ตามกฎเกณฑ์ที่ตั้งไว้ ศิษย์ใหม่ที่สามารถเอาชนะศิษย์สายนอกได้ย่อมสามารถแจ้งความประสงค์ในการเข้าสังกัดตำหนักที่ตนสนใจได้หรือแม้กระทั่งศิษย์ใหม่ที่เป็ฝ่ายพ่ายแพ้ไม่สามารถเอาชนะได้ก็สามารถเลือกเข้าสังกัดที่ตนสนใจได้
แต่ถึงอย่างไรหากศิษย์คนดังกล่าวที่แจ้งความ้าสำหรับเข้าสังกัดในตำหนักนั้น ๆ หากว่าท่านเ้าตำหนักพิจารณาแล้วว่าศิษย์ใหม่ผู้นั้นไม่มีคุณสมบัติมากพอที่จะเข้าร่วมตำหนักของตน ท่านเ้าตำหนักก็มีสิทธิที่จะปฏิเสธความ้าของศิษย์ใหม่เ่าั้ได้เช่นกัน
เหมือนกันกับหนิงอ้ายที่แจ้งความ้าขอเข้าสังกัดศาสตร์แห่งการรักษา ซึ่งเป็ตำหนักที่ผู้คนภายนอกหรือแม้กระทั่งศิษย์ในสำนักศึกษาเหมันต์พันตะศักดิ์สิทธิ์ต่างรับรู้เื่ราวตำหนักนี้น้อยมาก ว่ากันว่าในการทดสอบศิษย์ใหม่นับสิบปีผ่านมาทางตำหนักศาสตร์แห่งการรักษาไม่ได้รับศิษย์เข้าตำหนักของตนแม้แต่คนเดียว ไม่ใช่เพราะว่าไม่มีผู้ใดไม่้าเข้าร่วมตำหนักนี้ เพียงแต่ว่าเ้าตำหนักเหวินหวู่ เป็ผู้ปฏิเสธความ้าของเหล่าศิษย์ใหม่พวกนั้นไปเสียสิ้น
ด้วยนิสัยแปลกประหลาดนี่เอง หลายครั้งที่ปรมจารย์เหวินหวู่ท่านนี้เดินทางไปทั่วทั้งมหาทวีปอย่างอิสระ ไม่ค่อยประจำอยู่ในสำนักศึกษา หากว่าได้พบเห็นรุ่นเยาว์มากพร์คนใดที่เข้าตาแล้วละก็ ท่านมักจะเชิญชวนให้รุ่นเยาว์ผู้นั้นเข้ามาเป็ศิษย์ในตำหนักของตน
นั่นจึงทำให้ในบรรดาตำหนักทั้งสี่ที่อยู่ภายใต้สำนักศึกษาเหมันต์พันตะศักดิ์สิทธิ์มีเพียงตำหนักศาสตร์แห่งการรักษาเท่านั้น ศิษย์สายในและศิษย์สายนอกของตำหนักมีทั้งผู้ที่ผ่านการทดสอบของทางสำนักที่ได้จัดขึ้นเป็ประจำทุกปี รวมไปถึงการทดสอบนอกที่ผู้าุโเหวินหวู่เป็ผู้ทดสอบศิษย์ผู้นั้นด้วยตนเอง
ดังนั้นด้วยทั้งหมดนี้สิ่งที่จ้าวหลานเอ่ยขึ้นอย่างเป็กังวลใจนั้นจึงเป็สิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน กลุ่มของหนิงอ้ายต่างภาวนาให้ท่านเ้าตำหนักเหวินหวู่เมตตาสหายของตนและรับหนิงอ้ายเข้าเป็ศิษย์ในตำหนักตามความตั้งใจของอีกฝ่ายจะเป็เื่ที่ดีที่สุด...
เปรี้ยง!
ตู้ม!
เสียงะเิดังขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัวทำให้ศิษย์ทุกคนในที่นี้ต่างหูตาพร่ามัวไปชั่วขณะ เพียงชั่วครู่สายตาของทุกคนต่างมองไปยังจุดเดียวกันคือกลางสนามประลองที่ในตอนนี้เด็กหนุ่มนามว่าหนิงอ้ายยืนอยู่ไร้ซึ่งรอยขีดข่วนภายในปราการบทเวทย์ป้องกันของตน นี่จึงทำให้ทุกคนพอที่จะคาดเดาได้ว่าเมื่อครู่นั้นอีกฝ่ายพึ่งตั้งรับกับบางสิ่งเหนือญาณััรับรู้ของพวกเขา
ที่น่าแปลกใจว่าเด็กหนุ่มคนนี้อายุเพียงสิบห้าสิบหกปีแต่กลับไปด้วยญาณัั ดูไปแล้วหากศิษย์น้องถูกปฏิเสธจากท่านเ้าตำหนักเหวินหวู่พวกตนจะไม่รอช้าชักชวนอีกฝ่ายให้เขาร่วมสังกัดในตำหนักของตนอย่างแน่นอน
เปรี้ยง!
ตู้ม!
"ปราการมหาอัคคีอหังการ!!!!"
เสียงปะทะกันของบทเวทย์โจมตีที่เป้าหมายคือเด็กหนุ่มที่อยู่ในปราการของเวทย์ป้องกันนั้นยังคงดังขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้จะดูยาวนานแต่ความจริงเป็เพียงไม่กี่จิบชาเท่านั้น ทุกการโจมตีแฝงไปด้วยความรุนแรงและไม่ทิ้ง่ให้ได้หายใจได้สร้างความกดดันแก่ผู้ที่ได้พบเห็นเป็อย่างยิ่ง
แต่ถึงอย่างนั้นแล้วเด็กหนุ่มยังคงตั้งรับด้วยท่าทางสงบนิ่งแสดงความจริงจังเพิ่มขึ้นหลายส่วน ก่อนที่กลางสนามประลองจะปรากฎเป็หมอกพิษสีดำที่ส่งเสียงน่ากลัวออกมาก่อนที่ศิษย์สายในและสายนอกที่อยู่ใกล้บริเวณนั้นต่างหลบหลีกจากพื้นที่นั้นอย่างรวดเร็ว หมอกพิษพิพากษา์ ของผู้าุโเหวินหวู่ที่ทุกคนต่างทราบดีว่านี่เป็อีกทักษะิญญาที่สร้างชื่อแก่ท่านเป็อย่างมาก
หากััพิษนี้เพียงเศษเสี้ยวแต่หากไม่ได้รับการถอนพิษอย่างทันท่วงทีนั้น แม้จะเป็ถึงผู้ฝึกตนระดับเทพยุทธ์ิญญาแล้วยังต้องหวั่นเกรงอานุภาพของหมอกพิษนี้ไปหลายส่วนเลยทีเดียว
ิญญายุทธ์ปักษาเพลิงศักดิ์สิทธิ์ ทักษะิญญาที่หนึ่งสรรพธาตุหมื่นเทวะโลหิตอัคคีมายา โจมตี!!
หนิงอ้ายเอ่ยขึ้นทันทีเมื่อเห็นว่าเวทย์ป้องกันของตนไม่สามารถตั้งรับการโจมตีนี้ได้แล้ว อีกทั้งพิษดังกล่าวได้เข้าแทรกซึมม่านปราการป้องกันของเขาไปบางส่วนแล้ว หากยังคงประวิงเวลาต่อไปนานเท่าใดเขาย่อมถูกพิษนี้เป็แน่ มือเรียวงามของเด็กหนุ่มได้กางขึ้นพร้อมกันพร้อมกับประสานเป็ท่าทางแปลกตายิ่ง
วงแหวนิญญาสีเขียวเข้มสองวงแหวนได้ปรากฏขึ้นตรงด้านหลังของหนิงอ้าย เป็ที่รับรู้ว่าเด็กหนุ่มได้กระดูกิญญาอายุสี่พันปีถึงสองวงแหวนเลยทีเดียวนับว่าโดดเด่นยิ่งนัก แม้ว่าผู้ฝึกตนระดับจักรพรรดิิญญาสามารถดูดซับกระดูกิญญาจากสัตว์อสูรอายุสี่พันปีได้ แต่ไม่เคยปรากฏให้เห็นว่าด้วยวัยเพียงสิบห้าสิบหกปีกลับกระดูกิญญาสี่พันปีถึงสองวงแหวนเช่นนี้
