“หยวนจุน!” เซียวหานส่งเสียงร้องออกมา นางรู้สึกเคว้งคว้างเหมือนดั่งอยู่ในโลกเพียงคนเดียว สมองว่างเปล่าเสียจนไม่รู้จะกล่าวสิ่งใดออกมา
ทันใดนั้นนางก็หยิบพัดหลิงซวีขึ้นมา ก่อนจะะโต่อหน้างูเหลือมเกล็ดโลหิตด้วยน้ำเสียงดุดันว่า “หลิงซวี!”
คมมีดรูปพระจันทร์เสี้ยวหลายอันเชื่อมต่อกันจนกลายเป็วงล้อ ก่อนจะหมุนผ่านอากาศแล้วพุ่งไปที่หัวของงูเหลือมเกล็ดโลหิตทันที
เซียวหานใช้โอกาสนี้รีบหนีอย่างรวดเร็ว ซึ่งหลังจากที่ออกมาจากถ้ำในเหมืองแร่แล้ว นางก็วิ่งหนีออกไปอย่างว่องไวราวกับลมกรด
งูเหลือมเกล็ดโลหิตที่ถูกชิงน้ำลั่วสุ่ยร้องคำราม มันไล่ตามเงาที่อยู่ข้างหน้าโดยที่ไม่สนว่าหัวมหึมาของมันจะกระแทกเข้ากับปากถ้ำของูเาสองแดนหรือไม่
เมื่อไม่มีสิ่งใดขัดขวางงูเหลือมเกล็ดโลหิต มันจึงแสดงความเร็วที่สมกับเป็สัตว์อสูรระดับห้าออกมาทันที ในไม่ช้ามันก็สามารถตามเซียวหานจนทัน
“สัตว์ร้ายตัวนี้กลืนหยวนจุนเข้าไป ข้าต้องรีบหาทางฆ่ามันให้เร็วที่สุด ยิ่งปล่อยไว้นานเท่าไร หยวนจุนก็ยิ่งเสียเปรียบมากเท่านั้น!”
“หากหยวนจุนเป็อะไรขึ้นมา ข้าจะบอกแม่นางเสี่ยวเมิ่งกับโรงประมูลว่าอย่างไร!”
คิดได้ดังนั้น เซียวหานจึงบิดร่างอรชรเล็กน้อย ก่อนจะปล่อยพลังปราณคมมีดของพัดหลิงซวีออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อขัดขวางงูเหลือมเกล็ดโลหิตและเพื่อลดความเร็วของมัน
การที่เซียวหานทำเช่นนี้ ยิ่งทำให้งูเหลือมเกล็ดโลหิตโกรธมากขึ้น และไม่มีทีท่าว่าจะยอมแพ้เลย
ทั้งสองวิ่งไล่กันกว่าสองชั่วยามจนทำให้เซียวหานรู้สึกเหนื่อยหอบ โชคดีที่เขตของเมืองเทียนอวิ่นนั้นอยู่ข้างหน้า เพราะนั่นหมายความว่าพวกเขาใกล้จะถึงจวนตระกูลหลิวแล้ว!
“ตุบ ตุบ ตุบ”
เมื่อเห็นเซียวหานรีบเข้าไปในเมือง งูเหลือมเกล็ดโลหิตจึงตามนางไปอย่างไม่ลดละ สัตว์อสูรที่บ้าคลั่งตัวนี้ไม่สนใจสิ่งกีดขวาง มันเลื้อยฝ่าสิ่งก่อสร้างอาคารสูงในเมืองเทียนอวิ่นจนทำให้ร้านค้าร้านอาหารในเมืองพังทลายลงมาทั้งหมด
“เมื่อครู่นี้มันคือตัวอะไร? ข้ามิได้ตาฝาดไปใช่หรือไม่? เหตุใดข้าถึงเห็นสัตว์อสูรกำลังเข้ามาในเมืองเทียนอวิ่น?”
ความสงสัยนี้ทำให้ทุกคนรีบขยี้ตาและมองดูอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าสิ่งที่เคลื่อนไหวอยู่นั้นเป็สัตว์อสูรจริงๆ ผู้คนก็ร้องะโออกมาด้วยความหวาดกลัว ก่อนจะวิ่งหนีกันอย่างอลหม่านด้วยความใ
นึกไม่ถึงว่าสัตว์อสูรระดับห้าจะบุกเข้ามาในเมืองเทียนอวิ่น!
เคราะห์ดีที่งูเหลือมเกล็ดโลหิตตัวนี้ทำลายแค่อาคารบ้านเรือนเพียงไม่กี่หลัง มันมิได้บุกเข้ามาเพื่อเข่นฆ่า แต่มันกำลังตามเซียวหาน เพราะกลัวว่ามนุษย์ผู้นี้จะหนีไปต่อหน้าต่อตา
“ข้างหน้านี้น่าจะเป็เขตของตระกูลหลิวแล้ว!”
