บทที่ 201 ตื่นแล้ว?
ท่ามกลางซากปรักหักพังของศาลเ้า ฉู่อวิ๋นประคองฉู่ซินเหยาที่อาการร่อแร่ด้วยมือข้างเดียว ดวงตาของเขามืดมน ม่านตามีขีดเส้นแนวตั้งสีแดง
สายตาจ้องมองไปที่มือขวาแปลกๆ ของตนเอง มันปกคลุมไปด้วยเส้นสีดำหนาแน่น มองเห็นปราณกระบี่ัแดงหมุนวนไปรอบๆ พ่นควันไฟออกมา งดงามและยอดเยี่ยมไม่มีที่เปรียบ
“คิดไม่ถึงว่าพร์ิญญายุทธ์ของข้าจะมาช้าขนาดนี้” ฉู่อวิ๋นกระซิบ เสียงของเขาแหบแห้งและทุ้มต่ำ
ในความเป็จริง ิญญากระบี่ที่โเี้และดุร้ายนี้ เป็พร์ิญญายุทธ์ที่ิญญากระบี่บาป์มอบให้กับฉู่อวิ๋น ยามที่กระบี่บาป์ซ่อมแซมรอยแตกก่อนหน้านี้ ฉู่อวิ๋นก็เรียนรู้วิธีการใช้งานของมันได้ในทันที
พร์ิญญายุทธ์นี้เรียกว่าวิชากระบี่ิญญาศักดิ์สิทธิ์ แผดเผาแปดทิศ
ฟังดูเหมือนจะเป็ทักษะกระบี่ แต่สามารถใช้ได้โดยไม่ต้องใช้กระบี่และมีพลังมาก แม้แต่ฉู่อวิ๋นเองก็ยังรู้สึกประหลาดใจ
ต้องรู้ว่า ทันทีที่ปราณไฟสีแดงพวยพุ่งออกมา ก็สามารถสังหารเหล่าองครักษ์เทวัญได้ทั้งหมดในคราวเดียว พวกเขาคือนักรบขั้นพื้นพิภพเลยนะ!
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ฉู่อวิ๋นในตอนนี้ ขอเพียงเปิดใช้งานพร์ิญญายุทธ์ เขาก็สามารถต่อกรได้กับทุกขั้นยุทธ์ และแม้กระทั่งสังหารอีกฝ่ายได้ มันค่อนข้างน่ากลัว จนหลายคนหวาดผวา
“วิชากระบี่ิญญาศักดิ์สิทธิ์… สายโซ่ศักดิ์สิทธิ์ลวงตา…”
“เ้าเป็ตัวอะไรกันแน่?”
ยามนี้ ฉู่อวิ๋นตื่นเต้นมาก แต่เขาเองก็สังเกตเห็นว่ามีพลังลึกลับกำลังช่วยเหลือเขาอยู่
พลังนี้มาจากโลงศพท่ามกลางสมุทรดาราที่อยู่ด้านหลังประตูบานที่สองของโถงกระบี่แปดบัญชร
แต่ยามนี้อยู่ใน่เวลาเป็ตาย และยังมีผู้แข็งแกร่งหลายคนที่อยู่รอบๆ กำลังเฝ้าดูอย่างตื่นตะลึง ฉู่อวิ๋นไม่มีเวลาพอที่จะเข้าไปตรวจสอบในโถงกระบี่แปดบัญชร
ยิ่งไปกว่านั้น นับั้แ่รูปธรรมิญญาแท้ปรากฏออกมาและมอบพร์ิญญายุทธ์ให้กับฉู่อวิ๋น พลังงานลึกลับนั้นก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
มีอะไรอยู่ข้างในโลงศพ? แม้จะอยากรู้ใจจะขาด แต่ฉู่อวิ๋นก็ส่ายหัวเพื่อปลุกตัวเองให้ได้สติขึ้นมา ท้ายที่สุดแล้ว ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาสำรวจ
“ฆ่า…” ทันใดนั้น ฉู่อวิ๋นก็คำราม สีหน้าของเขากลับมาดุร้ายอีกครั้ง เขาหรี่ตาลง เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า
ภายใต้ท้องฟ้าสีคราม มองเห็นผู้คนเนืองแน่น พลังปราณวูบไหว
