“ข้าคือผู้พิทักษ์เผ่าัในปัจจุบัน.......มีนามว่าหลงโม่หยา ข้าปกป้องเหวัซ่อนแห่งนี้มาหลายพันปีแล้ว ไม่กี่ปีมานี้แม้ว่าเ้าจะไม่ใช่ ‘ั’ ตัวแรกที่มาที่นี่ แต่เ้าเป็ ‘ั’ ที่ปรากฏตัวในคราบมนุษย์ตนแรก”
เย่เทียนเซี่ยไม่ได้พูดอะไรออกไป หลังจากที่ชายชราพูดออกมาจนจบเย่เทียนเซี่ยก็จดจำชื่อหลงโม่หยาเอาไว้ในใจทันที
“บรรดามอนสเตอร์ทุกชนิดจะต้องรอให้พลังไปถึงระดับอสูรศักดิ์สิทธิ์เสียก่อนถึงจะมีความสามารถกลายร่างเป็มนุษย์ได้ แต่ความสามารถของเผ่าัเราเพียงแค่ไปถึงระดับอสูร์ก็สามารถทำได้แล้ว จึงพูดได้ว่านี่เป็อำนาจพิเศษที่์มอบให้เผ่าัของเรา ปัจจุบันในเผ่าัของเรามีผู้ที่มีความสามารถกลายร่างเป็มนุษย์ได้ทั้งหมดรวมข้าแล้วก็มีแค่สี่คนเท่านั้น แต่พลังัของเ้าอ่อนแอจึงไม่อาจนับรวมไปได้ ถ้าไม่ใช่เพราะความสามารถในการหยั่งรู้ของข้าคงไม่มีทางรับรู้ได้ถึงพลังัที่คงอยู่ในร่างของเ้าเป็แน่ แต่เ้ากลับสามารถอยู่ในร่างของมนุษย์ได้ เ้ารู้หรือไม่ว่าเพราะอะไร?”
“ไม่รู้ครับ” จริงๆแล้วปัญหานี่ก็ทำให้เย่เทียนเซี่ยสับสนเหมือนกัน...... เพราะอะไร? เพราะเขาเป็คนไงล่ะ เป็คนที่มีชีวิตอยู่ในโลกจริงที่ไม่มีั....... ชายชราคนนี้คงไม่ได้มองว่าเขาเป็ัตัวหนึ่งจริงๆหรอกนะ!?
จะว่าไปแล้วพลังของเผ่าัต้องไปถึงระดับอสูร์ถึงจะสามารถแปลงร่างได้ อย่างนี้ก็หมายความว่าพลังของชายชราตรงหน้านี้อย่างน้อยก็ต้องอยู่ในระดับอสูร์........ ซึ่งไม่ด้อยไปกว่าหมาป่าสีฟ้าที่น่ากลัวที่อยู่ข้างกายของชายผมฟ้าคนนั้นน่ะสิ!
ไม่รู้ว่าหากเขากลายร่างเป็ัเหมือนตอนแรกก่อนที่จะกลายร่างเป็มนุษย์ได้เขาจะมีลักษณะเป็ยังไง ไม่รู้ว่าจะมีกรงเล็บสีทองทั้งห้าเหมือนในตำนานของหัวเซี่ยหรือคล้ายๆแบบนั้นหรือเปล่า ถ้าได้เห็นัในโลกนี้ด้วยตาของตัวเอง มันจะต้องรู้สึกดีกว่าได้เห็นเป็ภาพการ์ตูนในทีวีแน่ๆ
ชายชราหันมามองเย่เทียนเซี่ยก่อนจะพูดออกมาเบาๆ “นั้นเป็เพราะ........ การหลอมรวมกันของคนและั ถ้าพ่อของเ้าเป็ั แม่ของเ้าเป็คน เ้าจะเกิดมาเป็ัและมีชีวิตอยู่ด้วยร่างัและหลังจากพลังของเ้าไปถึงระดับอสูร์ถึงจะสามารถกลายร่างเป็คนได้ แต่ถ้าแม่ของเ้าเป็ั พ่อของเ้าเป็คน เ้าจะเกิดมาเป็มนุษย์และมีชีวิตอยู่ในร่างมนุษย์ พลังัที่อยู่ในสถานะหลับใหลใน่ก่อนที่เ้าจะเกิดมานั้น อาจจะตื่นขึ้นมาช้าหรือเร็ว หรือบางทีอาจจะไม่ตื่นขึ้นมาเลยชั่วชีวิต มนุษย์เช่นนี้หลังจากที่พลังของเ้าไปถึงระดับหนึ่งก็จะสามารถกลายร่างเป็ัได้เช่นกัน และเ้า... พ่อของเ้าเป็มนุษย์ แม่ของเ้าเป็ั ดังนั้นเมื่อพลังัของเ้าไม่ตื่นขึ้นมาเลยั้แ่ก่อนที่เ้าจะเกิดจนกระทั่งถึงวันนี้จึงถือว่าการปลุกพลังัของเ้านั้นล้มเหลว และคงสถานะมนุษย์ไปเองโดยธรรมชาติ เ้าที่เป็เช่นนี้สามารถเรียกได้ว่าเป็มนุษย์ ไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็ั”
มุมปากของเย่เทียนเซี่ยกระตุกเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกอย่างหัวเราะออกมา........... พ่อของเขาเป็มนุษย์ เขาแน่ใจ แต่แม่เป็ั....... หึ..........
