"ข้าคิดว่าถึงเวลาที่ท่านต้องเลือกใครสักคนที่อยากจะหมั้นหมายด้วยแล้วขอรับ มิเช่นนั้นปัญหาต่อมาภายในจักรวรรดิคือการแย่งชิงตัวของท่านอย่างแน่นอน" เฟลิกซ์บอกด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เพราะระยะเวลาวันแรกที่ตกลงกันจนมาวันนี้ก็ค่อนข้างนานมากพอแล้ว ต้องได้เวลาตัดสินใจสักทีว่าจะเลือกใครก่อนที่จะเกิดเื่ต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงมาแทนการซักถาม
"ไวท์ ข้ามีเื่อยากจะคุยกับเ้า" สวิตเอ่ยทักเพราะเดินผ่านกันระหว่างกลับจากท้องพระโรงพอดี
"งั้นไปคุยในสวนสาธารณะกันพะยะค่ะ" ไวท์บอกพลางผายมือไปทางสวนด้านหลังวัง
"ทำไมใช้าาศัพท์กับข้าล่ะ" สวิตถามด้วยความสงสัย
"ที่นี่มันวังหลวงพะยะค่ะ เดินไปที่สวนหลังวังกันดีกว่า" ร่างสูงโปร่งไม่ได้สนใจคำพูดเ่าั้แล้วเดินมาสวนท้ายวังตามที่บอกไว้เมื่อสักครู่ จากสภาพของเดือนก่อนมันถูกทำให้เหมือนเดิมราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น จะแตกต่างก็คือตอนนั้นเป็แผนการขององค์จักรพรรดิทำให้เกิดเื่ขึ้น แต่คราวนี้เป็การพูดคุยด้วยนิสัยของทั้งคู่อย่างแท้จริง
"มีอะไรจะพูดหรือเปล่าครับ พี่เทรเลอร์" ไวท์เปลี่ยนมาพูดบทสนทนาปกติอีกครั้งตามที่คนอายุมากกว่า้า ยังไม่มีคำพูดอะไรตอบกลับมาแต่ดูเหมือนจะพอใจกับการเรียกแบบนี้มาพอสมควร
"ถึงเดือนก่อนจะเป็แผนการของจักรพรรดิ แต่ข้าไม่ได้มีเจตนาจะพูดแบบนั้นกับเ้า ข้าขอโทษ" สวิตตั้งใจขอโทษสิ่งที่ค้างคาใจมานานเป็เดือน ถึงจะเป็แผนแต่ก็ไม่สบายใจอยู่ดี ถึงแม้ว่าจะได้กลับมาดำรงตำแหน่งเดิมแล้วก็ตามที
"ไม่เป็ไรหรอกครับ ปกติพี่เทรเลอร์เป็คนปากร้าย ไม่เกรงใจใคร และยึดมั่นในสายเืบริสุทธิ์มานานแล้ว"
"มันไม่แปลกเลยที่จะให้พี่รับบทแสดงละครแบบนั้น ผมว่ามันก็เนียนดีนะครับ" เสียงทุ้มนุ่มบอกพลางหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
"หึ เ้านี่มันชอบท้าทายข้าจริงๆ "
"สิ่งที่จะบอกคือข้าชอบเ้าจริงๆ ชอบมากจนไม่รู้จะบอกว่าอะไร อยู่ที่เ้าแล้วล่ะ...ว่าจะเลือกใคร ไม่อยากจะบังคับหรืออะไร"
"เลือกเอาก็แล้วกันนะ ริค ไวท์" สวิตบอกพลางลูบหัวด้วยความเอ็นดู ถึงแม้ว่าการสารภาพรักของเขาจะไม่ได้โรแมนติกอะไรมากมายแต่ขอเพียงสื่อถึงอีกคนก็มากเกินพอแล้ว ไม่อยากจะเร่งรัดแต่ก็อยากรู้คำตอบเพื่อที่จะได้เตรียมใจว่าจะอกหักหรือเปล่า
"ครับ ผมจะคิดให้ดี ขอบคุณที่มีความรู้สึกดีๆ ให้กันมาตลอดครับ" ไม่รู้ว่าจะเป็คำตอบที่ดีหรือไม่แต่ก็เป็สิ่งอยากจะบอกให้อีกคนรับรู้ มือขาวเอื้อมไปจับอย่างแ่เบาให้กำลัง
