ชายชรายิ้มขณะมองหลินเฟิง “ดูเหมือนว่าเ้าจะเตรียมตัวมาดี แต่เ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้ามีของพวกนี้?”
“ท่านผู้เฒ่า ข้าไม่รู้หรอก แต่ผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตลี้ลับที่ขายวัตถุดิบอยู่ที่นี่ เห็นได้ชัดว่าจะต้องมีของบางอย่าง” หลินเฟิงกล่าวพร้อมกับรอยยิ้มอบอุ่น
ชายชรายิ้มและส่ายหัว “อย่าเรียกข้าว่าท่านผู้เฒ่าเลย ข้าแก่แล้ว เ้าเรียกข้าว่าท่านหัวเถอะ หญิงสาวที่อยู่ด้านหลังเ้าช่างดูลึกลับเสียจริง”
“ท่านหัว” หลินเฟิงกล่าวเสียงเบา จากนั้นเขาก็พูดต่อว่า “ท่านหัว ที่ท่านเพิ่งพูดไป ข้า้ามันจริงๆ และ้าจำนวนมาก แล้วท่านรู้ไหมว่าข้าจะไปหาพวกมันได้ที่ไหน?”
“หากเ้า้าปริมาณน้อย ข้าก็สามารถช่วยเ้าได้อยู่หรอก แต่เ้า้าถึงแสนต้น ตาแก่อย่างข้าคงไม่สามารถหาได้”
ท่านหัวส่ายศีรษะอย่างจนปัญหา จำนวนหลายแสนต้นเป็จำนวนที่มหาศาลจนน่าใ ใครจะสามารถหาหญ้ามรกตได้เยอะถึงเพียงนี้กัน
“เ้าถามว่าไปหาได้จากที่ไหน แต่สถานที่แห่งนั้นเ้าไม่สามารถเข้าถึงได้”
“ไม่สามารถเข้าถึงได้?” หลินเฟิงสงสัยเล็กน้อยและกล่าวอีกว่า “งั้นหากข้าจะขอให้ท่านหัวช่วยจะได้หรือไม่?”
ท่านหัวขมวดคิ้วขณะมองหลินเฟิงก่อนกล่าวว่า “จำนวนนับแสนต้นเป็จำนวนที่มากนัก ข้าไม่แน่ใจว่าจะหาได้ไหม แล้วอีกอย่างหากเ้า้าสมุนไพรนับหลายแสนต้น ถึงแม้จะไม่ได้มีค่าอะไรมากนัก แต่จำนวนขนาดนี้มันไม่ใช่น้อยๆ เลย”
“เม็ดยาจิตโลหิต ไม่รู้ว่าท่านหัวเคยได้ยินชื่อนี้หรือไม่?”
“หืม?” ท่านหัวประหลาดใจจนเขาไม่สามารถควบคุมลมปราณของตนได้ เพียงพริบตาลมปราณที่รุนแรงนี้ ทำให้หลินเฟิงรู้สึกร้อนผ่าวราวกับถูกเผา ท่านหัวน่าจะเชี่ยวชาญเื่ไฟ ซึ่งผู้ที่เชี่ยวชาญในเื่ไฟมักจะเหมาะกับการสร้างอาวุธและการกลั่นเม็ดยา และแน่นอนว่าพลังของจิติญญาย่อมแข็งแกร่ง
“เ้ารู้จักเม็ดยาจิตโลหิตด้วยหรือ?”