เมื่อคิดถึงตอนที่เขายังเป็เด็ก แม่ผู้มีเมตตาเสมอมาของเขา ในใจของเขาก็เหมือนกับถูกเข็มทิ่มแทง ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไร หรือจะอยู่ห่างไกลกันแค่ไหน ความผูกพันในครอบครัวก็ไม่มีวันถูกตัดขาด แม้ว่าสิบปีผ่านไป ในที่สุดเขาก็ก้าวออกมาจากเงาแห่งความมืดมิดได้และเติบโตมาจนถึงตอนนี้ แต่ทุกครั้งที่คิดไปถึงค่ำคืนแห่งฝันร้ายนั้น ความปวดแปลบในอกก็ยังคงรู้สึกเหมือนมันจะะเิออกมาทุกที
“และที่เ้ามาถึงที่นี่ก็น่าจะมีจุดประสงค์ในการปลุกพลังัของเ้าสินะ!” หลงโม่หยามองมาที่เย่เทียนเซี่ย แต่ละคำพูดของเขาล้วนนำมาซึ่งความกดดันอันหนักหน่วงที่ทำให้แทบหายใจไม่ออก
“ใช่แล้วล่ะครับ” เย่เทียนเซี่ยพยักหน้า ดวงตาของเขามองไปยังลูกแก้วคริสตัล “ได้ยินมาว่าผลึกเทพัสามารถปลุกพลังิญญาัขั้นต้นที่อยู่ในร่างของผมได้ ถ้าผมไม่ได้พูดผิดไป....... นี่น่าจะเป็ผลึกเทพัสินะครับ”
เหวัซ่อน...... ผลึกเทพั..... ข่าวลือที่ไม่ชัดเจนและคำพูดที่ข่งซิวพูดไว้ตอนแรก เวลานี้ทั้งหมดล้วนปรากฏอยู่ตรงหน้าเย่เทียนเซี่ยแล้ว การที่ชายผมฟ้าผลักเขาลงมาใต้หุบเหวแห่งนี้ รวมทั้งทุกอย่างที่ผ่านมาทั้งหมดกำลังทำให้เขามีความหวังขึ้นมา........ ตามที่ข่งซิวพูดไว้ ถ้าใช้ผลึกเทพัปลุกพลังในร่างให้ตื่นขึ้นมาได้เขาก็จะมีอาชีพ....... เหมือนกับอู๋ิซึ่งเป็ผู้แข็งแกร่งคนแรกที่สามารถนำพลังของตนเองมาสร้างเป็อาชีพที่มีคุณสมบัติเฉพาะตัวของเขาคนเดียวเท่านั้น
“ถูกต้อง นี่คือผลึกเทพั เป็สิ่งที่ข้าต้องใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อปกป้องมัน” ชายชราพยักหน้ารับ เมื่อมองไปยังผลึกเทพัสายตาของเขาก็เปลี่ยนเป็กดดันและศรัทธา ราวกับนี่เป็หินแห่งศรัทธาที่สำคัญยิ่งกว่าชีวิตของเขา แล้วเขาก็พูดออกมาช้าๆ “นานมาแล้วเผ่าัของเราและมนุษย์เป็มิตรที่ดีต่อกัน ไม่เคยมีาระหว่างพวกเรามาก่อนั้แ่โบราณมาจนถึงปัจจุบัน เ้าเป็มนุษย์ ในร่างของเ้าก็มีสายเืัไหลเวียนอยู่ครึ่งหนึ่ง อีกทั้งร่างของเ้าก็ไม่ได้มีกลิ่นอายชั่วร้ายที่ทำให้ข้าเกลียดชังจนต้องปฏิเสธ ดังนั้นเ้าจึงมีคุณสมบัติเต็มที่ที่จะใช้ผลึกเทพัทำให้พลังัของเ้าตื่นขึ้นมา”
