เฉียวเยว่ออกมาจากสุขาไม่เห็นอวิ๋นเอ๋อร์ นางรู้สึกข้องใจเล็กน้อย "อวิ๋นเอ๋อร์"
หลังจากเรียกแล้วหนึ่งครั้ง ไม่มีคนตอบรับ เฉียวเยว่ก็ร้องเรียกอีกหน "อวิ๋นเอ๋อร์"
พอรู้สึกว่าเหมือนมีคนอยู่ข้างหลัง เฉียวเยว่กำลังจะหันกลับมาพูด ก็ถูกคนใช้ผ้าเช็ดหน้าอุดปากอุดจมูกในฉับพลัน เฉียวเยว่เริ่มอ่อนกำลัง และค่อยๆ รู้สึกว่าร่างกายขยับไม่ได้
...
มิอาจปฏิเสธว่าซูเฉียวเยว่เป็แม่นางน้อยที่ดีมาก นางสดใสร่าเริง เฉลียวฉลาดมีความสามารถ สร้างความสุขและความรู้สึกดีไปทั่วทุกสถานที่ แต่ยิ่งเป็เช่นนี้ หรงเหยียนก็ยิ่งชิงชัง ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ
ขาของนางไม่ดี นางจึงต้องอยู่แต่ในห้องอย่างเงียบเชียบเหมือนไม่มีตัวตน แต่ซูเฉียวเยว่ไม่ใช่ ทุกคนต่างรู้จักคุณหนูเจ็ดสกุลซู นางสามารถเอาชนะคณะทูตจากซีเหลียง เป็ที่นิยมชมชอบของผู้คน ทั้งยังสามารถมัดใจอวี้อ๋องจนอยู่หมัด คนผู้นั้นเ็ากับทุกคน แต่กลับดีต่อซูเฉียวเยว่เป็พิเศษ นอกจากนี้ยังมีเสด็จพี่รัชทายาท ทั้งที่เป็พระเชษฐาของนางแท้ๆ แต่ทั้งดวงใจและสายตากลับมีให้แต่ซูเฉียวเยว่ ไม่เคยสนใจนางผู้เป็น้องสาวแม้แต่น้อย แม้ว่าเขาจะเรียกเหยียนเอ๋อร์ แต่กลับห่างเหินเ็า ทว่าเมื่ออยู่กับซูเฉียวเยว่ เขาไม่เคยเป็เช่นนั้น เขาทำราวกับเป็พี่ชายแท้ๆ
หากเป็ผู้อื่นนางยังพอทนได้ แต่หากเป็คนนี้นางสุดจะทนรับได้จริงๆ ใช่ สิ่งที่ทำให้นางไม่สบายใจที่สุดคือจุดนี้ เขาเป็พระเชษฐาแท้ๆ ของนาง แต่กลับไปชอบซูเฉียวเยว่
สายตาของหรงเหยียนดำทะมึน แต่กลับบีบผ้าเช็ดหน้าทอยิ้มอ่อนๆ เรียกสาวใช้เข้ามาแล้วกระซิบข้างหูสองสามประโยค สาวใช้หมุนตัวไปทันที
หรงเหยียนจิบชาอมยิ้ม ราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น
สวี่ม่านหนิงไม่รู้สาเหตุ แต่คาดเดาว่าหรงเหยียนน่าจะทำอะไรบางอย่าง มุมปากของนางโค้งขึ้นคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม แม้ว่าองค์หญิงหรงเหยียนมักอารมณ์แปรปรวน แต่สวี่ม่านหนิงก็ยังยินดีจะคบหากับอีกฝ่าย หรงเหยียนเป็คนอ่อนไหวและมักทำตัวสุดโต่ง คนเช่นนี้มักทำสิ่งใดอ้อมค้อม ง่ายต่อการใช้งาน
สวี่ม่านหนิงรู้ว่าตอนนี้ตนเองจะต้องจับหรงเหยียนให้แน่นเข้าไว้ถึงจะเป็ประโยชน์
แน่นอนว่าการคบหากับหรงฉางเฉอในตอนแรกจะว่าดีก็ดีอยู่ แต่หรงฉางเกอโง่งมเกินไป มักทำให้เสียเื่ กระทั่งนางก็ถูกดึงเข้าไปพัวพันด้วย หากมีเื่เยอะย่อมไม่เป็ผลดี
