสองต่างสบตากัน ในที่สุดก็ตัดสินใจกลับเมืองชิ่ง
...
หุบเขาิญญา เมืองชิ่ง
ถังชิงหรูถือล่วมยา มองความงดงามของขุนเขาแม่น้ำเบื้องหน้า สูดหายใจเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าปอด รู้สึกปลอดโปร่งทั้งร่างกายและจิตใจ
ทว่าสิ่งสำคัญข้อแรกคืออย่าไปสนใจมดงูหนูแมลงตามพื้นเ่าั้
อสรพิษมากมายที่คลานอยู่ตามพื้น เห็นคนมาต่างก็กระโจนเข้าใส่ แต่พอไปถึงเท้าของนาง ได้กลิ่นที่กำจายออกมาจากกาย แต่ละตัวต่างหนีกระเจิง
ถ้าไม่มีกลเม็ดเด็ดพรายอยู่บ้าง เมื่อก่อนยามต้องเดินทางไปยังดาวต่างๆ รวมถึงป่าดงดิบเ่าั้ นางจะเอาชีวิตรอดมาได้อย่างไร ด้านหน้ามีกระท่อมไม้ไผ่น้อยหลังหนึ่ง ด้านนอกปลูกดอกไม้นานาชนิดแน่นขนัดไปหมด ยามนี้มวลผกาผลิบานกำลังงดงาม แต่สายตานางกลับเห็นเป็คมเขี้ยวสัตว์ร้ายที่กำลังอ้าปากรอเหยื่อเช่นนางเข้าไปข้างใน
ดอกไม้พิษ หญ้าพิษ งูพิษ รวมถึงแมลงพิษทุกชนิด แม้แต่ในน้ำของที่นี่ก็ยังมีไอพิษ ดอกไม้ใบหญ้าทุกต้นล้วนเป็พืชพิษ คนธรรมดาแค่ย่างเข้ามาก็คงจะกลายเป็โครงกระดูก มิน่าเล่าผู้อื่นถึงเรียกขานที่นี่ว่าเป็หุบเขาิญญา
"ใต้เท้าหมอพิษ ข้ามาแล้ว" ถังชิงหรูะโเรียกจากด้านนอก "สองสามวันนี้ค่อนข้างยุ่ง ดังนั้นถึงเพิ่งมาเวลานี้ ท่านคงไม่ถือโทษโกรธเคืองข้าหรอกกระมัง"
เงาร่างหนึ่งมาปรากฏเบื้องหน้าของถังชิงหรู
การปรากฏกายของเขาดุจลำแสงเพียงชั่วพริบตาก็มาถึงโดยที่ไม่มีใครรู้เห็น นางใจนขวัญหนีดีฝ่อ ชักสีหน้าต่อว่าต่อขานอย่างไม่สบอารมณ์ "ท่านเป็ผีหรือไง ข้าแทบหัวใจวายตายเพราะท่านอยู่แล้ว"
หลีซูมองถังชิงหรูอย่างเพ่งพินิจั้แ่หัวจรดเท้า ทำจมูกฟุดฟิด สูดกลิ่นที่มาจากกายนาง
"นี่คือเครื่องหอมอันใด ถึงสามารถขับไล่แมลงพิษของข้าได้" หลีซูเอ่ยถามเสียงเข้ม
ถังชิงหรูลูบพวงแก้ม เอ่ยอย่างไม่นำพา "หากไม่มีกลเม็ดเด็ดพรายอยู่บ้าง ข้าจะกล้าตกลงการค้ากับท่านหรือ ยามนี้คงพอจะเชื่อข้าขึ้นมาบ้างแล้วกระมัง"
"พูดตอนนี้ยังเร็วเกินไป" หลีซูแค่นเสียงเยาะ "มานี่..."
"ศิษย์น้องของท่านมาปรากฏตัวอีกแล้ว" ถังชิงหรูตามหลังหลีซูไปอย่างเร่งร้อน "เป็ท่านที่ตามเขากลับมากระมัง"
"ข้าไม่ว่างขนาดนั้น" หลีซูคิ้วขมวด แววตาเต็มไปด้วยการเหยียดหยัน
"แต่พอเขากลับมาก็ไปก่อเื่ที่เผ่าอิงกู มิหนำซ้ำยังขู่ว่าจะวางยาพิษ" ถังชิงหรูตามหลังเขาเข้าไปในห้อง
ทันทีที่เข้าไปด้านใน ก็เห็นหลีซูหันหลังให้แล้วถอดเสื้อออกเผยให้เห็นกายแกร่งท่อนบนอย่างชัดเจน วาจาที่ยังกล่าวไม่จบจึงหยุดไว้แต่เพียงเท่านั้น สองตาจดจ้องบนแผ่นหลังของเขาไม่กะพริบ ดวงเนตรฉายแววตะลึงพรึงเพริด
"เ้าทำอันใด" ถังชิงหรูถลึงตาใส่ แต่กลับไม่มีทีท่าหลบเลี่ยง
ใช่ว่านางมิเคยเห็นร่างกายของผู้อื่น แต่บุรุษผู้นี้รูปร่างน่ามองยิ่ง นางก็เลยมองเพลินไปหน่อย
หลีซูไม่รู้ว่ามีแม่หมาป่าจดจ้องตาเป็มันอยู่ด้านหลัง เขาถอดเสื้อเผยให้เห็นร่างกายกำยำที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ พลางเอ่ยว่า "เ้าต้องตรวจสอบมิใช่หรือ เช่นนั้นก็ตรวจให้ละเอียดหน่อย"
"ไม่ต้องละเอียดขนาดนี้ก็ได้ แค่ตรวจสอบพิษ มิใช่ตรวจสอบาแสักหน่อย" ถังชิงหรูทำปากขมุบขมิบพูดกับตัวเอง
หลีซูยืนอยู่ตรงนั้น มองถังชิงหรูเดินเข้ามา
เขาหน้าตาคมสันหล่อเหลา ระคนไปด้วยกลิ่นอายชั่วร้าย ดวงตาจดจ้องฝ่ายตรงข้าม พาให้ใจเต้นแรงในตอนแรก ต่อมาถึงคุกคามให้อีกฝ่ายรู้สึกหวาดผวา
ถังชิงหรูไม่กลัวคนผู้นี้ ย่อมไร้ความหวาดหวั่นพรั่นพรึง นางมองกล้ามเนื้อของเขาพลางทอดถอนใจ "แข็งแกร่งยิ่ง"
"เ้ามาจับอะไรส่งเดช" หลีซูถลึงตาใส่นาง คว้ามือซุกซนของนางไว้ "หากยังลูบคลำมั่วซั่ว ข้าจะหักมือเ้าซะ"
"ข้าแค่สำรวจดูว่าร่างกายของท่านมีปัญหาหรือเปล่า พิษของท่านร้ายแรงขนาดนี้ ไม่แน่ว่าอาจมีผลกระทบถึงร่างกาย" ถังชิงหรูรั้งมือกลับไปอย่างเป็ธรรมชาติ
"งั้นหรือ แล้วเ้ารู้สึกว่าร่างกายข้ามีปัญหาหรือไม่" หลีซูกล่าวจบ ดวงตาก็ทอประกายเยียบเย็น
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้