“ข้าย่อมรู้จักดี เม็ดยาจิตโลหิตสามารถเสริมสร้างเส้นโลหิตและจิติญญาได้ มันทำให้เส้นโลหิตของผู้ฝึกยุทธ์แข็งแกร่งขึ้น เพิ่มความแข็งแกร่งของจิติญญา มันเป็ประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตลี้ลับ ซึ่งเม็ดยาจิดโลหิตนั้นเป็เม็ดยาลี้ลับระดับกลาง”
หลินเฟิงกล่าวช้าๆ ประเภทของเม็ดยานั้นจะคล้ายกับอาวุธ ซึ่งทั้งหมดนั้นล้วนขึ้นอยู่กับการบ่มเพาะของผู้ฝึกยุทธ์ อาวุธธรรมดาคืออาวุธจิติญญา อาวุธจิติญญาก็คืออาวุธลี้ลับ
นอกจากนี้เม็ดยาธรรมดาจะเป็ประโยชน์ต่อผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตนักรบลมปราณ แต่หากอยู่ขอบเขตแห่งจิติญญาก็ไม่ได้มีประโยชน์มากนัก เม็ดยาจิติญญานั้นถึงจะเป็ประโยชน์ต่อผู้ที่อยู่ขอบเขตแห่งจิติญญา แต่มันไม่ใช่สำหรับผู้ที่อยู่ขอบเขตลี้ลับเลย โดยสิ่งที่ผู้ที่อยู่ขอบเขตลี้ลับ้าก็คืออาวุธลี้ลับและเม็ดยาลี้ลับ เม็ดยาจิตโลหิตคือเม็ดยาลี้ลับระดับกลาง ซึ่งมันมีประโยชน์ต่อผู้ฝึกยุทธ์ที่อยู่ขอบเขตลี้ลับขั้นที่ 6 เป็อย่างมาก
อาวุธและเม็ดยาถูกแบ่งออกเป็สามระดับคือสูง กลาง และต่ำ เม็ดยาลี้ลับระดับกลางนั้น หากผู้ที่อยู่ขอบเขตลี้ลับขั้นที่ 4 ใช้เม็ดยานั่นถือว่าสูญเปล่า ถึงแม้จะได้รับผลประโยชน์อยู่บ้าง แต่เม็ดยาก็ไม่สามารถใช้ได้อย่างมีประสิทธิผล นอกจากนี้หากผู้ที่อยู่ขอบเขตลี้ลับขั้นที่ 6 ใช้เม็ดยาก็จะแทบไม่มีผล ดังนั้นเม็ดยาลี้ลับระดับกลางจึงเป็เม็ดยาที่มีประโยชน์มากสำหรับผู้ฝึกยุทธ์ที่อยู่ขอบเขตลี้ลับระหว่างขั้นที่ 4 และ 6
เมื่อได้ยินชื่อเม็ดยาจิตโลหิต ท่านหัวจะไม่แปลกใจได้อย่างไรกัน
“เ้าสามารถกลั่นมันได้?” ท่านหัวจ้องเขม็งมาที่หลินเฟิง ในตอนนี้ท่านหัวไม่ได้ดูเอื่อยเฉื่อยอีกต่อไป เขาดูกระตือรือร้นมากขึ้น
“เม็ดยาระดับนี้ ข้าจะสามารถกลั่นได้อย่างไรกัน” หลินเฟิงกล่าวขณะส่ายหัว ซึ่งทำให้ท่านหัวต้องขมวดคิ้ว แต่กลับได้ยินหลินเฟิงกล่าวต่อว่า “แต่ว่าข้าบังเอิญได้รับสูตรปรุงยาเม็ดยาโลหิตมา”
“สูตรปรุงยา!” ท่านหัวต้องขมวดคิ้วแน่นและหายใจถี่ขึ้น การกลั่นเม็ดยานั้นมีสามสิ่งที่สำคัญที่สุด อย่างแรกคือผู้กลั่นเม็ดยา อย่างที่สองคือส่วนผสมเม็ดยา อย่างที่สามก็คือสูตรปรุงยา ซึ่งสูตรปรุงยานั้นเป็สิ่งสำคัญที่สุด หากไม่มีสูตรปรุงยาล่ะก็ ทุกอย่างที่ทำมาก็จะสูญเปล่า
แน่นอนว่าบางคนก็คิดว่าผู้กลั่นเม็ดยานั้นสำคัญที่สุด เพราะผู้กลั่นเม็ดยาที่เก่งกาจนั้นหาได้ยาก แต่ถ้าไม่มีสูตรปรุงยาแล้วกระนั้นผู้กลั่นเม็ดยาจะมีประโยชน์อะไร เพราะฉะนั้นสูตรปรุงยาจึงนับว่ามีค่าอย่างมากเช่นกัน
“ใช่แล้วท่านหัว ข้ากำลังพูดถึงสูตรปรุงยา แล้วยาแต่ละเม็ดที่ข้า้านั้น ข้า้าพวกมันแต่ละชนิดถึงสองหมื่นเม็ด ส่วนเื่ส่วนผสม ท่านหัวน่าจะรู้มากกว่าข้า ตราบใดที่ท่านหัวช่วยข้าหามันล่ะก็ สูตรปรุงเม็ดยาจิตโลหิตก็จะตกเป็ของท่าน”
หลินเฟิงกล่าว ซึ่งจำนวนสองหมื่นเม็ดนั้นถือว่ามากเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด และนี่ก็เป็ครั้งแรกของท่านหัว ที่ได้ยินใครบางคน้าเม็ดยาถึงสองหมื่นเม็ด
“เ้าไม่กังวลว่าข้าจะขโมยสูตรยาของเ้าเลยหรือ” ท่านหัวกล่าวขณะมองหลินเฟิง
“ท่านหัว ขอเตือนไว้ก่อนว่าหากท่านสังหารข้าล่ะก็ ท่านจะไม่ได้สูตรปรุงยาที่ว่านั่น นอกจากนี้ท่านก็ไม่จำเป็ต้องสังหารข้า แล้วข้ายังเชื่อว่าท่านจะไม่ทำเช่นนั้น” หลินเฟิงกล่าวขณะยิ้ม ท่านหัวเงียบไปราวกับกำลังครุ่นคิดอยู่
“ก็ได้ ข้าตกลง แต่ข้า้าเวลาสัก 2-3 วัน”
“ย่อมได้ 3 วันจากนี้หลังเวลาอาหารเย็น ข้าจะรอท่านอยู่ที่ภัตตาคารเทียนซาน ท่านมีความเห็นว่าอย่างไร?”
