ที่ตีนเขาของยอดเขาพระบุตร เย่เฉินและเจียงหยุนมองหน้ากันโดยไม่พูดอะไรออกมา บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด แต่เย่เฉินที่รู้สึกไม่สบายใจใช้รูปแบบวาร์ปหนีไปทันที พร้อมกับคนที่เหลือที่ติดตามเขาไปด้วย เจียงหยุนมองไปที่ทิศทางที่พวกเขาหายไปแล้วหัวเราะเล็กน้อย ก่อนจะพาทุกคนกลับไปที่ยอดเขาพระบุตรอย่างในเวลาต่อมา
เมื่อหนีมาถึงยอดเขาของตัวเอง เย่เฉินพยายามสอบถามคนที่เหลือว่ามีใครได้รับาเ็หรือเปล่า และชวนพวกเขาไปเดินเล่นเพื่อปลอบใจหลี่ หยูตง แต่หลี่ ซินหยวนยืนยันว่ามีงานที่ต้องทำ เย่เฉินแย้งว่าไม่จำเป็ แต่หลี่ ซินหยวนก็ยังคงดื้อดึง เย่เฉินก็ไม่ยอมแพ้ แต่ก็ได้ยินเสียงของกูชิงเสวี่ยที่บอกให้เขายอมปล่อยหลี่ ซินหยวนไป กูชิงเสวี่ยไม่ค่อยชอบสาวใช้คนนี้เท่าไหร่ และเมื่อได้ยินคำพูดนั้น เย่เฉินจึงยอมให้หลี่ ซินหยวนแยกตัวไป
หลี่ ซินหยวน คิดในใจ "เ้าเด็กน้อยคนนั้นมันตั้งใจจะเกี๊ยวข้างั้นรึ ฝันไปเถอะ"
นางก็คิดในใจว่า เ้าหนูที่ชื่อเจียงหยุนนั้นค่อนข้างน่ากลัวเลยทีเดียวทั้งการฝึกฝนและการตัดสินใจ มันรุนแรงเฉียบคมและเด็ดขาดเหลือเกิน ถ้านางเลือกได้นางไม่อยากมีศัตรูแบบนี้เลย และนางก็เดินไปแต่ไม่ได้กลับไปที่พักคนรับใช้ แต่ตรงไปยังยอดเขาของพระเ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์ทันที เมื่อมาถึงบริเวณนั้น นางได้ยินเสียงที่บอกให้เธอออกไปเพราะนางไม่มีสิทธิที่จะเข้าไป แต่หลี่ ซินหยวนยกตราสัญลักษณ์ของสายหมอกขึ้นมา มันคือสัญลักษณ์ที่แสดงถึงว่าคนๆนั้นจะได้เป็ศิษย์แท้จริงของดินแดนศักดิ์สิทธิ์สายหมอกโดยไม่สนเงื่อนไขใดๆ
พระเ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์มองตรานั้นอย่างประหลาดใจและกล่าวว่า “เ้าเป็ผู้ตรานั้นได้อย่างไร? ชิ้นสุดท้ายของตรานี้ปรากฏขึ้นเมื่อ 10,000 ปีก่อน ข้าเคยมอบให้กับเด็กหญิงคนหนึ่ง เ้าคือหลานของนางงั้นหรือ?” หลี่ ซินหยวนใมากแต่พยายามซ่อนความรู้สึกไว้ พระเ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์มองนางด้วยสายตาที่ไม่อาจปิดบังได้ และถามต่อไปว่า
“เ้าสนใจจะเป็ศิษย์คนแรกของข้าหรือไม่?”
