นอกอาคารอวี้เหล่ย ขณะที่หยางเฉินกำลังสูบบุหรี่อยู่ เขาสังเกตเห็นกลุ่มคนรวมทั้งนายอ้วนเดินคอตกออกนอกอาคารมาอย่างต่อเนื่อง
นายอ้วนพอเห็นหยางเฉิน ก็กล่าวทักทายด้วยสีหน้าขุ่นเคือง
"พี่ชาย สมองของพี่ทำด้วยอะไร พี่ตอบคำถามพวกนั้นได้ยังไงน่ะ ผมเองยังไม่เข้าใจข้อสอบภาษาอังกฤษตั้ง 80% และไม่ต้องบอกนะว่าภาษาฝรั่งเศสเป็ยังไง"
"ฮ่าๆ แค่โชคช่วยน่ะ" หยางเฉินตอบนายอ้วนไปส่งๆ เขาไม่สามารถบอกได้ว่า สมองของเขาสามารถจดจำได้ด้วยการเห็นเพียงครั้งเดียว
หยางเฉินสามารถใช้ภาษาอื่นได้อย่างสมบูรณ์แบบ หลังจากจดจำคำศัพท์ทั้งหมดของภาษานั้นๆ
นายอ้วนพูดต่ออย่างหดหู่
"ช่างมันเถอะ คนที่สมองผิดปกติอย่างพี่ได้เข้าทำงานที่อวี้เหล่ย ในขณะที่พี่น้องที่เหลือของพวกเราสอบตก พี่จะต้องรักษาไว้ซึ่งอุดมการณ์ของชายทุกคน"
"เพราะพี่เป็ผู้ที่เหลือรอดเป็คนสุดท้าย"
"ฮะ! ไม่มีใครรอดสักคนเลยเหรอ...!?"
"ใครมันจะตั้งอกตั้งใจใช้เวลาทั้งวันทำแต่การวิจัยวัตถุประสงค์ของการออกแบบชุดชั้นในและคำศัพท์ภาษาฝรั่งเศสและสเปนล่ะ?"
ไอ้อ้วนสั่นศีรษะ "อย่างที่ผมเห็นครั้งสุดท้ายรวมทั้งพี่ มีเหลืออยู่ไม่เกิน 5 คน"
หยางเฉินลูบศีรษะอย่างลำบากใจ เขาเปิดเผยความสามารถมากเกินไปจนมันอาจกลายเป็เป้าสายตาได้ เขาควรตอบถูกครึ่งหนึ่งผิดครึ่งหนึ่ง มิฉะนั้นมันอาจมีผลกระทบต่อเป้าหมายเดิมของเขา นั่นคือการหางานแบบสบายๆ
นายอ้วนถอนหายใจยืดยาว มือตบไหล่หยางเฉินพร้อมกล่าว "เอาล่ะ ผมจะไปดื่มกับพี่น้องคนอื่นๆ ที่ตกรอบ ไม่เช่นนั้นล่ะก็ คงไม่อาจลบเลือนความเ็ปในครั้งนี้ไปได้"
พูดจบก็เดินไปรวมกลุ่มคนที่ตกรอบทั้งหมด เดินไปลานจอดรถอย่างกับบอยแบนด์แห่งความเศร้าหมอง
หยางเฉินหันกลับไปที่ห้องโถงใหญ่ ภายในห้องเหลือเพียงสาวงามสามคน ถ้ารวมหยางเฉินด้วยก็มีเพียงสี่คนที่ผ่านการทดสอบ
เมื่อหยางเฉินเดินเข้ามา โม่เชี่ยนนีรวมทั้งคนอื่นๆ ต่างมองหยางเฉินอย่างกับตัวประหลาด
โม่เชี่ยนนีสังเกตหยางเฉินอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ปรากฏรอบยิ้มบนใบหน้าพร้อมกล่าวว่า
"ขอแสดงความยินดีกับคุณหยางด้วย คุณเป็ผู้สมัครชายคนเดียวที่เหลืออยู่ และยังเป็ผู้ที่ได้คะแนนสูงสุดในการทดสอบภาษาต่างประเทศอีกด้วย"
