ถ้าทุกอย่างกลับไปเป็เหมือนเมื่อก่อนวันที่เธอจากเขาไป อย่างน้อยเขาก็คงแสร้งทำเป็ไม่รู้สึกอะไรได้
ูเี่อันกำลังนอนอยู่บนเตียงเธอพลิกไปพลิกมาอยู่นานแต่ก็นอนไม่หลับ
เธอไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ๆลู่เป๋าเหยียนก็เปลี่ยนไป เมื่อวานตอนเที่ยงเขายังดีๆ อยู่เลยยังทำให้เธอใจเต้นแรง...
หรือว่า...เขาเข้าใจอะไรเธอผิดกันนะ?
วันรุ่งขึ้นหลังตื่นขึ้นมาูเี่อันก็คิดจะไปถามลู่เป๋าเหยียนให้ชัดเจนแต่ลู่เป๋าเหยียนกลับปรายตามองเธอสีหน้าเรียบก่อนจะบอกว่าเขารีบและออกจากบ้านไปทั้งๆ ที่ยังไม่ได้กินมื้อเช้า
เมื่อเห็นรถของเขาที่ค่อยๆหายไปจากครรลองสายตา ูเี่อันรู้สึกกลัวขึ้นมา
เธอกับลู่เป๋าเหยียนคงไม่ได้มีเื่เข้าใจผิด ลู่เป๋าเหยียนอาจจะแค่...เบื่อเธอเสียแล้ว
เขาอาจจะเบื่อการแต่งงานในครั้งนี้เบื่อการใช้ชีวิตตอนนี้ ไม่ก็เบื่อ...ภรรยาอย่างเธอ
บางที...การแต่งงานของเธอและเขาอาจจะไม่ยืนยาวจนถึงกำหนดสองปีก็เป็ได้
ความหวาดกลัวเข้ามาครอบงำจิตใจของูเี่อันระหว่างขับรถไปทำงาน เธอจึงเหม่อลอยอยู่สักพักจนเกือบชนท้ายรถคันข้างหน้ายังดีที่เธอเบรกทันไม่อย่างนั้นคงได้เกิดอุบัติเหตุแน่
ตอนนั้นเองเธอก็สังเกตเห็นรถคันข้างหลังรถเก๋งมาสด้าธรรมดาคันนี้เหมือนจะขับตามเธอมาั้แ่เขตหมู่บ้านอะไรจะบังเอิญมาทางเดียวกับเธอขนาดนั้น?
หลังข้ามสะพานเพื่อเข้าสู่เขตตัวเมืองูเี่อันจงใจขับรถรอบสถานีตำรวจไปสองรอบ แต่มาสด้าคันเดิมก็ยังคงขับตามมาติดๆ
ตอนนี้เธอมั่นใจแล้วว่ารถคันนี้กำลังตามเธออยู่แต่เหมือนคนขับจะไม่รู้ตัวเลยว่าเธอจงใจขับรถอ้อมเพื่อจับสังเกต
เธอเองก็นับว่าเป็ตำรวจครึ่งหนึ่งคนขับรถคันนั้นไม่คิดว่าเธอจะรู้ตัวอย่างนั้นเหรอ? จะสะกดรอยตามทั้งทีก็ควรใช้ความคิดให้มากกว่านี้หน่อยสิ
รถบิวอิคก์สีขาวจอดลงตรงที่จอดรถเยื้องกับสถานีตำรวจูเี่อันลงจากรถด้วยท่าทีเหมือนปกติทุกอย่างคงไม่มีใครรู้ว่าเธอกำลังใช้มือถือถ่ายรูปอยู่
เมื่อเดินเข้ามาในห้องทำงานูเี่อันก็เปิดรูปขึ้นมาดู เธอถ่ายติดรถมาสด้าคันนั้น รูปหลังๆ เป็ภาพของเฉินเสวียนเสวียนที่กำลังยืนอยู่ข้างประตูรถพลางมองตามแผ่นหลังของเธออย่างโกรธแค้น
สิ่งที่ลู่เป๋าเหยียนเป็ห่วงนั้นถูกต้องทุกอย่างเฉินเสวียนเสวียนแค้นฝังหุ่นกับเธอจริงๆหนึ่งเดือนที่ผ่านมาลู่เป๋าเหยียนคอยรับส่งเธอเป็ประจำทำให้เธอไม่รู้สึกถึงความผิดปกติแต่มาวันนี้เฉินเสวียนเสวียนจึงได้โอกาสสะกดรอยตามเธอ
หลังตระกูลเฉินล้มละลายเฉินเสวียนเสวียนคงรอคอยโอกาสล้างแค้นอยู่สินะ?