“ตกลง ไว้เจอกันในอีก 3 วัน” ท่านหัวกล่าวขณะดึงแขนเสื้อ ทันใดนั้นสมุนไพรที่กางขายอยู่บนพื้นก็หายไป เห็นได้ชัดว่าเขามีแหวนมิติ
ท่านหัวหันไปและมุ่งหน้าออกจากหอประมูลแห่งความฝันอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นท่านหัวจากไปแล้ว หลินเฟิงก็ยิ้มออกมา เขาไม่คิดว่ามันจะราบรื่นขนาดนี้ สำหรับเขาแล้วถือว่าไม่ได้สูญเสียอะไรเลย สูตรปรุงยาของเม็ดยาจิตโลหิตนั้นก็ถูกบันทึกไว้ในความทรงจำของบรรพบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ เขาเพียงแค่คัดลอกและมอบให้กับท่านหัวเท่านั้น เขาไม่จำเป็ต้องสละอะไรทั้งสิ้น
“ไปกันเถอะ” หลินเฟิงกล่าวขณะเดินเข้าไปยังส่วนลึกของหอประมูลแห่งความฝัน ไม่เพียงแต่พวกเขาเท่านั้น ขณะนี้หลายๆ คนก็เริ่มทยอยเข้าไปด้านใน รวมไปถึงผู้ค้าหลายรายที่กำลังเก็บข้าวของของตนเองอยู่
“ถึงแล้ว แต่ยังเหลือเวลาอีกราวๆ ครึ่งชั่วโมงการประมูลถึงจะเริ่มขึ้น เ้าสามารถบอกได้ไหมว่าวันนี้จะมีการประมูลมีดเสี้ยวจันทราหรือไม่?”
หลินเฟิงถามคนที่นำทางมา ซึ่งเขาได้เห็นเองกับตาว่าหลินเฟิงได้สังหารคนจากหมู่บ้านเสวี่ยอิงซานโดยไม่สนใจปิงหยวน มิหนำซ้ำเขายังกล้าถามท่านหัวถึงเม็ดยาลี้ลับ แสดงว่าหลินเฟิงก็ไม่ได้ขี้ขลาดอย่างที่เขาคิด นอกจากนี้ฝีมือทางยุทธ์ของเขาก็แข็งแกร่งจนน่าประหลาดใจ ส่วนชายสวมหน้าทองแดงที่ติดตามเขามาก็ช่างร้ายกาจเป็ที่สุด แม้เขาจะเป็แค่ผู้ใต้บังคับบัญชาของหลินเฟิงก็ตาม
“เ้าไปได้แล้ว สิ่งที่เ้าเห็นและได้ยินในวันนี้ จงลืมมันไปให้หมดซะ”
หลินเฟิงกล่าวอย่างไม่แยแส คนที่นำทางก็พยักหน้าและกล่าวว่า “ข้าเข้าใจแล้ว”
เมื่อกล่าวจบ คนผู้นั้นก็รีบจากไปทันที
หลินเฟิงไม่ได้สนใจเขาอีกต่อไปและมุ่งหน้าไปยังลานประมูลต่อ จากนั้นหลินเฟิงก็กล่าวกับผู้เฝ้าทางเข้าลานประมูลว่า “ข้ามีของที่้าประมูล ข้าต้องไปคุยกับใครหรือ?”