หลี่ ซินหยวนรู้สึกใมากที่พระเ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์ยังไม่รับศิษย์จนถึงตอนนี้ และนางยิ้มให้กับพระเ้า คุกเข่าคำนับ “อาจารย์” ทันที จากนั้นทั้งสองก็หายตัวไปในอากาศ
ที่เมืองแห่งหนึ่ง เย่เฉินนั่งดื่มเหล้ากับศิษย์พี่ทั้งสามของเขา คิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาถามอาจารย์ในใจว่า “ข้าทำผิดพลาดตรงไหน ข้าไม่เข้าใจ” หลงซี่เฉ๋าครุ่นคิดอยู่ แต่นางยังไม่สามารถหาคำตอบได้ สิ่งที่นางคิดถึงคืออาชีพพิเศษที่ไม่เคยมีใครเคยข้ามระดับ 9 ไปได้ นั่นคือ นักวาดภาพ ซึ่งระดับสูงสุดที่นางเคยได้ยินคือระดับ 8 แต่มันเป็สิ่งที่ยากมากและไม่ค่อยมีคนศึกษากัน หลงซี่เฉ๋าไม่ได้บอกเย่เฉินถึงเื่นี้ แต่พูดเพียงว่า
“เ้าก็ไม่ต้องใส่ใจมันมากนัก ฝึกฝนให้แข็งแกร่งที่สุดก็พอ เพราะผู้ชนะคือคนที่เขียนประวัติศาสตร์ เ้าจงจำเอาไว้”
เย่เฉินรับคำและตอบตกลงและเก็บความสงสัยไว้ในใจเท่านั้น
ตัดกลับมาที่เจียงหยุนที่กลับมาถึงยอดเขาพระบุตร เขาไม่รีรอในการเปิดใช้งานรูปแบบมากมายและยืนเทคนิควิชาระดับนักบุญ ชีวิตนิรันดร์ ให้กับ ิไห่ พร้อมทั้งเตรียมเม็ดยาการตรัสรู้ระดับาา ิไห่เห็นการเตรียมการทั้งหมดและใ แต่ก็ไม่ได้รอช้า เริ่มฝึกฝนทันที เขาทำสมาธิอย่างจริงจัง เจียงหยุนสร้างรูปแบบเวลาให้เขาฝึกได้อย่างรวดเร็วและฟื้นฟูร่างกายที่ถูกทำลายของเขาทันที
ปรากฏการณ์การฝึกฝนของิไห่ถูกห้ามไว้โดยระบบ ระบบยิ้มและพูดว่า
[เป็ไง ท่านเห็นถึงความสุดยอดของข้าแล้วใช่ไหม?]
เจียงหยุนสั่งให้ระบบหุบปากและมองไปที่ิไห่ที่กำลังเปลี่ยนกลับสู่รูปร่างที่แท้จริงของตัวเอง ซึ่งผมของเขากลายเป็สีฟ้ายาวสลวยและรูปร่างหล่อเหลา
เมื่อิไห่ฟื้นตัวจากการฝึกฝน เขาคุกเข่าต่อหน้าเจียงหยุนด้วยความเคารพและมอบร่างกายจักรพรรดิสายฟ้าให้กับเจียงหยุน เจียงหยุนยิ้มพร้อมรับมาและใส่มันเข้าไปในโคลนทันที
เมื่อหลงเถิงเห็นหน้าตาที่แท้จริงของิไห่ เขาใและรีบถอนหน้ากากออก มองไปที่ิไห่และหัวเราะออกมาพูดว่า “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะน้องชาย ฟางไห่” ิไห่หันไปมองและเห็นหลงเถิง เขาใและดีใจมาก
เจียงหยุนเห็นเหตุการณ์และโบกมือให้ทุกคนตามสบาย ทั้งสองเข้าไปพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน หลงเถิงถามิไห่ถึงเหตุการณ์การก่อฏ ในวังน้ำวน ทุกคนในที่นั้นต่างสนใจและฟังิไห่เล่าว่าเขาเคยเป็รัชทายาทแห่งราชวงศ์วังน้ำวนและมีนามเดิมว่า ฟางไห่
