ข่งซิวค่อยๆยืนขึ้นแต่ท่าทางของเขายังคงเหมือนพร้อมที่จะล้มลงได้ตลอดเวลา ตอนนี้ท่าทางของปรมาจารย์เวทมนต์ที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองเทียนเฉินราวกับตาแก่ที่กำลังจะก้าวลงหลุม ั้แ่เกิดมาจนถึงตอนนี้เขาไม่เคยตื่นเต้นเหมือนตอนนี้มาก่อน แม้กระทั่งตอนที่อู๋ิแสดงพลังที่แฝงไว้ด้วยคุณสมบัติของหมาป่าออกมา เขาก็ไม่ได้ใจนแทบทรงตัวไม่อยู่เหมือนตอนนี้
“เ้า...... เ้าเป็ใครกันแน่!?” เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเย่เทียนเซี่ยในเวลานี้ ข่งซิวก็ไม่หลงเหลือท่าทีอ่อนโยนและสงบนิ่งอีกต่อไป ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวด้วยความตื่นใ กล้ามเนื้อบนใบหน้าเกิดการกระตุกและดวงตาของเขาก็เบิกกว้างจนแทบถลน สายตาของเขาที่มองไปยังเย่เทียนเซี่ยราวกับกำลังมองสัตว์ประหลาดจากนอกโลก
เย่เทียนเซี่ยมองปฏิกิริยาของชายชราตรงหน้าอย่างสนอกสนใจก่อนจะอ้าปากพูดออกมาช้าๆ “เซี่ยเทียน”
“เซี่ยเทียน.........” ดูจากสีหน้าของเย่เทียนเซี่ยแล้ว ข่งซิวไม่เห็นอะไรแปลกประหลาดที่น่าสงสัยแม้แต่อย่างเดียว ดังนั้นท่าทางของข่งซิวจึงดูผ่อนคลายลง คนธรรมดาจะมีพลังแฝงที่แตกต่างกันไปอันเนื่องมาจากศักยภาพและพร์ของพวกเขา ในหมู่คนธรรมดานั้นความแตกต่างใน่ก่อนถือกำเนิดระหว่างคนธรรมดาด้วยกันเองมีน้อยมาก แต่ความแตกต่างที่แท้จริงจะถูกดึงออกมาหลังจากที่ถือกำเนิดขึ้นมาแล้วต่างหาก มีเพียงคนบางจำพวกที่มีจำนวนน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย พวกเขาแตกต่างจากคนธรรมดา เนื่องจากก่อนถือกำเนิดก็ได้ถือครองพลังอันแข็งแกร่งไว้แล้ว พลังเหล่านี้ยากที่จะตามหาที่มาที่ไป และบอกไม่ได้ว่าทำไมถึงมีอยู่ในตัวของพวกเขา แต่พลังอันไม่ทราบที่มาที่ไปเหล่านี้ก็มีความมากน้อยไม่เท่ากัน บางคนพลังก็ตื่นขึ้นมาเมื่อพวกเขาถือกำเนิด บางคนต้องรอให้เติบโตขึ้นมาก่อน พลังจึงจะค่อยๆตื่นขึ้นมาอย่างช้าๆ บางคน้าการชี้นำเพื่อปลุกพลังให้ตื่นขึ้น และก็มีบางคนที่พลังไม่เคยตื่นขึ้นมาเลยชั่วชีวิต
ในโลกแห่งความจริงคนแบบนี้ก็มีตัวตนอยู่เช่นกัน....... พวกเขาถูกเรียกว่าสัตว์ประหลาด จำนวนของพวกเขามีน้อยมาก แต่จุดเริ่มต้นที่ไกลเกินเอื้อมสำหรับคนธรรมดาทำให้พวกเขาแทบจะเรียกได้ว่าเป็มนุษย์อีกประเภทหนึ่งที่อยู่เหนืุ์ธรรมดาไปอีกขั้น
และศักยภาพก่อนถือกำเนิดก็มักมีแนวโน้มที่จะมีคุณสมบัติหรือจัดอยู่ในประเภทที่มีความพิเศษบางอย่าง บางคนแสดงออกมาเป็องค์ประกอบบางอย่าง แต่บางคนก็แสดงออกมาในรูปของคุณสมบัติบางอย่าง ซึ่งคุณสมบัตินั้นก็มีแนวโน้มที่จะเป็พลังของสัตว์บางประเภท......... เช่นอู๋ิในตอนนั้นที่ร่างของเขาปรากฏเงาร่างของหมาป่าตัวโตตัวหนึ่งที่เบื้องหน้าหยกอัญเชิญศักดิ์สิทธิ์..... มันคือพลังหมาป่าเดียวดาย!