ในขณะที่ฟังโม่เชี่ยนนีพูดอย่างสุภาพ เขาแน่ใจแล้วว่าได้เปิดเผยความสามารถมากเกินไป ทักษะของเขาทำให้หญิงสาวทุกคนตกตะลึงกันถ้วนหน้า
หยางเฉินได้แต่ยิ้มน้อยๆ ก่อนนั่งลงเพื่อรอการสัมภาษณ์รอบสุดท้าย
เมื่อผู้สมัครเหลือสี่คนก็ไม่จำเป็ต้องใช้ไมโครโฟนอีก
โม่เชี่ยนนีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า
"พวกคุณทั้งสี่สามารถผ่านการทดสอบภาษาต่างประเทศที่ยากลำบากของเรามาได้ ดูเหมือนพวกคุณจะมีความสามารถอย่างแท้จริง สำหรับรอบสุดท้ายนี้เราจะทำการทดสอบความเข้าใจในสินค้าและแฟชั่น และความสามารถในการชื่นชมสินค้า”
“ทุกคนรู้ว่าสินค้าของบริษัทเปลี่ยนไปทุกปี และมันยากที่พนักงานใหม่จะแยกแยะว่าสินค้าตัวไหนเป็ของบริษัทเรา”
“เราจะมีนางแบบทั้งหมดสิบคนซึ่งสวมชุดใหม่ของปีนี้ ภายในห้านาที ทุกคนต้องเลือกชุดที่ไม่ใช่ของบริษัทเรา โอกาสมีเพียงหนึ่งเดียว ถ้าใครตอบถูก คุณสามารถเข้าทดลองงานกับเราได้ทันที เป็เวลาสองเดือน"
หยางเฉินเลิกคิ้วขึ้น เขาไม่มีความรู้เื่พวกนี้ ในอดีตชุดที่เขาสวมใส่ก็ไม่เคยสนใจว่ามันเป็ของแบรนด์ใด
ขณะเดียวกันนั้นภายในห้องสอบ ผ้าม่านถูกเปิดขึ้นเผยให้เห็นนางแบบทั้งสิบคนในชุดต่างๆ พร้อมสปอตไลท์ที่ส่องลงมา
สายตาของผู้สมัครสาวทั้งสามเต็มไปด้วยความชื่นชม ผู้หญิงทุกคนชอบสิ่งสวยงามอยู่แล้ว พวกเขาต่างเริ่มต้นการทดสอบด้วยความระมัดระวังถึงขีดสุด
หลังจากตรวจสอบหน้าอกของนางแบบซ้ำไปมา หยางเฉินเผยรอยยิ้มพร้อมจ้องไปที่ชุดของนางแบบแต่ละคน มีความแตกต่างกัน มีทั้งชุดพิมพ์ลายเสือดาว ชุดวันพีชลายลูกไม้ฉลุ กระโปรงทูทูทำจากผ้าชีฟองและชุดยาวสีชมพูมีสายรัด มีแม้กระทั่งชุดนักธุรกิจสาว สิ่งเดียวที่เหมือนกันคือไม่มีร่องรอยของแบรนด์ใดๆ ปรากฏให้เห็น
หยางเฉินมองชุดทั้งสิบด้วยสายตาว่างเปล่า จากนั้นไม่นานเขาก็เขียนคำตอบลงไปโดยไม่ลังเล ห้านาทีผ่านไปโม่เชี่ยนนีตบมือส่งสัญญาณให้ผู้ช่วยเดินไปเก็บกระดาษคำตอบ
หลังจากตรวจดูกระดาษทั้งสี่ โม่เชี่ยนนีกลอกสายตาสายฟ้าฟาดมองหยางเฉินอย่างประหลาดใจ จากนั้นเผยรอยยิ้มพร้อมกล่าวว่า
"ผลการสอบได้ตัดสินแล้ว บริษัทอวี้เหล่ยของเราขอต้อนรับคุณหยางเฉินอย่างเป็ทางการอีกครั้ง!"