“ตามข้ามา”
คนนั้นกล่าวจบก็นำทางหลินเฟิงเข้าไปในลานประมูล ไม่นานนักเขาก็มาถึงในห้องห้องหนึ่ง ที่แห่งนี้มีคนมากมายที่กำลังแยกประเภทสินค้าต่างๆ
เมื่อเห็นสิ่งของที่กองอยู่ หลินเฟิงก็ต้องประหลาดใจ เพราะของที่ส่งมาประมูลนั้นมีมากมายเหลือเกิน
คนที่ออกมาต้อนรับเขาเป็หญิงสาวที่มีรูปร่างยั่วยวนเป็อย่างมาก ผิวของนางขาวดุจหิมะ และสวมเสื้อผ้าที่เผยให้เห็นไหล่บางทั้งสองข้าง หน้าอกคู่นั้นช่างอวบอิ่มยิ่งนัก กล่าวได้ว่านางเป็หญิงสาวที่มีเสน่ห์มากคนหนึ่ง
“นายท่าน้าประมูลอะไรหรือ?”
“ทักษะหมัดร่วงโรยระดับพิภพระดับกลาง และอาวุธจิติญญาระดับกลาง 10 ชิ้น”
หลินเฟิงกล่าวด้วยน้ำเสียงเ็า ทำให้หญิงสาวผู้เย้ายวนตกตะลึง จนรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยเสน่ห์พลันเปลี่ยนเป็ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น
“นายท่านโปรดตามข้ามา”
หญิงกล่าวขณะลุกขึ้นยืน
“พวกเ้ารอข้าอยู่ที่นี่สักครู่” หลินเฟิงกล่าวกับเมิ่งฉิงและป้าเตา จากนั้นเขาตามหญิงสาวเข้าไปในห้องลับ ซึ่งภายในห้องนั้นเต็มไปด้วยสินค้าที่ได้รับเลือกให้ประมูล
“นายท่าน โปรดสำแดงสินค้าที่้านำไปประมูลให้ข้าดูเดี๋ยวนี้” หญิงสาวกล่าวเสียงเรียบ ซึ่งในตอนนี้ข้างๆ พวกเขามีชายชราอยู่คนหนึ่ง
“ได้” ทันใดนั้นตำราที่คัดลอกเองก็มาอยู่ในมือของหลินเฟิง ในเวลาเดียวกันก็เกิดแสงระยิบระยับขึ้นบนพื้น ทันใดนั้นอาวุธจิติญญาก็ปรากฎขึ้นพร้อมกับแสงที่เจิดจ้า
หลินเฟิงส่งตำราที่คัดลอกให้แก่อีกฝ่าย หญิงงามนางนั้นก็ส่งต่อให้ชายชรา จากนั้นชายชราก็พยักหน้าและกล่าวว่า “ไม่มีปัญหา นี่เป็ทักษะขั้นพิภพระดับต่ำ ส่วนอาวุธจิติญญาก็ไม่มีปัญหาอะไร”
“ขอบคุณท่านผู้าุโ”
หญิงสาวคลี่ยิ้มออกมาขณะที่เก็บตำราทักษะและอาวุธจิติญญาลง แล้วปิดผนึกพวกมันเอาไว้ จากนั้นนางก็บันทึกบางอย่างแล้วส่งป้ายหยกให้กับหลินเฟิง
“นายท่าน สินค้าของท่านจะถูกนำมาประมูลในวันพรุ่งนี้ หลังจากประมูลเสร็จแล้ว ท่านแค่นำป้ายหยกมาที่นี่ พวกเราก็จะรู้ว่าสินค้าชิ้นไหนเป็ของท่าน จากนั้นท่านจะได้รับหินหยวนกลับไปโดยไม่มีค่าธรรมเนียม นอกจากนี้ถ้าท่านใช้ป้ายหยกนี้ ท่านจะสามารถเข้าไปในพื้นที่สงวนไว้สำหรับลูกค้าพิเศษของพวกเราได้”
หญิงงามตรงหน้ากล่าวด้วยรอยยิ้มอันน่าหลงใหล โดยเฉพาะตอนที่นางพูดและเคลื่อนไหวร่างกายไปด้วย มันก็ยิ่งทำให้นางดูน่าสนใจมากขึ้น
“ไม่มีค่าธรรมเนียมและจะถูกนำมาประมูลในวันพรุ่งนี้”
หลินเฟิงพึมพำ ถึงแม้ตามกฎแล้วจะต้องใช้เวลาถึงสามวันเพื่อรอคัดกรอง แต่สำหรับของที่มีค่ามากนั้น แน่นอนว่าจะต้องมีสิทธิพิเศษบางอย่าง
ส่วนรางวัล หลินเฟิงคิดว่าเขาได้จ่ายไปแล้ว ความทรงจำของบรรพบุรุษผู้ยิ่งใหญ่นั่น ถือเป็สิ่งที่มีค่ามากที่สุด
หลินเฟิงพยักหน้าและเดินออกจากห้องไป...