ทหารยามทั้งสี่พุ่งไปล้อมล้อมรอบหลี่ชิงหยุนไว้ทั้งสี่ด้าน
'สาบานว่านี่คือทหารยาม? ข้ามองว่าพวกมันเป็อันธพาลชัดๆ' หลี่ชิงหยุนพูดไม่ออกเมื่อเห็นปฏิกิริยาของพวกเขา
"ไอ้หนู! ไสหัวไปหากไม่อยากเจ็บตัว!" ขณะที่ทหารยามกำลังจะใช้หอกโจมตี ทันใดนั้นมีเสียงชายชราดังขึ้นจากด้านหลังของเขา
"หยุดเดี๋ยวนี้! เขาคือแขกของเรา!"
ทหารยามที่กำลังพุ่งไปหน้าเขาหยุดกะทันหันจนแทบจะสะดุดล้ม เมื่อหนึ่งในนั้นหันกลับไปมองดวงตาของเขาเบิกกว้าง "ผะ-ผู้าุโสาม?"
ชายชราที่กำลังเดินออกมา คือผู้าุโคนที่สามของตระกูลเสิ่น และเขาไม่ได้สนใจทหารยามและตรงไปยังหลี่ชิงหยุน "นายน้อยหลี่ ขออภัยในความไม่สุภาพ คุณหนูน้อยกำลังรอท่านอยู่ที่ลานกว้าง ข้าจะนำทางไป"
ผู้าุโคนที่สามคือผู้ที่สนับสนุนฝ่ายของหัวหน้าตระกูล ดังนั้นเขาจึงเป็มิตรมากขึ้นเมื่อรู้ว่าหลี่ชิงหยุนกำลังจะมาช่วยหัวหน้าตระกูลของเขา
"ผู้าุโ ข้าไม่เป็ไร เชิญท่านนำทางข้าไปเถิด" หลี่ชิงหยุนโบกมือและตอบกลับอย่างถ่อมตน
"เช่นนั้นได้โปรดตามข้ามา" ผู้าุโลำดับที่สามเดินกลับเข้าไปในตระกูล ทิ้งให้ทหารยามทั้งสี่มึนงงอยู่ด้านหลัง
ทหารยามคนแรกหันไปหาเพื่อนๆของเขาและเอ่ยถาม "คนผู้นี้คือใคร? เหตุใดผู้าุโสามถึงถ่อมตัวได้ขนาดนี้?"
"เกรงว่าจะมีบางอย่างไม่ถูกต้อง...ติดต่อผู้าุโสูงสุดในทันที แล้วค่อยให้ท่านตัดสินใจ" ทหารยามคนที่สองพูดขึ้นมา
"เข้าใจแล้ว" ทหารยามทั้งสี่เป็คนของผู้าุโสูงสุดที่มีความขัดแย้งกับหัวหน้าตระกูล ดังนั้นหากมีสิ่งใดผิดปกติ พวกเขาจะรีบรายงานทันที
.
.
.
ด้านในตระกูลเสิ่น บ้านเรือนที่นี่มีหลายหลังคาเรือน ส่วนใหญ่จะเป็ที่พักติดริมแม่น้ำ ซึ่งไม่เหมือนกับที่พักของตระกูลขุนนางเลยแม้แต่น้อย
หลี่ชิงหยุนกำลังมองไปรอบๆด้วยความอยากรู้อยากเห็น "ทิวทัศน์ที่นี่สวยมาก"
"นายน้อยหลี่ คุณหนูน้อยรอท่านอยู่ที่ลาน" ผู้าุโลำดับที่สามนำทางเขาไปที่พักของเสิ่นชิง และบอกลาหลี่ชิงหยุนที่นี่
"ขอบคุณมากผู้าุโ" หลี่ชิงหยุนยกกำปั้นขอบคุณ และบอกลาผู้าุโที่สาม
หลี่ชิงหยุนกำลังเดินตรงไปในลาน ขณะนี้เขาเห็นว่าเสิ่นชิงกำลังฝึกทักษะดาบนิพพานอยู่จากระยะไกล ออร่าของนางเข้าสู่ระดับลมปราณหยกแล้ว และตอนนี้นางกำลังใช้พลังฉีเพื่อทดสอบทักษะดาบ
"ฉัวะ!"