เซียวหานหรี่ตางาม จากนั้นจึงะโลอยตัวเข้าไปในจวนตระกูลหลิว
“ใครน่ะ!” ทหารยามของตระกูลหลิวที่กำลังลาดตระเวนพูดกับเซียวหานด้วยน้ำเสียงดุดัน ในมือถืออาวุธพร้อมกับตั้งท่าระมัดระวังมากขึ้น
“ฟ่อ”
เมื่อทหารพวกนั้นได้ยินเสียงที่น่าขนลุกดังอยู่ด้านหลังจึงรีบหันกลับไปมอง ทำให้พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรสองเขี้ยวขาวอย่างเลี่ยงมิได้ ทั้งนี้ ยังไม่ทันที่ทหารยามของตระกูลหลิวจะได้ต่อสู้ พวกเขาก็ถูกงูเหลือมเกล็ดโลหิตกลืนกินลงไปทันที
เมื่อเซียวหานเห็นดังนั้น นางจึงกัดฟันะโขึ้นไปบนหลังคาสูงกลางจวนตระกูลหลิวอย่างรวดเร็ว
“ครืน ครืน ครืน”
เรือนหลายหลังที่อยู่ในจวนตระกูลหลิวถูกงูเหลือมเกล็ดโลหิตพังทลายจนทำให้เกิดเสียงดังสนั่นติดต่อกัน หลังจากเห็นจวนของตระกูลถูกทำลายลงต่อหน้าต่อตา หลิวหรูเยียนและหลิวซินไห่จึงแสดงอาการตกตะลึงออกมาทันที
จวนตระกูลหลิวในตอนนี้ถูกสัตว์อสูรทำลายไปเกือบหมดแล้ว!
จวนตระกูลหลิวพังพินาศ ทั้งนักยุทธ์ก็ยังาเ็อีกกว่าครึ่ง ทำให้ไม่มีผู้ใดสามารถจัดการกับสัตว์อสูรระดับห้าได้แม้แต่คนเดียว
เมื่อหลิวซินไห่เห็นงูเหลือมเกล็ดโลหิตกำลังไล่ตามเซียวหานก็กำหมัดแน่น เขารีบหันหน้าไปพูดกับหลิวหรูเยียนว่า “วันนี้ตระกูลหลิวเกิดปัญหาใหญ่แล้ว! หรูเยียน รีบไปตามท่านพ่อกลับมาจากจวนตระกูลมู่เดี๋ยวนี้!”
หลิวหรูเยียนเหลือบมองเซียวหานแวบหนึ่ง ก่อนจะรีบออกไปจากจวนตระกูลหลิวที่กำลังถูกทำลาย
“เซียวหาน เ้าตั้งใจล่อสัตว์อสูรขั้นห้ามาที่ตระกูลหลิวของเราเพียงเพราะ้าแก้แค้นท่านพ่อที่ทำร้ายเซียวจั้นใช่หรือไม่? ไม่นึกเลยว่าเ้าจะเป็สตรีที่โเี้เช่นนี้!”
เมื่อหลิวซินไห่เห็นจวนตระกูลหลิวที่ก่อตั้งมาเป็ร้อยปีถูกทำลายก็รู้สึกเ็ป เขาะโออกมาด้วยอารมณ์ที่โกรธเกรี้ยวก่อนจะจ้องไปที่เซียวหานด้วยสายตาอันเยือกเย็น
“หลิวซินไห่ เ้าอย่าพูดจาหยาบคายเช่นนั้นสิ หลิววั่นซานใช้วิธีต่ำทรามทำร้ายพ่อของข้า วิธีโเี้ที่ถูกผู้คนประณามเช่นนี้! หากข้าเป็เขา ข้าคงไม่มีหน้าอยู่บนโลกใบนี้แล้ว!”
“หากเ้ามิได้รู้สึกขอบคุณข้าที่มอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้แก่ตระกูลหลิว เช่นนั้นก็ไม่เป็ไร แต่การที่เ้ากล้าตำหนิข้าเช่นนี้คงไม่ถูกกระมัง? หากข้าเซียวหานโเี้ แล้วหลิววั่นซานนับเป็อะไร?”
