คังเหว่ยทนไม่ไหวแล้ว
แต่พานซานยกมือจับเขาไว้ “นายคือหัวหน้าเคอสินะฉันอยากคุยกับนายหน่อย”
สายตาเฉื่อยชาเบนไปยังพานซาน “สหายนายมีคุณสมบัติอะไรที่จะคุยกับฉัน?”
พานซานไม่พูดพร่ำทำเพลง ยื่นมือคว้าลูกน้องที่ยืนข้างกายเคออีสฺยงทันทีดึงมาโดยใช้มือข้างเดียวบีบคอของอีกฝ่าย ความเร็วของเขาสุดยอดมากพละกำลังก็ไม่ใช่ย่อย ใช้มือเดียวบีบกระดูกคอของคนคนนั้นจนเกิดเสียงกร็อบแกร๊บ
ราวกับว่าหากออกแรงอีกนิดเดียว คอของอีกฝ่ายก็คงหักแล้ว!
พวกเฉาลิ่วจื่อพุ่งเข้ามาล้อมปกป้องเคออีสฺยง เคออีสฺยงรู้สึกเหมือนกับว่ามือข้างนั้นกำลังบีบคอของตนเองอยู่เขาและลูกน้องที่โดนบีบอยู่ห่างกันเพียงครึ่งก้าว เท่านั้น ไม่ใช่ว่าอีกฝ่ายจับเขาไม่ได้แต่ไม่ได้คิดจะจับเขาั้แ่แรก
“แกไม่กล้าหรอก!”
ตอนนี้มันคือสถานการณ์อะไรกัน ลักลอบทำเื่เลวร้ายสักหน่อยย่อมไม่เป็ไรทว่าการสังหารคนต่อหน้าสาธารณะชน แม้จะมีเส้นสายใหญ่โตเพียงไหนก็ช่วยไว้ไม่ได้
พอทางนี้เหมือนจะเกิดเื่ ผู้คนที่เลือกสินค้าอยู่หน้าแผงก็หวาดกลัววิ่งหนีกระเจิดกระเจิงกันไปนานแล้วพ่อค้าแม่ขายตั้งแผงเ่าั้ไม่รู้จักเคออีสฺยง แต่รู้จัก ‘พี่เฉา’ พี่เฉาเป็คนดูแลแถบนี้พวกเขาต่างเฝ้าร้านของตนเอง ทำตัวเป็นกกระทาที่ไม่ส่งเสียง
พานซานไม่มีทางโหวกเหวกจนหน้าเขียวหน้าดำแน่ สุนัขที่ไม่เห่าถึงจะกัดเขาไม่กล่าวถ้อยคำระคายหูใด แต่กลับเพิ่มแรงบีบของมือให้หนักยิ่งขึ้น
คนที่ถูกจับไว้หายใจรวยรินแล้ว เห็นชัดๆ ว่าราวกับจะไม่ไหวอีกต่อไป
“แม่แกสิ!”
พวกเฉาลิ่วจื่อปรี่เข้าไปจะทำร้ายพานซาน แต่คังเหว่ยยังไม่ทันออกตัวไป๋เจินจูกลับป้องกันเขาและเซี่ยเสี่ยวหลานไว้หลังตน นี่ทำอะไรกัน บุรุษเช่นเขาถูกสตรีปกป้องหรือ?
“อยู่ดีๆ อย่าเอะอะ!”
ท่อนแขนไป๋เจินจูแข็งดั่งเหล็กกล้าที่ทำให้คังเหว่ยดิ้นไม่หลุดแม้แต่น้อยทว่ากลับใช้น้ำเสียงแบบการกล่อมเด็กน้อยที่ไม่เชื่อฟัง
แม้สถานการณ์ไม่อำนวย แต่เซี่ยเสี่ยวหลานอยากหัวเราะขึ้นมากะทันหันเสียได้
“หยุด!”
เคออีสฺยงสั่งหยุดลูกน้อง “มีอะไรก็พูดต่อหน้าสาธารณะคนแซ่เคออย่างฉันจะยืนฟังแกตรงนี้”
พานซานเหวี่ยงคนในเงื้อมมือออกอย่างง่ายดาย พวกเฉาลิ่วจื่อกุลีกุจอพาคนไปอีกทางสีหน้าของเฉาลิ่วจื่อเหมือนกำลังเจอผี “พี่ใหญ่กระดูกคอเขาแหลกแล้ว!”
แววตาของเฉาลิ่วจื่อเต็มไปด้วยความพยาบาท เคออีสฺยงหนังตากระตุก “พาส่งโรงพยาบาลก่อน”
“หัวหน้าเคอ แกคิดว่าฉันกล้าหรือไม่?”
