ซูเฟยซื่อได้ยินประโยคนั้นก็ตะลึงงันไป แต่จุดที่นางกังวลกลับไม่ใช่ชื่อของขันทีน่าตายคนนั้น “วันนี้ควรเป็นัดชิงชัยของหลี่ต่านกับเซ่าชิง” ช่างเป็เื่ที่มาอย่างไม่ทันตั้งตัวจริงๆ เมื่อคิดถึงจำนวนคนที่เดินเบียดเสียดกันข้างใน นางก็นึกหวั่นใจว่าจะหาชายคนนั้นไม่พบ
เพียงแต่อวี้เสวียนจีอยู่ที่นั่นด้วย...
ไม่ได้ เื่นี้นางไม่อาจให้อวี้เสวียนจีรู้ได้เด็ดขาด มิฉะนั้นด้วยความเฉลียวฉลาดของเขา ต้องสามารถตรวจสอบเื้ัของเื่นี้ได้แน่
ตอนนี้นางได้แต่ภาวนาว่า อย่าได้เจออวี้เสวียนจีเลย
ซูเฟยซื่อสูดลมหายใจลึกๆ แล้วสาวเท้าก้าวใหญ่เข้าไปในสนามประลอง เพียงเห็นสนามเป็รูปวงกลมขนาดใหญ่ รอบนอกเป็อัฒจันทร์สำหรับผู้ชม โดยพื้นที่ในสนามมีไว้สำหรับให้นักสู้ได้แสดงฝีมือ ด้านซ้ายและขวาของสนามมีประตูเหล็กบานใหญ่สีดำข้างละหนึ่งบาน บนประตูสลักอักษรยันต์โบราณไว้ ตามตำนานว่านี่มีไว้สำหรับปกป้องคุ้มครองนักสู้
บนอัฒจันทร์แบ่งออกเป็สามชั้น ชั้นสามเป็ม้านั่งยาวที่ทำจากหิน คนนั่งเบียดชิดราวกับกำลังรุมกินข้าวหม้อเดียวกัน ที่นั่งจุดนั้นเสียค่าเข้าชมถูกที่สุด ทั้งยังมีบริการน้ำชาพร้อมสรรพ
ที่นั่งชั้นสองราคาสูงขึ้นอีกนิด มีโต๊ะตั่งวางน้ำชาและถั่วลิสงเมล็ดฟักทอง คล้ายว่านั่งอยู่ในร้านน้ำชาเช่นนั้น
ส่วนราคาที่นั่งชั้นแรกเรียกได้ว่าแพงระยับ ยากที่คนทั่วไปจะจับจอง ทุกที่นั่งมีม่านกึ่งโปร่งแสงคลุมไว้ชั้นหนึ่ง ทำให้ไม่มีใครสามารถมองเข้าไปได้ เพียงสามารถคิดจินตนาการถึงเ้าของที่นั่งเท่านั้น
“คุณชายท่านนี้ไม่คุ้นหน้าเลย? มาครั้งแรกหรือ?” คนคนหนึ่งที่ดูเหมือนเป็คนรับใช้ได้เห็นซูเฟยซื่อรีบก้าวเข้ามาทักทาย
ซูเฟยซื่อพยักหน้า พลางคิดให้คนรับใช้จัดที่นั่งหรูชั้นสองให้ แต่จู่ๆ คนรับใช้กลับถูกคนเรียกไปแล้ว หลังจากรออีกฝ่ายกลับมา เขาไม่เพียงแต่แสดงมารยาทมีความเคารพมากขึ้นด้วยแล้ว กระทั่งแววตาที่มองซูเฟยซื่อก็ไม่เหมือนเดิม
“เป็บ่าวที่มองไม่ดีเอง ถึงกับจำคุณชายแขกผู้มีเกียรติระดับนี้ไม่ได้ ยังขอคุณชายช่วยอภัยขอรับ” คนรับใช้น้อมคารวะซูเฟยซื่อด้วยความเกรงกลัว แล้วโน้มตัวลงทำท่าเชื้อเชิญ “ที่นั่งของคุณชายได้เตรียมเรียบร้อยแล้ว เรียนเชิญที่นี่ขอรับ”
แขกผู้มีเกียรติ? ที่นั่งได้เตรียมเรียบร้อยแล้ว? จะเป็ใครได้? อวี้เสวียนจีหรือ? คนรับใช้ตรงหน้าจำคนผิดงั้นหรือ?
