บ้านราคาเจ็ดหมื่น
เซี่ยจื่ออวี้คิดว่าถึงอย่างไรก็ต้องต่อรองราคา แต่หากนับจากพื้นที่ใช้สอยแล้ว บ้านหลังนั้นถ้าไม่ขายในราคาเจ็ดหมื่น ทว่าก็คงไม่ต่ำกว่าห้าหมื่นสินะ?
จางชุ่ยนั้นเดิมทีมีเงินเก็บอยู่หลายหมื่น แต่ถูกเซี่ยจื่ออวี้นำไปใช้แล้วครึ่งหนึ่ง อีกทั้งยังต้องย้ายที่อยู่จากซางตูมายังปักกิ่งด้วย กว่าจะรู้รสชาติที่คนทางนี้ชื่นชอบก็ปาไปสองสามเดือนแล้วน่ะสิ ไม่เพียงแต่เซี่ยจื่ออวี้ไม่สามารถมาช่วยได้ ทว่ารถขายอาหารว่างของเธอยังมีขนาดไม่ใหญ่อีกด้วย รายได้ต่อวันจึงไม่สูงมากนัก
ตระกูลหวังคืนเงิน 5,000 หยวนให้แก่เซี่ยจื่ออวี้ มีทั้งเงินที่เซี่ยจื่ออวี้ลงทุนให้กับตระกูลหวัง และเงินที่ให้หวังเจี้ยนหัวยืมไป ทว่าต่อให้เซี่ยจื่ออวี้ควักเงินเก็บทั้งหมดที่มีออกมา อย่างไรก็ไม่มีปัญญาซื้อบ้านหลังนั้นอยู่ดี
แผงขายอาหารว่างที่ต้องอาศัยผู้คนเดินผ่านมาซื้อ ไม่รู้ว่าปีไหนถึงจะเก็บเงินได้มากพอสำหรับซื้อบ้านหลังนี้
เซี่ยจื่ออวี้อยากให้จางชุ่ยเปิดร้านใหม่ที่ปักกิ่ง
ส่วนทางเธอก็อยากทำสถาบันกวดวิชาให้ดียิ่งขึ้น ถ้าขนาดของสถาบันใหญ่มากพอ ต่อให้กำไรต่อเดือนจะไม่มาก แต่ถ้าสะสมกำไรตลอดทั้งปีก็ไม่ใช่จำนวนน้อยๆ เลย ตอนนี้เซี่ยจื่ออวี้เรียนอยู่ชั้นปีที่สอง เธอวางเป้าหมายเอาไว้ว่า ก่อนขึ้นชั้นปีที่สี่ เธอจะต้องซื้อบ้านลักษณะเดียวกันนี้ให้ได้!
ครอบครัวที่แทบไม่มีอันจะกินจากชนบท หากซื้อบ้านที่เมืองหลวงได้ ถือเป็การลงหลักปักฐานที่ดี
บ้านที่อยู่ไกลจากตัวเมืองออกไปก็มี เซี่ยจื่ออวี้เคยไปดูมาแล้ว บ้านหลังนั้นราคาถูกก็จริง ทว่าเธอไม่ชอบบ้านเก่าที่ผุพังแล้วน่ะสิ
แต่บ้านที่เธอถูกใจกลับขายราคาเจ็ดหมื่น!
เซี่ยจื่ออวี้ตรากตรำทำงานเพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมายนี้ แต่สิ่งที่เธอไม่เข้าใจก็คือ เซี่ยเสี่ยวหลาน้าซื้อบ้านหลังนี้เช่นกัน... เซี่ยเสี่ยวหลานจะมีเงินถึงเจ็ดหมื่นได้อย่างไร?