พานซานย้อนถามกลับด้วยคำพูดที่เคออีสฺยงตัดสินเขาเมื่อครู่ว่าไม่กล้าฆ่าคน
ไม่รอให้เคออีสฺยงตอบ พานซานชี้ไปยังเซี่ยเสี่ยวหลาน
“เธอสวยมากสินะ? ดังนั้นหัวหน้าเคออย่างแกเลยถูกใจเข้าในฐานะผู้ชายฉันเข้าใจ ทั้งยังชื่นชมแววตาของแกมากด้วย! แต่ในฐานะผู้ชายฉันก็สมเพชแกเหมือนกัน ดูท่าทางเหมือนไอ้โง่ที่สับปลับข่มเหงคนอื่นนั่นของแกสินึกว่าสมัยนี้ยังมีคนนิยมลูกไม้ฉุดคนกลับไปเป็นายหญิงหัวหน้าโจรอีกหรือ? ผู้หญิงเขาไม่อยากผูกมิตรกับแกแกยังหน้าด้านหน้าทนก่อเื่มากมายขนาดนี้ให้ใครดูกัน? หรือ้าให้คนรักของเธอเห็น? ดีเหลือเกิน! คนรักของเธอเห็นแล้ว และไม่้าใส่ใจตัวประกอบกระจอกอย่างแก เขาถึงได้ส่งฉันมาจัดการแกไง! ชีวิตนักเลงหัวไม้ของแกจะมีค่าสักเท่าไรกันหนึ่งหมื่นหยวนยังไม่มีใครกล้าแทงแกให้ตาย ถ้าเพิ่มเป็หนึ่งแสนจะมีคนรับงานนี้ไหม? ...แกจ้องฉันไปก็ไร้ประโยชน์ ฉันอยากมาก็มาอยากไปก็ไปคนของแกทำอะไรฉันไม่ได้หรอก ต่อให้จัดการฉันจนตายก็มีคนอื่นมาแทนที่อยู่ดี! ให้ตาย แกนี่มันโง่งม เล่นเสียฉันต้องมาหยางเฉิงโดยเฉพาะให้เกียรติแกแต่ไม่รับไว้ มากเื่มากความเสียจริง!”
สถานที่ค้าส่งเสื้อผ้าสุดแสนกว้างขวางเงียบสงัดในบัดดล
พานซานมิได้ชักปืนมากราดยิง แต่วาจาที่ปากของเขาพ่นออกมานั้นสำหรับเคออีสฺยงแล้วโหดร้ายกว่าพิษของงูจงอางเสียอีก
คังเหว่ยมีสีหน้าราวกับล่วงรู้ว่าจะเป็เช่นนี้ส่วนเซี่ยเสี่ยวหลานไม่รู้จะพูดอะไรโดยสิ้นเชิง
พานซานสงวนท่าทีมาตลอดเพราะเขารู้ว่าลักษณะการพูดของเขาไม่เป็ที่น่าพิสมัยเหลือเกินเขา้าที่จะสนทนาส่วนตัวกับเคออีสฺยง ก็เพื่อไว้หน้าของเคออีสฺยงนั่นเอง
ทว่าในเมื่อเป็เช่นนี้ เคออีสฺยงเองยังไม่้ารักษาหน้าพานซานย่อมเหยียบย่ำโดยไร้ซึ่งความหวั่นเกรง
เฉาลิ่วจื่อและพรรคพวกโมโหจนแทบะเิมีบางคนควงกระบองเตรียมฟาดอย่างบ้าคลั่ง พานซานด่าคนอย่างรุนแรง ฝีมือก็ร้ายกาจไม่มีการวาดลวดลายวิทยายุทธประดับประดา ไม่ทันไรก็ล้มคนได้ เขาปากคอเราะร้ายลงมือไม่ปรานี คนที่เขาจัดการพากันอ่อนเปลี้ยเพลียแรงทั้งหมด
สีหน้าของเคออีสฺยงน่าหวั่นเกรงยิ่งนัก เขาอาศัยหัวสมองล้วนๆจนเป็ผู้ยิ่งใหญ่ของกลุ่มอันธพาลได้ หากให้เขาต่อสู้กับพานซานคาดว่าพานซานก็สามารถทำให้เขาชอกช้ำเืออกภายในด้วยหมัดเดียว
ดังนั้นเคออีสฺยงจึงยืนอยู่ที่เดิม ไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่เท้า
พานซานล้มไปหลายคน ทั้งยังถ่มน้ำลายอย่างโหดร้าย
“ไอ้โง่!”