เสิ่นชิงกวั่ดแกว่งดาบอย่างสง่างามราวกับราชินีฟีนิกซ์ที่แท้จริง
จู่ๆนางััได้ถึงใครบางคนจากด้านหลัง นางหันกลับไปมองในทิศทางนั้นอย่างฉับพลัน "นั่นใคร!?"
ทว่าเมื่อเห็นว่าผู้ที่เข้ามาเป็หลี่ชิงหยุนที่นางกำลังรอ ด้วยความดีใจนางวิ่งไปเกาะแขนหลี่ชิงหยุนด้วยใบหน้าที่ปิติยินดี "ชิงหยุน"
"ข้านึกว่าเ้าจะไม่มาแล้ว" เสิ่นชิงเข้าใกล้ชิดกับหลี่ชิงหยุนและจับมือของเขาไว้อย่างอ่อนโยน
"ข้ามีธุระหลายๆอย่าง ข้าเองก็เพิ่งออกมาจากพระราชวังเช่นกัน" หลี่ชิงหยุนยิ้มอย่างเชื่องช้า และอธิบายเื่ที่เขาต้องเข้าไปพระราชวังก่อนหน้านี้
"ไปกันเถอะ ใกล้จะมืดค่ำแล้ว หากอยู่กันสองคน ใครเขาจะมองเราไม่ดี" หลี่ชิงหยุนต่อล้อต่อเถียงกับเสิ่นชิงระหว่างเดินไปที่ห้องของหัวหน้าตระกูลเสิ่น
พวกเขาทั้งสองเดินกันมานาน ขณะนี้ใกล้จะถึงหน้าห้องพักของหัวหน้าตระกูลแล้ว
"หยุด! เ้าเป็ใคร!?" จู่ๆผู้าุโของตระกูลเสิ่นผู้หนึ่งได้มาขัดขวางเส้นทางของพวกเขาไว้ พร้อมจ้องมองไปที่หลี่ชิงหยุนอย่างไม่เป็มิตร
"ลุงจี นี่คือสหายของข้า เขาจะช่วยดูอาการของพ่อ ได้โปรดหลีกทาง" ใบหน้าของเสิ่นชิงเริ่มมืดลง นางรู้ดีว่าผู้าุโคนนี้ต้องตั้งใจขัดขวางนางโดยเฉพาะ
"คุณหนูน้อย ท่านจะไว้ใจคนนอกถึงขนาดนี้ได้อย่างไร? หากชายผู้นี้มีประสงค์ร้าย อาการของหัวหน้าตระกูลอาจจะแย่ลงไปอีก" ผู้าุโเริ่มสรรหาคำพูดต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ทั้งสองเข้าไป
"นี่คือคำสั่งของผู้าุโสูงสุด ห้ามใครเข้าไปด้านในนอกเหนือจากคนในตระกูลเท่านั้น!" เขายื่นคำขาดผู้าุโคนนี้เป็ผู้ฝึกฝนในระดับลมปราณฟ้า แค่เขาคนเดียวก็สามารถหยุดทั้งสองคนได้อย่างแน่นอน
แต่เสิ่นชิงกัดฟันเถียงด้วยแววตาเ็า "ลุงจี เ้ามีจุดประสงค์อะไร!? หลี่ชิงหยุนเคยช่วยข้าไว้จากความตาย อีกทั้งเขายังแก้ปัญหาร่างกายของข้าได้อีกด้วย เขาเป็หมอที่เก่งกาจและข้าจะพาเขาไปตรวจสอบอาการของท่านพ่อ"
