เมื่อที่รักของผมเป็นซีอีโอเจ้าเสน่ห์ (แปลจบแล้ว)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
ลด
เพิ่ม
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

        นอกอาคารอวี้เหล่ย ขณะที่หยางเฉินกำลังสูบบุหรี่อยู่ เขาสังเกตเห็นกลุ่มคนรวมทั้งนายอ้วนเดินคอตกออกนอกอาคารมาอย่างต่อเนื่อง

        นายอ้วนพอเห็นหยางเฉิน ก็กล่าวทักทายด้วยสีหน้าขุ่นเคือง

        "พี่ชาย สมองของพี่ทำด้วยอะไร พี่ตอบคำถามพวกนั้นได้ยังไงน่ะ ผมเองยังไม่เข้าใจข้อสอบภาษาอังกฤษตั้ง 80% และไม่ต้องบอกนะว่าภาษาฝรั่งเศสเป็๲ยังไง"

        "ฮ่าๆ แค่โชคช่วยน่ะ" หยางเฉินตอบนายอ้วนไปส่งๆ เขาไม่สามารถบอกได้ว่า สมองของเขาสามารถจดจำได้ด้วยการเห็นเพียงครั้งเดียว

        หยางเฉินสามารถใช้ภาษาอื่นได้อย่างสมบูรณ์แบบ หลังจากจดจำคำศัพท์ทั้งหมดของภาษานั้นๆ

        นายอ้วนพูดต่ออย่างหดหู่

        "ช่างมันเถอะ คนที่สมองผิดปกติอย่างพี่ได้เข้าทำงานที่อวี้เหล่ย ในขณะที่พี่น้องที่เหลือของพวกเราสอบตก พี่จะต้องรักษาไว้ซึ่งอุดมการณ์ของชายทุกคน"

        "เพราะพี่เป็๞ผู้ที่เหลือรอดเป็๞คนสุดท้าย"

        "ฮะ! ไม่มีใครรอดสักคนเลยเหรอ...!?"

        "ใครมันจะตั้งอกตั้งใจใช้เวลาทั้งวันทำแต่การวิจัยวัตถุประสงค์ของการออกแบบชุดชั้นในและคำศัพท์ภาษาฝรั่งเศสและสเปนล่ะ?"

        ไอ้อ้วนสั่นศีรษะ "อย่างที่ผมเห็นครั้งสุดท้ายรวมทั้งพี่ มีเหลืออยู่ไม่เกิน 5 คน"

        หยางเฉินลูบศีรษะอย่างลำบากใจ เขาเปิดเผยความสามารถมากเกินไปจนมันอาจกลายเป็๞เป้าสายตาได้ เขาควรตอบถูกครึ่งหนึ่งผิดครึ่งหนึ่ง มิฉะนั้นมันอาจมีผลกระทบต่อเป้าหมายเดิมของเขา นั่นคือการหางานแบบสบายๆ

        นายอ้วนถอนหายใจยืดยาว มือตบไหล่หยางเฉินพร้อมกล่าว "เอาล่ะ ผมจะไปดื่มกับพี่น้องคนอื่นๆ ที่ตกรอบ ไม่เช่นนั้นล่ะก็ คงไม่อาจลบเลือนความเ๽็๤ป๥๪ในครั้งนี้ไปได้"

        พูดจบก็เดินไปรวมกลุ่มคนที่ตกรอบทั้งหมด เดินไปลานจอดรถอย่างกับบอยแบนด์แห่งความเศร้าหมอง

        หยางเฉินหันกลับไปที่ห้องโถงใหญ่ ภายในห้องเหลือเพียงสาวงามสามคน ถ้ารวมหยางเฉินด้วยก็มีเพียงสี่คนที่ผ่านการทดสอบ

        เมื่อหยางเฉินเดินเข้ามา โม่เชี่ยนนีรวมทั้งคนอื่นๆ ต่างมองหยางเฉินอย่างกับตัวประหลาด

        โม่เชี่ยนนีสังเกตหยางเฉินอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ปรากฏรอบยิ้มบนใบหน้าพร้อมกล่าวว่า

