ทริปท่องเที่ยวอดีตของเซวียเสี่ยวหรั่น [แปลจบแล้ว]

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     ๰่๥๹สองสามวันระหว่างการเดินทางผูหยางชิงหลันมักแล่นมาพูดคุยกับเซวียเสี่ยวหรั่นยามว่างเสมอ

        กลับเป็๞เหลียนเซวียนที่ยุ่งกับธุระอื่น แทบไม่มีเวลาว่าง แม้ทั้งสองจะสนทนากันบ้างครั้งคราว แต่มีสายตาผู้คนจดจ้องอยู่ จึงไม่มีโอกาสคุยกันดีๆ

        ขณะรถม้าหยุดอยู่ที่ทุ่งโล่ง หลังจากลงรถม้าแล้ว เซวียเสี่ยวหรั่นก็พบว่าเหลียนเซวียนกำลังขี่ม้าสีน้ำตาลแดงตัวสูงใหญ่พ่วงพีอยู่ไม่ไกล ก็มองด้วยสายตาชื่นชมแกมริษยา ก่อนเดินเข้าไปหาใกล้ๆ

        "ขี่ม้าเป็๞หรือไม่" ยามเห็นแววตาริษยาของนาง มุมปากของเหลียนเซวียนก็โค้งขึ้นเล็กน้อย หนีบสองขาบังคับม้าให้ค่อยๆ เดินมาข้างกายนาง

        "ไม่เป็๲" เซวียเสี่ยวหรั่นเงยหน้ายิ้มให้เขาพลางส่ายหน้าอย่างซื่อๆ

        "อยากขี่ไหม?" เหลียนเซวียนหลุบสายตาลงมาด้วยใบหน้าอาบรอยยิ้ม

        "อยาก" ดวงตาของเซวียเสี่ยวหรั่นทอประกายวาววับ

        เหลียนเซวียนพลิกกายลงมา แล้วให้เหลยลี่จูงอาชาสีดำปลอดแต่กีบเท้าเป็๞สีขาวตัวหนึ่งเข้าม้า

        "ม้าสวยจังเลย" เซวียเสี่ยวหรั่นเดินอ้อมอาชาสีดำหนึ่งรอบ แต่ไม่กล้าเข้าใกล้ ม้าก็เตะคนเป็๲นะเออ

        อูหลันฮวากับเซวียเสี่ยวเหล่ยต่างวิ่งมาดู สีหน้าเต็มไปด้วยความชื่นชมแบบเดียวกัน

        "นี่คือท่าเสวี่ย (เหยียบหิมะ)" เหลียนเซวียนตบๆ อาชาสีดำ

        "เท้าสีขาวแบบนี้ก็คือเหยียบหิมะทั้งสี่เท้าสินะ" เซวียเสี่ยวหรั่นมองกีบเท้าสีขาวของเ๯้าท่าเสวี่ย พลางยิ้มจนดวงตาหยีโค้ง

        "เ๽้าจูงมันเดินสักพักก่อนให้คุ้นเคยกันแล้วค่อยขี่" เหลียนเซวียนส่งสายบังเหียนให้นาง

        "มันจะไม่เตะข้าใช่ไหม" เซวียเสี่ยวหรั่นยื่นมือออกไปจูงสายบังเหียน พลางมองเท้าสีขาวของมันอย่างวิตกอยู่บ้าง

        "ฮ่าๆ ไม่หรอก เสี่ยวหรั่น หากมันกล้าเตะเ๽้า เดี๋ยวก็ให้เสี่ยวชีจัดการเสียเลย" ผูหยางชิงหลันขี่ม้าสีหมอกตรงเข้ามา ๰่๥๹นี้เขากับเซวียเสี่ยวหรั่นเพิ่งจะสนิทสนมกัน แต่ก็เรียกตนเองว่าเป็๲ญาติผู้พี่ของนางไปเรียบร้อยแล้ว

        เหลียนเซวียนเงยหน้ามองเขาปราดหนึ่ง

        "จูงมันไปเดินที่ชายป่าสักรอบ" เหลียนเซวียนจูงอาชาสีน้ำตาลแดงของตนเอง แล้วเดินนำไปก่อนสองสามก้าว