ในใจซูเฟยซื่อได้แต่สงสัย ขณะเดินตามคนรับใช้ไปยังที่นั่งผู้ชมชั้นหนึ่ง องครักษ์ในชุดสีดำสองคนที่ยืนอยู่นอกที่นั่งผู้ชม เห็นซูเฟยซื่อก็คำนับทันที
คนรับใช้เลิกม่านผ้าไหมหรูหรา จึงเห็นใบหน้าที่แท้จริงของผู้ที่อยู่หลังม่านชัดเจน
เห็นอวี้เสวียนจีในชุดเสื้อคลุมยาวสีดำพิงบนที่นั่งประธานซึ่งปกคลุมด้วยขนสุนัขจิ้งจอกอย่างเกียจคร้าน ยามหรี่ตาลงเล็กน้อย ขนตางอนยาวดุจพัดก็ยิ่งชัดเจน แม้สีหน้าท่าทางของอีกฝ่ายจะดูสบายใจไม่ยี่หร่ะต่อสิ่งใด ทว่าคนตรงหน้ากลับทำให้ร่างซูเฟยซื่อแข็งทื่อไปตั้งนานแล้ว
ทั้งที่คิดว่าจะสามารถหลอกอวี้เสวียนจีได้ นางดูแคลนเขาเกินไปจริงๆ ไม่คิดว่าเพียงก้าวเข้าประตูก็ถูกพามาอยู่ตรงนี้แล้ว
ตอนนี้ควรทำอย่างไรดี? ภายใต้จมูกของอวี้เสวียนจีเช่นนี้ นางจะสามารถปิดบังอะไรไปได้อีก?
“เ้าตัวเล็ก นี่เ้าสนใจเื่นี้ด้วยหรือ?” อวี้เสวียนจีเหลือบตาหงส์มามองพลางกล่าว
ซูเฟยซื่อถูกเสียงของเขาลากเอาสติกลับมา จึงได้เห็นหญิงสาวหลายคนนั่งปรนนิบัติอยู่ข้างกายเขา โฉมหน้าแต่ละคนล้วนงามเลิศ ผ้าไหมบางเบาสีแดงเรื่อคลุมกาย สามารถเห็นรูปร่างนูนเว้าน่ามองและผิวผ่องขาวดั่งหิมะ
จำได้ว่าซางจื่อเคยบอกนางไว้ มีธุรกิจค้าขายเนื้อหนังในสนามประลองแห่งนี้ เพียงแต่… ขันทีหาหญิงสาวด้วยหรือ?
ไม่มีสิ่งนั้นไว้ใช้งาน แล้วเขาจะหามาทำไม? หามาให้ตัวเองปวดใจเล่นๆ หรืออย่างไร!
เมื่อคิดถึงปมในใจของอวี้เสวียนจี นึกไปถึงท่าทางทั้งเสียทั้งปวดใจที่คิดกินแต่ไม่สามารถกินได้ ซูเฟยซื่อก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้
เห็นแบบนั้นแล้ว สีหน้าของอวี้เสวียนจีกลายเป็หน้าง้ำหน้างออย่างอดไม่ได้ หยิบถั่วลิสงเม็ดหนึ่งดีดใส่หน้าผากของนาง “คิดฟุ้งซ่าน”
“โอ้ย” ซูเฟยซื่อถูกเล่นงานโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ร้องอย่างตื่นตระหนกเสียงหนึ่ง โกรธจนคิดพุ่งเข้าไปซัดกับอวี้เสวียนจีสักยก แต่เพราะนางไม่สามารถเอาชนะเขาได้ ก็ทำเพียงระบายความโกรธไปบน “หญิงสาว” รอบกายเขา “มัวมองอะไรเล่า พวกจงไสหัวไปเดี๋ยวนี้!”