นั่นคือกลุ่มผู้แข็งแกร่งที่พยายามแย่งชิงโยวกู่จือ
“ฮึ่ม! คิดว่าตระกูลผู้ฝึกฝนศักดิ์สิทธิ์ของเรากินเป็แต่ผัก[1]หรือ? กล้าดีอย่างไรที่ติดจะกลืนกินบรรพบุรุษเราเช่นนี้?” หลิงจื้อสร้างขอบเขติญญาของเขาขึ้นมาและโจมตีต่อไปรอบทิศทาง ต่อต้านการรุกรานของทุกคน
แต่ดังคำกล่าวที่ว่า สองหมัดยากต้านทานสี่ฝ่ามือ[2] แม้ว่าโยวกู่จือจะคอยให้ความช่วยเหลือ แต่หนึ่งคนหนึ่งร่างิญญาก็ค่อยๆ สูญเสียพลัง หายใจไม่ทั่วท้อง
ในขณะนี้ หลิงจื้ออยู่ในสภาพน่าอับอายอย่างยิ่ง เสื้อผ้าของเขาเปื้อนเื มีาแมากมายบนร่างกาย และพลังปราณค่อนข้างอ่อนแอ
“เ้าหนูเฒ่า ไม่ต้องสนข้า ข้าไม่้าให้เ้ามาช่วย! ไปซะ!” โยวกู่จือะโ ไข่มุกะเิไทวะเปล่งประกาย สายฟ้าสีเงินฟาด “เปรี๊ยะ” กระทบกับความว่างเปล่า ลอยอยู่เหนือเมฆดำ
แต่ศัตรูมีมากเกินไป พวกเขาต่างกรุ้มรุมเข้ามา ต่อสู้เพื่อร่างิญญา ทั้งหมดรีบเข้ามาอย่างสุดกำลังโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของตัวเอง
ในไม่ช้า ไข่มุกะเิไทวะก็เข้มขึ้นเรื่อยๆ แทบไม่ต่างจากไข่มุกสีดำธรรมดาแล้ว
“จิ๊ๆๆ สัตว์ประหลาดเฒ่า ยอมจำนนเสียดีๆ! บางที ข้าอาจจะกังขังเ้า เก็บเ้าไว้เป็สัตว์เลี้ยงิญญาแทน! ฮิๆๆๆ!”
ผู้เฒ่าเป่ยโหมวหัวเราะชั่วร้าย เสียงหัวเราะนั้นบาดหูและน่ากลัว ทำให้ผู้แข็งแกร่งที่อยู่ใกล้ๆ ปิดหูทันที เืออกทั้งเจ็ดทวาร และล้มลงกับพื้นทีละคน
นี่คือวิชายุทธ์คลื่นพลัง ที่ใช้พลังปราณเปลี่ยนความถี่ของคลื่นเสียงเพื่อโจมตีผ่านโสตประสาทของคู่ต่อสู้ มันแปลกประหลาด คมกริบ และมิอาจป้องกันได้
“กรงเล็บลมดำแห่งโศกา!” ทันทีที่เห็นจำนวนคนรอบตัวเริ่มเบาบาง ผู้เฒ่าเป่ยโหมวยกยิ้มอย่างชั่วร้ายและแสดงวิชายุทธ์ที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาออกมา คิดอยากให้สำเร็จด้วยกระบวนท่าเดียว จากนั้นก็จะหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
“ฟิ้ว!”
ลมสีดำพัดมาอย่างลึกลับและน่าสะพรึงกลัว มองเห็นมือใหญ่ปกคลุมท้องฟ้า นิ้วทั้งห้ากางออก และด้วยพลังปีศาจอันท่วมท้น มันพยายามคว้าจับไข่มุกะเิไทวะ
“พวกนอกลู่นอกทาง!” โยวกู่จือพูดดุอย่างเ็า และไข่มุกก็ะเิออกมาเป็ระลอกคลื่น ส่งเสียงพึมพำหนวกหู ตั้งใจที่จะต่อสู้กับมือสีดำขนาดใหญ่นี้
แต่ทันทีที่เริ่มปล่อยระลอกคลื่น โยวกู่จือก็ตัวสั่น และจำได้ทันทีว่าตนยังไม่ฟื้นสู่่รุ่งโรจน์ เพราะเมื่อไม่นานนี้ เขาได้ช่วยฉู่อวิ๋นสร้างเครื่องหมายิญญาไปแล้ว
“ฟิ้ว!”