ก่อนที่จะปรากฏร่างจำแลงของอสูรราชันย์วิหคอัคคีมายาขนาดใหญ่ที่ครอบทับตัวของเด็กหนุ่มในทันที หนิงอ้ายเร่งเร้าพลังลมปราณออกมาเพิ่มขึ้นส่งผลให้ร่างจำแลงของอสูรราชันย์วิหคอัคคีมายานี้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมสองถึงสามเท่า ก่อนที่ร่างจำแลงนี้ได้พุ่งรับการโจมตีจากหมอกพิษดังกล่าวจนเกิดเสียงดังไปทั่วทั้งบริเวณ
เผชิญหน้ากับผู้ฝึกตนระดับสูงที่ไม่อาจคาดเดาระดับพลังฝีมือได้รวมไปถึงหมอกพิษที่มีความลึกล้ำพิศดารเช่นนี้แล้วใบหน้าของเด็กหนุ่มเริ่มแสดงอาการเคร่งเครียด หนิงอ้ายเลือกที่จะไม่เปิดเผยทักษะิญญายุทธ์ปราณธาตุพิษในยามนี้
แม้ว่าิญญายุทธ์ปราณธาตุไฟที่ได้ดูดซับกระดูกิญญาของอสูรราชันย์วิหคอัคคีมายาไป แต่หากเทียบกับทักษะิญญายุทธ์ปราณธาตุพิษของผู้าุโเหวินหวู่ที่มีระดับพลังิญญามากกว่าเขาสองถึงสามขั้นใหญ่ แม้จะเป็เพียงแค่หนึ่งส่วนแต่กลับสร้างความกดดันเช่นนี้ได้ นับว่าอีกฝ่ายเป็สุดยอดฝีมือระดับแนวหน้าอย่างแท้จริง
ใบหน้าของหนิงอ้ายเริ่มซีดขาวลงด้วยเพราะสูญเสียพลังิญญาพร้อมกันไปในครั้งเดียวอย่างมหาศาล ความกดดันเช่นนี้ส่งผลไปโดยรอบจนทำให้ศิษย์สายนอกบางคนที่มีพลังิญญาระดับต่ำเริ่มที่จะหายใจไม่ออกเลยทีเดียว ก่อนที่ทุกสิ่งจะสลายหายไปราวกับว่าก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดสิ่งใดขึ้น
"ไม่เลว! ไม่เลว! ญาณััเช่นนี้หาได้ยากยิ่ง ในเมื่อความ้าของเ้าเป็เช่นนั้นแล้วข้าเหวินหวู่เ้าตำหนักศาสตร์แห่งการรักษาจะรับเ้าเป็ศิษย์ในตำหนักของข้าตามที่เ้า้า!!"
"ข้าขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกันว่าหนิงอ้ายผู้นี้เป็ศิษย์ผู้สืบทอดของตำหนักศาสตร์แห่งการรักษาและจะมีพิธีอย่างเป็ทางการภายหลังอีกครั้ง!!!" สิ้นคำเอ่ยของผู้าุโเหวินหวู่ในรูปลักษณ์ของชายชราได้หายไปในทันที
ทำให้ทราบว่าผู้ที่นั่งอยู่ตรงนี้ั้แ่เเรกเป็เพียงร่างจิติญญาเท่านั้น เพียงไม่กี่จิบชาทุกสิ่งอย่างได้กลับมาสงบนิ่งราวกับว่าก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดสิ่งใดขึ้นทั้งสิ้นโดยท่านเ้าสำนักเจียงเฉิงหมายความว่าการทดสอบดังกล่าวได้ถูกยอมรับจากท่านเ้าสำนักและเ้าตำหนักอีกทั้งสามท่านแล้วนั่นเอง