“เฮ้อ...”
ูเี่อันถอนหายใจก่อนจะลบรูปทั้งหมดชีวิตคนเราช่างลำบากเสียจริง
“เฮ้อ...”ประตูห้องทำงานถูกผลักออกพร้อมกับเสียงถอนหายใจยาวที่ดังขึ้นของเจียงเส้าข่าย
ูเี่อันมองหน้าเขาก่อนถาม
“เป็อะไรของนาย?”
“จะเป็อะไรได้ล่ะโดนเร่งให้แต่งงานน่ะสิ” เจียงเส้าข่ายวางเอกสารในมือก่อนจะนั่งลงอย่างหงุดหงิด
“พ่อฉันบอกว่าในเมื่อฉันไม่ยอมสืบทอดธุรกิจที่บ้าน งั้นก็รีบๆ มีหลานให้เขาได้แล้วเขาจะได้เลี้ยงหลานให้เป็ทายาทของตระกูลแทนเมื่อวานพ่อบังคับฉันให้ดูรูปผู้หญิงเป็สิบๆ คนเช้าวันนี้ก็บอกให้เลือกผู้หญิงสักคนในนั้นมาเป็ลูกสะใภ้”
พรืด....ูเี่อันหลุดขำออกมา
“ฉันกำลังเป็ทุกข์แต่เธอกลับหัวเราะงั้นเหรอ!เป็เพื่อนกันจริงเปล่าเนี่ย!” เจียงเส้าข่ายหยิบเอกสารขึ้นมาปิดหน้า“เธอรู้ไหมว่าเมื่อวานตอนฉันดูภาพพวกนั้นฉันรู้สึกยังไงฉันรู้สึกเหมือนกำลังยืนเลือกเนื้อหมูอยู่ที่ตลาดไม่มีผิด”
ูเี่อันตบไหล่เขาอย่างเห็นใจ“ถ้าไม่ไหวจริงๆ นายก็เลือกสักคนแล้วก็นัดเธอออกมาสิ ไม่แน่เกิดนายชอบขึ้นมาอาจจะได้คบกันและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขก็ได้นะ”
“เธอนึกว่าทุกคนจะโชคดีแบบเธอที่ได้แต่งงานกับคนที่ตัวเองชอบหรือไง”เจียงเส้าข่ายทึ้งผมตัวเอง “ไม่พูดแล้ว ทำงานๆๆคดีฆาตกรรมเมื่อวันก่อนยังไม่คลี่คลายเลยเนี่ย”
หลังร่วมแรงร่วมใจมาตลอดทั้งวัน่บ่ายในที่สุดคดีที่ว่าก็คลี่คลาย คนร้ายถูกตำรวจจับเข้าคุกเป็ที่เรียบร้อยคดีนี้พวกเธอใช้เวลาแค่สี่สิบแปดชั่วโมงเท่านั้น จนผู้กำกับถึงกับออกปากชม
สารวัตรเหยียนเสนอให้ทุกคนไปเลี้ยงฉลองูเี่อันเห็นดีเห็นงามเป็คนแรก
“ดีเลยค่ะพวกเราไม่ได้ไปกินข้าวด้วยกันนานแล้วนี่คะ”
“แป๊บนะ ขอแก้อะไรนิดหนึ่ง...”เสียวอิ่งเอ่ย “เธอควรบอกว่าั้แ่เธอแต่งงานไปก็ไม่ค่อยได้ไปกินข้าวกับพวกเราต่างหากคนโสดอย่างพวกฉันน่ะนัดกินข้าวกันบ่อยๆ อยู่แล้วย่ะ”
พูดจบทุกคนก็ทำสายตาแปลกๆมองมาทางูเี่อัน จนเธอเริ่มหน้าแดง
“เอาเป็ว่าวันนี้ฉันไปแน่แล้วกัน!”
“งั้นอย่าไปกินข้าวกันเฉยๆเลย น่าเบื่อ” เสียวอิ่งพูดอย่างตื่นเต้น “พวกเราไปผับกันไหม?”