ั้แ่ศีรษะจรดปลายเท้าของพานซานล้วนเขียนไว้ด้วยคำว่า ‘เหี้ยม’ ทำเอาทุกคนตกตะลึงเสียพูดไม่ออกบอกไม่ถูกถ้ามองแค่รูปลักษณ์ภายนอก เขาเหมือนพี่ใหญ่ในวงการมืดมากกว่าเคออีสฺยงเสียอีก
เคออีสฺยงเรียนรู้ท่าทางถือดีมากจากภาพยนตร์ฮ่องกง ส่วนพานซานไม่ต้องเรียนด้วยซ้ำเขาใช้กำปั้นพูดคุยเป็อย่างเดียว
คังเหว่ยฉวยโอก่าขณะที่ไป๋เจินจูกำลังใจลอยรีบสลัดแขนของเขาออกทันที
“ลูกพี่เคอ อันที่จริงทุกคนไม่ต้องทะเลาะกันจริงจังขนาดนี้แต่ว่าพี่ชายผมห่วงใยพี่สะใภ้ทีเดียว คุณอ่อนแอก็อย่าโกรธเคืองเลยพี่พานซานนิสัยตรงไปตรงมา พูดจาโผงผาง ถ้าคุณรู้สึกไม่สบายใจคราวหน้าเปลี่ยนเป็คนนิสัยอื่นมาคุยด้วยเหตุผลกับคุณก็ได้”
เคออีสฺยงขบกรามพลางจ้องไอ้หนุ่มไก่ต้มซีอิ๊วหน้าขาวเนื้อเนียนตรงหน้า
“แกกำลังข่มขู่ฉัน?”
คังเหว่ยพยักหน้า “ใช่น่ะสิโดนคุณฟังออกแล้วหรือ? ผมไม่ได้ล้อเล่นความเป็ไปของโลกใบนี้ดีเยี่ยมออก ทั่วหยางเฉิงล้วนคือทองคำ แต่เพราะไร้หัวคิดจึงต้องเข้าสู่วงการมืดทุกวันนี้ไม่มีสมาคมชิงพรรคฟ้าดิน [1] อะไรเสียด้วยอันธพาลสู้ธุรกิจอิสระไม่ได้หรอก รัฐก็สนับสนุนการปฏิรูปเศรษฐกิจจะส่งเสริมพวกอันธพาลเก็บค่าคุ้มครองหรือ... ขอโทษนะ ผมพูดไปไกลแล้วผมแค่นำสารจากพี่ชายมาบอกแก่หัวหน้าเคอ ถ้าภายภาคหน้าพี่สะใภ้ผมเกิดปัญหาเล็กน้อยในหยางเฉิงขึ้นอีกพวกเราจะพุ่งเป้ามาที่หัวหน้าเคอเท่านั้น ไหนๆ ทุกคนก็สนิทกันแล้วนี่นา”
เฉินซีเหลียงนั่งยองอยู่หลังร้าน ได้ยินแล้วถึงกับแทบคายลิ้น
อำมหิตเหลือเกิน!
เคออีสฺยงอยากฉุดนายหญิงโจรสักคนปรากฏว่าคนเขาไม่ใช่แค่ทำลายความตั้งใจอันคดเคี้ยวของเ้าตัว ทั้งยังรับรองความปลอดภัยที่หยางเฉิงในอนาคตของเซี่ยเสี่ยวหลานอีกเป็การคุ้มกันที่เซี่ยเสี่ยวหลานไม่เสียเงินจ้าง? เื่ราวกลับตาลปัตรใหญ่โตถึงเพียงนี้อย่าว่าแต่เฉินซีเหลียงไม่เคยพบเจอด้วยสองตาเลย นี่มันล้ำจินตนาการของเขาเกินไปแล้ว
สุดยอดแบบนี้ ยังต้องถ่อมาทำธุรกิจเล็กน้อยอะไรอีกหรือ?