สำหรับเขาแล้วเทรเลอร์คือคนที่ดูอันตรายมากแต่ว่าหลังจากรู้จักก็คิดว่าอันตรายจริงสมคำร่ำลือเพียงแค่ไม่ได้ทำร้ายร่างกายเขาเหมือนเมื่อตอนเจอหน้ากันครั้งแรกเท่านั้นเอง หลังจากนั้นก็พยายามอย่างหนักที่จะแสดงออกให้รับรู้ว่าชอบมากแค่ไหน แต่ว่าเ้าชายก็ไม่ใช่สไตล์ที่เขาชอบอยู่ดี
สวิตเตรียมใจมาทุกอย่างแล้วถึงได้พูดแบบนี้ออกไป ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของอีกคนแล้วว่าคิดยังไงกันแน่
"ขอบใจเ้ามากที่ทำให้ข้ารู้จักรักผู้อื่นมากกว่าตนเอง ข้ากลับก่อน"
"ครับ เดินทางปลอดภัยครับ"
ระหว่างทางกลับจากพระราชวังส่วนตัวของรัชทายาทที่อยู่ในเขตวังหลวงก็เจอกับคนที่ไม่อยากเจอเข้าพอดี ไม่รู้ว่าวันนี้เป็วันอะไรกันแน่ แค่อยากมาหาไวท์ทำไมต้องขยันเจอหน้าคนที่ไม่อยากเจอด้วย ตอนเข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิก็เจอองค์รัชทายาท ตอนขากลับจากวังก็ดันมาเจอขุนนางอีก น่าเบื่อเสียจริง
"เห็นหน้าข้าถึงกับถอนหายใจเลยหรือพะยะค่ะ เ้าชายสวิต" มาร์แชลเอ่ยทักทายและทำความเคารพเชื้อพระวงศ์ตามกฎของจักรวรรดิ
"ข้าไม่ได้อยากจะเจอเ้านักหรอกมาร์แชล ทำเป็ไม่รู้จักกันได้ไหม" สวิตเอ่ยพลางกุมขมับ
"ทำไมล่ะพะยะค่ะ ตอนนั้นก็ยังให้ความร่วมมือกำจัดคนที่จะล้มล้างราชวงศ์อยู่เลย" มาร์แชลถามด้วยน้ำเสียงยียวนกวนประสาท
"เ้านี่มันคอยแต่จะกวนประสาทข้าอยู่เรื่อย ตอนนั้นก็ตอนนั้น ตอนนี้ก็ส่วนตอนนี้ กลับไปได้แล้ว"
"หามิได้พะยะค่ะ ข้าขอตัวก่อน" มาร์แชลบอกพลางรอให้อีกฝ่ายเดินก่อนแล้วค่อยเดินทีหลังตามธรรมเนียมปฏิบัติ ไม่รู้ว่าป่านนี้อีกคนจะเป็ยังไงบ้างหลังจากมาอยู่ที่นี่ได้เดือนกว่าแล้ว มีเื่ราวมากมายเกิดขึ้นขนาดนี้ เป็ห่วงความรู้สึกของไวท์เหลือเกินว่าคิดอย่างไรกับที่นี่
ณ ห้องทำงานคุณชาย
"ท่านไวท์ขอรับ คุณชายมาร์แชลมาขอพบ" เฟลิกซ์เคาะประตูแล้วะโบอกผู้เป็นายด้านในห้อง
"ให้เข้ามาเลย" ไวท์ส่งเสียงตอบกลับไปพลางเขียนการบ้านที่ตนเองพยายามเรียนรู้การใช้ภาษาของจักรวรรดิต่อไป
"ไวท์เป็อย่างไรบ้าง ผ่านมาสามสี่วันแล้ว" มาร์แชลถามด้วยความเป็ห่วงถึงยังไงเสียเื่นี้มันก็น่าจะทำให้รู้สึกเปลี่ยนแปลงอะไรไปบ้างไม่มากก็น้อย
"ถ้าถามผมก็คิดว่าเริ่มชินกับวิถีชีวิตของที่นี่ ด้วยการเห็นการรบราฆ่ากัน แย่งชิงความเป็ใหญ่ไม่รู้จักจบสิ้นสักที"
"ทั้งอำนาจ เงินทอง หรือตำแหน่งในหน้าที่การงาน"
"แต่มันก็คือสังคมของที่นี่ ไม่ว่าที่ไหนก็ไม่แตกต่างกันมากหรอกครับ"
"วันนี้จริงๆ แล้วข้าอยากมาสารภาพรักกับเ้า แต่เห็นยุ่งอยู่เลยถามเื่อื่นแทน" มาร์แชลมีสีหน้ากังวลเล็กน้อยเพราะคนอายุน้อยกว่ากำลังจริงจังในเื่บ้านเมืองมากกว่าที่เขาคาดการณ์ไว้
"ครับ..." ใบหน้าหวานเริ่มเปลี่ยนสีทันทีที่ได้ยินอีกคนพูดเื่สารภาพรัก