ในที่สุดเย่เทียนเซี่ยก็ยิ้มออกมา ความหวัง ความปรารถนา และการรอคอยในใจของเขาขยายตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และที่ยิ่งไปว่านั้นก็คือความแปลกใจและความสงสัย....... สงสัยว่าที่ตัวเขาต้องพบเจอกับเื่แปลกประหลาดเหล่านี้ จริงๆแล้วสาเหตุมันมาจากอะไรกันแน่?
“ดูเหมือนว่าเ้าจะรีบมาสินะ” เมื่อสังเกตเห็นดวงตาและสีหน้าของเย่เทียนเซี่ยที่เปลี่ยนไปหลงโม่หยาก็เบี่ยงตัวออกไป เขาถอยหลังไปสองสามก้าวแล้วพูดออกมา “ผลึกเทพัคือสิ่งที่เพทัซึ่งเป็เทพสูงสุดของชาวเผ่าัเราได้ใช้ชีวิตและพลังทั้งหมดสร้างขึ้นมา จุดประสงค์ของมันในตอนนั้นไม่ใช่การใช้เพื่อชี้นำในการปลุกพลังั แต่เพื่อกักขังศัตรูที่น่ากลัวตัวหนึ่งเอาไว้ เพราะมันเป็วิธีเดียวเมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่น่ากลัวตัวนั้น ต่อมาผลึกเทพัจึงถูกปกป้องด้วยผู้แข็งแกร่งของเผ่าั และยังต้องถ่ายเทพลังัตามระยะเวลาที่กำหนดเพื่อป้องกันไม่ให้พลังที่กักขังศัตรูที่น่ากลัวตัวนั้นอ่อนแอลงจนมันสามารถหนีออกมาได้ ร้อยปีต่อมาด้วยพลังัอันแข็งแกร่งและบริสุทธิ์ของมันจึงทำให้พวกเราเผ่าัทั้งหมดพบว่าพลังของมันสามารถปลุกพลังและศักยภาพของเผ่าัเราออกมาได้อย่างง่ายดาย และั้แ่นั้นเป็ต้นมาผลึกเทพัก็มีความสำคัญสำหรับเผ่าัของเรามาก ตอนนี้เ้าสามารถใช้ผลึกเทพัปลุกพลังัที่หลับใหลของเ้าได้แล้ว”
เพื่อกักขังศัตรูที่น่ากลัวตัวหนึ่ง.................
ศัตรูที่น่ากลัว.................
หรือว่าจะเป็..........
ผลึกเทพั ลูกแก้วคริสตัลที่ปลดปล่อยแสงสว่างออกมาบางเบาจริงๆแล้วผนึกสิ่งมีชีวิตตนหนึ่งเอาไว้......... และมันก็มีแค่ตัวเดียว...........
สิ่งที่ถูกเรียกว่าศัตรูที่น่ากลัวคือไอ้ตัวที่แม้แต่เขามองแล้วก็ยังชอบจนอยากจะกอดเนี่ยน่ะเหรอ เ้าจิ้งจอกน้อยที่ดูไม่มีอะไร “น่ากลัว” ตัวนี้น่ะนะ!?