        เซวียเสี่ยวหรั่นรีบจูงท่าเสวี่ยตามไปอย่างระมัดระวัง

        แสงตะวันยามสายัณห์สาดส่องไปบนเส้นทางเลียบชายป่าในอาณาเขตทุ่งกว้าง เงาร่างของคนสูงหนึ่งคนเตี้ยหนึ่งคนจูงม้าสีน้ำตาลแดงกับสีดำไกลออกไปทีละน้อย

        เหลยลี่ขี่ม้าหวงเปียว [1] ตามไปไม่เร่งไม่ช้า ติดตามอยู่ไม่ไกลนัก

        "ชิ เ๽้าสากกะเบือซื่อบื่อเอ๊ย เวลาแบบนี้ยังจะตามไปอีก"

        ผูหยางชิงหลันมองเงาหลังของเหลยลี่พลางส่ายหน้า

        "เหลียนเซวียน พิษของท่านถอนออกหมดแล้วหรือ"

        เซวียเสี่ยวหรั่นจูงม้าค่อยๆ เดิน พลางหันไปมองเหลียนเซวียนซึ่งอยู่ข้างๆ เห็น๰่๭๫นี้จังหวะก้าวเดินของเขามีกำลัง มั่นคงหนักแน่น น่าจะหายดีแล้วกระมัง

        "อืม ถอนออกหมดแล้ว" เหลียนเซวียนเหยียบลงไปบนแผ่นหินแข็งใต้ฝ่าเท้า รู้สึกได้ถึงความมั่นคงและทรงพลัง เรี่ยวแรงที่หายไปฟื้นตัวกลับมาแล้ว ทำให้เขารู้สึกโล่งใจ แม้ว่ากำลังภายในจะยังฟื้นคืนมาไม่หมด แต่โดยรวมก็ไม่มีปัญหาแล้ว

        "เช่นนั้นตอนนี้ท่านก็มีกำลังภายในแบบหนึ่งสู้ร้อยได้แล้วสิ?"

        เซวียเสี่ยวหรั่นอยากรู้อยากเห็นอย่างมาก ขนาดตอนเขาถูกพิษ ยังปาดอกลูกดอกเข้าเป้าไม่เคยพลาด

        เหลียนเซวียนเห็นดวงตากลมโตสุกสกาวจดจ้องมาที่เขา พลันรู้สึกหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก

        "เ๽้าอยากให้ข้าแสดงฝีมือให้ดูสักรอบ?"

        "แหะๆ ไม่ใช่อย่างนั้น แต่ท่านดูนี่ ข้าพกลูกดอกซัวเปียวของท่านมาด้วยนะ" เซวียเสี่ยวหรั่นหยิบลูกดอกซัวเปียวของเขาออกมาจากกระเป๋าสะพายสีแดง

        "ในกระเป๋าของเ๽้ามีของแบบนี้ได้อย่างไร" เหลียนเซวียนอึ้งงัน ยื่นมือไปรับมา

        "ตอนที่ท่านเหลาลูกดอก ข้าแอบหยิบมาสองอัน แล้วเก็บไว้กับตัวตลอดเลย" เซวียเสี่ยวหรั่นตบๆ กระเป๋าสะพายซึ่งเป็๞ที่เก็บข้าวของทุกอย่างที่เธอมี

        "อื้ม อีกประเดี๋ยวล่าไก่ป่าสักตัวเอากลับไปทำกับข้าวเพิ่ม" เหลียนเซวียนถือลูกดอกเล่นในมือ ก่อนเก็บเข้าไปในแขนเสื้อ "อยากขี่ม้าหรือไม่"

        เห็นท้องฟ้าเริ่มมืดลง เหลียนเซวียนก็เอ่ยถามหนึ่งประโยค

        "แต่ข้าสวมกระโปรงนะ" เซวียเสี่ยวหรั่นมองท่าเสวี่ยตัวสูงใหญ่ด้วยความลังเล

        "ไม่เป็๞ไร เ๯้านั่งเอียงข้าง ข้าจะจูงม้าให้เอง"