คนหนุ่มสาวต่าง้าไปปลดปล่อยความเครียดที่สะสมจากงานมาทั้งวันด้วยเหตุนี้แต่ละคนจึงรีบยกมือเห็นด้วยกันพรึบพรับหลังกินอะไรรองท้องกันไปนิดหน่อยก็แยกย้ายกันขับรถไปที่ผับ
ูเี่อันกับเจียงเส้าข่ายนั่งรถไปพร้อมกันเธอคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะโทรหาเสิ่นเยว่ชวนเพื่อถามเขาว่าลู่เป๋าเหยียนกลับบ้านหรือยัง
“ยังเลย” เสิ่นเยว่ชวนตอบ“วันนี้พวกเราต้องอยู่ดึกหน่อย อีกสักสองชั่วโมงเขาก็คงกลับแล้วล่ะ”
“ฉันไม่ได้โทรมาตามเขากลับบ้านแค่จะบอกว่าวันนี้ฉันออกไปข้างนอกกับพวกเพื่อนที่สถานีตำรวจ ฝากบอกเขาด้วยนะคะ”
เสียงของูเี่อันดูเกรงใจและเ็าอย่างที่ไม่เคยเป็มาก่อนเสิ่นเยว่ชวนจึงได้แต่ “อ้อ” ตอบรับอย่างเกร็งๆ สุดท้ายูเี่อันจึงวางสายไป
วันนี้เธอโทรไปบอกก่อนแล้วลู่เป๋าเหยียนคงไม่มีเหตุผลให้โกรธอีกนะ
“พวกเธอทะเลาะกันจริงๆ ล่ะสิ”คนที่ขับรถอยู่อย่างเจียงเส้าข่ายส่ายหัวเบาๆ “ฉันว่าแล้ว ไม่งั้นเธอจะยอมไปผับกับพวกฉันได้ยังไง”
“เขาทำตัวแปลกๆ เองนี่”ูเี่อันสไลด์หน้าจอมือถือแก้เซ็ง “ฉันไม่อยากกลับไปเจอหน้าเขา”
หรือพูดได้ว่าเธอกลัวที่จะเจอหน้าเขา
เธอกลัวที่จะต้องเห็นสีหน้าที่หมางเมินเ็าของเขาเวลามองเธอมันทำให้เธอรู้สึกแย่
เมื่อถึงที่หมายทุกคนก็นั่งล้อมกันที่โต๊ะ บางคนก็จับกลุ่มเล่นเกมบางคนก็ออกไปทักทายเป้าหมายที่ตนสนใจ พนักงานเดินเข้ามาเสิร์ฟเหล้าให้ไม่ขาดูเี่อันเห็นดังนั้นก็คิดถึงคำพูดของลู่เป๋าเหยียนขึ้นมา
‘ต่อไปนี้ห้ามกินเหล้าข้างนอกคนเดียวอีก’
ถ้าเธอดื่มเหล้ากลับไปเขาจะโกรธไหมนะ?
“เจี่ยนอันมัวแต่เหม่ออะไร คิดถึงผอ.ลู่ของเธอแล้วล่ะสิ?” เสียวอิ่งเปิดขวดเบียร์อย่างเชี่ยวชาญพลางถาม“เล่นทอยลูกเต๋ากันไหม ใครแพ้ดื่มนะ!”
“เอาสิ!”ูเี่อันกัดฟันตอบ
“เลิศมาก!”
เสียวอิ่งยื่นลูกเต๋ากับถ้วยและเบียร์ขวดหนึ่งมาใหู้เี่อันรับเอาไว้ เจียงเส้าข่ายเห็นสีหน้าพร้อมพลีชีพของเธอแล้วจึงถามเสียงเบา
“ไม่กลัวลู่เป๋าเหยียนโกรธหรือไง”
ูเี่อันเชิดหน้าก่อนตอบไปว่า
“ฉันกะจะให้เขาโกรธเนี่ยแหละ!”
