เยว่เฟิงเกอคิดไม่ถึงว่าม่อหลิงหานจะมา ตอนที่นางกำลังดีใจอยู่นั้นกลับนึกขึ้นมาได้ว่าตนแอบหนีออกมาจากจวนตอนกลางคืน ตอนนี้ถูกม่อหลิงหานจับได้แล้ว เขาจะโกรธหรือไม่นะ?
ม่อหลิงหานไม่ได้โกรธที่เยว่เฟิงเกอแอบหนีออกมาจากจวนอ๋องตอนกลางคืน เขามองฉิงเอ๋อร์ที่กำลังระแวดระวังหลบอยู่ด้านหลังเยว่เฟิงเกอ “นางเป็ใคร? ”
เยว่เฟิงเกอเห็นว่าม่อหลิงหานไม่ตำหนิเื่ที่นางแอบหนีมา ก็ยิ้มกล่าวว่า “นางเป็สาวใช้ที่ขายเสียงดนตรีอยู่ในหอชมบุปผา นามว่าฉิงเอ๋อร์ ข้าไถ่ตัวนางมาแล้ว วันหน้าจะให้นางมาเป็สาวใช้ประจำกายข้า”
ม่อหลิงหาน “อืม” เบาๆ ไปเสียงหนึ่ง ไม่ได้คัดค้านอะไร
ไม่ว่าเยว่เฟิงเกอจะไถ่ตัวใคร เขาก็ไม่โกรธ ขอแค่อีกฝ่ายไม่ใช่บุรุษไม่ใช่ตัวผู้เป็พอ
เยว่เฟิงเกอเห็นบนพื้นยามนี้มีคนนอนเกะกะอยู่เต็มไปหมด ก็คิดว่าจะรั้งอยู่นานไม่ได้ หากถูกคนเห็นเข้าแล้วไปแจ้งทางการคงจะมีปัญหาปวดหัวตามมาอีกมาก
นางคล้องแขนม่อหลิงหาน ยิ้มเริงร่า “พวกเรากลับจวนกันเถอะ ออกมาเที่ยวเล่นไปรอบหนึ่ง ตอนนี้ข้าง่วงจะตายแล้ว”
ม่อหลิงหานมองเยว่เฟิงเกอที่มีใบหน้าเป็ชายเย้ายวนเ้าเล่ห์ โดยเฉพาะดวงตาดอกท้อคู่นั้นที่ดึงดูดิญญาคนมอง ก็อดก้มหน้าลงจุมพิตมุมปากเยว่เฟิงเกอเบาๆ ทีหนึ่งไม่ได้ จากนั้นจึงเดินก้าวยาวๆ มุ่งหน้าไปยังจวนอ๋อง
ฉิงเอ๋อร์ที่ยืนอยู่เื้ัถูกฉากนี้ทำให้ตกตะลึงเป็อย่างยิ่ง
นางเห็นอะไรไปกันแน่ เมื่อครู่ชายสองคนนี้จุมพิตกัน?
ส่วนชายคนนั้นที่ไถ่นางออกมาจากหอชมบุปผา ก่อนหน้านี้ไม่เพียงเย้าแหย่นาง ตอนนี้ยังมาจุมพิตกับชายสูงใหญ่หล่อเหลาตรงหน้านี้อีก หรือว่าเขาจะได้ทั้งชายและหญิง?
ในใจคิดเช่นนี้ ฉิงเอ๋อร์ก็หน้าแดงก่ำ
นางกำลังจะติดตามคนเช่นใดไปกันแน่ ชีวิตในวันหน้าของนางจะดีจริงหรือ? แต่เมื่อนึกถึงว่าก่อนหน้านี้ก็เป็เขาที่ช่วยชีวิตนางไว้ ฉิงเอ๋อร์ได้แต่สูดลมหายใจเข้าลึก ลืมตาขึ้น และใช้สายตาที่พร้อมเผชิญความตายมองไปเบื้องหน้า
เยว่เฟิงเกอคล้องแขนม่อหลิงหานไว้ เพิ่งเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็รู้สึกเหมือนด้านหลังไม่มีใครตามมาจึงหันศีรษะไป และเห็นเพียงฉิงเอ๋อร์ที่มีสีหน้าใ
นางอดยกยิ้มมุมปากไม่ได้ ดูท่าการกระทำเล็กๆ น้อยๆ เมื่อครู่ระหว่างนางและม่อหลิงหานคงจะทำให้เด็กสาวคนนี้ใเสียแล้ว
นางะโเรียกเสียงดัง “ฉิงเอ๋อร์ ยังมัวยืนทำอะไรอยู่อีก รีบตามมาเร็วเข้า”
ฉิงเอ๋อร์สูดลมหายใจเข้าลึก ดึงความกล้าออกมาแล้วเดินตามหลังคนทั้งสองไป ยามนี้นางรู้สึกเหมือนขาของตนหนักอึ้งราวกับหุ้มไว้ด้วยเหล็ก