        "ขอแสดงความยินดีกับคุณหยางด้วย คุณเป็๞ผู้สมัครชายคนเดียวที่เหลืออยู่ และยังเป็๞ผู้ที่ได้คะแนนสูงสุดในการทดสอบภาษาต่างประเทศอีกด้วย"

        ในขณะที่ฟังโม่เชี่ยนนีพูดอย่างสุภาพ เขาแน่ใจแล้วว่าได้เปิดเผยความสามารถมากเกินไป ทักษะของเขาทำให้หญิงสาวทุกคนตกตะลึงกันถ้วนหน้า

        หยางเฉินได้แต่ยิ้มน้อยๆ ก่อนนั่งลงเพื่อรอการสัมภาษณ์รอบสุดท้าย

        เมื่อผู้สมัครเหลือสี่คนก็ไม่จำเป็๲ต้องใช้ไมโครโฟนอีก

        โม่เชี่ยนนีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า

        "พวกคุณทั้งสี่สามารถผ่านการทดสอบภาษาต่างประเทศที่ยากลำบากของเรามาได้ ดูเหมือนพวกคุณจะมีความสามารถอย่างแท้จริง สำหรับรอบสุดท้ายนี้เราจะทำการทดสอบความเข้าใจในสินค้าและแฟชั่น และความสามารถในการชื่นชมสินค้า”

        “ทุกคนรู้ว่าสินค้าของบริษัทเปลี่ยนไปทุกปี และมันยากที่พนักงานใหม่จะแยกแยะว่าสินค้าตัวไหนเป็๞ของบริษัทเรา”

        “เราจะมีนางแบบทั้งหมดสิบคนซึ่งสวมชุดใหม่ของปีนี้ ภายในห้านาที ทุกคนต้องเลือกชุดที่ไม่ใช่ของบริษัทเรา โอกาสมีเพียงหนึ่งเดียว ถ้าใครตอบถูก คุณสามารถเข้าทดลองงานกับเราได้ทันที เป็๲เวลาสองเดือน"

        หยางเฉินเลิกคิ้วขึ้น เขาไม่มีความรู้เ๹ื่๪๫พวกนี้ ในอดีตชุดที่เขาสวมใส่ก็ไม่เคยสนใจว่ามันเป็๞ของแบรนด์ใด

        ขณะเดียวกันนั้นภายในห้องสอบ ผ้าม่านถูกเปิดขึ้นเผยให้เห็นนางแบบทั้งสิบคนในชุดต่างๆ พร้อมสปอตไลท์ที่ส่องลงมา

        สายตาของผู้สมัครสาวทั้งสามเต็มไปด้วยความชื่นชม ผู้หญิงทุกคนชอบสิ่งสวยงามอยู่แล้ว พวกเขาต่างเริ่มต้นการทดสอบด้วยความระมัดระวังถึงขีดสุด

        หลังจากตรวจสอบหน้าอกของนางแบบซ้ำไปมา หยางเฉินเผยรอยยิ้มพร้อมจ้องไปที่ชุดของนางแบบแต่ละคน มีความแตกต่างกัน มีทั้งชุดพิมพ์ลายเสือดาว ชุดวันพีชลายลูกไม้ฉลุ กระโปรงทูทูทำจากผ้าชีฟองและชุดยาวสีชมพูมีสายรัด มีแม้กระทั่งชุดนักธุรกิจสาว สิ่งเดียวที่เหมือนกันคือไม่มีร่องรอยของแบรนด์ใดๆ ปรากฏให้เห็น

        หยางเฉินมองชุดทั้งสิบด้วยสายตาว่างเปล่า จากนั้นไม่นานเขาก็เขียนคำตอบลงไปโดยไม่ลังเล ห้านาทีผ่านไปโม่เชี่ยนนีตบมือส่งสัญญาณให้ผู้ช่วยเดินไปเก็บกระดาษคำตอบ

        หลังจากตรวจดูกระดาษทั้งสี่ โม่เชี่ยนนีกลอกสายตาสายฟ้าฟาดมองหยางเฉินอย่างประหลาดใจ จากนั้นเผยรอยยิ้มพร้อมกล่าวว่า

        "ผลการสอบได้ตัดสินแล้ว บริษัทอวี้เหล่ยของเราขอต้อนรับคุณหยางเฉินอย่างเป็๞ทางการอีกครั้ง!"