"คุณหนูน้อย ใครจะไปรู้ บางทีเขาอาจจะแค่้าเข้าใกล้ตระกูลเสิ่นผ่านทางท่านก็เป็ได้" ผู้าุโเสิ่นจีพูดด้วยน้ำเสียงที่ชอบธรรมอย่างไร้ยางอาย
"เ้า! น่ารังเกียจ!" เสิ่นชิงกัดฟันและชี้หน้าเขา ออร่าฉีเริ่มปะทุออกมาจากร่างกายของนาง ขณะนี้นางโกรธมาก และเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้ได้ทุกเมื่อ
"คุณหนูน้อยอย่าได้หลงกลชายผู้นี้ เขาต้องมีประสงค์ร้ายอย่างแน่นอน" ผู้าุโเสิ่นจีก็เริ่มเหงื่อตก แม้ว่าเขาจะได้รับคำสั่งจากผู้าุโสูงสุด แต่เขาก็ไม่กล้าทำอะไรมากเกินไปกับลูกสาวของหัวหน้าตระกูลอยู่ดี
"ข้าจะพูดอีกครั้ง ไสหัวไป..." น้ำเสียงของเสิ่นชิงเริ่มเ็า บุคลิกของนางในตอนนี้ดูเหมือนจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย
"คุณหนูน้อย อย่าเอาแต่ใจเกินไป ที่ข้าทำก็เพื่อตระกูล-" ผู้าุโเสิ่นจีเริ่มพูดต่อด้วยใบหน้าเคร่งขึม
"เพื่อตระกูล! เพื่อตระกูล! พวกเ้าพูดเป็แค่คำๆนี้หรือไม่!? พวกเ้าจะส่งข้าไปให้เป็นางบำเรอของตระกูลหงนี่ก็เพื่อตระกูลด้วยใช่หรือไม่!?" เสิ่นชิงไม่สามารถระงับออร่าความโกรธได้อีกต่อไป
ขณะนี้เปลวเพลิงสีแดงชาดปะทุจากร่างที่งดงาม ก่อตัวเป็รูปร่างของนกฟินิกซ์โบราณยืนอยู่ด้านหลังนาง! แรงกดดันมหาศาลจากฟีนิกซ์โบราณเริ่มขยายออกไปรอบๆตระกูล
หลี่ชิงหยุนแค่ยืนดูสถานการณ์เงียบๆ เขาไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเื่นี้
"อย่าหาว่าข้าไม่เตือน...หากข้าาเ็แม้เพียงเล็กน้อย เ้าจะรับความโกรธของบิดาของข้าไหวหรือไม่?" เสิ่นชิงเริ่มข่มขู่ผู้าุโเสิ่นจี นางยังคงเป็บุตรสาวของหัวหน้าตระกูล หากเกิดอะไรขึ้นกับนางตอนนี้ เกรงว่าหัวหน้าตระกูลจะบ้าคลั่งและสังหารอย่างไม่เลือกหน้าแน่นอน!