เกมทอยลูกเต๋าเป็เกมที่เล่นแล้วหยุดไม่ไดู้เี่อันรู้กติกาการเล่นเป็อย่างดีก็จริง แต่เพื่อนๆ ที่อยู่ด้วยกันต่างเป็ยอดฝีมือทั้งนั้นต่อให้ไม่อยากดื่มก็คงเป็ไปได้ยากไม่นานตรงหน้าเธอก็มีขวดเบียร์เปล่าวางอยู่สองขวด
เจียงเส้าข่ายรู้ดีว่าเธอคออ่อนแค่ไหนจึงห้ามเอาไว้
“เจี่ยนอันไม่ต้องเล่นแล้ว”
ูเี่อันแกะมือเจียงเส้าข่ายออกไปก่อนเอ่ย
“จะให้ฉันขัดความสนุกของทุกคนได้ยังไง”
เจียงเส้าข่ายดูแล้วเธอคงคิดจะดื่มให้ตายไปข้างเขาจึงไม่ห้ามอีกพลางดื่มเป็เพื่อนเธอไม่นานข้างหน้าูเี่อันก็มีขวดเปล่าเพิ่มขึ้นอีกขวดเจียงเส้าข่ายเองก็มีขวดเปล่าวางเรียงอยู่ข้างหน้าเป็แถว
“ไม่ไหวแล้ว”เจียงเส้าข่ายยกมือนวดขมับตัวเองอย่างมึนๆ “เจี่ยนอันออกไปสูดอากาศข้างนอกกันหน่อยไหม”
ูเี่อันก็เริ่มมึนแล้วเช่นเดียวกันเธอจึงปล่อยให้เจียงเส้าข่ายประคองออกไป
ถนนเส้นนี้เป็ศูนย์รวมผับบาร์ชื่อดังของเมืองใบไม้ของต้นอู๋ถงฝรั่งเศสสองข้างทางเริ่มแปรเปลี่ยนเป็สีเหลือง และร่วงหล่นอยู่เต็มพื้นถนนหากมีรถสักคันวิ่งผ่านไปด้วยความเร็ว ใบไม้สีเหลืองทองที่อยู่บนพื้นคงค่อยๆ ปลิวไปตามสายลมอย่างสวยงาม
“อุ๊บ!...แหวะ!”
เมื่อได้สูดอากาศด้านนอกูเี่อันกลับรู้สึกคลื่นไส้เธอทรุดตัวลงกับพื้นก่อนจะอาเจียนแห้งๆ ออกมา เจียงเส้าข่ายลูบหลังเธอเบาๆ
“ไม่สบายตัวหรือเปล่าเดี๋ยวฉันไปส่งเธอดีกว่า”
“ไม่เอา”ูเี่อันส่ายหน้าก่อนจะฝืนลุกขึ้นมาอย่างดื้อรั้น “ฉันยังไม่อยากกลับ”
เจียงเส้าข่ายไม่รู้ว่าเพราะตัวเองเมาหรือเพราะอะไรเขาประคองหน้าูเี่อันเอาไว้
“เจี่ยนอันเธอกับลู่เป๋าเหยียนมีปัญหาอะไรกันแน่? อยู่ด้วยกันแล้วไม่มีความสุขเหรอ?”
จู่ๆ ูเี่อันก็รู้สึกเหมือนจะร้องไห้เธอก้มหน้าไม่พูดไม่จา ที่จริง่เวลาที่ดีมันก็มีแต่่นี้ลู่เป๋าเหยียน...ดูเปลี่ยนไป
เจียงเส้าข่ายเพิ่งเคยเห็นูเี่อันเป็แบบนี้เขาจึงกอดเธอไว้อย่างหลวมๆ เหมือนกอดเพื่อนทั่วไป
“ถ้าคนที่เธอชอบไม่ใช่เขามันจะดีแค่ไหนนะ”
ูเี่อันขอบตาร้อนขึ้นมา“ฉันก็อยากให้เป็แบบนั้น”
ถ้าเป็แบบนั้นเธอก็คงไม่ต้องกังวลไม่ต้องกลัวว่าการแต่งงานจะจบลงก่อนถึงเวลาสองปี และคงไม่ต้องมาเสียใจเหมือนตอนนี้
เจียงเส้าข่ายถอนหายใจยาว“เธออย่าเข้าไปข้างในเลย รอฉันอยู่ที่นี่แหละ เดี๋ยวฉันไปเอากุญแจรถแล้วจะไปส่ง”
ูเี่อันพยักหน้าก่อนจะทรุดลงนั่งกอดเข่าอยู่ที่พื้น
ตอนนี้เป็่เวลาหาเหยื่อของบรรดานักท่องราตรีพอดีเมื่อเห็นูเี่อันกำลังนั่งกอดเข่าอยู่คนเดียวอย่างน่าสงสาร จึงมีหลายคนเข้ามาทักทายแต่เธอกลับตอบไปแค่ว่า “ฉันแต่งงานแล้ว” โดยไม่เงยหน้ามองด้วยซ้ำคนพวกนั้นจึงเดินออกไป