        พูดจบก็ปรบมือนำ คนอื่นๆ ต่างปรบมือต้อนรับหยางเฉินด้วยสีหน้ายินดี

        อย่างไรก็ตามผู้สมัครที่เหลือต่างไม่ยอมรับ พวกเธอแพ้คนหยาบคายคนนี้เนี่ยนะ? ในที่สุดหนึ่งในนั้นยกมือถาม

        "ผู้คุม ช่วยบอกคำตอบที่ถูกต้องให้พวกเราได้ไหมคะ?"

        "คุณหยางคะ ช่วยบอกคำตอบที่ถูกต้องให้พวกเรารู้แจ้งทีค่ะ" สุดท้ายเธอตัดสินใจถามหยางเฉินโดยตรง 

        ถึงแม้หยางเฉินจะไม่สนใจสายตาคนรอบข้างที่มองมา แต่แล้วในที่สุดเขาจำต้องแสดงศักยภาพของตนให้ทุกคนเห็นเพื่อหน้าที่การงานในอนาคต

        หยางเฉินถอนหายใจพร้อมยกมือชี้ไปที่นางแบบ

        "ผมเลือกคุณ"

        ผู้สมัครสามคนที่เหลือต่างมองตามมือหยางเฉิน

        คนที่สิบ เป็๲นางแบบคนที่สิบ!

        นางแบบผู้สวมเสื้อผ้าสไตล์โบฮีเมียนแบบยาว (เสื้อผ้าแบบชาวยิปซี) เป็๞เพราะชุดโบฮีเมียนนั้นซับซ้อนและเข้าใจยาก พู่ต่างๆ ดูลึกลับยากที่ผู้หญิงสมัยนี้จะเข้าใจ

        ผู้สมัครต่างตกตะลึง พวกเธอต่างคิดว่าชุดโบฮีเมียนสีสันฉูดฉาดนี้เป็๲ชุดหลอกเสียด้วยซ้ำ

        หยางเฉินไม่สนใจอาการของผู้สมัครทั้งสาม เขาอธิบายต่อไปว่า

        "ถ้าจำไม่ผิด ชุดนี้เป็๲ชุดแฮนด์เมดโดยดีไซเนอร์ชาวอิตาเลียน คริสทัลบนชุดและสร้อยคอล้วนเป็๲ของจริง และชิ้นส่วนเพชรบนหน้าอกนั้นก็เป็๲เพชรจากแอฟริกาใต้ ตามความเห็นของผม ถึงแม้ว่าอวี้เหล่ยจะเป็๲บริษัทชั้นนำของประเทศ แต่ก็ยังไม่อาจใช้เพชรและคริสทัลคุณภาพสูงเหล่านี้มาทำชุดใช่หรือไม่"

        ในขณะนี้ไม่เพียงแต่ผู้สมัครสาวทั้งสาม ทุกคนภายในห้องสอบนี้ต่างหูหนวกเป็๞ใบ้ พวกเธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าหยางเฉินจะรู้ลึกถึงเพียงนี้

        ไม่มีใครรู้ได้เลยว่าขณะนี้หยางเฉินกำลังลอบยินดีอยู่ในใจ

        คนที่ทำชุดนี้ขึ้นมา แท้จริงแล้วเป็๞คนทำเสื้อผ้าให้หยางเฉินใส่นั่นเอง 

        หยางเฉินมองชุดโบฮีเมียนพร้อมนึกในใจว่า ผมใส่ชุดของคุณมาหลายปี ทำไมผมจะจำสไตล์ของคุณไม่ได้ ไม่มีใครในโลกนี้ที่จะรู้ดีถึงชุดของคุณมากไปกว่าผม

        "รอน ตาแก่ปากแข็งผู้ซึ่งไม่ชอบการสวมแว่นตา แม้จะทุกข์ทรมานสายตามากแค่ไหนก็ตาม"


        "คุณยังสบายดีอยู่หรือไม่?"

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้