เถ้าแก่เฉินหวนความทรงจำเสื้อผ้าที่ตนขายแก่เซี่ยเสี่ยวหลานก็ไม่ถือว่าแพงมากมายนักหัวใจดวงน้อยของเขาจึงกลับไปอยู่ที่อกเหมือนเดิม
เคออีสฺยงมองพรรคพวกที่เกลื่อนกลาดบนพื้น และมองพานซานกับคังเหว่ยอีกรอบ
“ได้ เื่วันนี้ฉันจะจำไว้”
วันนี้เขาประมาทเกินไป นึกว่าเซี่ยเสี่ยวหลานรู้จักเพียงไป๋เจินจูอย่างมากก็มีความสัมพันธ์กับไป๋จื้อหย่งบ้างพื้นฐานแค่นั้นของตระกูลไป๋ไม่อยู่ในสายตาเขาด้วยซ้ำ ใครจะไปคิดว่าวันนี้จะมีัอหังการข้ามนที [2] โผล่มา—พานซานบีบคอคนของเขาเกือบสิ้นใจ ทว่าั์ตากลับไม่แสดงอารมณ์แม้แต่น้อยคนดุดันมือเปื้อนเืที่แท้จริงย่อมมีลักษณะเช่นนี้
เคออีสฺยงพาพวกพ้องถอยกลับดั่งน้ำหลาก
สายตาของพวกเถ้าแก่ร้านเ่าั้มองเซี่ยเสี่ยวหลานราวกับเป็สิ่งอันตรายสุดแสนน่าหวาดกลัว
เซี่ยเสี่ยวหลานเข้าใจเป้าหมายในการกระทำการเอิกเกริกเช่นนี้ของพานซานและคังเหว่ยทันทีหลังจากเหตุการณ์วันนี้ผ่านไปตำนานของเซี่ยเสี่ยวหลานต้องกระฉ่อนทั่วตลาดค้าส่งแน่นอนเคออีสฺยงยังหวาดหวั่นจนหนีไปเช่นนี้โจรกระจอกที่ด้อยกว่าเคออีสฺยงยิ่งไม่กล้าวางแผนจัดการเธออย่างแน่นอน
ความปลอดภัยของเธอเพิ่มพูนขึ้นมากทีเดียว
โจวเฉิงมีศักยภาพขนาดนี้เหมือนคนหนุ่มที่อายุเพิ่ง 20 ปีเสียที่ไหน?
นอกจากตอนที่อยู่ต่อหน้าเธอจะกลายเป็หนุ่มน้อยโจวเฉิงเหมือนจะเป็ผู้ใหญ่กว่าที่เซี่ยเสี่ยวหลานคิดไว้เสียอีก
เซี่ยเสี่ยวหลานไม่รู้ว่าเื่ราวคลี่คลายหรือยังวิธีจัดการของเธอและโจวเฉิงแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงโจวเฉิงปณิธาณแรงกล้าพร้อมถวายตัวกว่า เซี่ยเสี่ยวหลานได้ประโยชน์จากตรงนี้จึงไม่เกี่ยงงอนถึงขั้นหักหน้า
โจวเฉิงช่วยเธอฉีกหนังเสือ เธอก็ขอยืมใช้งานชั่วคราวก่อนแล้วกัน
มองเ้าของแผงรอบตัว ล้วนขวัญหนีดีฝ่อเหมือนนกกระทาเซี่ยเสี่ยวหลานไม่รู้เลยว่าจะไปซื้อสินค้าจากร้านไหนได้
เฉินซีเหลียงโผล่ศีรษะออกมาจากหลังร้าน
“คุณผู้หญิงเซี่ย ผมไม่ได้ขายคุณนะ... วันนี้คุณจะเอาสินค้าเท่าไรดี?”
เฉินซีเหลียงดึงหนังหน้าเรียกคุณผู้หญิงเซี่ยความจริงแล้วเซี่ยเสี่ยวหลานก็แอบซาบซึ้งอยู่ในใจทีเดียว เพื่อที่อนาคตจะสามารถส่งสินค้าได้สะดวกสบายดังนั้นเธอจึงเคยบอกที่อยู่บ้านย่าอวี๋แก่เฉินซีเหลียงแล้วจริงๆ แต่เฉินซีเหลียงกลับแบกรับความกดดันไม่ยอทปริปากบอกเคออีสฺยงช่างเป็ผู้มีคุณธรรมสูงส่งไม่เบา
เซี่ยเสี่ยวหลานมองเฉินซีเหลียงซ้ำไปซ้ำมาความทรงจำที่เลือนรางกำลังหวนคืน เธอรู้สึกคุ้นเคยกับชื่อนี้อยู่เสมอ
เฉินซีเหลียง สร้างเนื้อสร้างตัวในยุค 80 คนหยางเฉิงเ้าพ่อกิจการเสื้อผ้า... ที่แท้คือคนตรงหน้าผู้นี้?
เซี่ยเสี่ยวหลานมองเขาด้วยดวงหน้าน่าสงสารเฉินซีเหลียงอดรู้สึกผิดขึ้นมาอย่างเสียไม่ได้—ราคาค้าส่งเสื้อผ้าของเขาแพงพอสมควรแต่คุณภาพสูงน่ะสิ! ช่วยลดราคาให้คุณผู้หญิงเซี่ยอีกสักหน่อยได้ไหม?
เชิงอรรถ
[1]青帮洪门 สมาคมชิงพรรคฟ้าดิน คือ สมาคมลับที่มีจุดประสงค์เฉพาะ
[2]过江猛龙 ัข้ามนที หมายถึง คนที่มีความสามารถและอาจหาญ กล้าคิดกล้าลอง