และข่งซิวก็แน่ใจว่าสิ่งที่เขาเพิ่งเห็นไปเมื่อครู่คือัตัวหนึ่ง เสียงคำรามดังกึกก้องเมื่อครู่นี้มีเพียงัเท่านั้นที่จะสามารถปลดปล่อยเสียงคำรามเช่นนั้นออกมาได้ ในเวลานั้นเขาเหมือนจะจับภาพเงาร่างัได้อย่างเลือนราง แต่ก็ยังไม่ทันจะมองให้ชัดเจนว่ามันเป็ัแบบไหน ไม่ว่าอย่างไรก็ตามเงาร่างัที่ปรากฏขึ้นมานั้นหมายความว่าอะไรกัน...... เพราะในความทรงจำของเขาและจากความรู้ทั้งหมดที่เขามีนั้น ไม่เคยมีคนที่มีพลังอันมีคุณสมบัติของัปรากฏตัวขึ้นมาก่อน
หมาป่าเป็สัญลักษณ์ของความสันโดษ แต่ั.... มันมีร่างที่แข็งแกร่งที่สุด พลังที่แข็งแกร่งที่สุด และมีความน่าเกรงขามอันไม่อาจเทียบเคียงได้ เป็กษัตริย์ที่ผู้คนนับล้านเลื่อมใสศรัทธาและบูชาให้อยู่ในจุดสูงสุดตลอดกาล! และหยกอัญเชิญศักดิ์สิทธิ์ที่แตกสลายไปนั้นก็เป็หลักฐานอันน่าใอีกอย่างหนึ่งที่พิสูจน์ได้ว่าพลังแฝงนั้นน่ากลัวขนาดไหน
แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อมองดูจากท่าทางของเย่เทียนเซี่ย ข่งซิวก็แน่ใจว่าแม้แต่ตัวของเย่เทียนเซี่ยเองก็คงไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองมีอยู่นั้นเป็พลังแฝงแบบไหน
“พลังแฝงของเ้านั้น........แข็งแกร่งมาก” ในที่สุดข่งซิวที่ทำิญญาหลุดออกจากร่างไปนานก็พูดออกมา แต่พลังที่สามารถทำให้หยกอัญเชิญที่แม้แต่เทพธิดาซีเหยายังไม่มีพลังมากพอจะทำลายได้แตกสลายไปแบบนี้ คงจะต้องใช้คำที่มากกว่า “แข็งแกร่งมาก” ถึงจะสามารถอธิบายถึงความแข็งแกร่งของมันได้ เมื่อเผชิญหน้ากับพลังเช่นนี้ต่อให้จิตใจของข่งซิวแข็งแกร่งกว่านี้อีกสิบเท่าก็ไม่สามารถทำให้มันสงบนิ่งลงได้ แต่ข่งซิวก็ยังเป็ข่งซิว เขาพยายามที่จะควบคุมอารมณ์ของตัวเองให้สงบลงอย่างเร็วที่สุด