ไวเท่าความคิด โยวกู่จือควบคุมไข่มุกะเิไทวะให้ถอยหลังอย่างรวดเร็ว
“จิ๊ๆ เ้าเก่งกาจนักมิใช่หรือ? เ้าสัตว์ประหลาดเฒ่า จะหลบทำไม? รับมือ!” ผู้เฒ่าเป่ยโหมวเผยรอยยิ้มน่ากลัว ด้วยกรงเล็บสีดำขนาดใหญ่ เขาก็ซัดคลื่นออกไปทันที
ทันใดนั้น มือใหญ่ของเขาก็พุ่งสู่อากาศ และด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ มันตามติดโยวกู่จือได้ในทันใด คว้าจับไข่มุกแห่ง์ไว้ในฝ่ามือสีดำขนาดใหญ่อย่างมั่นคง
“บรรพบุรุษ!” เมื่อเห็นสิ่งนี้ หลิงจื้อก็ตกตะลึง เขาเคารพโยวกู่จืออย่างจริงใจ เมื่อเห็นบรรพบุรุษถูกจับ เขาก็ไม่สนใจสิ่งใด รีบวิ่งไปในทิศทางของโยวกู่จือ
“ผู้เฒ่า ท่านประมาทเกินไปแล้ว! วันนี้อย่าคิดจะออกไปจากที่นี่เลย!”
แต่ในตอนที่หลิงจื้อกำลังวอกแวก ผู้แข็งแกร่งอีกหลายคนก็ถือโอกาสลงมือ เงาหมัดและกระบี่ของพวกเขาพาดผ่านท้องฟ้า ทำให้หลิงจื้อถูกกระแทกออกไปทันที กระอักเืออกมาหลายคำ
คนเหล่านี้ล้วนเป็เ้าสำนักและผู้นำตระกูลที่รอบคอบ ต่างรู้ดีว่าหากตระกูลหลิงได้รู้เื่การปิดล้อมนี้ จะเกิดปัญหาไม่รู้จบ
ดังนั้น แม้ว่าพวกเขาจะจับโยวกู่จือไม่ได้ แต่ก็จะไม่ปล่อยหลิงจื้อให้หลุดมือไป ้าฆ่าคนปิดปาก
“เวรเถอะ! ถูกจับได้แล้วจริงๆ เ้าเด็กเวร ตอนที่ข้าครองโลกเ้ายังดูดนมอยู่เลย! รีบปล่อยข้าออกไป!” ไข่มุกะเิไทวะถูกมือใหญ่คุมไว้ แต่โยวกู่จือก็ยังคงเย่อหยิ่งและพูดด่าได้อย่างเจ็บแสบ
“จิ๊ๆ ตอนนี้ข้าไม่กินนมแล้ว แต่จะกินเ้าแทน!”
ทันใดนั้น ผู้เฒ่าเป่ยโหมวก็ยิ้มอย่างชั่วร้าย และในขณะที่วิ่งออกไปด้วยความเร็วสูง เขาก็อ้าปากรับฝ่ามือลมสีดำกลับ ้ากลืนกินไข่มุกเข้าไปโดยตรง
ต้องรู้ว่า ปีศาจตัวนี้หลังจากจับไข่มุกะเิไทวะได้ เขาก็ถูกผู้แข็งแกร่งกลุ่มใหญ่ไล่ล่าตามหลังไม่มีพัก ผู้เฒ่าเปยโหมวผู้นี้จึงอยากกลืนกินโยวกู่จือเสียให้เสร็จสิ้น
“บรรพบุรุษ!” หลิงจื้อตาเหลือก รีบวิ่งไปข้างหน้า มีเืไหลออกจากปาก แต่เขาก็มาไม่ทัน
ข้างหลังเขามีผู้แข็งแกร่งหลายคนไล่ตามมา เจตนาฆ่าพุ่งพรวด
“เ้าหนูเฒ่า หนีไป! เ้าสนใจอะไรตัวข้า!” โยวกู่จือะโเสียงดังด้วยน้ำเสียงดุดัน แล้วพูดกับผู้เฒ่าเป่ยโหมว “เ้าหนูซี่โครงแห้ง กล้ากลืนข้า? ระวังิญญาจะะเิ!”
“จิ๊ๆ จะตายอยู่แล้วแต่ก็ยังหัวแข็ง เ้าคือนักพรติญญาเมื่อพันปีก่อนจริงๆ หรือ? ไร้เดียงสานัก!”
ทันใดนั้น ผู้เฒ่าเป่ยโหมวก็รีบดึงมือใหญ่ของเขากลับคืน และกำลังจะส่งมันเข้าปาก นี่ทำให้หลิงจื้อเจ็บใจ ส่วนโยวกู่จือได้แต่นิ่งเงียบ เพราะรู้ว่าไม่มีทางหลบหนี
“ควับ!”
แต่ในขณะที่ไข่มุกะเิไทวะกำลังจะถูกกิน ทันใดนั้น ปราณกระบี่ัแดงก็ทะลุผ่านเมฆหมอก พรั่งพร้อมด้วยกลิ่นอายแห่งการทำลายล้าง และโจมตีทันที!