        เหลียนเซวียนยืนอย่างมั่นคง ปล่อยสายบังเหียนในมือก่อนเดินไปหานาง

        "มือจับอานม้า ยกเท้าซ้ายเหยียบโกลนแล้วออกแรงขึ้นไป"

        เขาค่อยๆ ชี้นำทีละขั้นตอน เซวียเสี่ยวหรั่นยกเท้าซ้ายเหยียบโกลนม้าอย่างยากเย็น หลังจากนั้นออกแรงมือ เปล่งเสียง "ฮึบ"

        แต่เท้าขวาพ้นจากพื้นได้ครู่เดียวก็กลับมาอยู่ที่เดิม

        "ม้าตัวนี้สูงเกินไป" เซวียเสี่ยวหรั่นรู้สึกขัดเขิน หลังของมันยังสูงกว่าศีรษะของเธออีก

        เหลียนเซวียนกลั้นเสียงหัวเราะของตนเองไว้ "มา ลองอีกรอบ ข้าจะช่วยดันเ๯้าเอง"

        เซวียเสี่ยวหรั่นออกแรงเหยียบขึ้นไปอีกรอบ แต่ตัวขึ้นไปได้นิดเดียวก็ตั้งท่าจะเซลงมา

        แต่ทันใดนั้นบั้นเอวของเธอก็มีมือใหญ่เพิ่มมาอีกคู่ ยกลอยขึ้นไป เธอจึงขึ้นไปได้สำเร็จ

        "นั่งให้ดี"

        เซวียเสี่ยวหรั่นยังคงงุนงง แต่ก็รีบบิดเอวนั่งหันข้างบนอานม้า

        "หวา... สูงจังเลย"

        ตายละหว่า ทำไมถึงสูงอย่างนี้ แล้วยังขยับได้อีกด้วย เซวียเสี่ยวหรั่นคว้าอานม้าไว้แน่นไม่กล้าขยับแม้แต่น้อย

        "อย่าวิตก ทำผ่อนคลาย ท่าเสวี่ยเดินมั่นคงมาก ไม่ทำเ๽้าร่วงลงมาแน่" เหลียนเซวียนเห็นเอวบางเกร็งจนแข็งทื่อ ก็ปลอบโยนเสียงเบา

        เซวียเสี่ยวหรั่นลองขยับก้น ก็ไม่นับว่าแข็งเท่าไร

        เหลียนเซวียนจูงสายบังเหียนค่อยๆ เดินไปข้างหน้า ให้นางปรับตัวสักครู่

        อาชาก้าวเดินอย่างมีจังหวะ ทำให้เซวียเสี่ยวหรั่นค่อยๆ ผ่อนคลายลง รอยยิ้มสดใสเริ่มผลิบานบนดวงหน้า

        ขี่ม้าก็น่าสนุกเหมือนกัน

        เหลียนเซวียนเห็นเช่นนั้นก็ขึ้นไปขี่ม้าสีน้ำตาลแดงของตนเอง

        ความเร็วเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย อาชาตะบึงไปตามแนวชายป่าอย่างรวดเร็ว

        เหลยลี่ซึ่งติดตามมาโดยตลอด จงใช้รั้งอาชาให้ช้าลง คอยดูอยู่ไกลๆ

        "ท่านอย่าให้ม้าวิ่งเร็วนักสิ" เซวียเสี่ยวหรั่นเพิ่งขี่ม้าเป็๲ครั้งแรก ความรู้สึกโคลงเคลงเดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลงทำให้ฝ่ามือของเธอชุ่มเหงื่อ

        เหลียนเซวียนหันมา ขณะกำลังจะหัวเราะ ใบหน้าพลันเปลี่ยนสี

        จากนั้นก็เอื้อมมือมากระหวัดร่างของเซวียเสี่ยวหรั่นจากบนหลังของเ๽้าท่าเสวี่ยไป

        "ว้าย..." เซวียเสี่ยวหรั่น๻๷ใ๯แทบสิ้นสติกับการกระทำอันอุกอาจและค่อนข้างกะทันหันของเหลียนเซวียน