“แล้วผมจะมีวิธีเปลี่ยนเป็อาชีพอื่นไหมครับ?” สีหน้าของข่งซิวทำให้เย่เทียนเซี่ยสงสัยจนแทบะเิออกมา เศษซากของหยกอัญเชิญศักดิ์สิทธิ์ที่กระจายอยู่เต็มพื้นทำให้เขาเดาได้ลางๆว่าเมื่อครู่เกิดอะไรขึ้นและไม่กล้าแม้แต่จะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองคาดเดา แต่นอกเหนือสิ่งอื่นใด สิ่งที่เขากังวลที่สุดยังคงเป็ปัญหาเกี่ยวกับอาชีพของตัวเอง ในโลกเกมเสมือนจริงถ้าไม่มีอาชีพก็เท่ากับถูกตัดแขนตัดขา
แสงสีขาวที่เคยสาดส่องไปทั่วห้องว่างที่ถูกปิดผนึกค่อยๆหายไป ข่งซิวนิ่งเงียบ หัวใจของเขายังคงเต้นถี่รัวจนแทบคลั่งจากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้และยังไม่อาจสงบลงได้ พลังแฝงของอู๋ิในตอนนั้นข่งซิวสามารถใช้เวทมนต์พิเศษของตัวเองปลุกมันขึ้นมาในขั้นต้นได้ แต่ถ้านั่นคือพลังของคนที่สามารถทำให้หินแร่แห่งพลังเปล่งแสงได้มากกว่าสี่ก้อนล่ะ พลังขนาดนั้นไม่ใช่พลังที่ข่งซิวจะสามารถควบคุมหรือแม้แต่จะััได้...... เพราะมันน่าจะเป็พลังที่มีอยู่ในตัวเทพเท่านั้น!
“ร่างของเ้าไม่ได้ปฏิเสธอาชีพพื้นฐานทั้งเจ็ดโดยบังเอิญ มันเป็เื่ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ พลังแฝงที่เ้ามีนั้นทำให้อาชีพทั้งเจ็ดไม่คู่ควรที่จะเป็อาชีพของเ้า...... เพราะพลังที่เ้ามีคือพลังั!” ข่งซิวพูดออกมาช้าๆ
“พลังั?” เย่เทียนเซี่ยอึ้งไปเล็กน้อย เขามองข่งซิวด้วยความสงสัย
“คนที่มีพลังแฝงเช่นนั้นจะมีคุณสมบัติที่แตกต่าง ตอนนั้นพลังของอู๋ิมีคุณสมบัติเป็หมาป่า และเ้า..... คือั! และยังเป็ัที่มีพลังแข็งแกร่งกว่าหมาป่าของอู๋ิไม่รู้กี่เท่า!” ข่งซิวพูดออกไป และสายตาของเขาก็ไปหยุดลงที่เย่เทียนเซี่ย แม้กระทั่งในฝันเขาก็ไม่คิดว่าจะมีคนแบบนี้อยู่บนโลก และยิ่งคาดไม่ถึงว่าคนๆนั้นจะมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเขาโดยไม่มีเค้าลางอะไรมาก่อน
การปรากฏตัวของคนเช่นนี้จริงๆแล้วหมายความว่าอย่างไร? เขาเป็ใคร มาจากที่ไหน เคยประสบพบเจอกับเื่อะไรมาบ้าง ทำไมถึงได้มีพลังแฝงของิญญาัที่น่ากลัวเช่นนี้...... อนาคตของเขาจะเป็อย่างไรกันนะ?