ไม่นานเจียงเส้าข่ายก็กลับออกมาูเี่อันบอกกับเขาว่า
“นายช่วยเรียกแท็กซี่ให้ฉันก็พอเดี๋ยวฉันกลับเองได้”
“ฉันไม่ใจกล้าขนาดนั้นที่เสี่ยวซีเจอมาครั้งก่อนเธอลืมไปแล้วหรือไง ถ้าเธอดันไปเจอคนเลวแบบนั้นจะทำยังไง?” เจียงเส้าข่ายโทรเรียกคนขับรถแทนมาเขาเปิดประตูที่นั่งด้านหลัง
“เลือกเอาว่าให้ฉันไปส่งหรือจะเรียกลู่เป๋าเหยียนมารับ ฉันไม่ปล่อยให้เธอกลับคนเดียวแน่”
หลังลังเลอยู่สักพักูเี่อันก็ขึ้นไปนั่งบนรถ
เธอจะได้เจอคนเลวพวกนั้นหรือเปล่าไม่มีใครรู้แต่การที่เขาพูดเื่นี้ขึ้นมาทำให้เธอนึกถึงเื่ที่เฉินเสวียนเสวียนสะกดรอยตามเธอตอนนี้เธอกำลังมึนหัวยิ่งต้องระวังตัว แต่เธอไม่อยากให้ลู่เป๋าเหยียนมารับงั้นก็ให้เจียงเส้าข่ายไปส่งแทนแล้วกัน
BMW สีขาวเคลื่อนตัวไปในความมืด ูเี่อันเอนพิงเบาะแต่ไม่ได้หลับ เธอไม่อยากพูดอะไรทั้งนั้นเจียงเส้าข่ายเองก็ไม่ได้ถามให้มากความ
ไม่ถึงห้าสิบนาทีรถก็มาจอดที่หน้าบ้าน
“ขอบใจมาก”ูเี่อันยิ้มอย่างมึนๆ ให้เจียงเส้าข่ายก่อนจะเปิดประตูรถเธอไม่นึกเลยว่าจะเจอกับลู่เป๋าเหยียนที่กำลังลงจากรถของเขาพอดี
เธอจึงยิ้มขึ้นมาอีกครั้ง“บังเอิญจัง นายก็เพิ่งกลับงั้นเหรอ”
เมื่อลู่เป๋าเหยียนเดินเข้ามาใกล้เขาก็ได้กลิ่นฉุนของเหล้าจากตัวเธอแววตาของเขาดุดันขึ้นทันที
“ไปไหนมา”
ูเี่อันกะพริบตาอย่างไม่รู้จะตอบอย่างไรตอนนั้นเองเจียงเส้าข่ายก็ลงจากรถก่อนพูดขึ้นว่า
“พวกเราปิดคดีได้สำเร็จเลยออกไปฉลองกันตอนที่เล่นเกมอยู่ที่ผับ เจี่ยนอันกินเหล้าไปนิดหน่อย”
“ทำไมเป็คุณที่มาส่งเธอ?” ลู่เป๋าเหยียนถามเสียงเย็น
เจียงเส้าข่ายยักไหล่“ผมบอกให้เธอโทรหาคุณ แต่เธอไม่ยอม”
“ฉันไม่กล้าโทรหานายนี่”ูเี่อันเดินเซไปหยุดอยู่ตรงหน้าลู่เป๋าเหยียน“เสิ่นเยว่ชวนบอกว่านายต้องทำงานถึงดึก ฉันก็เลยกลัวว่าจะไปรบกวนนายเข้า ที่รักขาฉันเป็ภรรยาที่ดีใช่ไหมล่ะคะ?”
เธอเมาแล้ว
ลู่เป๋าเหยียนจูงมือเธอเข้าไปในบ้านูเี่อันดิ้นไปตลอดทาง
“ลู่เป๋าเหยียนปล่อยฉันนะ!”
เขารั้งตัวเธอเข้ามาพลางมองหน้าเธออย่างโมโห
“สิ่งที่ฉันเคยบอกเธอลืมไปหมดแล้วหรือไง”
“เปล่านะ”ูเี่อันส่ายหน้าอย่างใสซื่อ “นายบอกว่าห้ามฉันกินเหล้าคนเดียวข้างนอกอีกฉันยังไม่ลืมสักหน่อย”
“งั้นที่เธอดื่มเข้าไปในผับคืออะไร”
“ก็เหล้าไง!”ูเี่อันรับรู้ได้ว่าลู่เป๋าเหยียนกำลังโกรธ เธอจึงตบหน้าอกเขาเบาๆ
“สบายใจได้ฉันไม่ได้ดื่มคนเดียวสักหน่อย แต่ดื่มกับเจียงเส้าข่าย! มีเขาอยู่ทั้งคนฉันไม่เป็ไรหรอกน่า”
