ภายในเรือน
เ้านายทั้งสองที่อยู่ในตำหนักเฟิ่งชัยมิได้รู้เื่นี้เลย ซ่งอี้เฉินปลอบใจเหยียนอู๋อวี้อยู่ครู่หนึ่ง หลังจากเอ่ยกำชับเสียงดังจึงคิดจะจากไปอย่างไม่เต็มใจนัก ประหนึ่งความรู้สึกเสน่หาของบุรุษหนุ่มน้อย
หลังจากเขาจากไปไม่นาน พลันมีข่าวแพร่สะพัดเื่ซูเฟยถูกกักบริเวณ
“ในเวลานั้น ซูเฟยร้องห่มร้องไห้อย่างหนักด้วยความรู้สึกว่าตนเองถูกใส่ร้าย ทว่าฮ่องเต้ไม่แม้แต่จะชายตามองนาง โดยทิ้งท้ายเพียงคำว่า ‘กักบริเวณ’ แล้วก็จากไป!” ซูอิ่งกล่าวด้วยความดีใจทั้งยังไม่ลืมที่จะกล่าวชมเชยเหยียนอู๋อวี้ว่า “นายหญิง ฝ่าาทรงโปรดปรานท่านยิ่งนัก”
โปรดปรานหรือ? ไม่น่าจะเป็เช่นนั้นกระมัง เื่ที่เกิดขึ้นในวันนี้ ทุกคนต่างรู้ดีว่าซ่งอี้เฉินเพียงเพื่อนางถึงขั้นทำร้ายจิตใจซูเฟย
หากแต่ไม่มีผู้ใดรู้ว่านางถูกวางยาพิษจนเกือบเสียชีวิต ทว่าฮวารั่วซีที่ยืนดูคนรับใช้ของตัวเองถูกลงทัณฑ์ทุบตีจนตาย ส่วนตัวนางเองกลับถูกลงโทษด้วยการกักบริเวณเพียงแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น
ภายในใจเหยียนอู๋อวี้รู้สึกเ็า ทว่าใบหน้ากลับแสดงท่าทีเขินอาย นางพยักหน้าและกล่าวว่า “ฝ่าาทรงโปรดปรานข้าจริงๆ ไม่มีผู้ใดกล้าเป็ปฏิปักษ์กับซูเฟย ทว่านางต้องถูกลงโทษเพียงเพราะข้า”
ซูอิ่งยิ้มและพยักหน้า นางยังอยากจะเอ่ยบางอย่าง เหยียนอู๋อวี้หัวเราะพลางกล่าวว่า “วันนี้ทุกคนต่างใกับเื่ที่เกิดขึ้น พวกเ้ากลับไปพักผ่อนให้เต็มที่เถิด ทางนี้ให้ป้าโฉ่วคอยดูแลรับใช้ก็พอแล้ว”
ซูอิ่งเหลือบมองป้าโฉ่ว ก่อนจะจากไปพร้อมกับอีกสองคน
เหยียนอู๋อวี้ลุกขึ้นไปนั่งที่โต๊ะน้ำชา จากนั้นจึงเอื้อมมือไปหยิบกาซึ่งภายในมีน้ำต้มสุกมาทำความสะอาดถ้วยชาด้วยท่วงท่าสง่างาม ก่อนจะชงชาสองถ้วยแล้วผลักหนึ่งถ้วยไปด้านหน้าป้าโฉ่ว ความอ่อนแอไร้เดียงสาเมื่อครู่ของนางนั้นได้หายไปจนหมดสิ้น
“แม่นาง ต่อไปงานหยาบเล็กน้อยเหล่านี้ปล่อยให้เป็หน้าที่ของข้าเองเถิด” ป้าโฉ่วรีบกล่าว
เหยียนอู๋อวี้มองนางแล้วจึงเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจังว่า “พวกเราเป็เพื่อนกัน อยู่ส่วนตัวไม่จำเป็ต้องมากพิธีถึงเพียงนั้น”
ป้าโฉ่วมองเหยียนอู๋อวี้และลังเลที่จะเอ่ยบางอย่าง จากนั้นครู่หนึ่งจึงเอ่ยว่า “แม่นาง ร่างกายของท่านไม่สามารถทนต่อการทรมานเช่นนี้ได้อีกต่อไป ข้าเกรงว่า......”
“ป้าโฉ่ว ต่อไปอย่าได้กล่าวเช่นนี้อีก เ้าควรรู้ว่าเหตุใดข้าจึงต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป......”
ป้าโฉ่วถอนหายใจพลางเอ่ยถามว่า “แม่นางกล่าวว่าซ่งอี้เฉินเป็บุรุษที่มีจิตใจละเอียดอ่อน ทว่าเหตุใดข้าจึงรู้สึกว่าเขาเหมือนกับบุรุษทั่วไปที่หมกมุ่นอยู่แต่กับเื่ตัณหาราคะกัน”
กล่าวกันว่าซูเฟยได้รับการโปรดปรานมากที่สุดในตำหนักหลัง ทว่าหลังจากเหยียนอู๋อวี้ซึ่งงดงามหยาดเยิ้มยิ่งกว่าได้ปรากฏตัว เวลาเพียงไม่กี่วันเขาก็ตกหลุมรักนาง และวันนี้ได้เขาลงโทษฮวารั่วซีโดยไม่คิดคำนึงถึงความรักเมื่อครั้งเก่าก่อนแม้แต่น้อย ซ่งอี้เฉินผู้โเี้เช่นนี้ ไม่คล้ายกับภาพลักษณ์ที่บรรดาหญิงสาวเคยพูดถึงเลยจริงๆ
“เขาเปลี่ยนไปแล้ว เปลี่ยนเป็เก่งในการเก็บซ่อนอารมณ์ตนเองและรู้วิธีที่จะใช้ประโยชน์จากผู้อื่น” เหยียนอู๋อวี้รินน้ำชาอีกถ้วยให้ตัวเอง มุมปากยกยิ้มแฝงไปด้วยการเยาะเย้ย “ในการต่อสู้แย่งชิงอำนาจครั้งนี้ เขารู้สึกว่าง่ายและสบายใจมากขึ้น”
“แม่นางหมายความว่า ทั้งหมดนี้เป็เพียงละครฉากหนึ่งหรือ?”