เย่เทียนเซี่ยเงียบไปเป็เวลานาน ั้แ่เขาเดินทางมายัง World of Fate ทุกสิ่งทุกอย่างก็เริ่มเกินความคาดหมายของเขาไปไกลมากแล้ว เื่ราวที่ไม่น่าเกิดขึ้นได้ก็กลับเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก แม้แต่เื่ที่ราวกับปาฏิหาริย์แบบนี้ พลังั......NPCในโลกเกมเสมือนจริงพูดว่าเขามีพลังั อีกทั้งสีหน้าและน้ำเสียงของเขาก็ล้วนฉายแววจริงจังไม่มีร่อยรอยการโกหกแต่อย่างใด เดิมทีการประเมินเช่นนี้จาก NPC น่าจะกลายเป็เื่ตลก แต่ทันใดนั้นเขาก็เหมือนกับได้ยินเสียงจากบางแห่งในห้วงลึกของจิตใจที่กำลังเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง หัวใจของเขากำลังสั่นสะท้าน
พลังั.......พลังแฝง....... การปฏิเสธอาชีพ....... ทำไมถึงได้พบเื่ราวที่ไม่น่าเกิดขึ้นได้เหล่านี้ใน World of Fate หรือว่า...... พลังแปลกๆในโลกจริงของเขาจะส่งผลกระทบมายังตัวเขาในโลกนี้ด้วย?
ั้แ่เย่เทียนเซี่ยจำความได้เขาก็รู้ว่าพละกำลังของเขามีมากกว่าเด็กในวัยเดียวกันค่อนข้างมาก และมันก็ยิ่งเติบโตขึ้นตามอายุของเขา สิ่งนี้นับวันก็ยิ่งเพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อยๆ มันค่อยๆขยายใหญ่ออกไปจนถึงขอบเขตที่เรียกได้ว่าน่ากลัว คมมีดธรรมดาไม่อาจเจาะผ่านร่างของเขาได้ น้ำเดือดพล่านก็ไม่อาจทำให้เขารู้สึกแสบร้อนได้ แม้แต่ะุก็ยังไม่อาจทำอันตรายเขาได้....... สิ่งผิดปกติที่เกินกว่ามนุษย์ธรรมดาทั้งหมดนี้เกิดขึ้นกับตัวของเขาั้แ่เมื่อไรก็ไม่อาจรู้ได้ มันไม่ได้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ดังนั้นเขาจึงไม่เคยพยายามหาสาเหตุของมันอย่างจริงจังเลยสักครั้ง ตอนนั้นเขารู้สึกดีใจมาโดยตลอดที่ตัวเองมีพลังแบบนั้นอยู่..... เพราะอย่างนั้นเขาถึงสามารถใช้พลังของเขาปกป้องเธอได้
“ความหมายของท่านคือ?” ในที่สุดเย่เทียนเซี่ยก็เปิดปากพูดออกไป
ข่งซิวส่ายหน้า เขาพูดออกมาด้วยสีหน้าระมัดระวัง “พลังแฝงของเ้าแข็งแกร่งเกินไป ข้าไม่สามารถช่วยเ้าได้...... ทว่ารอให้ถึงวันที่เ้ามีพลังมากพอ เ้าควรจะเดินทางไปยังเมืองที่สูญหายอันเป็เมืองหลวงของทวีปที่สาบสูญสักครั้ง ที่เมืองหลวงมีปรมาจารย์เวทมนต์ที่แข็งแกร่งที่สุดและเทพาอยู่ที่นั่น บางทีพวกเขาอาจจะมีวิธีช่วยเหลือเ้าได้”
ถ้าขุมพลังอันน่าสะพรึงกลัวของเขาถูกปลุกขึ้นมา มันจะเป็การถือกำเนิดของผู้แข็งแกร่งแบบไหนกัน......... อย่างน้อยพลังของเขาก็เหนือล้ำเกินกว่าอู๋ิ...... หรือแม้กระทั่ง...... เทพธิดาซีเหยา!
เมืองที่สูญหาย........ ตามคำอธิบายที่มีอยู่อย่างจำกัดในเว็บไซด์ทางการ ที่แห่งนั้นต้องให้ผู้เล่นมีเลเวลถึง 50 ขึ้นไปซะก่อนถึงจะสามารถเข้าไปในเขตพื้นที่ของเมืองซึ่งเป็ใจกลางของทวีปที่สาบสูญได้