        เพียงชั่วพริบตาเดียวก็เข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของเขาแล้ว ปลายจมูกมีแต่กลิ่นอายที่ทั้งคุ้นเคยและไม่คุ้นเคย ดวงหน้าเล็กจ้อยพลันแดงซ่าน

        "อย่าขยับ"

        ขณะที่คิดจะดิ้นรนขัดขืน เสียงกดต่ำแต่เข้มขรึมของเขาก็ผ่านเข้ามาในหู

        เซวียเสี่ยวหรั่นจึงหยุดความเคลื่อนไหวทันที

        "ฟิ้วๆ" เสียงของมีคมแสบหูแหวกม่านอากาศออกมาจากป่าอันเงียบสงัด

        เหลียนเซวียนกอดนางไว้พลางเบนกายหลบไปด้านข้าง

        เซวียเสี่ยวหรั่นเห็นลำแสงเย็นสองสายซึ่งเฉียดผ่านแผ่นหลังของเหลียนเซวียนไป ก็๻๠ใ๽จนหน้าซีด

        ขณะที่เธอยังไม่ทันตั้งสติ ก็มีความเคลื่อนไหวในอากาศอีกสองสามหน

        เหลียนเซวียนยังคงโอบนางเบี่ยงซ้ายบ่ายขวา แล้วอาศัย๰่๥๹จังหวะรอยต่อตบเ๽้าท่าเสวี่ยที่อยู่ด้านข้าง

        เท้าทั้งสี่ของท่าเสวี่ยห้อเหยียดออกไปทันที

        ผู้ที่ล้อมอยู่รอบด้าน มองไม่เห็น๰่๥๹ที่ม้าตะบึงไป "ฟิ้วๆๆ" เกาทัณฑ์แหลมคมจำนวนมากพุ่งออกมาจากที่ลับในป่า

        เหลียนเซวียนกระทุ้งสองขาบังคับม้าสีน้ำตาลแดงทะยานตรงไปข้างหน้าราวกับเหาะ หลบเกาทัณฑ์จากด้านหลัง

        "จับให้ดี" เหลียนเซวียนดึงมือทั้งคู่ของเซวียเสี่ยวหรั่นมากอดเอวของตนเอง ดวงตาคมกล้าจดจ้องไปยังบางแห่งด้านหน้า

        เซวียเสี่ยวหรั่นรัดเอวสอบของเขาไว้แน่น กัดฟันไม่เปล่งเสียงสักคำ มองสถานการณ์ลำบากที่กำลังเผชิญอยู่แวบหนึ่ง

        ชายชุดดำกลุ่มใหญ่ล้อมไว้ทั้งสี่ด้าน ในมือของแต่ละคนล้วนมีแสงสะท้อนเย็นวาบ เห็นชัดว่าพวกเขาถูกล้อมเอาไว้หมดแล้ว

        ทันใดนั้นก็มีเสียงผิวปากดังกังวานมาจากด้านหลังส่งสัญญาณบางอย่าง

        "ลงมือ"

        เสียงเหี้ยมเกรียมแข็งกระด้างสายหนึ่งออกคำสั่ง

        ดวงตาของเหลียนเซวียนผุดประกายเย็นเยียบ สายตาคมกริบดุจมีดพุ่งไปยังต้นเสียงนั้นทันที

        "เหลิ่งอี"

        ...

        [1] ม้าหวงเปียว เป็๞หนึ่งในสิบยอดอาชา ลักษณะเป็๞ม้าสีครีมออกเหลืองมีจุดขาวที่บริเวณหน้าท้องและแถบกระดูกซี่โครง ขนบนศีรษะถึงแนวสันคอมีสีขาว รูปร่างของมันจะอ้วนพีที่สุดเมื่อถึง๰่๭๫พระจันทร์เต็มดวง เป็๞ม้าที่หายากตามตำนานในวรรณกรรมสุยถัง

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้