แต่หรงเหยียนต่างกัน นางทำสิ่งใดมักซ่อนเร้นเป็อย่างดี ด้วยเหตุนี้สวี่ม่านหนิงจึงพึงพอใจมากกว่า
หรงเหยียนเห็นรอยยิ้มมุมปากของสวี่ม่านหนิงก็ก้มศีรษะลงเล็กน้อย บางครั้งสวี่ม่านหนิงอาจรู้สึกว่าตนเองใช้ประโยชน์จากนาง แต่แท้จริงแล้วนางเพียงอยากจะทำเท่านั้นเอง หาได้ถูกใครใช้ประโยชน์
มีแต่สตรีต่ำช้าเยี่ยงสุนัขเช่นสวี่ม่านหนิงเท่านั้นที่สำคัญว่าตนเองสามารถเล่นงานผู้อื่นได้
หรงเหยียนยิ้มบางๆ ยิ่งคิดก็ยิ่งมีความสุข
ขณะที่หรงเหยียนกระทำเช่นนี้ แต่ผู้อื่นกลับไม่รู้อะไรเลย
พอรัชทายาทได้ยินว่าหรงเหยียนมีธุระจะพบกับตนเอง ก็รู้สึกงุนงงอย่างยิ่ง แต่ก็ยังมาสวนด้านหลัง เขาไม่เห็นใครที่นั่น ลังเลอยู่สักพัก ขณะเตรียมจะไปที่ห้อง ก็เห็นหรงจ้าน หรงจ้านเดินมาจากสวนด้านข้างพอดี รัชทายาทจึงเอ่ยถาม "ท่านเห็นหรงเหยียนหรือไม่?"
หรงจ้านเลิกคิ้ว "นางอยู่เรือนด้านหน้าโน่น เมื่อครู่ข้ายังเห็นนางอยู่ในงานเลี้ยงฝั่งสตรีอยู่เลย ไม่รู้สวี่ม่านหนิงไปพูดอะไร นางถึงได้ดีอกดีใจนัก"
รัชทายาท "เมื่อเป็เช่นนี้ ข้าจะไปดูด้านนอกก็แล้วกัน"
เขาหมุนตัวจากไป แต่หลังจากนั้นก็หันมาอีกครา "หากท่านเห็นหรงเหยียน ฝากบอกนางว่าอย่าไปไหนส่งเดช ให้ไปรอข้าที่ห้องโถงใหญ่"
หรงจ้านพยักหน้า
เขายืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับ รอจนรัชทายาทไปแล้ว ก็ยังอยู่ตรงนั้นต่อครู่ใหญ่ หรงจ้านมองไปรอบด้านแล้วหันหลังกลับ เดินมายังห้องห้องหนึ่ง เขาลังเลเล็กน้อยก่อนเคาะประตู "มีคนหรือไม่?"
เหมือนมีเสียงแ่เบาแว่วมาจากในห้อง แต่ไม่มีการตอบรับ
แต่ถึงกระนั้น หรงจ้านก็ยังคงผลักประตูเปิดเข้าไป
ภายในห้องมีกลิ่นฉุนแสบจมูก หรงจ้านใบหน้าเปลี่ยนสี รีบพลิกมือปิดประตูทันควัน แล้วเข้าไปในห้องชั้นในอย่างรวดเร็ว ภายในห้องมีดรุณีน้อยสลบไสลไม่ได้สติอยู่ตรงนั้น
สีหน้าของหรงจ้านย่ำแย่ยิ่งกว่าเดิม เขาตรงเข้าไปตบๆ ดวงหน้าน้อยของเฉียวเยว่ พลางเอ่ยเรียก "เฉียวเย่ว เ้าตื่นสิ"
เฉียวเยว่ยังมึนงง ตอนแรกนางมาเข้าสุขากับอวิ๋นเอ๋อร์ แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด จู่ๆ ก็ถูกคนอุดปากอุดจมูก
นางพยายามลืมตาอย่างยากเย็น เห็นใบหน้าของหรงจ้าน ก็พึมพำเสียงเบา "กะ... เกิดอะไรขึ้น?"