อวี้เสวียนจีกลับชอบดูท่าทีทั้งโกรธทั้งอับอายของนางเป็ที่สุด หยักมุมปากยิ้ม และจงใจแกล้งนาง “เ้าตัวเล็ก ท่าทางแบบนี้ หรือว่าเ้าจะหึงหวง?”
เ้าคนปากเสีย สงสัยจะนิสัยแย่แบบนี้ทั้งตระกูล!
ซูเฟยซื่อลอบด่าในใจ กำลังเอ่ยปาก เสียงร้อนใจของซางจื่อได้ดังมา “คุณหนู ท่านอย่าได้หึงหวงไปเลยเ้าค่ะ ท่านอ๋องพันปีไม่ใช่คนแบบนั้น”
เดิมไม่มีเื่ แต่เมื่อซางจื่อออกตัวอธิบายแบบนี้ กลับดูเหมือนมีอะไรบางอย่างแล้วจริงๆ
ใบหน้าของซูเฟยซื่อพลันแข็งทื่อ เหลือบเห็นสีหน้าซางจื่อดูจริงจังไม่เหมือนล้อเล่น ก็พลันรู้สึกถึงเสียงฟ้าร้องครืนๆ
ซางจื่อคงไม่คิดว่านางชอบอวี้เสวียนจีหรอกนะ
แม้อวี้เสวียนจีจะดูดีมีเสน่ห์ แม้อวี้เสวียนจีจะเก่งกาจทั้งเื่บู๊และบุ๋น แม้อวี้เสวียนจะจีตำแหน่งสูงบารมีหนัก แม้อวี้เสวียนจีจะมีเงินทองมากมายจนท่วมหัว แม้ว่า...
แต่ทั้งนี้เขาก็เป็ขันทีคนหนึ่ง นางย่อมต้องคิดถึงความสุขในอนาคตของตนก่อน!
มุมปากซูเฟยซื่อกระดกเบาๆ คิดจะอธิบาย แต่กลับเห็นอวี้เสวียนจียิ้มอย่างมีความสุขแบบนั้น ยังไม่ลืมที่จะราดน้ำมันลงบนไฟ “อย่าได้หึงหวงไปเลย พวกนางต่างเป็คนของข้าอุปราชที่จัดไว้ที่นี่ เ้าคิดดูก่อน ว่าทำไมข้าถึงทราบเื่ต่างๆ ได้ไวนัก?”
ที่แท้เป็เช่นนี้ ทั้งขุนนางและพ่อค้าใครบ้างไม่มองหาหญิงสาว?
ขณะที่มองหาหญิงสาวก็เป็เวลาที่พวกเขาผ่อนคลายมากที่สุด เวลาแบบนี้คิดอยากได้ความใดไหนเลยที่อีกฝ่ายจะปากหนักไม่ตอบคำถามได้
เพียงแต่คาดไม่ถึงว่าอวี้เสวียนจีจะบอกเื่นี้แก่นาง นี่ไม่กลัวว่านางจะเอาไปพูดทีหลังหรือ?
ซูเฟยซื่อไม่ได้พูด สายตาที่มองอวี้เสวียนจีพลันเปลี่ยนเป็จริงจัง เห็นเช่นนี้อวี้เสวียนจีรีบโบกมือส่งสัญญาณให้เหล่าหญิงสาวออกไปทันที
รอจนพวกนางไปกันแล้ว จึงเอ่ยปากเรียกอีกฝ่าย “เ้าตัวเล็ก มานี่ มาๆ มาดูการแข่งขันเป็เพื่อนข้านี่”
สีหน้านี้ น้ำเสียงนี่ เรียกสุนัขอยู่หรือไง?