เซี่ยจื้ออวี้บอกให้เซี่ยฉางเจิงเล่าสถานการณ์ตอนนั้นให้ฟังอย่างละเอียด
ตอนนี้เซี่ยฉางเจิงเป็คนติดเหล้า พอดื่มมากขึ้นสมองก็เริ่มใช้งานได้ไม่ค่อยดีนัก เมื่อก่อนยังพอเป็คนฉลาดเฉลียวอยู่บ้าง แต่ตอนนี้กลับกลายเป็คนสมองช้าที่เอาแต่โทษฟ้าดิน เขาดูไม่ออกจริงๆ ว่าใครเป็คนอยากซื้อบ้าน เขารู้แค่ว่าตนกำลังล้างหน้าอยู่ที่บ่อน้ำ พอเงยหน้ามาก็เห็นเซี่ยเสี่ยวหลานจึงตัดสินใจพุ่งเข้าใส่อีกฝ่ายทันที
วินาทีนั้นเซี่ยฉางเจิงอยากชนเซี่ยเสี่ยวหลานให้ตกลงไปในบ่อน้ำเหลือเกิน
ทว่าเซี่ยเสี่ยวหลานเบี่ยงตัวหลบ เขาจึงชนเข้ากับชายวัยกลางคนที่มาพร้อมกับเซี่ยเสี่ยวหลานแทน
เ้าของบ้านรู้สึกโกรธมาก ้าให้เขากับจางชุ่ยย้ายออกทันที เพราะเขาทำให้เ้าของบ้านเสียประโยชน์ และเพราะคนที่เขาชนคือข้าราชการนั่นเอง
“ฉันว่าคนที่อยากซื้อบ้านคือข้าราชการคนนั้นนั่นล่ะ”
เซี่ยฉางเจิงกับจางชุ่ยคิดเหมือนกัน แต่เซี่ยจื่ออวี้กลับไม่มั่นใจเท่าไรนัก ข้าราชการจะซื้อบ้าน? ใครซื้อบ้านแล้วพาคนนอกไปด้วยบ้างกัน เซี่ยเสี่ยวหลานเป็เพียงนักศึกษามหาวิทยาลัยหัวชิง ไม่จำเป็ต้องวิ่งเต้นเป็นายหน้าขายบ้าน ถ้าเธอไม่ได้อยากซื้อบ้านเอง ก็คงสนิทชิดเชื้อกับข้าราชการคนนั้นเป็พิเศษ
สนิทจนถึงกับมาดูบ้านด้วยกัน ทว่าเซี่ยเสี่ยวหลานคงไม่ถึงกับต้องหาคนรักเป็ชายวัยกลางคนสินะ หรือว่าข้าราชการคนนั้นจะเป็ผู้ชายของหลิวเฟิน
ภาพของหลิวเฟินในความทรงจำของเซี่ยจื่ออวี้หยุดอยู่ที่ตอนฉลองปีใหม่
ผิวคล้ำผอมแห้ง เสื้อผ้าที่ใส่แม้จะไม่ได้แย่แต่กลับดูเชย แม่บ้านชนบทที่หน้าตาไม่สะสวย แถมยังผ่านการหย่าร้าง หากบอกว่าหลิวเฟินสามารถเข้าหาข้าราชการที่อายุเหมาะสมกัน อีกทั้งฐานะทางการเงินยังดีเยี่ยมได้ที่ปักกิ่ง เซี่ยจื่ออวี้คงเป็คนแรกที่ไม่เชื่อ
จางชุ่ยกัดฟันกรอด “ถ้าอย่างนั้นจะบอกว่าเป็นังเด็กเลวนั่นที่อยากซื้อบ้านรึ? เช่นนั้นมันไปเอาเงินมาจากไหน!”
ตอนหลิวเฟินกับเซี่ยเสี่ยวหลานถูกขับออกจากบ้านตระกูลเซี่ย จางชุ่ยคือผู้ที่รู้ดีที่สุด สองแม่ลูกคู่นั้นมีแค่มันเทศ 20 หัวติดตัว ต่อให้ภายหลังจะกลับบ้านมาเก็บเสื้อผ้ากับเงินเก็บอีกเล็กน้อย แต่แล้วจะเอาไปทำอะไรได้!
ให้ยอมรับว่าปัจจุบันเซี่ยเสี่ยวหลานกับหลิวเฟินมีชีวิตที่ดีกว่าครอบครัวเธออย่างนั้นหรือ แบบนั้นมันเ็ปเกินไป จางชุ่ยรับไม่ไหว
“คงไม่ใช่ว่าหลิวหย่งร่ำรวยขึ้นมา...”