ไฟเรืองแสงวูบวาบราวกับ้าแผดเผาทุกสิ่ง!
ด้วยเสียง “ฟุ่บ” สองครั้ง กงล้อไฟสองอันหมุนวน มือของผู้เฒ่าเป่ยโหมวก็ถูกตัดขาดทันที เืสีแดงสาดกระเซ็นอย่างรุนแรง
“อ๊าก—!! นี่คืออะไร!?” ปีศาจตัวนี้ติดพันกับโยวกู่จื่อ จึงไม่ได้สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงในจัตุรัสของศาลเ้า และไม่ได้สังเกตว่าชายหนุ่มคนหนึ่งเต็มไปด้วยไอสังหาร พุ่งเป้ามาที่เขา
“เวิ้ง—”
ทันใดนั้น แสงกระบี่เพลิงก็วาววาบอย่างดุเดือด ส่องสว่างทั่วท้องฟ้า จากนั้น ผู้เฒ่าเป่ยโหมวก็ถูกตัดเป็ชิ้นๆ ทำให้โยวกู่จือหลบหนีไปได้
“ผู้เฒ่าคนนั้นตายแล้ว!”
“รีบเข้าไปแย่งเร็ว!”
เมื่อเห็นเช่นนี้ ทุกคนก็ดูมีความสุข และรวมกับนักรบที่ไล่ล่าหลิงจื้อ พุ่งเป้าไปคว้าไข่มุกะเิไทวะในทันที
ทว่าไม่นาน คนเหล่านี้ก็ต้องเสียใจ
เพราะเข้าไปหนึ่งก็ตายหนึ่ง บ้างก็กลายเป็ขี้เถ้าสีดำ บ้างก็ถูกหั่นเป็ชิ้นๆ ทำให้ท้องฟ้าเต็มไปด้วยหยาดเื หลายคนรู้สึกหนาวสั่นไปทั่ว และเริ่มสังเกตเห็นการมีอยู่ของฉู่อวิ๋น
“บรรพบุรุษ!” หลิงจื้อก็ตื่นตัวเช่นกัน เขาทะยานไปในอากาศทันที คว้าไข่มุกะเิไทวะไว้ จากนั้นก็รีบลงไปที่พื้น มุ่งไปหาฉู่อวิ๋นที่อยู่ในซากปรักหักพังโดยพลัน
ในเวลานี้ ผู้แข็งแกร่งทุกคนไม่กล้าผลีผลาม พวกเขารวมตัวกันเป็กลุ่มขนาดใหญ่ มองไปทางฉู่อวิ๋นจากไกลๆ ราวกับว่ากำลังปรึกษาอะไรบางอย่างกันอยู่
“เ้าหนูฉู่!” หลังจากลงพื้นแล้ว โยวกู่จือก็ลอยเข้ามาใกล้ฉู่อวิ๋นทันที แต่เมื่อเห็นว่าเขาอยู่ในสภาพราวกับปีศาจ จึงถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เ้าเป็อะไรหรือไม่?”
ฉู่อวิ๋นส่ายหัวเบาๆ เสียงของเขาแหบแห้ง “ไม่เป็ไร...ผู้าุโ ที่นี่ปล่อยให้เป็หน้าที่ข้า ท่านกับผู้เฒ่าหลิงพักฟื้นพลังเถอะ”
ได้ยินเช่นนั้น โยวกู่จือก็นิ่งเงียบ รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ ไม่ค่อยวางใจ
ทันใดนั้น เขาสังเกตเห็นมือขวาอันมืดมิดของฉู่อวิ๋น มองเห็นเส้นสีดำพันขดมากขึ้นเรื่อยๆ จึงถามเสียงเข้มทันที “เ้าหนู หยุดใช้พลังผิดแผกนี้เถอะ ไม่เช่นนั้น มือนี้ก็จะไม่ใช่ของเ้าอีกต่อไป!”