แม้หลิวซินไห่อยากจะโต้แย้ง แต่เขาก็ไม่มีเหตุผลใดที่จะสามารถโต้แย้งกลับไปได้ เขาจึงทำได้เพียงจ้องมองไปยังงูเหลือมเกล็ดโลหิตขนาดมหึมาที่ทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัว
เซียวหานเคยใช้หยาดน้ำแข็งทะลวงปราณต่อสู้กับเขา ร่างกายของเขาในตอนนี้จึงยังมีหยาดน้ำแข็งหลงเหลืออยู่ ซึ่งทำให้ความสามารถในการบ่มเพาะพลังยุทธ์น้อยลงกว่าแต่ก่อน
แม้ผลจากหยาดน้ำแข็งทะลวงปราณจะสามารถรักษาได้ แต่ก็ต้องใช้เวลาพอสมควร เว้นแต่เขาจะได้รับเปลวไฟที่สามารถละลายหยาดน้ำแข็งได้
เมื่อครั้งอยู่บนเวทีประลองระหว่างเมือง หยวนจุนก็เคยใช้เพลิงอัคคีกลืน์ในการทำลายหยาดน้ำแข็ง!
“ฟึ่บ”
เซียวหานที่หลบการจู่โจมของงูเหลือมเกล็ดโลหิตได้รีบนำขวดน้ำลั่วสุ่ยออกมาจิบทันที ทำให้ปราณดาราที่กำลังจะหมดกลับเติมเต็มขึ้นอีกครั้ง
เมื่องูเหลือมเกล็ดโลหิตเห็นน้ำลั่วสุ่ยที่อยู่ในขวดหยก มันจึงส่งเสียงคำรามที่ดุร้ายมากกว่าเดิมออกมา
“เ้าสัตว์ร้าย เ้ากล้าก่อความวุ่นวายในตระกูลหลิว ข้าไม่ปล่อยเ้าไว้แน่!”
หลิววั่นซานที่อยู่ในระยะไกละโออกมาด้วยความโมโห จากนั้นจึงใช้พลังยุทธ์จัดการกับงูเหลือมเกล็ดโลหิตทันที
เมื่องูเหลือมเกล็ดโลหิตที่เทียบได้กับนักยุทธ์ระดับจันทราขั้นสี่ถึงหกปะทะกับนักยุทธ์ระดับจันทราขั้นห้า มันกระเด็นออกไปหลายร้อยจั้งจนทำให้ห้องโถงของจวนตระกูลหลิวแตกกระจายออกมาเป็เสี่ยงๆ
ดวงตาของหลิววั่นซานเปลี่ยนเป็สีแดงก่ำ ดูแล้วน่ากลัวกว่างูเหลือมเกล็ดโลหิตเสียอีก
ความพยายามทั้งชีวิตของเขาถูกสัตว์ร้ายตัวนี้พังทลายภายในหนึ่งก้านธูป มันทำลายจวนตระกูลหลิวทั้งหมดจนแทบไม่เหลือ!
นักยุทธ์ของตระกูลหลิวมากกว่าสองในสามได้รับาเ็จนตาย ส่วนไม่กี่คนที่รอดมาได้ก็าเ็สาหัส ทำให้สถานะของตระกูลหลิวตกต่ำลงในทันที เคราะห์ดีที่หลิววั่นซานอยู่ในระดับจันทราขั้นห้า หากเป็ตระกูลขนาดเล็กถึงขนาดกลางคงไม่มีทางสู้มันได้อย่างแน่นอน!
“เซียวหาน ข้าประเมินเ้าต่ำไปจริงๆ ! หากรู้ว่าจะมีวันนี้ แม้จะต้องขัดแข้งกับโรงประมูลข้าก็จะฆ่าเ้าให้ได้!”
หลังจากหลิววั่นซานตะคอกออกมาด้วยเสียงแหบแห้ง เขาก็แสดงรอยยิ้มชั่วร้ายที่คาดเดาไม่ได้ออกมาแล้วกล่าวว่า “แต่ฆ่าตอนนี้ก็ยังไม่สาย!”
“ฟ่อ”
แม้เกล็ดของงูเหลือมเกล็ดโลหิตที่ถูกหลิววั่นซานทำให้าเ็จะหลุดออกมาบ้าง แต่มันก็ยังสามารถอ้าปากและแลบลิ้นให้น้ำสีเหลืองอ่อนไหลลงมาจากเขี้ยวได้!
น้ำที่ไหลลงมานี้มิใช่น้ำธรรมดา แต่เป็พิษของงูเหลือมเกล็ดโลหิตที่ถูกซ่อนเอาไว้ ซึ่งมีฤทธิ์กัดกร่อนที่รุนแรงเป็อย่างมาก!
“ผ่าง”
“ฟึ่บ”
หลิววั่นซานใช้ฝ่ามือปัดพิษนั้นออกไป ทำให้พิษกระเด็นไปรอบๆ ราวกับฝนตกลงมาบนร่างของทหารตระกูลหลิว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้