เซี่ยจื่ออวี้ส่ายหน้า “ถ้าน้ารวยขึ้นมา น้าเขาจะยอมให้เงินหลายหมื่นหยวนกับฉันมาซื้อบ้านไหม”
จางชุ่ยยิ้มเจื่อนทันที
ต่อให้จางหม่านฝูยินดี แต่เจียงเหลียนเซียงไม่มีทางยอม! จะออกเงินให้เซี่ยจื่ออวี้มาซื้อบ้าน นอกเสียจากจางหม่านฝูจะหาเงิน ‘หลายหมื่น’ ได้นับไม่ถ้วนจนไม่เห็นค่าของมัน และพร้อมยกให้หลานสาวไปซื้อบ้านในปักกิ่งเท่านั้นถึงจะพอเป็ไปได้
จางชุ่ยเอาใจเขามาใส่ใจเรา แม้เธอจะสนิทกับครอบครัวแม่มากแค่ไหน แต่เมื่อแต่งงานแล้วสุดท้ายครอบครัวตัวเองย่อมสำคัญที่สุดอยู่ดี
มีเื่ที่เซี่ยจื่ออวี้ไม่เข้าใจอยู่สองจุด
หนึ่ง เซี่ยเสี่ยวหลานเป็คนอยากซื้อบ้านหรือเปล่า?
สอง ถ้าเซี่ยเสี่ยวหลานอยากซื้อบ้าน เช่นนั้นเธอเอาเงินหลายหมื่นมาจากไหน
คนเราหาก้าร่ำรวยในระยะเวลาอันสั้น ย่อมมีช่องทางในการหาเงิน
เซี่ยจื่ออวี้ไม่ได้ข้อมูลจากการถามพ่อกับแม่ เธอจึงไปถามจากเ้าของบ้าน เ้าของบ้านยังคงรู้สึกโมโหมาก ผู้จัดการใหญ่อู่บอกอย่างเด็ดขาดว่าไม่ซื้อแล้ว แม้เซี่ยจื่ออวี้จะขอโทษขอโพยแค่ไหน เขาก็ไม่มีทางยอมให้เซี่ยฉางเจิงกับจางชุ่ยอยู่ที่นี่ต่อ
“พรุ่งนี้บอกให้พ่อแม่เธอรีบๆ ย้ายออกไป ถ้ายังรั้นจะอยู่ต่อ ก็อย่าหาว่าฉันขับไสไล่ส่งก็แล้วกัน!”
เซี่ยจื่ออวี้พยายามประจบประแจง แต่เ้าของบ้านก็ไม่ยอมคลายโทสะง่ายๆ วันนี้ถ้าเซี่ยฉางเจิงทำให้ผู้จัดการใหญ่อู่เป็อะไรไป คนต่างถิ่นอย่างสองสามีภรรยาที่เปิดแผงขายของเล็กๆ คงไม่มีปัญญาชดใช้และทำได้เพียงหลบหนีไป สุดท้ายคนที่รับผิดชอบก็ต้องเป็เ้าของบ้านน่ะสิ เจอผู้เช่าแบบนี้ เขาไม่มีทางเก็บเซี่ยฉางเจิงไว้อย่างแน่นอน ผู้ชายขี้เมาแบบนั้น ไม่รู้ว่าจะคลุ้มคลั่งขึ้นมาอีกเมื่อไร!
เซี่ยจื่ออวี้เองก็ลำบากใจ
เธอก้มหัวให้หวังก่วงผิงกับหร่านซูอวี้ เพราะพวกเขาคือว่าที่พ่อแม่สามี หาก้าแต่งงานกับหวังเจี้ยนหัว อย่างไรก็ต้องทำให้คนตระกูลหวังยอมตบปากรับคำเสียก่อน
ทว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอเป็ใครกัน ก็แค่มีบ้านจากมรดกตกทอดอยู่ที่ปักกิ่ง เอาแต่ดูถูกคนต่างถิ่น ดูแคลนคนบ้านนอก เซี่ยจื่ออวี้อดกลั้นโทสะไว้อย่างหนัก หลังพยายามตะล่อมอยู่สักพักจึงได้ความจากเ้าของบ้านว่า เซี่ยเสี่ยวหลานคือคนที่้าซื้อบ้านจริงๆ ส่วนข้าราชการที่มากับเธอนั้นเป็เพียงคนกลาง!
ความรู้สึกของเซี่ยจื่ออวี้ ณ ตอนนี้ อย่าให้บอกเลยว่าเ็ปแค่ไหน
ไม่ว่าเธอจะลำบากตรากตรำเท่าไร ก็ไม่อาจเทียบกับสิ่งที่เซี่ยเสี่ยวหลานพยายามเพียงเล็กน้อยก็ได้มาอย่างง่ายๆ
ตอนสอบเข้ามหาวิทยาลัยก็เป็แบบนี้!
มาถึงปักกิ่งก็เป็แบบนั้นเหมือนกัน!