ท่าทางที่ทำอะไรไม่ถูกนั้นทำให้ดูน่ารักมากขึ้นไปอีก ท่าทีลนลาน ใบหน้าแดง สายตาที่เริ่มสั่นไหว ขุนนางสูงศักดิ์ตั้งใจจะพูดในสิ่งที่อยากพูดมาตลอด วันนี้จะต้องได้พูดออกไป ผลลัพธ์จะเป็อย่างไรก็ต้องมาลุ้นกันอีกที เขาตัดสินใจเดินมาหาอีกคนที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะทำงานด้วยความมั่นใจ สูดลมหายใจเข้าออกสองสามครั้งเรียกความมั่นใจให้ตนเอง
"ไวท์ ข้าชอบเ้าั้แ่วันแรกที่เ้าช่วยชีวิตข้า มันเป็ความประทับใจั้แ่แรกพบ ไม่ว่าจะเป็มนุษย์ ั เทพ หรือลูกครึ่งเทพั ก็ไม่ได้สำคัญอะไรสำหรับข้า"
"เพราะว่าข้าชอบที่เ้ามีน้ำใจต่อผู้อื่นแม้ว่าจะไม่รู้จักกันก็ตามที" มือทั้งคู่ถูกจับอย่างอ่อนโยน ดวงตามั่นคงสื่อความหมายหลากหลายจนมิอาจทนมองตรงๆ ได้แต่หันหน้าหนีไปทางอื่นแทน
"ผมรู้แล้วครับ อย่าจ้องกันแบบนั้นเลย" ไวท์ตอบไม่เต็มเสียงหนัก ความเขินอายที่มีเริ่มแดงจนถึงใบหู
"ทำไมหรือ ข้าจ้องไม่ได้หรืออย่างไรกัน" ถึงเขาจะรู้ว่าทำไมแต่อยากได้ยินอีกคนพูดออกมามากกว่า
"ผมเขินพี่บลัฟเฟอร์ อย่าแซวกันได้ไหม" ใบหน้าหวานหันกลับมาตอบเต็มเสียงทั้งเขินทั้งอายแต่ก็ต้องสู้หน้าอีกคน ทำไมถึงได้ขี้แกล้งแบบนี้กัน
"ข้าได้พูดในสิ่งที่ตั้งใจแล้ว ต่อจากนี้ไปก็อยู่ที่เ้าแล้วว่าจะตัดสินใจอย่างไร"
"ข้าไปก่อนล่ะ มีงานต้องทำอีกมาก"
"ครับ เดินทางปลอดภัยครับ"
แกร๊ก!
"ข้ามีเื่จะถามท่านไวท์ ทุกท่านมาสารภาพรักกับท่านหมดหรือยังขอรับ" เฟลิกซ์ถามตรงประเด็นและไม่อ้อมค้อมเพราะไม่อยากให้ปัญหามันยาวนานไปกว่านี้ ต้องมีใครสักคนหยุดมันก่อนจะเกิดเื่ขึ้น
"ข้าคิดว่าน่าจะหมดแล้ว ไม่ต้องเร่งรัดขนาดนั้น ข้ากำลังตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรต่อไป" ไวท์รู้ในสิ่งที่คนรับใช้คนสนิทของตนกำลังจะพูดเลยดักทางได้ทันท่วงที
ถึงเวลาแล้วที่จะต้องมานั่งคิดอย่างจริงจังว่าควรเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่กับใคร ไม่ใช่ว่าคนนั้นจะเป็เพื่อน คู่รัก หรือคำจำกัดความของโลกใบนี้จะระบุไว้เช่นไร ก็ต้องเลือกมาเพื่อไม่ให้เกิดการต่อสู้ในภายหลัง ร่างสูงโปร่งถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความหนักใจ เพราะแต่ละคนก็มีวิถีชีวิตของตนเองด้วยกันทั้งนั้น มาตัดสินใจภายในวันนี้กันดีกว่า ว่าเลือกใครกันแน่
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
"ไวท์ อยู่หรือเปล่า" คีย์ถามพลางเคาะประตู
"อยู่ครับพี่คีย์" ไวท์ะโตอบกลับไปแต่ก็ยังกุมขมับไม่เลิก
คีย์เห็นคนอายุน้อยกว่าทำหน้าเครียดแล้วก็ได้แต่ส่งกำลังใจเท่านั้น เื่แบบนี้จะต้องคิดทบทวนด้วยตนเอง ไม่มีใครบอกอะไรได้ทั้งนั้น เพราะว่าท่านพ่อ ท่านแม่ เฟลิกซ์ก็มาเร่งรัดการตัดสินใจของเด็กคนนี้หลายครั้งแล้ว ตอนนี้ทุกอย่างสงบ ไม่มีเื่อะไรน่าปวดหัวอีกต่อไป ถึงเวลาสำหรับการตัดสินใจเสียที