แม้จะไม่พอใจอยู่ลึกๆ แต่ซูเฟยซื่อยังเดินอย่างเชื่อฟังไปนั่งลงข้างกายเขา ถึงอย่างไรผู้รู้กาลเทศะ ย่อมเป็ผู้เก่งกาจ นอกจากนี้นางยังมีสิ่งสำคัญที่ต้องทำ
เห็นนางเชื่อฟังแบบนี้ อวี้เสวียนจีก็อดเลิกคิ้วไม่ได้ แววคมกริบชั่วร้ายแวบผ่านดวงตาไปปราดหนึ่ง ไม่ได้เอ่ยวาจาอะไร
ซูเฟยซื่อเพิ่งนั่งลงไม่นานก็ได้ยินเสียงแตรเขาสัตว์ดังขึ้นทั่วสารทิศ เหล่าผู้ชมในสนามประลองต่างโห่ร้องดังกึกก้อง
ชั่วขณะที่เสียงโห่ร้องของผู้คนที่ราวกับเสียงฟ้าร้อง เสียงแตรเขาสัตว์ถูกกลบจนไม่ได้ยิน บรรยากาศเช่นนี้ทำเอาเืของซูเฟยซื่อพลันเดือดพล่าน
คิดถึงปีนั้นที่นางตามบิดาร่วมสนามรบสู้ศัตรู ก่อนที่กองทัพทั้งสองจะประจัญบาน เสียงเป่าแตรเขาสัตว์ก็ดังขึ้นเช่นนี้ เพียงแต่ว่าสนามประลองแห่งนี้ยังยิ่งใหญ่ไม่เท่าสนามรบก็เท่านั้น
ชายผู้ปกป้องครอบครัวคุ้มกันประเทศนับหมื่นพุ่งทะยานเข้ารบโรมรัน ลำพังเพียงเสียงะโขู่ฆ่าก็สามารถทำให้แผ่นดินผืนไหวสะท้าน
ตอนนี้ได้ยินเสียงเป่าแตรเขาสัตว์กับเสียงโห่ร้องสั่นะเืฟ้าแบบนี้อีกครั้ง ซูเฟยซื่อเกือบจะคิดว่าได้ย้อนกลับใน่เวลานั้น นางตื่นเต้นกระทั่งไม่ได้สังเกตแววตาสงสัยของอวี้เสวียนจีทั้งสิ้น
ไม่คาดว่าสาวน้อยเล็กๆ คนหนึ่งจะสนใจเื่โหดร้ายอำมหิตนองเืชนิดนี้ได้ นับว่าน่ามหัศจรรย์ ทว่าตอนนี้การแข่งขันยังไม่เริ่มขึ้น
ปฏิกิริยาการตอบโต้ของนาง ดูตื่นเต้นราวกับได้เผชิญกับเหตุการณ์นี้ด้วยตัวเอง
ดูไปแล้วซูเฟยซื่อไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่เขาคาดไว้
ความลับหรือ?
ที่แท้นางยังซ่อนความลับบางอย่าง ความลับที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้!
เสียงแตรเขาสัตว์สิ้นสุดลง ประตูเหล็กทั้งสองด้านในสนามแข่งขันค่อยๆ เปิดออก แต่ละฝั่งมีผู้ชายคนหนึ่งเดินออกมา
ทว่าดวงตาทั้งคู่ของซูเฟยซื่อกลับสว่างขึ้นทันตา
นั่นเขาหรือ? ผู้ชายคนเมื่อครู่ที่นางตามมาตลอดทาง!
ในที่สุดนางก็ได้เห็นใบหน้าตรงๆ ของเขาแล้ว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้