เื่ที่เซี่ยเสี่ยวหลานได้ยืนแถวหน้าสุดของขบวนเกียรติยศในพิธีเฉลิมฉลองจัตุรัสเทียนอันเหมิน เซี่ยจื้ออวี้ยังคงจำฝังใจ
ตอนนั้นเธอยังปลอบใจตัวเองได้ว่า ขบวนเกียรติยศของหัวชิงให้ความสำคัญกับเื่หน้าตาเท่านั้น
แต่ตอนนี้ล่ะ เซี่ยเสี่ยวหลานสามารถควักเงินหลายหมื่นมาซื้อบ้านได้ คงไม่เกี่ยวกับหน้าตาสินะ?
เซี่ยจื่ออวี้กัดฟันจนแทบหัก เธอทำใจรับไม่ได้ที่เซี่ยเสี่ยวหลานมีชีวิตที่ดีกว่าตน แค่คิดถึงในจุดนี้เธอก็กินไม่ได้นอนไม่หลับ ความปลื้มปีติที่ชั้นเรียนกวดวิชาประสบความสำเร็จ ถูกเื่ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันทำลายเสียจนสิ้น เซี่ยจื่ออวี้หยุดคิด ก่อนตัดสินใจไปหาหวังเจี้ยนหัว
หวังเจี้ยนหัวเป็คนหาบ้านเช่าหลังนี้มาให้ ทว่าตอนนี้เ้าของบ้านมาไล่กันดื้อๆ ภายในวันพรุ่งนี้พ่อแม่เธอต้องมีที่อยู่ใหม่น่ะสิ
อีกอย่างเซี่ยจื่ออวี้ก็อยากรู้สถานการณ์ของเซี่ยเสี่ยวหลานให้แน่ชัด
เธออยากให้หวังเจี้ยนหัวอยู่ให้ห่างจากเซี่ยเสี่ยวหลาน แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะยังไม่ปลอดภัยนัก เธอไม่ไปหาเซี่ยเสี่ยวหลาน แต่เซี่ยเสี่ยวหลานกลับเป็ฝ่ายมาหาถึงที่ หรือบางทีเซี่ยเสี่ยวหลานอาจตั้งใจมาแก้แค้น ความจริงแล้วคือเซี่ยเสี่ยวหลานไม่มีปัญญาซื้อบ้านหลังนั้น แต่รู้ว่าพ่อแม่เธออยู่ที่นั่นจึงจงใจขอให้คนพามาดูบ้าน และเล่นละครตบตาเพื่อไล่พ่อแม่ของเธอ?
เซี่ยจื่ออวี้เชื่อว่าเป็อย่างหลัง และเธอก็เล่าให้หวังเจี้ยนหัวฟังไปแบบนั้น!
“เสี่ยวหลานมาหาถึงที่เลยรึ?”
หวังเจี้ยนหัวไม่ค่อยอยากเชื่อเท่าไรนัก
ต่อให้เสี่ยวหลานยังไม่ลืมเื่ในอดีต ทว่าก็ควรมาหาเขาถึงจะถูกสิ
แต่ความจริงคือ หลังจากเจอกันที่ในพิธีเฉลิมฉลองจัตุรัสเทียนอันเหมินก็ผ่านมาสองสัปดาห์แล้ว เซี่ยเสี่ยวหลานกลับไม่เคยปรากฎตัวให้เขาเห็นอีกเลย
ถึงเขาจะไม่ได้เรียนที่หัวชิง แต่ก็เรียนที่วิทยาลัยฝึกหัดครูปักกิ่ง อีกทั้ง่นี้ยังได้ขึ้นหน้าหนังสือพิมพ์ เขาไม่ใช่นักศึกษาธรรมดาๆ อีกต่อไป ทว่าจากการกระทำครั้งนี้ของเซี่ยเสี่ยวหลาน หรือเป็เพราะเธอเห็นหนังสือพิมพ์นั่นแล้ว?
หวังเจี้ยนหัวรู้สึกว่าตนจะนั่งรออยู่เฉยๆ ไม่ได้อีกต่อไป เขา้ารู้ว่าเซี่ยเสี่ยวหลานคิดอะไรอยู่กันแน่
ถ้าทั้งหมดนี้เป็เพราะเขา เขาก็จะบอกให้เซี่ยเสี่ยวหลานหยุด ‘การแก้แค้น’ เหล่านี้เสีย แม้พวกเขาจะเคยรู้สึกดีต่อกัน แต่ก็ไร้วาสนาที่จะครองคู่ และการฝืนโชคชะตานั้นไม่ทำให้อะไรดีขึ้นแม้แต่น้อย
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้