“แล้วจิ้งจอกน้อยตัวนี้คือ?” เย่เทียนเซี่ยหันกลับมาแล้วชี้ไปยังจิ้งจอกหิมะที่อยู่ในลูกแก้วคริสตัลก่อนจะพูดออกมา
สีหน้าของหลงโม่หยาสงบนิ่ง ไม่แปลกใจกับคำถามที่เย่เทียนเซี่ยถามออกมา “มันคือมอนสเตอร์ที่น่ากลัวที่เทพัผู้แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของเผ่าัเรากักขังเอาไว้ ระยะเวลาผ่านมานานหลายปีแล้ว ไม่ว่าจะเป็ที่มาของมันหรือเื่ที่มันแข็งแกร่งจนถึงระดับไหนนั้นไม่มีใครรู้อีกแล้ว ข้ารู้เพียงแค่ เทพัในตอนนั้นเรียกมันว่า......จิ้งจอกทมิฬ”
“จิ้งจอกทมิฬ.......”
“อย่าได้ถูกรูปลักษณ์ภายนอกของมันหลอก....... ทวีปที่สาบสูญในปัจจุบันคือโลกของมนุษย์ แต่ทวีปที่สาบสูญในอดีตกาลคือโลกของมอนสเตอร์ มีสงความที่โหดร้ายมากมายไม่หยุดหย่อน เวลานั้นเผ่าัของเราปกป้องทางทิศใต้ทั้งหมดเอาไว้ พลังของเทพัในตอนนั้นได้ยินว่าไปถึงจุดสูงสุดของระดับอสูร์ ในทวีปที่สาบสูญไม่มีมอนสเตอร์ตนใดต่อกรกับเขาได้ ในตอนที่เทพัผู้ยิ่งใหญ่ถูกกดดันจนจนมุมในทิศเหนือนั้น นั่นเป็ครั้งแรกที่จิ้งจอกทมิฬปรากฏตัวขึ้น...... ในตอนนั้นแท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้น ผู้คนในปัจจุบันล้วนไม่มีใครรู้ พวกเรารู้เพียงแต่ว่า เทพัผู้ยิ่งใหญ่ใช้ชีวิตและพลังทั้งหมดของตนเองเพียงเพื่อกักขังมันไว้.............. ความน่ากลัวของมันคงเกินกว่าจะจินตนากรได้”
“.............” เย่เทียนเซี่ย
เมื่อมองไปยังจิ้งจอกน้อยที่หลับตาอย่างสงบเย่เทียนเซี่ยก็ยังคงค้นหาสิ่งที่เรียกว่าความน่ากลัวไม่เจอเลย ถ้าสัตว์ไม่สามารถตัดสินจากรูปลักษณ์ได้แล้วเ้านี่เป็จิ้งจอกแบบไหนกันนะ
“แล้วผลึกเทพัใช้ยังไงล่ะครับ?” เย่เทียนเซี่ยเปลี่ยนหัวข้อแล้วหันมาถาม ดวงตาเป็ประกายจ้องมองไปยังผลึกเทพัที่เหมือนลูกแก้วคริสตัลขนาดใหญ่ ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าความปั่นป่วนเล็กๆของพลังในร่างกายตอนที่ตัวเองเข้าใกล้ที่นี่คืออะไร มันน่าจะเป็การเพรียกหาของพลังในตัวเขาเองและพลังของผลึกเทพั
เดี่ยวนะ..............
เย่เทียนเซี่ยใขึ้นมาทันที เพรียกหา.......... ถ้าหากเป็การเพรียกหาจริงๆ แสดงว่าร่างของเขามีพลังแบบนั้นอยู่จริงๆน่ะเหรอ? แล้วพลังแปลกๆที่เขามี.......... หรือว่ามันจะเป็พลังนี้? พลังอันลึกลับที่ตัวเขามีในโลกจริงคล้ายกับพลังิญญาัในโลกนี้อย่างนั้นเหรอ?
“ผ่อนคลายร่างกาย ขจัดความคิดฟุ้งซ่าน วางมือของเ้าลงบนผลึกเทพั รับรู้พลังที่ไหลผ่านอย่างเงียบๆ เมื่อพลังของเ้าและพลังของผลึกเทพัเชื่อมต่อกัน พลังิญญาัที่เป็ของเ้าจะถูกปลุกขึ้นมาเอง”
เย่เทียนเซี่ยพยักหน้า เขาเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าวแล้ววางมือลงบนผลึกเทพัอย่างแ่เบา
“ช่วย.....ช่วย...........ช่วยข้าด้วย............”