มีเสียงลั่นกุญแจจากด้านนอก หรงจ้านแค่นเสียงเยาะ "ช่างชั่วช้าสามานย์จริงๆ"
พูดจบ เขาก็อุ้มเฉียวเยว่ขึ้นมา แล้วพลิกกายออกไปทางหน้าต่างด้านหลังอย่างรวดเร็ว
ไม่คิดรั้งอยู่แม้แต่ชั่วครู่เดียว
หลังจากทั้งสองออกมาทางหน้าต่างด้านหลังได้แล้ว หรงจ้านก็ะโขึ้นไปบนหลังคา และยามนี้เองก็มีคนมาตอกตะปูหน้าต่างด้านหลัง หรงจ้านมองคนที่อยู่ด้านล่างก่อนจะซัดมีดบินออกไปโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย
"อ๊า"
คนผู้นั้นร้องเสียงดัง ก่อนจะล้มลงไป เขามองไปรอบด้านด้วยความประหลาดใจ หลังจากนั้นก็วิ่งหนีไปพร้อมกับาแ
หรงจ้านหัวเราะเยาะ
หากไม่เพราะเป็ห่วงเฉียวเยว่ เกรงว่าคนผู้นั้นคงชะตาขาดไปแล้ว แต่สิ่งสำคัญตอนนี้คือเฉียวเยว่ เขาตบๆ ดวงหน้าของนาง ในที่สุดเฉียวเยว่ก็รู้สึกตัว แท้จริงแล้วนางมิได้สลบตลอดเวลา เพียงแค่มึนๆ งงๆ ประกอบกับด้านนอกหนาวเย็น พอลมพัดมานางก็ได้สติแจ่มชัด "พี่จ้าน"
แม้ว่าจะดูอ่อนแอ แต่เฉียวเยว่กลับรู้สถานการณ์ตอนนี้
"มี... มีคนจะสังหารข้า"
หรงจ้านยิ้ม "มีคนคิดเล่นงานเ้ากับรัชทายาท"
เพียงชั่วพริบตาเขาก็กระจ่างใจทุกอย่าง และไม่ถือสาที่จะให้เฉียวเยว่รู้จุดนี้ เขาประคองเฉียวเยว่นั่งบนหลังคา แม้ลมจะแรง แต่หรงจ้านกลับรู้สึกว่าเช่นนี้ดียิ่ง อย่างน้อยก็ช่วยให้เฉียวเยว่ได้สติเร็วขึ้น
ร่างเล็กและอ่อนนุ่มของเฉียวเยว่พิงอยู่ในอ้อมอกเขา หรงจ้านไม่เคยรู้สึกร้อนเท่านี้มาก่อน
"ไม่มีอะไรแล้ว พี่จ้านจะปกป้องเ้าเอง"
เฉียวเยว่เบะปากน้อยๆ อย่างน่าสมเพชเวทนา "คนชั่วมากมายเหลือเกิน" นางเอ่ยเสียงเบา
เฉียวเยว่กำหมัดแน่นขึ้น นางกลัวมากจริงๆ ชั่วขณะที่ถูกคนทำให้สลบ สมองของนางก็ผุดความคิดสารพัด แต่ในที่สุดก็ยังโชคดี ทุกอย่างยังดีอยู่ พี่จ้านมาช่วยนางไว้ทัน
เฉียวเยว่ซบศีรษะบนแผงอกของหรงจ้าน รู้สึกคับข้องน้อยใจอย่างยิ่ง แต่ถึงกระนั้นก็ฝืนบังคับไม่ให้หลั่งน้ำตา