"ทะ-ท่านคิดจะทำอะไร?" ผู้าุโเสิ่นจีเริ่มตื่นตระหนก หากหัวหน้าตระกูลรู้ว่าบุตรสาวของเขาาเ็จากมันจริงๆ นั่นอาจจะเป็ฝันร้ายของฝ่ายผู้าุโสูงสุดก็เป็ได้ แม้ว่าหัวหน้าตระกูลจะป่วยอยู่ แต่หากว่าเขาต้องต่อสู้อย่างจริงจัง เกรงว่าฝ่ายผู้าุโสูงสุดคงจะสูญเสียสมาชิกไปมากกว่า 7 ใน 10 ส่วนอย่างแน่นอน
จู่ๆมีเสียงเบาๆลอยกระซิบเข้ามาในหูของเสิ่นจี "ปล่อยให้พวกเขาเข้าไป"
ทันใดนั้นหลี่ชิงหยุนก็ััได้ถึงรัศมีที่ผิดปกติ เขากำล้งหันไปมองรอบๆเพื่อตรวจหาความผิดปกตินั้น
เมื่อครู่เขาััได้ถึงพลังิญญาจางๆใกล้ตัวเขา มันเป็พลังิญญาที่น่าขนลุกและน่าสยดสยอง
"ในเมื่อเป็เช่นนั้นขอเชิญคุณหนูน้อย... แต่หากมีอะไรเกิดขึ้นกับหัวหน้าตระกูล อย่าหาว่าข้าไม่เตือน!" เสิ่นจีถอนหายใจฟึดฟัดเมื่อได้รับคำพูดจากหูของมัน ก่อนที่มันจะจากไปมันยังข่มขู่หลี่ชิงหยุนด้วยสายตาอีกครั้ง
เสิ่นชิงลดออร่าของนางออก ขณะนี้ผู้คนรอบๆเริ่มได้ยินเสียงความวุ่นวาย พวกเขาจึงรีบออกมาดู
"ชิงหยุน ไปกันเถอะ" เสิ่นชิงคว้ามือของหลี่ชิงหยุนและเดินเข้าไปในห้องโดยไม่สนใจคนรอบข้าง
โดยหารู้ไม่ว่าในอาคารแห่งหนึ่งของตระกูลเสิ่นปรากฏชายชราในชุดสีดำม่านตาของเขาเป็สีเหลืองและแดงกำลังมองไปยังทิศทางของบ้านหัวหน้าตระกูล พร้อมเยาะเย้ยเบาๆ "ต่อให้เ้าจะเรียกหมอที่เก่งกาจอีกสักคนกี่คน โอกาสรอดของเ้าแทบจะไม่มีเลย...เมื่อถึงเวลานั้น ข้าก็จะได้ทุกอย่างที่ข้า้า..."
.
.
.
~ ที่พักหัวหน้าตระกูลเสิ่น ~
ขณะนี้เสิ่นชิงและหลี่ชิงหยุนอยู่นอกประตูแล้ว เสิ่นชิงเดินไปเคาะประตูเบาๆ "ท่านพ่อ นี่ข้าเอง"
"เข้า...มา" เสียงอ่อนล้าของชายคนหนึ่งดังขึ้นจากในห้อง
หลังจากได้รับอนุญาตแล้ว เสิ่นชิงและหลี่ชิงหยุนข้าไปในห้อง
ในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ มีชายวัยกลางคนที่มีผิวซีดเซียวที่เกือบจะเป็สีดำ ร่างกายของเขาซูบผอมมาก ราวกับว่าเขาเป็โรคขาดสารอาหารและกำลังนอนอยู่บนเตียงอย่างสั่นเทา
ชายคนนั้นมองไปยังหลี่ชิงหยุนและเปิดปากพูด "ชิงเอ๋อร์ นี่คือชายหนุ่มที่เ้าพูดถึงก่อนหน้านี้หรือไม่?"