ทันทีที่มือของเย่เทียนเซี่ยประทับลงบนผลึกเทพัเขาก็จ้องมองไปด้านหน้า........ ฟังไม่ผิดไปแน่ เขาไม่มีทางฟังผิดไปแน่นอน เมื่อกี้เสียงที่ดังขึ้นมาในใจของเขา...... ไม่ผิดแน่ มันคือเสียงที่ดังขึ้นมาจากส่วนลึกของจิตใจของเขา อีกทั้งยังเป็เสียงของผู้หญิงอย่างเห็นได้ชัด เสียงนั้นเบามาก ทั้งเบาและยังเต็มไปด้วยความสั่นสะท้านและทุกข์ทรมานอย่างชัดเจน ราวกับว่าขณะที่เธอกำลังพูดอยู่นั้นเธอกำลังต่อสู้อยู่กับอะไรบางอย่างอย่างยากลำบาก เสียงนี้ทำให้หัวใจของเย่เทียนเซี่ยจินตนาการภาพหญิงสาวผู้น่าสงสารที่ใช้พลังเฮือกสุดท้ายร้องขอชีวิตขณะที่กำลังต่อสู้อยู่อย่างสิ้นหวัง
แต่ที่แห่งนี้นอกจากเขาและหลงโม่หยาแล้วก็มีแต่กั่วกัวที่กำลังถูกเขาจ้องมองอยู่ นอกจากนี้ก็ไม่มีใครอื่นอีกแล้ว.... ถ้ามีทำไมถึงไม่ถูกเขาและหลงโม่หยาตรวจพบั้แ่แรก
“ช่วย.........ข้า..........”
เสียงที่เป็เหมือนมายาดังขึ้นมาอีกครั้ง ครั้งนี้เย่เทียนเซี่ยได้ยินอย่างชัดเจนจนไม่มีความสงสัยใดๆอีก และเสียงนั้นจริงๆแล้วดังขึ้นมาจากในใจของเขา เย่เทียนเซี่ยสงบจิตใจแล้วลองพูดออกไปในใจ “เธอเป็ใคร?”
เสียงนั้นไม่ได้ทำให้เขาผิดหวัง เสียงของเธอดังขึ้นมาจากด้านหน้าของเขา เสียงหญิงสาวที่ได้รับการตอบรับฟังดูตื่นเต้นขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด เธอค่อยๆใช้น้ำเสียงที่สั่นไหวอย่างอ่อนแรงพูดออกมาช้าๆชัดๆ “..........ข้า.........ข้างหน้า..........ช่วย.......ข้า........”
เสียงของหญิงสาวยิ่งต่ำลงเรื่อยๆ ก่อนจะเงียบลงในที่สุด
ข้างหน้า?
ดวงตาของเย่เทียนเซี่ยหรี่เล็กลงทันทีก่อนจะจับจ้องไปที่ด้านหน้า........ จิ้งจอกน้อยที่อยู่ในผลึกเทพั
มันงั้นเหรอ!? ข้างหน้าของเขาก็มีแค่มัน.................
มันขอความช่วยเหลือจากเขา? จิ้งจอกที่ถูกกักขังอยู่ในนั้นเป็เวลานานหลายปี ชีวิตของมันยังคงไม่สูญสลายไป มันยังคงมีชีวิตอยู่!?
ในตอนนั้นเย่เทียนเซี่ยก็ได้เรียนรู้แล้วว่าเ้าจิ้งจอกตัวน้อยตัวนี้น่ากลัวขนาดไหน ในยุคของมอนสเตอร์อาจจะต้องนับย้อนกลับไปเป็ล้านหรือสิบล้านปีก่อน มันถูกพลังของเทพัผนึกไว้ั้แ่ตอนนั้นจนมาถึงตอนนี้ และมันยังคงมีชีวิตอยู่!
และยังเห็นได้ชัดว่ามันคือมอนสเตอร์ แต่ทำไมเสียงที่ส่งมาหาเขาถึงเป็เสียงของคนไปได้ แล้วยังเป็เสียงของผู้หญิงอีก