ก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะเป็เจียงเฉิงผู้เป็เ้าสำนักศึกษา รุ่ยเหอรองเ้าสำนักและเ้าตำหนักศาสตร์แห่งการต่อสู้ กุ้ยเจินเ้าตำหนักศาสตร์แห่งค่ายกล เฉิงห่าวเ้าตำหนักศาสตร์แห่งศาสตราวุธ ผู้าุโคุมกฎทั้งสาม ผู้าุโระดับสูงในสำนัก รวมไปถึงผู้าุโประจำตำหนักต่าง ๆ อีกทั้งเหล่าบรรดาศิษย์สายใน ศิษย์สายนอกต่างรู้สึกใเป็อย่างยิ่งที่ผู้าุโเหวินหวู่นั้นถึงกับเรียกทักษะิญญาหมอกพิษพิพากษา์ออกมาเพื่อทดสอบรุ่นเยาว์คนหนึ่ง
ทว่าเด็กหนุ่มกลับสามารถตั้งรับได้อย่างท่วงทีอีกทั้งยังโต้กลับด้วยทักษะิญญาปราณธาตุไฟที่แม้จะอ่อนด้อยไปในยามนี้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าในวันข้างหน้าจะไม่แข็งแกร่งขึ้น เพราะหากพิจารณาจากความล้ำลึกของกลิ่นอายของวงแหวนิญญาอายุสี่พันปีที่พวกเขานั้นััได้ ด้วยอายุเพียงสิบห้าสิบหกปีเช่นนี้แต่กลับมากไปด้วยพร์และความโดดเด่นนับว่าอีกฝ่ายเป็อีกหนึ่งรุ่นเยาว์น่าชื่นชมอย่างยิ่ง
แต่ถึงอย่างไรฐานะของศิษย์ผู้สืบทอดตำหนักศาสตร์แห่งการรักษาที่ผู้าุโเ้าตำหนักเหวินหวู่มอบให้กับอีกฝ่ายนับว่าเป็สิ่งที่เกิดคาดเดาไปเป็อย่างมาก จริงอยู่ที่ว่าตำหนักศาสตร์แห่งการรักษาแม้ไม่มีศิษย์ใหม่เข้าสังกัดในทุกปี ส่งผลให้ในตอนนี้มีศิษย์สายในที่อยู่ในสังกัดตำหนักศาสตร์แห่งการรักษาเพียงหกคน เท่ากับว่าหนิงอ้ายผู้นี้คือศิษย์ลำดับที่เจ็ดและมีฐานะเป็ถึงศิษย์ผู้สืบทอดของตำหนัก
ความกดดันที่เกิดขึ้นจากทักษะิญญาอันเลื่องชื่อของผู้าุโเหวินหวู่ผู้เป็เ้าตำหนักศาสตร์แห่งการรักษา ทดสอบศิษย์คนหนึ่งซึ่งเป็เพียงรุ่นเยาว์อายุเพียงสิบห้าสิบหกปีเท่านั้น สิ่งที่สร้างความแปลกประหลาดใจแก่ทุกคนคือด้วยวัยเพียงเท่านี้ทว่าเด็กหนุ่มรูปร่างบอบบางไปไม่ต่างจากสตรีกลับสามารถบัญชาการวงแหวนิญญาที่ถูกประสานเข้ากับร่างกายตนได้อย่างเชี่ยวชาญและตั้งรับการโจมตีของผู้าุโเหวินหวู่ได้อย่างน่าชื่นชม
ทางฝั่งของหนิงอ้ายที่ก่อนหน้านี้เขาต้องรีดเค้นพลังปราณในร่างกายเป็อย่างมากในการเรียกใช้ทักษะิญญาเพื่อตั้งรับการโจมตีจากผู้ฝึกตนระดับสูงมากกว่าตนถึงสองถึงสามขั้นใหญ่ จึงส่งผลให้ใบหน้าเล็กของอีกฝ่ายนั้นขาวซีดจนน่าเป็ห่วงยิ่งนักในสายตาของผู้าุโ