"ข้ารู้ว่าเ้ากำลังหนักใจสำหรับการตัดสินใจในครั้งนี้ ขอให้รับรู้ไว้ว่าไม่ว่าเ้าจะเลือกใคร จะไม่มีปัญหาตามมาภายหลังอย่างแน่นอน" เสียงทุ้มต่ำบอกพลางลูบกลุ่มผมนิ่มเป็การปลอบโยนและคลายความกังวล
"ขอบคุณครับ" ไวท์หลับตาพริ้มรับััที่คุ้นเคยอย่างที่เคยได้รับมาตลอดเดือนกว่าที่เดินทางมาที่นี่ สิ่งที่ทุกคนรอคอยมันไม่ควรจะเสียเปล่า มันควรมีค่าตอบแทนสำหรับการรอคอยในครั้งนี้
"ผมตัดสินใจได้แล้วครับ พรุ่งนี้จะไปแจ้งท่านพ่อให้รับทราบเื่นี้" เสียงทุ้มนุ่มบอกด้วยสีหน้าตั้งใจและเตรียมใจ ไม่ว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เลือกที่จะตัดสินใจแล้ว ก็ต้องยอมรับผลที่กำลังจะตามมาในอนาคต
"อืม ไม่ว่าเ้าจะตัดสินใจอย่างไร ข้าก็จะยอมรับ"
"ดึกมากแล้ว ข้าจะไปส่งที่ห้องนอน"
"ครับ"
ร่างของทั้งคู่เดินกลับไปยังห้องนอนส่วนตัวของไวท์ในการส่งเข้านอนก่อนที่พระอาทิตย์กำลังจะขึ้นรับวันใหม่ แต่วิถีชีวิตพวกเขาสลับกับชนเผ่าอื่นจึงถึงเวลาที่จะต้องพักผ่อนเสียแล้ว หากตื่นมาใหม่ใน่หัวค่ำก็จะเป็อันตัดสินว่าเด็กคนนี้เลือกใคร หรืออะไร ทุกคนจะต้องยอมรับและไม่คิดที่จะต่อต้านอย่างเด็ดขาด
"ถึงห้องของเ้าแล้ว ราตรีสวัสดิ์ไวท์"
"ราตรีสวัสดิ์ครับ พี่คีย์"
เมื่อร่างสูงโปร่งเข้าห้องนอนไปแล้ว คีย์ตัดสินใจสยายปีกของตนเองออกมาพลางสะบัดไปมาก่อนจะะโลงจากชั้นสองของวังเพื่อไปจุดมุ่งหมายที่ใช้สำหรับสงบจิตใจของตนเองในยามว้าวุ่นจิตใจเช่นนี้ จนกระทั่งมาถึงสวนหลวงของจักรวรรดิที่มีบุคคลเพียงสามคนเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาใช้สถานที่แห่งนี้ได้ นั่นก็คือ องค์จักรพรรดิ องค์จักรพรรดินี และองค์รัชทายาทเท่านั้น
เพราะฉะนั้นสถานที่แห่งนี้จึงสงบและไม่มีผู้ใดมาก่อกวนให้ว้าวุ่นใจอย่างแน่นอน หวังว่าจะได้รับฟังข่าวดีในวันพรุ่งนี้ ไม่ว่าข่าวดีนั้นจะเป็ของใครก็นับว่าเป็ข่าวดีทั้งหมด
พระอาทิตย์ทอแสงลงมาตกกระทบกับหน้าต่างจนแยงตาของร่างสูงโปร่งที่ยังคงนอนอยู่บนเตียงของตนอย่างสบาย หากมีแสงเข้าตาเช่นนี้นั่นหมายถึงได้เวลาในการเข้าเฝ้าองค์จักรพรรดิและแจ้งเื่สำคัญนั่นเอง ไม่กี่นาทีต่อมาเฟลิกซ์ก็เข้ามาปลุกด้วยตนเอง เขารู้สึกประหลาดใจยิ่งนักที่ผู้เป็นายตื่นก่อนที่ตนจะมาปลุก
"เหตุใดวันนี้ถึงตื่นไวล่ะขอรับ" เฟลิกซ์ถามพลางรินชาใส่สำหรับชงให้ดื่มใน่เช้าอย่างปราณีต
"เมื่อวานข้าลืมปิดผ้าม่าน แสงแดดเลยแยงตาก่อนที่พระอาทิตย์จะตกดิน" ไวท์ตอบด้วยสีหน้างัวเงียแล้วเชิดคอขึ้นให้อีกคนใส่ชุดคลุมอาบน้ำให้ง่ายขึ้น
"ถ้าเช่นนั้นดื่มชาก่อน ข้าจะไปเตรียมน้ำให้อาบ"
"อืม"
ไวท์ขานรับเบาๆ และมั่นใจแล้วว่าคนที่ตนจะเลือกหมั้นด้วยนั้นคือใคร ไม่คิดผิดแน่นอนเพราะคิดมานานแล้ว