ท่าทางกล้ำกลืนฝืนทนของนางทำให้หรงจ้านปวดใจแทบตาย แทบอยากจะออกไปสังหารคนที่รังแกเฉียวเยว่ให้ตายไปเสียเดี๋ยวนั้น
แววตาของเขาจมดิ่งไม่เห็นก้นบึ้ง เอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง "พี่จ้านจะไม่ให้เกิดอะไรขึ้นกับเ้าเป็อันขาด"
เฉียวเยว่ตอบอื้มเสียงเบา หลังจากนั้นก็ตัดพ้อต่อว่าด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอด "คนเหล่านี้ช่างเลวร้ายเหลือเกิน"
นางพูดแต่ประโยคนี้ซ้ำไปซ้ำมา หรงจ้านอมยิ้มพลางลูบศีรษะของนาง ยิ่งมองก็ยิ่งปวดใจ เขาเอ่ยเสียงต่ำ "เ้าไม่ต้องวิตก และไม่ต้องคิดมาก ผู้อื่นเล่นงานเ้าเยี่ยงไร พี่จ้านก็จะจัดการกับพวกเขาเยี่ยงนั้น ข้าจะให้คนเ่าั้ได้รู้ว่าการรังแกสาวน้อยที่อยู่ภายใต้การดูแลของข้าหรงจ้านก็มีราคาที่ต้องจ่าย"
ยามนี้เฉียวเยว่เริ่มรู้สึกว่าดีขึ้นมาบ้างแล้ว เสียงของหรงจ้านแทบจะกลืนหายไปกับสายลม แต่เฉียวเยว่ยังคงได้ยินชัดเจน "พี่จ้าน อย่าไว้หน้าพวกเขาแม้แต่คนเดียว"
หรงจ้านอมยิ้มพยักหน้า แล้วถอดเสื้อคลุมกันลมตัวใหญ่ของตนเองมาห่มร่างของนาง ก่อนจะเอ่ยเสียงเบา "ไม่ว่าจะเป็ผู้ใด ข้าก็จะไม่ให้นางได้อยู่เป็สุข"
เฉียวเยว่ถอนหายใจอย่างโล่งอก รู้สึกว่าวันนี้ไม่มีอะไรราบรื่นสักอย่าง นางลูบท้องของตนเองแล้วบ่นพึมพำ "ข้าปวดท้อง" หลังจากนึกแล้วก็พูดเสริมอีกประโยค "วันนี้ปวดมาทั้งวันแล้ว"
แล้วก็ทำตาปรอยน่าสงสาร
หรงจ้านได้ยินคำกล่าวก็ปลอบประโลมนางทันที "ไม่เป็ไร ไม่เป็ไร พี่จ้านจะส่งเ้ากลับบ้าน พวกเราไปจากที่นี่ดีหรือไม่?"
เฉียวเยว่ไม่ยอม ตอบกลับไปว่า "ข้ากลับก่อนเช่นนี้ดูเหมือนไม่ค่อยดีกระมัง ถึงอย่างไรก็เป็งานเลี้ยงของพี่สาวกับพี่เขยของข้า"
แววตาของหรงจ้านเข้มขึ้นเรื่อยๆ "ไม่ว่าเป็งานเลี้ยงของผู้ใด เ้าควรห่วงสุขภาพของตนเองก่อน หากไม่รู้จักห่วงตนเอง เช่นนั้น..."