พูดจบก็ปรบมือนำ คนอื่นๆ ต่างปรบมือต้อนรับหยางเฉินด้วยสีหน้ายินดี
อย่างไรก็ตามผู้สมัครที่เหลือต่างไม่ยอมรับ พวกเธอแพ้คนหยาบคายคนนี้เนี่ยนะ? ในที่สุดหนึ่งในนั้นยกมือถาม
"ผู้คุม ช่วยบอกคำตอบที่ถูกต้องให้พวกเราได้ไหมคะ?"
"คุณหยางคะ ช่วยบอกคำตอบที่ถูกต้องให้พวกเรารู้แจ้งทีค่ะ" สุดท้ายเธอตัดสินใจถามหยางเฉินโดยตรง
ถึงแม้หยางเฉินจะไม่สนใจสายตาคนรอบข้างที่มองมา แต่แล้วในที่สุดเขาจำต้องแสดงศักยภาพของตนให้ทุกคนเห็นเพื่อหน้าที่การงานในอนาคต
หยางเฉินถอนหายใจพร้อมยกมือชี้ไปที่นางแบบ
"ผมเลือกคุณ"
ผู้สมัครสามคนที่เหลือต่างมองตามมือหยางเฉิน
คนที่สิบ เป็นางแบบคนที่สิบ!
นางแบบผู้สวมเสื้อผ้าสไตล์โบฮีเมียนแบบยาว (เสื้อผ้าแบบชาวยิปซี) เป็เพราะชุดโบฮีเมียนนั้นซับซ้อนและเข้าใจยาก พู่ต่างๆ ดูลึกลับยากที่ผู้หญิงสมัยนี้จะเข้าใจ
ผู้สมัครต่างตกตะลึง พวกเธอต่างคิดว่าชุดโบฮีเมียนสีสันฉูดฉาดนี้เป็ชุดหลอกเสียด้วยซ้ำ
หยางเฉินไม่สนใจอาการของผู้สมัครทั้งสาม เขาอธิบายต่อไปว่า
"ถ้าจำไม่ผิด ชุดนี้เป็ชุดแฮนด์เมดโดยดีไซเนอร์ชาวอิตาเลียน คริสทัลบนชุดและสร้อยคอล้วนเป็ของจริง และชิ้นส่วนเพชรบนหน้าอกนั้นก็เป็เพชรจากแอฟริกาใต้ ตามความเห็นของผม ถึงแม้ว่าอวี้เหล่ยจะเป็บริษัทชั้นนำของประเทศ แต่ก็ยังไม่อาจใช้เพชรและคริสทัลคุณภาพสูงเหล่านี้มาทำชุดใช่หรือไม่"
ในขณะนี้ไม่เพียงแต่ผู้สมัครสาวทั้งสาม ทุกคนภายในห้องสอบนี้ต่างหูหนวกเป็ใบ้ พวกเธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าหยางเฉินจะรู้ลึกถึงเพียงนี้
ไม่มีใครรู้ได้เลยว่าขณะนี้หยางเฉินกำลังลอบยินดีอยู่ในใจ
คนที่ทำชุดนี้ขึ้นมา แท้จริงแล้วเป็คนทำเสื้อผ้าให้หยางเฉินใส่นั่นเอง
หยางเฉินมองชุดโบฮีเมียนพร้อมนึกในใจว่า ผมใส่ชุดของคุณมาหลายปี ทำไมผมจะจำสไตล์ของคุณไม่ได้ ไม่มีใครในโลกนี้ที่จะรู้ดีถึงชุดของคุณมากไปกว่าผม
"รอน ตาแก่ปากแข็งผู้ซึ่งไม่ชอบการสวมแว่นตา แม้จะทุกข์ทรมานสายตามากแค่ไหนก็ตาม"
"คุณยังสบายดีอยู่หรือไม่?"