สุดท้ายนางไม่รู้ว่าตนเองเดินตามกลับมาอย่างไร แต่เดินไปๆ ก็มาถึงตรงหน้าจวนอ๋อง ฉิงเอ๋อร์เงยหน้าขึ้นมองป้ายใหญ่โตที่เขียนอักษรใหญ่สามตัวเอาไว้ว่า ‘จวนจั้นอ๋อง’
นางอดสูดลมหายใจเข้าลึกด้วยความตกตะลึงสุดขีดไม่ได้
ด้านนอกลือกันทั่วว่าจั้นอ๋องนิยมบุรุษ ตอนนี้ดูเหมือนว่าข่าวลือจะเป็ความจริง
เพียงแต่ฉิงเอ๋อร์ไม่เคยพบจั้นอ๋อง นางไม่รู้ว่าชายสองคนตรงหน้านี้ ใครกันแน่ที่เป็จั้นอ๋องและใครกันแน่ที่เป็บุรุษที่จั้นอ๋องเลี้ยงไว้
เยว่เฟิงเกอคล้องแขนม่อหลิงหานไว้ตลอด ไม่ยอมปล่อยแม้ขณะเดียว
อย่างไรเสีย เื่ที่จั้นอ๋องนิยมบุรุษก็ลือไปทั่วแล้ว นางจึงคล้องแขนม่อหลิงหานเดินอาดๆ เข้าประตูใหญ่ของจวนไปเสียเลย
ฉิงเอ๋อร์เดินตามพวกเขาเข้าจวนอ๋องไปอย่างช้าๆ
ถึงแม้ในใจนางจะหวาดกลัว แต่เพราะความดื้อรั้นที่มี ในเมื่อตัดสินใจแล้วว่าจะติดตามเยว่เฟิงเกอ นางก็จะไม่เปลี่ยนใจ
ยามที่ฉิงเอ๋อร์ก้าวเท้าเข้าไปในจวนอ๋อง เสียงปิดประตู “ปัง” ดังไล่หลังมา
ฉิงเอ๋อร์เห็นจวนกว้างขวางโอ่อ่า แต่ไม่มีจุดเทียนแม้แต่ดวงเดียว ทำให้ดูมืดมิดยิ่งนัก อดไม่ได้ให้ใหน้าซีดขาว หัวใจเต้นแรง
เยว่เฟิงเกอคล้องแขนม่อหลิงหานไว้ มุ่งหน้าเดินไปยังเรือนเยว่เหยาอย่างเป็ธรรมชาติ
นางมาอยู่ที่นี่ได้เดือนกว่าแล้ว ต่อให้ตอนนี้จะต้องหลับตาเดินก็สามารถไปถึงที่หมายที่้าได้
ฉิงเอ๋อร์ตามหลังคนทั้งสองไปติดๆ นางมองต้นไม้สองข้างทางที่ถูกลมพัดไหววูบคล้ายสัตว์ประหลาดที่กำลังแยกเขี้ยวกางเล็บ นางใจนไม่กล้าชักช้าอีก เร่งฝีเท้าตามคนทั้งสองไป
ยามที่เยว่เฟิงเกอและม่อหลิงหานไปถึงเรือนเยว่เหยา ชิงจื่อก็ได้รออยู่ที่นั่นก่อนแล้ว
คนเห็นว่าผู้เป็นายสวมทั้งอาภรณ์บุรุษ ใบหน้าเองก็ยังเปลี่ยนไปเป็คนละคน ตอนแรกแม้จะยังจดจำไม่ได้ แต่เมื่อได้ยินเสียงเรียกขานที่เป็เสียงจริงๆ ของเยว่เฟิงเกอ ชิงจื่อถึงจำได้เช่นนี้เอง ที่แท้คุณชายหน้าตาเ้าเล่ห์เย้ายวนตรงหน้าผู้นี้ก็คือพระชายาของนาง
“พระชายา เหตุใดทรงอยู่ในสภาพนี้เพคะ? ” ชิงจื่อพูดพลางเบิกตากว้าง
และเมื่อเหลือบเห็นฉิงเอ๋อร์ที่อยู่เื้ัเยว่เฟิงเกอ สายตาพลันฉายแววประหลาดใจ
เด็กคนนี้ นางไม่เคยเห็นในจวนมาก่อน ชัดเจนว่าพระชายาพาตัวมาจากด้านนอก
ขณะเดียวกันพอฉิงเอ๋อร์ได้ยินชิงจื่อเรียกคุณชายผู้มีพระคุณว่าพระชายา หัวใจนางก็กระตุกครึ่งจังหวะ ในสมองมีเสียงอื้ออึง นางมองเยว่เฟิงเกอด้วยสีหน้าตกตะลึง ในใจคิดว่าที่แท้พระชายาจั้นอ๋องที่ว่าก็เป็บุรุษ
ส่วนเมื่อครู่ที่เยว่เฟิงเกอเรียกชิงจื่อด้วยเสียงปกติ ฉิงเอ๋อร์กลับคิดว่าเขาคงตั้งใจดัดเสียงของตนเอง
ฉิงเอ๋อร์รู้สึกเหมือนสมองจะะเิ นางเริ่มกลัวขึ้นมาแล้ว