ไม่รู้เพราะเหตุใด สีหน้าของเฉียวเยว่ดูผิดปรกติอย่างยิ่ง
เขากลัวว่านางจะเป็อะไร ก็ยิ่งวิตกกังวล ตัดสินใจทันที "ข้าจะส่งเ้ากลับจวน เื่หลังจากนี้ ข้าจะอธิบายให้เอง"
เป็ธรรมดาที่เฉียวเยว่จะไม่ยินยอม หากกล่าวเช่นนี้พวกเขาก็ยิ่งอธิบายชัดเจนไม่ได้ นางจำเป็ต้องคำนึงถึงหน้าตาของทุกฝ่าย และเวลานี้เองนางเพิ่งตระหนักได้ว่าตนเองกับหรงจ้านอยู่ในอิริยาบถที่ค่อนข้างล่อแหลม
นางขืนตัวจะลุกขึ้น "ข้าจะเดินเอง"
หรงจ้านเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนแปลงไปของนาง ก็ไม่ยอมปล่อยมือ พลางเกลี้ยกล่อมนาง "เ้าถูกคนวางยาสลบ ต้องตากลมสักพัก อากาศเย็นจะช่วยให้เ้าฟื้นคืนสติเร็วขึ้น มิเช่นนั้นกลับไปแล้วหากเสียกิริยาจะยิ่งดูน่าเกลียด"
พูดมาถึงตรงนี้ เขาก็แค่นเสียงเยาะ ชี้ไปด้านล่าง "เ้าดู!"
เสียงเขาเบาลงหลายส่วน เฉียวเยว่มองตามสายตาของเขาไปก็ตกตะลึง ที่แท้เป็ผู้ดูแลจวนรัชทายาทเดินตามสาวใช้สองคนมา สาวใช้เสียงค่อนข้างดัง บ่นว่า "อยู่ดีๆ ใครก็ไม่รู้ไปใส่กุญแจประตูไว้"
ผู้ดูแลเปิดประตูอย่างรวดเร็ว คนกลุ่มหนึ่งเดินเข้าไปในห้อง รอจนกระทั่งออกมา สีหน้าของผู้ดูแลก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ยังคงเอ่ยว่า "พวกเ้าดูกันเอาเอง ข้าบอกแล้วว่าไม่มีคน"
สาวใช้คนหนึ่งในนั้นแต่งตัวค่อนข้างดี แค่เห็นก็รู้ว่าไม่ใช่คนธรรมดา นางเอ่ยว่า "ไม่มีคนหรือ เช่นนั้นข้าคงเข้าใจผิดไป"
นางหน้าเสียแลดูกระอักกระอ่วน
"ท่านคิดว่าใครมีปัญหา หรือว่ามีปัญหากันหมดทุกคน?" เฉียวเยว่ถามเสียงเบา
นางโกรธจะตายอยู่แล้ว
หรงจ้านอมยิ้ม "ใครมีปัญหาหรือ? เื่นี้เ้าไม่ต้องกังวล ปล่อยให้ข้าจัดการเอง"
เฉียวเยว่ทำปากยื่น "ไม่นึกว่าจวนรัชทายาทก็ไม่มีความปลอดภัย ยามอยู่จวนของผู้อื่นข้าระมัดระวังอย่างดี เห็นว่าที่นี่เป็จวนของพี่สาว จึงคลายความระวังไปบ้าง ไม่คิดเลยว่ายิ่งสถานที่ที่คุ้นเคยกลับยิ่งเกิดปัญหาได้ง่าย"
พูดมาถึงตรงนี้นางก็รู้สึกสะท้อนใจยิ่งนัก
หรงจ้านลูบศีรษะนางพลางปลอบโยน "ที่ไหนก็มีคนชั่วทั้งนั้น เ้าระวังตัวไว้ก็พอ อย่าวิตกกังวลเกินไป"
แต่ฟังมาถึงประโยคนี้ จู่ๆ เฉียวเยว่ก็หน้าถอดสี ผลักหรงจ้านออกไปทันควัน "ท่านรีบปล่อยข้า"
"?" หรงจ้านงงเป็ไก่ตาแตก
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้