ิไห่เล่าต่อไปว่า เมื่อตอนที่เขากำลังจะขึ้นครองบัลลังก์ ราชวงศ์ของเขา น้องชายที่ปกติเป็คนอ่อนแอแต่อยู่ๆ ก็เริ่มมีผู้ติดตามที่แข็งแกร่งมากมาย ซึ่งทำให้ท่านพ่อเขาได้เห็นถึงศักยภาพของน้องชายและได้ยืดเวลาการสละราชสมบัติออกไปให้เขาทั้งสองตัดสินกันอีกครั้งในการศึกตัดสินสุดท้าย ซึ่งเขาได้รับชัยชนะ แต่บรรพบุรุษของราชวงศ์ออกมาและกลับตัดสินให้น้องชายเป็ผู้สืบทอดบัลลังก์แทน เขาไม่เห็นด้วยและะโด่าบรรพบุรุษในตอนนั้นไปหลังจากนั้นเขาถูกคุมขังและน้องชายของเขาไม่้าปล่อยให้เขามีชีวิตรอดจึงได้แอบส่งคนมาฆ่าทำร้ายร่างกายเขาจนเกือบตาย แต่เขาได้รับการช่วยเหลือจากแม่ของเขาและถูกส่งไปที่ตระกูลิในแดนเหนือ และมีการออกข่าวว่าเขาเสียชีวิตในข้อหาฏ
เมื่อได้ยินเื่ของิไห่ หลงเถิง ก็เล่าเื่ของตนเองให้ิไห่ฟัง ทำให้ิไห่ใที่เื่ราวของพวกเขามีความคล้ายคลึงกันมากจนน่าประหลาดใจ
ในขณะนั้น เจียงหยุนยิ้มพร้อมบอกให้ทุกคนหยุดและให้หน้ากากกับิไห่ พร้อมบอกให้ทุกคนตามเขามา ิไห่สวมหน้ากากและคิดในใจว่าจะไปที่ไหน หลงเถิงยิ้มและพาเขาไปทันที
ทันใดนั้นภาพก็ตัดและทุกคนปรากฏตัวในป่าแห่งหนึ่งที่มีพลังจิติญญารุนแรงมาก ิไห่รู้สึกว่ามันรุนแรงกว่าข้างนอกถึง 10 เท่า หลงเถิงอธิบายว่าเจียงหยุนพาทุกคนเข้าสู่โลกใบเล็กของเขา
เจียงหยุนอธิบายว่าในโลกนี้มีเส้นเืจิติญญาระดับสูงสุดถึง 10 เส้น และในถ้ำที่มีรูปแบบเวลาเร่งเวลาถึง 1,000 เท่า และรูปแบบรวบรวมจิติญญา 100 เท่า ทุกคนใที่ได้รู้ข้อมูลนี้ ยกเว้นชางเชียนที่กินขนมถังหูลู่เข้าไปเต็มปากของนาง
ทุกคนต่างมองหน้ากันพร้อมคุกเข่าลงและพูดว่า "ข้าจะติดตามนายท่านไปจนกว่าชีวิตข้าจะหาไม่" เจียงหยุนยิ้มจึงโบกมือให้ทุกคนตามสบายและบอกให้พวกเขาเรียกเขาว่าพระบุตรในตอนนี้
เจียงหยุนสร้างรูปแบบเวลาขึ้นมาและเตรียมสร้างเทคนิควิชาใหม่ ให้กับทุกคนเมื่อผ่านไปสักพัก แหวนทั้ง 9 วงก็ถูกโยนไปให้แต่ละคน และบอกให้พวกเขาศึกษาและฝึกฝนเจียงหยุนยังกล่าวให้พวกเขาศึกษาวิชาใจััและปกปิดโชคเป็สองสิ่งแรก และเมื่อพวกเขาไปถึงระดับ 9 ของาานักบุญแล้ว ให้ออกมาจากรูปแบบและแจ้งเขาผ่านแหวนที่ให้ไป เพราะพวกเขาไม่สามารถทะลุระดับนักบุญผู้ยิ่งใหญ่ในที่นี้ได้
ทุกคนตอบรับด้วยเสียงที่หนักแน่นและเต็มไปด้วยความเคารพ ก่อนจะเปิดแหวนและใพบว่ามันเต็มไปด้วยทักษะวิชาหลายชนิด ั้แ่ระดับาาไปจนถึงนักบุญ
ทุกคนไม่รอช้าและเข้าสู่รูปแบบเพื่อฝึกฝนทันทีเพื่อเริ่มต้นเส้นทางใหม่ของตน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้