“อ๋า? บรรพบุรุษ นี่มันเกิดอะไรขึ้นหรือ?” หลิงจื้อที่อยู่ข้างๆ เขาเกิดอาการตื่นตระหนก แสดงสีหน้างุนงง ในขณะเดียวกันก็เป็ห่วงฉู่อวิ๋นด้วย
แต่ฉู่อวิ๋นเพียงแค่ส่ายหัวและก้าวไปข้างหน้า
“จวนตระกูลเสวี่ยไม่มีทางเลิกรา าเป็สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้” เขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึกโดยไม่ตอบอะไร
ในความเป็จริง ยามที่ฉู่อวิ๋นเข้าใจในแผดเผาแปดทิศ เขาก็รู้อยู่แล้วว่าแม้พร์ิญญายุทธ์นี้จะทรงพลัง แต่ก็มีราคาที่ต้องจ่าย
ทุกครั้งที่ใช้ จะมีเส้นสีดำขดบนแขนอีกหนึ่งเส้น และมันจะสร้างความเสียหายให้กับจุดตันเถียน ทำให้การฝึกฝนถดถอย
จนกระทั่งเส้นขดพันกันหนาแน่นเต็มแขน แขนขวาของฉู่อวิ๋นจะกลายเป็เถ้าสีดำ ไม่มีวันรักษาหายอีก
“เ้าหนู พลังนี้เป็สิ่งชั่วร้าย หากเ้าใช้มันในทางที่ผิด เ้าจะตายเอานะ!” โยวกู่จือพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมและจริงจัง
“ข้าตัดสินใจไปแล้ว คนเหล่านี้ทั้งหมด รวมทั้งฉู่เจียง จะต้องตาย!” ฉู่อวิ๋นะโ เสียงของเขาเริ่มมีความเป็มนุษย์น้อยลง เขามองดูกลุ่มผู้แข็งแกร่งรวมตัวกันอยู่ไกลๆ ด้วยสีหน้าดุร้าย “ข้าจะแก้แค้นให้ซินเหยา!”
ด้วยเสียง “พรึ่บ” เปลวไฟก็ลุกโชน ฉู่อวิ๋นะเิแรงกดดันอันแกร่งกล้าออกมา ผมสีดำของเขาพริ้วไหวแม้ไร้ลม
เห็นเช่นนั้น โยวกู่จือก็ถอนหายใจ และทันใดนั้นก็นึกบางอย่างขึ้นได้ เขาถามทันทีว่า “นี่ เ้าหนู เ้าคงไม่คิดว่าคุณหนูซินเหยาพี่สาวเ้าจะช่วยไม่ได้แล้วกระมัง?”
“าเ็ถึงขนาดนี้... ยังช่วยได้?” ฉู่อวิ๋นพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า และกอดฉู่ซินเหยาเบาๆ
“์…” โยวกู่จือพูดไม่ออกและอธิบายว่า “อย่ากังวลไป ข้ามีวิธีช่วยชีวิตนาง แต่ข้อแม้คือเ้าต้องไม่ยอมแพ้ในตัวเอง และยามนี้ก็ไม่ต้องพะวงเื่การแก้แค้น!”
“จริงหรือ?!” เมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตาของฉู่อวิ๋นก็เบิกกว้างด้วยความปีติยินดี
“ข้าเคยปดเ้าเมื่อใดกัน? ผนึกหงส์สีเืทรงพลังก็จริง แต่พี่สาวของเ้า... ปิดกั้นพลังส่วนใหญ่ของมันไว้”
“และตอนนี้ แม้นางจะดูคล้ายาเ็สาหัส แต่จริงๆ แล้ว มีเพียงแค่อวัยวะภายในเท่านั้นที่เสียหาย ในร่างนางยังมีพลังที่น่ากลัวช่วยค้ำยันอยู่”
“ขอเพียงเ้าถ่ายเทพลังปราณไฟหยางให้นาง อบอุ่นร่างกาย และซ่อมแซมอวัยวะภายในของนาง ไม่นานนางก็จะฟื้นขึ้นมาอย่างแน่นอน”
โยวกู่จืออธิบายช้าๆ แต่ยามที่พูดถึงคราที่ฉู่ซินเหยาต้านรับผนึกหงส์สีเื น้ำเสียงของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย ราวกับว่าเขารู้ความลับบางอย่าง
แต่ฉู่อวิ๋นไหนเลยจะสนใจมากขนาดนั้น? เขาไม่พูดอะไรสักคำ เริ่มระดมพลังปราณไฟหยางทันที เร่งรีบถ่ายเทมันให้ฉู่ซินเหยาอย่างต่อเนื่องด้วยความกังวล
ครู่ต่อมา ในขณะที่ฉู่อวิ๋นขมวดคิ้วและเป็กังวล
ดวงตาของเ้าหญิงนิทราก็ดูเหมือนจะกะพริบ ระหว่างคิ้วของนางมีแสงแวบขึ้นมา มันเล็กน้อยมาก จนไม่มีใครสังเกตเห็นมันเลย
----------
[1] อ่อนแอ
[2] คนจำนวนน้อยยากจะสู้คนจำนวนมาก