จั้นอ๋องในจวนจั้นอ๋องเป็ชายรักชาย และคุณชายคนนี้ก็คือบุรุษที่จั้นอ๋องเลี้ยงไว้ มิหนำซ้ำจั้นอ๋องยังสถาปนาเขาเป็พระชายาอีกด้วย
แม้แต่คนตรงหน้าที่แต่งตัวเหมือนสาวใช้นี้ยังเรียกคุณชายคนนี้ว่าพระชายา เห็นได้ชัดว่าทุกคนต่างคุ้นชินกับเื่นี้มานานแล้ว
เมื่อนึกถึงว่าทุกค่ำคืนในจวนแห่งนี้จะมีชายสองคนพลอดรักกัน ฉิงเอ๋อร์ก็ให้รู้สึกขนลุกชัน
เมื่อนึกถึงว่าก่อนหน้านี้ในหอชมบุปผาบุรุษของจั้นอ๋องผู้นี้ยังเคยเกือบล่วงเกินนาง ใจของฉิงเอ๋อร์ก็ให้รู้สึกไม่เป็รสชาติ
ตอนนี้ฉิงเอ๋อร์รู้สึกกลัวแล้วจริงๆ นางหวนนึกถึงท่านน้าที่อุตส่าห์คิดหาวิธีปกป้องนางสารพัด เพื่อไม่ให้นางต้องถูกบุรุษของจั้นอ๋องผู้นี้ไถ่ตัวออกมา แต่เพราะอีกฝ่ายเป็ผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตนางไว้ นางจึงไม่คิดมาก ตอบตกลงและติดตามอีกฝ่ายมา
ทว่า ตอนนี้ฉิงเอ๋อร์กลัวมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว
เมื่อนึกถึงว่าการตัดสินใจก่อนหน้านี้ของตนอาจเป็การะโลงในกองเพลิงอีกกองก็เป็ได้ สีหน้าของฉิงเอ๋อร์ก็ยิ่งซีดขาว
ชิงจื่อสังเกตเห็นว่าฉิงเอ๋อร์มีใบหน้าซีดขาวและเนื้อตัวสั่นเทา ก็อดไม่ได้ให้ขมวดคิ้วมองเยว่เฟิงเกอด้วยความสงสัยยิ่ง “พระชายา ท่านนี้คือผู้ใดกันเพคะ? ”
ในตอนนี้เองเยว่เฟิงเกอถึงเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเื้ัยังมีฉิงเอ๋อร์ติดตามมาด้วย นางหันศีรษะไปเอื้อมจับมือฉิงเอ๋อร์มา
ฉิงเอ๋อร์ยังคิดอะไรสับสนอยู่ในหัว เมื่อถูกเยว่เฟิงเกอจับจูงมา นางก็ใจนร้องดังพร้อมสะบัดมือเยว่เฟิงเกอทิ้ง ถอยหลังไปก้าวใหญ่ๆ
“เ้า เ้าอย่าเข้ามานะ” ตอนนี้ฉิงเอ๋อร์ราวกับพบเห็นฉินซงก็ไม่ปาน ตัวสั่น ถอยหลังไปไม่หยุด
เยว่เฟิงเกอรู้ว่าการที่ตนปลอมตัวเป็ชายเช่นนี้คงทำให้ฉิงเอ๋อร์เข้าใจผิดแล้ว จึงไม่ชักช้ารำไร กระชากหน้ากากหนังมนุษย์ออกมาต่อหน้าต่อตาฉิงเอ๋อร์
ตอนที่หน้ากากหนังถูกกระชากออกมา ชิงจื่อเองก็ตกตะลึงถึงขั้นต้องสูดลมหายใจเข้าลึก ชั่วชีวิตนี้นางไม่เคยเห็นอะไรเช่นนี้มาก่อน
ส่วนม่อหลิงหานกลับยังคงสีหน้าเรียบเฉยด้วยรู้อยู่แล้วว่า ของที่เยว่เฟิงเกอรีบซ่อนไว้ตอนอยู่ในสวนก็คือหน้ากากหนังมนุษย์นี้
เพียงแต่เขาคิดไม่ถึงว่าเยว่เฟิงเกอจะทำของเช่นนี้เป็ด้วย
จนเมื่อเขาได้เห็นนางเปลี่ยนรูปลักษณ์ไปเป็ชายอีกคนมาปรากฏตัวตรงหน้าเขา ในใจเขาก็ยิ่งรู้สึกว่าต้องมองเยว่เฟิงเกอใหม่แล้วจริงๆ
ทว่า ตอนที่ฉิงเอ๋อร์เห็นเยว่เฟิงเกอกระชากหนังออกมาจากผิวหน้า นางไม่เพียงใธรรมดา แต่ยังถึงขั้นตาเหลือก เป็ลมไปทันที