ดวงตาของเหยียนอู๋อวี้เปล่งประกายอย่างชัดเจน “ถูกต้อง”
“ทว่าแม่นางบอกว่าฮวารั่วซีคือคนที่เขารักอย่างสุดซึ้งมิใช่หรือ เช่นนั้นเหตุใด......สิ่งแรกที่เขาทำในวันนี้จึงเป็......”
“บางทีเขาอาจมีแผนการอย่างอื่น เพียงแต่ข้ายังหาเหตุผลไม่ได้” เหยียนอู๋อวี้ยิ้มเยาะอีกครั้ง นางดื่มชาพลางกล่าวอย่างใจเย็น “เมื่อเอ่ยถึงเื่นี้ เขาก็ยังต้องขอบคุณข้า”
ซ่งอี้เฉินมิได้แยแสสิ่งใด เห็นได้จากพฤติกรรมที่สงบนิ่งเช่นนั้น
ฮวารั่วซีเรียบง่ายและชัดเจนอย่างที่เขาพูดจริงๆ หรือ? หญิงสาวกำพร้าผู้นั้นนั่งอยู่ในจุดที่อยู่ในวันนี้ได้อย่างไร?
ใบชาซึ่งเป็ของกำนัลเ่าั้ผสมยาพิษ ทว่าร่างกายของป้าโฉ่วนั้นแตกต่างออกไป ป้าโฉ่วเป็ศิษย์สายตรงของเ้าหุบเขาหลิงอี นางนอกจากจะมีทักษะทางการแพทย์อยู่ในระดับสูงแล้ว นางยังมีความเชี่ยวชาญในด้านการปรุงยาอีกด้วย ปกติแล้วใบชาเหล่านี้ไม่อาจรอดพ้นสายตาของนางไปได้
ฮวารั่วซีฉลาดยิ่งนัก จึงไม่ได้ใส่ผงฟานมู่เปียมากเกินไป คนทั่วไปสามารถดื่มได้ปกติ ทว่าหากสตรีมีครรภ์ดื่มจะทำให้แท้งอย่างแน่นอน เกรงว่านางคงจะกลัวว่าเหยียนอู๋อวี้จะตั้งครรภ์หลังจากหลับนอนกับเขา จึงใช้วิธีนี้เพื่อตัดช่องทางของนางไว้ก่อน
หลังจากที่เหยียนอู๋อวี้สังเกตเห็นความตั้งใจของฮวารั่วซี จึงได้วางแผนซ้อนแผนนี้กับป้าโฉ่ว
หลายปีมานี้นางถูกยาพิษมานานแล้ว และแม้จะดื่มชาจนหมดก็ไม่ใช่เื่ใหญ่อันใด นางทำได้เพียงอาศัยป้าโฉ่วซึ่งใช้ยาพิษที่ทำให้เกิดอาการเดียวกับโรคเหน็บชา เพื่อทำให้หมอหลวงวินิจฉัยว่าเป็โรคเหน็บชาเท่านั้น
ทุกอย่างเป็ไปอย่างราบรื่น
“ท่านพ่อบอกว่าซ่งอี้เฉินไม่ใช่คนดี ทว่าข้ามิได้เชื่อคำพูดของท่าน” เหยียนอู๋อวี้สารภาพด้วยน้ำเสียงแ่เบา “ท่านพ่อ ลูกผิดไปแล้ว...…”
“แม่นางรักษาสุขภาพด้วย ร่างกายของท่าน......ทนต่อการทรมานเช่นนี้ไม่ได้” ป้าโฉ่วรู้สึกเป็ทุกข์ “นี่คือวิธีที่จะกำจัดคนเหล่านี้ให้หมดสิ้นได้”
“กำจัดคนเหล่านี้ให้หมดสิ้นมันช่างน่าเบื่อเสียจริง!” เหยียนอู๋อวี้ยกยิ้มขยิบตา ใช้นิ้วเรียวยาวหยิบกาต้มน้ำขึ้นมาพลางจ้องมองน้ำเดือดที่ไหลลงไปกลิ้งอยู่บนถ่านไฟในเตา “ไฟนี่ต้องค่อยๆ ดับถึงจะน่าสนใจ เพราะเ้าจะได้เห็นพวกมันดิ้นรนอย่างตื่นตระหนก และได้ยินเสียงพวกเขาร้องอย่างทรมาน”
ควันเตาลอยขึ้นไปในอากาศ นางมิได้หลั่งน้ำตาเพียงแค่ดวงตาทั้งคู่พร่ามัว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้