ศิษย์สายใน ศิษย์สายนอกที่อยู่ด้านข้างสนามประลองรวมไปถึงกลุ่มสหายของเด็กหนุ่ม เมื่อได้มีเวลาพักหายใจมากขึ้น ร่างกายของหนิงอ้ายที่คุ้นชินกับเคล็ดวิชาสยบอัสนีเมฆาแล้วจึงดูดซับปราณธรรมชาติที่มีอยู่ในรอบตัวเข้ามาในร่างกายแทนส่วนที่ถูกดึงใช้ไปในทันทีพร้อมกับแรงหนุนจากจี้หยกโลหิตที่ใส่อยู่ไม่ห่างตัว ก่อนที่จะพิจารณาคำกล่าวของผู้าุโเหวินหวู่ที่ว่าได้รับตนนั้นเข้าเป็ศิษย์ผู้สืบทอดของตำหนักศาสตร์แห่งการรักษา นับว่าค่อนข้างเกินความคาดคิดของเขาไปมากเลยทีเดียว
ตำแหน่งศิษย์ผู้สืบทอดตำหนักศาสตร์แห่งการรักษาหนิงอ้ายไม่คาดคิดว่าจะต้องเป็เขาเสียด้วยซ้ำ เหตุผลหลักที่เขาเลือกเข้าตำหนักศาสตร์แห่งการรักษา นอกจากจะมุ่งเน้นไปในเื่ของโอสถและสมุนไพรแล้ว ผู้าุโเหวินหวู่ยังเชี่ยวชาญในเื่ของพิษอีกด้วย การที่หนิงอ้ายตัดสินใจเลือกเข้าสังกัดอยู่ในตำหนักนี้เป็เพราะิญญายุทธ์ปราณธาตุพิษที่เขาถือครองอยู่ ดังนั้นหากเขาจะมีความรู้และความสามารถที่ข้องเกี่ยวกับปราณธาตุพิษคงไม่ใช่เื่ที่น่าแปลกประหลาดอันใด
ด้วยระดับพลังิญญาในตอนนี้หนิงอ้ายยอมรับว่ายังมีผู้ฝึกตนที่มีระดับพลังิญญาระดับสูงที่เหนือชั้นกว่าเขามากและยังไม่นับรวมตาเฒ่าประหลาดที่หลีกเร้นกายในมหาทวีปแห่งนี้ แม้ว่าเขาจะิญญายุทธ์มากกว่าหนึ่ง แต่นี่ยังไม่ใช่เวลาที่ต้องเปิดเผยนักเมื่อถึงวันหนึ่งที่ตัวเขานั้นมั่นใจว่าตนอยู่เหนือสุดยอดของผู้ฝึกตนด้วยกัน ที่เขานั้นสามารถปกป้องตนเองและคนที่ตนรักได้ หนิงอ้ายพร้อมที่จะเปิดเผยเช่นกัน…
เสียงพูดคุยของศิษย์สายในและศิษย์สายนอกกันอย่างคึกคักโดยรอบของลานพิธี ตำแหน่งศิษย์ผู้สืบทอดตำหนักนับว่าเป็อีกหนึ่งฐานะสำคัญสามารถสร้างชื่อเสียงแก่ตนเองและวงศ์ตระกูลได้ แน่นอนว่าทั้งสามตำหนักที่เหลือไม่ว่าจะเป็ตำหนักศาสตร์แห่งการต่อสู้ ตำหนักศาสตร์แห่งค่ายกลรวมไปถึงศาสตร์แห่งศาสตราวุธต่างมีศิษย์ผู้สืบทอดไปแล้วทั้งสิ้น
ทางสำนักศึกษาเหมันต์พันตะศักดิ์สิทธิ์โดยปกติแล้ว นอกจากการทดสอบศิษย์สายนอกเพื่อเป็ศิษย์สายในที่จะถูกจัดขึ้นในทุก ๆ ปีเเล้ว การประลองระหว่างตำหนักในสำนักศึกษาก็ถูกจัดขึ้นเป็ประจำทุกปีเช่นกัน
แต่ความพิเศษมีอยู่ว่าั้แ่เเรกเริ่มก่อตั้งสำนักศึกษาเหมันต์พันตะศักดิ์สิทธิ์มานับพันนับหมื่นปีศิษย์ผู้สืบทอดของทั้งสี่ตำหนักต่างต้องลงประลองเช่นกันในทุก ๆ สี่ปีถือว่าเป็ธรรมเนียมปฎิบัติที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ตำหนักศาสตร์แห่งการรักษาตำแหน่งศิษย์ผู้สืบทอดไว้ว่างเว้นไว้หลังจากที่ศิษย์สืบทอดคนสุดท้ายจะหายสาบสูญไปอย่างปริศนาใน่สิบปีที่ผ่านมา