หลี่ชิงหยุนเดินไปด้านหน้าและทักทาย "ผู้น้อยหลี่ชิงหยุน คารวะหัวหน้าตระกูลเสิ่น"
"นั่นคือหนุ่มน้อยหลี่ชิงหยุน...อะแฮ่ม! อะแฮ่ม!" ชายผู้นั้นเริ่มไอและกระอักเืออกมาเบาๆ
ชายคนนี้คือเสิ่นอี้หลาน บิดาของเสิ่นชิง ขณะนี้เขาพยายามพยุงตัวเพื่อที่จะลุกขึ้นนั่ง
"ท่านพ่อ อาการของท่านกำเริบขึ้นอีกมาแล้วหรือ?" เสิ่นชิงเดินไปจับร่างของบิดาไว้พร้อมกับช่วยเขาจัดท่านั่ง
"ชิงเอ๋อร์ พ่อของเ้าไม่เป็ไร" เสิ่นอี้หลานโบกมือและส่ายหัวเล็กน้อย
ขณะนี้หลี่ชิงหยุนกำลังใช้เนตรปฐมกาลมองผ่านร่างกายทั้งหมดของเสิ่นอี้หลานเพื่อตรวจสอบสาเหตุและที่มาของอาการป่วย
ผ่านไปครู่หนึ่งหลี่ชิงหยุนเจอบางอย่างที่ไม่น่าเชื่อและเผลอพึมพำออกมาเบาๆ "นี่คือ...ฉีแห่งความตาย ในร่างกายของท่านมีฉีแห่งความตายหมุนเวียนอยู่ในเส้นลมปราณ หัวใจและหลอดเืใหญ่"
เสิ่นอี้หลานที่ได้ยินเช่นนั้นก็ประหลาดใจ "นายน้อยหลี่ เ้าเคยได้ยินเื่ฉีแห่งความตายด้วยหรือ?"
หลี่ชิงหยุนพยักหน้า "ฉีแห่งความตาย มีผลตรงตามชื่อของมัน หากสิ่งนี้เข้าสู่ร่างกาย ฉีแห่งความตายจะเริ่มดูดซับพลังชีวิตของผู้ป่วยออกอย่างช้าๆ หากมีฉีแห่งความตายมากเกินไป พลังฉีในร่างกายอาจจะถูกระบายออกมาทั้งหมด นี่เป็ฉีที่อันตรายอย่างมากจนแทบจะไม่มีใครสามารถแก้ไขหรือรักษามันได้"
"เว้นแต่...จะมีเม็ดยาระดับศักดิ์สิทธิ์ที่ผ่านภัยพิบัติสายฟ้า หรือไม่ก็ผู้ใช้พลังฉีสายฟ้า ฉีแห่งความตายนั้นหวาดกลัวฉีแห่งสายฟ้าและฉีแห่งชีวิตอย่างมาก แต่ในอาณาจักรเซวียน ข้ายังไม่ทราบว่าใครมีฉีชนิดนี้โดยกำเนิดอยู่บ้าง" หลี่ชิงหยุนกล่าวคำ
ฉีแห่งสายฟ้าเป็ฉีด้านหยาง และอยู่ตรงกันข้ามกับฉีด้านหยินของคือฉีแห่งความตาย ดังนั้นฉีสายฟ้าจึงมีผลอย่างมากในการขับไล่หรือทำลายฉีแห่งความตาย
"ถูกต้อง เป็อย่างที่เ้าพูด ข้าเองก็หมดหนทางกับเื่นี้เช่นกัน" เสิ่นอี้หลานก้มหน้าลง เขาดูหดหู่ใจจริงๆ
"ท่านหัวหน้าตระกูล ขออนุญาต" หลี่ชิงหยุนเดินไปจับชีพจรของเสิ่นอี้หลานและหลับตาลง
เขา้าทดสอบว่าฉีต้นกำเนิดจะมีความสามารถในการขับไล่และทำลายฉีแห่งความตายหรือไม่ ดังนั้นจึงไม่เสียหายที่จะลอง
วินาทีต่อมาเขาใส่ฉีต้นกำเนิดเข้าไปในร่างกายของเสิ่นอี้หลานเล็กน้อย
จู่ๆเสิ่นอี้หลานกระอักเืออกมาเต็มปาก เืของเขาเป็สีดำที่ดูน่าขนลุก!
"มันได้ผล!" หลี่ชิงหยุนตาสว่างขึ้นมาทันทีที่เห็นเืสีดำถูกขับออกมา จนเขาอดไม่ได้ที่จะพึมพำอย่างภาคภูมิใจว่า "ช่างเป็พลังฉีสารพัดประโยชน์อย่างแท้จริง ไม่แปลกใจเลยที่มันถูกเรียกว่า...ฉีต้นกำเนิด"