ดังนั้นแล้วการที่เด็กหนุ่มนามว่าหนิงอ้ายได้ถูกทดสอบและคัดเลือกจากท่านผู้าุโเ้าตำหนักเหวินหวู่ และถูกประกาศให้ทุกคนได้รับรู้โดยทั่วกันว่าเด็กหนุ่มเป็ศิษย์ผู้สืบทอดของตำหนักแล้ว หากนับตามกำหนดเวลาจึงเหลืออีกเพียงสองปีเท่านั้นในการประลองระหว่างศิษย์ผู้สืบทอดทั้งสี่ สำหรับพิธีการรับศิษย์ผู้สืบทอดจะถูกจัดขึ้นภายในตำหนักไม่สามารถให้บุคคลภายนอกเข้ามาร่วมพิธีดังกล่าวได้ ว่ากันว่าอาจจะมีการทดสอบจากบรรพชนผู้ก่อตั้งตำหนัก แต่ถึงอย่างไรทุกอย่างล้วนเป็เื่ลับทั้งสิ้น
หนิงอ้ายโค้งตัวคำนับไปทางฝั่งของผู้าุโเหวินหวู่ ผู้เป็เ้าตำหนักศาสตร์แห่งการรักษา จากนั้นเด็กหนุ่มไม่รอช้าโค้งตัวคำนับทำความเคารพไปยังเ้าสำนักเจียงเฉิงรวมไปถึงเ้าตำหนักทั้งสามท่านที่เมตตา ด้วยท่าทางที่นอบนอบเช่นนี้เป็ที่ถูกใจแก่พวกเขาเหล่านี้รวมไปถึงผู้าุโในสำนักเป็อย่างยิ่ง
เพราะค่อนข้างหาได้ยากเลยทีเดียวกับการที่ผู้ฝึกตนอายุน้อยแต่กลับมากไปด้วยฝีมือและพร์ อีกทั้งยังได้รับตำแหน่งศิษย์ผู้สืบทอดของตำหนักที่กล่าวได้ว่าเป็รองเพียงเ้าสำนักศึกษา เ้าตำหนักทั้งสี่ รวมไปถึงผู้าุโคุมกฎทั้งสามแต่เพียงเท่านั้น แม้กระทั้งศิษย์สายใน ศิษย์สายนอกแม้จะมีอายุมากกว่าอีกฝ่าย
แต่ถึงอย่างไรย่อมต้องเกรงให้กับตำแหน่งนี้ของเด็กหนุ่มทั้งสิ้น แทนที่อีกฝ่ายจะมีท่าทีที่หยิ่งผยองลำพองตน แต่กลับกลายเป็ว่าเด็กหนุ่มยังคงเปี่ยมไปด้วยท่าทางสุภาพอ่อนน้อมตามมารยาทของผู้ฝึกตนที่ได้รับการอบรมมาเป็อย่างดี
"ยินดีกับพวกเ้ารุ่นเยาว์ชายหญิงทุกคนที่ผ่านการทดสอบ หลังจากนี้เป็ต้นไปนามของพวกเ้าทุกคนจะถูกบันทึกเอาไว้ในนามของศิษย์สายนอกของสำนักศึกษา!!" เสียงของผู้าุโผู้คุมกฎกล่าวขึ้นเเสดงความยินดีกับรุ่นเยาว์ทั้งห้าสิบกว่าคนในที่นี้แม้ในการทดสอบที่ผ่านมาจะมีการแพ้ชนะไปบ้างนับว่าเป็เื่ปกติ
เหตุการณ์ความวุ่นวายนั้นยังคงเกิดขึ้นไปอีกราว ๆ เกือบหนึ่งเค่อ ก่อนที่ท่านเ้าสำนักและผู้าุโคุมกฎทั้งสามจะออกไปจากลานพิธีแห่งนี้ เ้าตำหนักทั้งสามต่างเรียกศิษย์ผู้สืบทอดของตนพร้อมกับสั่งการบางสิ่งอย่าง ศิษย์ผู้สืบทอดทั้งสามคนนั้นจะมองมาทางเด็กหนุ่มเพียงเล็กน้อยก่อนที่จะโค้งตัวคำนับเ้าตำหนักของตน ผู้าุโเ้าตำหนักทั้งสามได้หันมายิ้มเล็กน้อยให้กับหนิงอ้ายก่อนที่จะเเยกย้ายหายไป...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้